[RE: ประวัติศาสตร์ VS. ดาราศาสตร์?]
sinder พิมพ์ว่า:
one2013 พิมพ์ว่า:
sinder พิมพ์ว่า:
Spoil
Antivist พิมพ์ว่า:
sinder พิมพ์ว่า:
Antivist พิมพ์ว่า:
ดาราศาสตร์ยากกว่า 5 ช่วงตัวฮะ
นึกภาพว่าเราพัฒนาเทคโนโลยีอะไรสักอย่างที่ช่วยให้เราวาปไปที่ไหนก็ได้ในจักรวาล แล้วเราก็วาปไปที่แห่งนึงที่ห่างจากโลกสัก 1 แสนปีแสง แล้วส่องกล้องกลับมาดู แค่นี้เราก็จะได้รู้ประวัติศาสตร์คร่าวๆแล้ว
ไซไฟและเวอร์ไปหน่อย แต่ยังไงดาราศาสตร์ก็ยากกว่าฮะ
ผมอยากรู้เรื่องนึง แสงที่เราเห็นกับระยะทางมันมีผลต่อขนาดภาพแบบไหนเหรอ
สมมติว่าเราวาร์ปไป 1 แสนปีแสงแบบที่พี่ดลพูด เพื่อไปรับแสงที่ส่องเมื่อ 1 แสนปีที่แล้วมากระทบเลนส์ตาเรา เราก็จะเห็นภาพเมื่อ 1 แสนปีที่แล้ว..
ประเด็นคือแสงที่มันส่องมาจากระยะทางไกลแม่งขนาดนั้น มากระทบตาเราได้ มันจะเห็นภาพเป็นไงหว่า แล้วถ้าจะเห็นภาพจากแสงนั้นได้ชัดแบบ original เหมือนอยู่ในเหตุการณ์เลย เราต้องใช้เลนส์ขนาดไหนมารับแสงนั้น เพื่อแสดงภาพที่ชัดออกมา
เอาจริงผมก็ไม่ได้รู้ขนาดนั้นนะ แต่เข้าใจว่าถ้ามีเทคโนโลยีที่วาปได้ขนาดนั้น เรื่องถ่ายภาพอะไรนี่ก็ไม่น่ายาก มั้งงง
แต่ถ้าเอาที่เป็นปัจจุบันหน่อย คงใช้เทคนิคเดียวกับที่ใช้ถ่ายหลุมดำแหละ คือใช้คลื่นวิทยุหรือใช้อะไรไม่รู้ที่ใช้จานดาวเทียม ไม่รู้เขาเรียกอะไร แล้วค่อยมาเข้าคอมพิวเตอร์แปลเป็นภาพกราฟฟิคอีกทีมั้ง คงไม่ได้ใช้กล้องที่มีเลนส์ถ่าย เพราะระยะทางขนาดนั้น ถ้าถ่ายจริง คงติดภาพกาแลคซี่อื่นๆเพียบแน่ 5555
ผมอ่านเพจพี่ป๋องแป๋ง อาจวรงค์(แชมป์แฟนพันธุ์แท้วิทยาศาสตร์) แกบอกไอ้ที่ถ่ายมา มันระยะ 55 ล้านปีแสง พยายามใช้เทคโนโลยีซูมขยายให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ก็ยังขยายได้ระยะแค่นั้น
ระยะที่ว่านั่นมันขนาดไหนพี่รู้ปะ (เดาในใจก่อกดสปอยล์นะ)
แกบอกระยะที่ว่าเท่ากับ
Spoil
เราอ่านหนังสือพิมพ์ที่วางในลอนดอน ในขณะที่เราอยู่นิวยอร์ก
นั่นล่ะภาพที่เราเห็น
คุณป๋องแป๋ง แกเป็นนักวิทยาศาสตร์ใช่ไหมคับ ผมเห็นแกไปออกรายการ สุทธิชัย live แล้วพูดถึงเรื่อง ufo แล้วแกก็ยกตัวอย่างเรื่อง crop circle ว่าท้ายสุดแล้วก็เป็นมนุษย์สร้างขึ้น ผมว่าแปลกๆนะ เพราะมันยังมีหลายทรฤษฎีกับเรื่องนี้อยู่ มันมีทั้งแบบของจริงและแบบมนุษย์ทำขึ้น แต่ทำไมอยู่ดีๆไปอ้างเรื่องนี้ ดูๆแกในไลฟดูเป็นคนไม่เชื่ออะไรง่ายๆ ถ้าอยู่นอกตำราที่ท่องจำมา
เป็นครับ แต่ไม่ทำงานประจำแล้ว เดี๋ยวนี้รับงานรับเชิญครับ ส่วนใหญ่มีโครงการนั่นนี่ต้องการบุคลากรมีความสามารถด้านนี้ ก็จะเชิญแกไปมีส่วนร่วมโครงการด้วย หรืองานวิทยากร
ส่วนเรื่องไม่เชื่ออะไรง่ายๆนี่ใช่ครับ แต่อันนี้ผมขอเข้าข้างแกหน่อย ความรู้กับประสบการณ์นอกตำราแกเยอะมากเลยนะ แต่แกเป็นพวกวิทย์จ๋าเลยอะครับ อะไรที่มันเป็นทฤษฎีที่วิทย์ไม่เอา แกก็จะไม่เอาด้วย
อย่างไอ้เรื่องครอปเซอร์เคิลที่คุณว่า ในมุมมองนักวิทย์เค้าลงมติเอกฉันท์แล้วครับว่ามนุษย์สร้าง ไอ้ทฤษฎีอื่นๆที่คุณว่า มันไม่ใช่ทฤษฎีของนักวิทย์ไงครับ แกเลยไม่เอา
ufo ก็เช่นกัน nasa และองค์กรอื่นๆเยอะแยะ หมดงบพัฒนาและวิจัย ตรวจจับอะไรกับเรื่องนี้ไปตั้งเท่าไหร่ก็ยังตรวจไม่พบ มาเจอใครก็ไม่รู้ ถ่ายรูปติดมาได้แล้วบอกเป็นวัตถุของสิ่งมีชีวิตนอกโลก ไม่แปลกที่แกจะไม่เอาด้วยกับทฤษฎีพวกนี้อะครับ
ผมเข้าใจมุมมองนักวิทยาศาสตร์นะคับ แต่ต้องแยกเป็นแบบนี้นะคับ วิทยาศาสตร์ หรือฟิสิกส์ไม่ใช่ทั้งหมด หรือถูกทั้งหมด วิทยาศาสตร์แค่เสี้ยวเล็กๆของธรรมชาติ วิทยาศาสตร์ยังไม่เข้าถึงความเป็นธรรมชาติได้ วิทยาศาสตร์ แค่ต้องการอธิบายหรือจำลองความเป็นชาติเท่านั้นเอง ทฤษฎีวิทยาศาสตร์มันก็ไม่ถูก100%เสมอไป เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้าทฤษฎีนั้นก็อาจถูกหักล้างไปก็ได้ แต่ผมไม่เข้าใจนิยามนักวิทยาศาสตร์ของไทยคืออะไร คือนักท่องจำ นักแปล นักเขียน เท่านั้นหรือเปล่า หรือนักวิทยาศาสตร์คือผู้ที่สร้างสิ่งใหม่ๆความรู้ใหม่ๆกันแน่
ส่วนเรื่อง ครอปเซอร์เคิล ต้องลองหาข้อมูลดูนะครับ มันมีการวิจัยอยู่ การล้มของลำต้น เมล็ดพันธ์จากต้นที่ล้ม หรือรังสีบริเวณนั้น และเรื่องถ่ายติด ufo ล่าสุดถ่ายจากนักบินนะคับ
ซึ่งทิศทางคือเรากำลังหาคำตอบ หรือแค่เอาความรู้เก่ามาล้มล้างคำถาม อันไหนดูเป็นวิทยาศาสตร์มากกว่ากันนี่ละครับที่ผมคิด
ส่วนเรื่อง ufo ถามผมว่ามีจริงไหม ผมตอบได้เลยว่ามีจริง แต่อาจจะไม่ใช่ของสิ่งมีชีวิตนอกโลก ผมคงไม่เลือกตอบว่า มันอาจเป็นแสงสะท้อน อาจเป็นแมลงบินเข้าจอ หรือแค่ฝ้า เพราะมันดูเหมือนไม่เป็นวิทยาศาสตร์มากกว่าคับ