โดยผิวเผินซีรีย์เรื่องนี้เหมือนเป็นเรื่องของผีและความรักหนุ่มสาวทั่ว ๆ ไป แต่หากพิจารณาให้ดีแล้ว ซีรี่ย์นี้ เป็นเรื่องของ "วิธีการจัดการกับการจากลาและการจัดการกับตัวเลือกของการจากลานั้น ๆ" เชื่อว่า ในชีวิตคนเรา หนึ่งในสิ่งที่ทำใจได้ยากที่สุดคือ การจากลากับคนที่ผูกพันที่สุดในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นคนรัก เพื่อนฝูง หรือ ญาติพี่น้อง โดยเฉพาะการจากลาที่ไม่ได้เตรียมใจ หรือการจากลาแบบปัจจุบันทันด่วน
โรงแรมแสงจันทร์ที่มันวอลเป็นเจ้าของนั้น ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกของวิญญาณที่จะจัดการกับการลาจากโลกใบนี้นั่นเอง แน่นอนว่า ในโรงแรมนั้น มีวิญญาณมากมายหลากลายที่ยังไม่สามารถไปเกิดได้เพราะมีห่วงอยู่ ซึ่งโรงแรมนั้นช่วยเหลือ "ปลอบประโลม" วิญญาณเหล่านั้นให้จากลาไปได้โดยหมดห่วง และ ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี
๑. เริ่มจากผู้สร้างโลกอย่าง "มาโก" ซึ่งเป็นเทพเจ้าเวอร์ชั่นป้ามีหลายรูปแบบ บ้างก็ ดูแลเรื่องความรัก บ้างก็ดูแลเรื่องยา บ้างก็ดูแลเรื่องเงิน บ้างก็ดูแลจัดการเกี่ยวกับความตาย แต่ทว่าเวอร์ชั่นที่แกร่งที่สุดคือเวอร์ชั่นแรก
หลายคนคงสงสัยถึงความแข็งแกร่งและพลังของเวอร์ชั่นนี้คืออะไร? คำตอบคือ ป้าคนนี้เป็นเวอร์ชั่นที่เมตตา คือ เมตตาด้วยการให้ "ทางเลือก" เสมอแก่ทุกสรรพสิ่ง ก่อนที่วิญญาณจะทำอะไรชั่วร้ายแล้วดับสูญตกนรกหมกไหม้ หากใครดู แต่แรกคงเห็นว่าในหลาย ๆ ครั้ง ยัยป้าจอมจุ้นนี้ให้ทางเลือกแก่สรรพสิ่งเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโรงแรมขึ้นมา การดึงมันวอลที่เปี่ยมด้วยความแค้นมาเป็นเจ้าของโรงแรมเพื่อว่าสักวันจะเลิกจมกับความแค้นและไปเกิดได้ การที่มีตอนหนึ่งเจ้าของสุนัขตายมาโกเวอร์ชั่นนี้ช่วยสุนัขตัวนั้นด้วยการเปิดประตูให้สุนัขรอด (แต่สุดท้ายมันก็เลือกตามเจ้าของไป) การให้วิญญาณร้ายที่ถูกแอบถ่ายมาอยู่ในโรงแรมเพื่อไม่ให้ถูกทำให้ดับสูญ การให้ทางเลือกพระเอกได้ใช้ชีวิตกับมันวอลด้วยการย้อนเวลาไปในสมัยโชซอน การหยิบยื่นดอกไม้สีขาวให้วิญญาณเพื่อที่จะให้ดวงวิญญาณเหล่านั้นไปอยู่ในภพภูมิที่ดี (แม้จะมีวิญญาณที่ไม่รับก็ตามที)
๒. มันวอล นั้นเอง เป็นครึ่งผีครึ่งคน เต็มไปด้วยความแคว้น ตลอด 1200 ปีเฝ้าหวังจะเจออดีตชายคนรักผู้ทรยศหักหลังเธอ เพื่อจะทำให้เขาทรมานไปด้วยให้สาสม ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นั้นเอง เธอก็ถูกทำให้เป็นเจ้าของโรงแรมมาตลอดไม่สามารถไปเกิดได้สักที ซึ่ง ตามเนื้อเรื่องนั้นพระเอกที่ชื่อ "กูชานซอง" จะสนองให้เธอไปเกิด พูดง่าย ๆ คือ มันวอลไม่สนใจว่าตัวเองจะดับสูญตกนรกไหม ขอแค่ได้ล้างแค่ให้สาแก่ใจก็เพียงพอ เพราะคนที่ตัวเองรักตายไปหมดแล้ว เธอเองก็ไปจากโลกไม่ได้ ไม่ได้ผูกพันกับใครมากนัก
โดยธรรมชาติของการจากลานั้น คนที่จากไปอาจจะเศร้าอยู่พอดู แต่คนที่ต้องคอยส่งนั้นเศร้ากว่านัก เพราะต้องอยู่กับโลกเดิม ๆ ที่ความหมายถูกเติมเต็มโดยคนที่เคยมีความสัมพันธ์ร่วมกัน ในซีีรี่ย์นี้นั้น วิญญาณโดยมากที่มาใช้บริการนาน ๆ คือ วิญญาณที่ลาจากไปอย่างปัจจุบันทันด่วนโดยปราศจากการร่ำลาใด ๆ ส่วนพวกที่ไปเกิดได้เร็วคือพวกที่มีการร่ำลาอย่างดีแล้วความหวังถูกเติมเต็มแล้ว ตัวอย่างคือ ผู้ดูแลโรงแรมคนที่ 98 ที่ตายปุ๊บ หมดห่วง ก็มาร่ำลามันวอลแล้วก็ไปเลย
แต่มันวอลไม่ใช่ทั้งสองอย่าง คือ คอยส่งคนที่ตัวเองผูกพันก็ไม่ได้ ตัวเองจะจากไปก็ไม่ได้เพราะยังไม่บรรลุบางอย่าง พูดง่าย ๆ คือ ชินชาไปแล้ว เพราะชีวิตไม่มีอะไรจะเสีย พอไม่มีอะไรจะเสียก็ไม่ค่อยอยากจะผูกพันกับอะไร จึงมีประโยคนึงที่เธอพูดตอนเห็นซานเชส เพื่อนรักของซานซองเศร้าโศกว่าเธอเห็นแต่วิญญาณเศร้าแต่ไม่ค่อยเข้าใจทำไมคนมีชีวิตอยู่ที่เศร้ามากขนาดนี้ ฉะนั้น ทั้งเรื่องนี้ เนื่อเรื่องหลักคือเรื่องของการทำอย่างไรให้มันวอลไปเกิดได้โดยไม่ดับสูญไปก่อน ซีรี่ยส์จะจบแบบ Happy Ending ไหมอยู่ที่มันวอลไปเกิดได้หรือไม่ ไม่ใช่อยู่ที่การได้ใช้ชีวิตกับพระเอกไหม จะเห็นได้ว่าทั้งเรื่องนั้น เธอเริ่มมีอะไรจะให้เสียแล้ว สิ่งที่เธอเริ่มกังวลคือความรักครั้งใหม่ที่มีต่อชานซอง
๓. ใครดูตอนจบคงทราบดีว่า ชานซองยืนส่งมันวอลไปสู่สคติด้วยแววตาเศร้าสร้อย เอาเข้าจริง มันวอลเองก็ยังลังเลว่าควรจะเอาอย่างไรดีกับความสัมพันธ์ของเขาสองคน แน่นอนว่า ในเรื่องนั้น มาโกให้โอกาสทั้งคู่ในหลาย ๆ ครั้ง โดยสร้างทางเลือกขึ้นมา อาทิ การให้มันวอลไปส่งอดีตคนรักข้ามสะพานแม่น้ำซัมโด คล้ายกับเปิดโอกาสให้มันวอลไปเกิดได้เลย การให้ชานซองได้ใช้ชีวิตกับมันวอลในยุคโชซอน ซึ่ง จะทำให้มันวอลไปเกิดไม่ได้ หรือ การต้มเหล้าแสงจันทร์เพื่อรอเจ้าของใหม่ และมันวอลเองสามารถเลือกดื่มได้เพื่ออยู่ต่อไป
แม้ตอนจบ เหมือนจะเศร้าที่มันวอลข้ามสะพานไปอย่างสุคติ แต่ความจริงนี่คือการจบที่เตรียมมาตั้งแต่ต้น ทั้งคู่ไม่ได้มีชีวิตร่วมกันแต่อย่างใด แต่ชานซองส่งเธอไปเกิดตามเป้าหมายที่ได้รับมาแต่แรก นับว่าเป็น Happy Ending แท้จริง เพราะว่าหากชัมซองไม่ส่งมันวอลไป เธอก็ต้องรอต่อไปเพราะชานซองต้องหมดอายุขัยสักวัน ซึ่งเขาคงเห็นว่ามันวอลอยู่มานานเกินไป รอมานานเกินไปแล้ว เขาจึงยอมแบกรับเคราะห์ตรงนี้ไว้เอง ตามที่มาโกสีดำเคยบอกไว้ว่า ชานซองต้องแบกรับความเจ็บปวดที่สุดไว้เพราะมันวอล แม้ว่าจะไม่ได้มีการเฉลยตรง ๆ แต่เราพอเดาได้ความเจ็บปวดที่ว่าคือการที่ต้อง "คอยฝัน" ถึงคนรักอย่างมันวอล ตามที่มาโกแอบวาง "ดอกฝันถึงจันทรา" เอาไว้
๔. แน่นอนว่าคำถามสำคัญต่อมาคือ แล้วตอนจบที่มีฉากที่ทุกคนมีชีวิตอยู่ร่วมกันจะตอบอย่างไร? ฉากนั้น คือฉากในจินตภาพของชานซอง หลาย ๆ ครั้งของการจากลานั้น เราอาจไม่ได้เจอกันอีก แต่ตามที่ซีรียส์บอกไว้ว่า บางทีแค่ได้นึกถึงสภาวะก่อนการจากลา การได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ก็ทำให้สุขใจได้บ้าง เหมือนกรณีของเจ้าเสือโคร่งที่ไม่สามารถกลับไปยังภูเขาแบ็กโดได้เนื่องจากสภาวะการแบ่งเกาหลีเหนือและใต้ สำหรับคนที่ส่งคนที่ต้องเดินทางไปแล้ว เศร้าไหม? คงเศร้า แต่ทำอย่างไร? ก็ทำได้แค่นึกถึงเวลาดี ๆ ในจินตภาพเท่านั้น
๕. ผมชอบดูซีรี่ยส์ผีไหม ชอบมาก แต่ละครไทยจะสามารถเขียนบทได้แบบนี้ไหม คงยาก ถ้ายังวนเวียนอยู่กับการมองความรัก ความดี แบบขาวดำโดยขาดความซับซ้อน ในแง่ดี ผมว่า Hotel Del Luna ทำออกมาได้ดีเลยในหลาย ๆ แง่มุม ทั้งสัญลักษณ์หรืออะไรก็ตามที่วางและซ่อนอยู่ในเรื่อง ไม่นับถึงภาพที่สวยงามมากหากดูใน HDTV ผมใช้เวลาดูสองวันจบ ใครบังเอิญอ่านรีวิวโดยที่ยังไม่ดูก็ลองนะครับ
ส่วนตัวคิดว่าเรื่องนี้ควรดูซ้อนกันกับ Hi Bye Mama เลย