สถานการณ์โควิดก้หนักเป็นอันดับต้นๆ

ประชาชนยังไม่กลัว ออกมารวมกลุ่มประท้วง

เพราะต้องการเสรีภาพ ไม่โอเคกับการกักกัน

แบบนี่ถือว่าสุดโต่งไปไหมครับ

น่ากลัวจะระบาดรุนแรงขึ้นไปอีกนะนิ

ต้องเข้าใจ spectrum ของสิ่งที่เรียกว่าการเมืองการปกครองก่อนครับ

ประชาธิปไตย (democracy) ไม่ใช่เสรีธิปไตย (liberalism) และอนาธิปไตย (anarchism) ครับ แล้วจริงๆแล้วคำจำกัดความพวกนี้ ต้องตีแยกออกมาเป็นสามหลักง่ายๆก่อนคือ - สังคม เศรษฐกิจ และ การเมืองครับ

ถ้าเราแยกง่ายๆว่า ซ้าย ขวา คนที่เป็นซ้ายในด้านของสังคมและการเมือง อาจจะเชื่อในการเป็นขวาในด้านเศรษฐกิจก็เป็นไปได้ครับ ฉะนั้น เราควรจะดูเป็น quadrant มากกว่าครับ เมกันก็ยังแยกเป็นรีบลัคบลิกัน และเคมฯ ซึ่งชุดความคิดของสองพรรคนี้ก็ต่างกันไปอีกครับ อันนึงเป็นซ้าย อีกอันเป็นขวา ฯลฯ ลองดูตามรูปด้านล่างเลยครับ

และอย่างที่หลายๆเรปตอบไปแล้วคือ การปกครองแบบเมกันนั้น รัฐเองก็มีอำนาจเทียบเท่ากับรบ.ครับ เค้ามี state law ที่แต่ละรัฐแยกกฏหมายกัน แต่ก็มี federal law ซึ่งในรายละเอียดลึกๆแล้ว เค้าจะแบ่งกันชัดเจนครับ ว่ากฏหมายชุดไหน ให้ไปดูที่ state law ก่อนหรือที่ federal law ก่อน (ผมรู้แค่นี้)

กลับมาที่ quadrant ด้านล่างกันครับ การเป็นซ้ายสุดโต่ง มันก็ไม่ใช่ประชาธิปไตยต่อไปครับ ซ้ายแบบ authoritative มากๆก็จะเป็นแบบคอมมูนิสต์ ขณะที่ซ้ายที่เป็นฟรีมากๆ ก็จะเป็นอนาธิปไตย (anarchy) คือการมีอยู่ของรัฐไม่ได้จำเป็น ทุนนิยมคือเลว และทุกคนมีสิทธ์ที่จะทำอะไรก็ได้ (คือฟรีในระดับนั้นเลย) - ถ้าแยกง่ายๆ แกนซ้าย = เท่าเทียม ขวาคือ = individualist (ผมไม่รู้จะจำกัดความภาษาไทยว่าอะไร) ส่วนแกน บน = ควบคุม ล่าง = เสรีนิยม ... อย่างโอบามานั้นอยู่ในกล่องซ้ายล่าง ขณะที่ทรัมป์ออกจะเป็นแนวขวาบนครับ แต่เมกันส่วนใหญ่จะเป็นขวาล่างหรือ ทุนยิมแบบเสรีมากกว่า (คือไม่ใช่เสรีประชาธิปไตย เพราะไม่เหมือนกัน) ขณะที่ยุโรปส่วนใหญ่จะเป็นจะยึดแนวกลางล่างๆซะส่วนใหญ่ครับ คือสร้างความเท่าเทียมมากกว่าเมกันแต่ไม่เสรีเท่าครับ

การเมืองการปกครองเป็นเรื่องสนุกครับ และต้องใช้เวลาศึกษา เพราะไม่งั้นเราก็จะไม่เข้าใจว่าจริงๆแล้วอะไรคืออะไรครับ เหมือนที่เคยมีช่วงนึงที่ช่องทีวีช่องนึงหรือเซเลบหลายๆคนชอบด่าเมกาว่าเสรีจนเกินไป ฯลฯ ทั้งๆที่จริงๆแล้วคนเหล่านั้นไม่ได้เข้าใจอะไรเลยครับ (โจ นูโวที่พูดเกี่ยวกับทฤษฎีของดาร์วินก็ใช่)

เชิญเรปล่างมาตอบ

ลองดูคลิปนี้ครับ แต่ละรัฐความคิดค่อนข้างต่างกันมาก

เขาไม่สนใจเลยเหรอว่าผู้เฒ่าผู้แก่จะเสี่ยงเสียชีวิต

ไม่น่าใช่ประชาธิไตย เรียกว่าพวกไม่สนโลกไม่แคร์สังคมมากกว่า

ผมว่าสเกลมันใหญ่มาก อเมริกา รัฐนึงมีแนวคิดแบบนึง ยกตัวอย่างพอร์ตแลนด์ มีแนวคิดอีโค่ เน้นพลังงานธรรมชาติ รณรงค์ให้ชาวเมืองปลูกอาหารกินเอง และมีตลาดกลางรองรับสินค้า คืออย่างน้อย ประชาชน รัฐนี้ มีไฟฟ้าผลิตเอง มีอาหารที่ปลูกเอง ถ้าเทียบกับแนวคิดเมืองอื่นที่เน้นด้านอื่นก็แตกต่างกันไป

ดูรายการของเกาหลีที่เชิญคนหลายๆประเทศมาถกประเด็น topic ต่างๆผมสรุปเอาเองจากการดูนะ
อเมริกานี่การดูแลการปกครองจะแบ่งเป็นรัฐๆไปเลยในทุกเรื่อง หลายรัฐให้ความร่วมมือดี หลายรัฐก็ดื้อ
ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่ผู้ดูแลรัฐด้วยส่วนเรื่องคนเฒ่าคนแก่ระบบบ้านเค้าเหมือนถ้าแก่ปุ๊ปคุณต้องไปหาอยู่บ้านพักคนชราเอานะเพราะลูกหลานไม่ได้มาดูแลคุณหรอกอะไรแบบนี้มั้งครับสังเกตได้จากข่าวช่วงนี้

แต่ละรัฐมากกว่า ที่ปกครองกันแบบเอกเทศ

อีกส่วนคือค่านิยมเรื่องโรคระบาดของคนอเมริกัน+ยุโรป มันเป็นแบบนี้ เค้าไม่กลัวเป้นทุนเดิมอ่ะ

ระบอบมันไม่น่าเกี่ยวมั้ง

ไม่สุดโต่งหรอก บางอย่างมันก็ทำได้ไม่สุด แล้วแต่รัฐ ถ้าทำผิดกฎหมายก็โดนจับแน่ๆ

เช่น คนประท้วงที่มิชิแกน ตอนนี้คนพวกอาวุธออกมาด้วย แต่ก็ยังไม่เห็นข่าวคนชุมนุมเอาปืนมายิง

แค่พกออกมาไว้เฉยๆ กลับกัน รัฐอื่นห้ามพกปืน เขาก็ไม่พกกัน ถ้าพกก็โดนจับ

เป็นเจ้าโลก
สามารถรับมือกับภัยเทคโนโลยี เศรษฐกิจ การทหาร การเมือง ได้แบบสบายๆ

แต่พอเจอภัยพิบัตร กลับตายน้ำตื้นซะงั้น

ตั้งแต่เกิดเหตุพายุเข้า + น้ำท่วมใหญ่ เมื่อไม่กี่ปีก่อนจนถึงวิกฤติโลกระบาดในปัจจุบัน
เหมือนทางเขาไม่ยี่หระสักนิด ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายบริหาร หรือประชาชน

แต่พอเทียบกับเหตุการณ์ 9-11 อเมริกันกลับรับมือได้อย่างฉับไวกว่านี้มากมายนัก...

การเมืองก็มีส่วนครับ เพราะ เดโมแครต โจมตี รีพลับริกัน เรื่อง Health Care มาตลอด แล้วแผนทำ Health Care ของรีพลับริกันก็ยังไม่ถึงไหน

ถ้าลูกพี่ทรัมป์ ออกมายอมรับตอนนี้ ที่พูด ๆ มาก็ไม่มีค่าอะไร

ที่ท่านกล่าวถึงคือหลักการเสรีนิยม ไม่ใช่ประชาธิปไตย

ทำไมผมกลับ แอบชอบแนวคิดของคนกลุ่มนี้ก็ไม่รู้นะครับ
จริงๆมันก็น่ากลัวล่ะครับ โรคโควิด

สำหรับผมว่า มองว่าสุดโต่งนะ

Because I can .. แทบจะเป็นตรรกะแรกในหัวพวกเค้าเลย
คิดว่าตัวเองทำอะไรตามใจชอบได้ตลอดเวลา ไม่ต้องคิดเยอะ ถ้าไม่ผิดกฎหมายกูจะทำได้หมดที่กูต้องการ

ต้องเข้าใจ spectrum ของสิ่งที่เรียกว่าการเมืองการปกครองก่อนครับ

ประชาธิปไตย (democracy) ไม่ใช่เสรีธิปไตย (liberalism) และอนาธิปไตย (anarchism) ครับ แล้วจริงๆแล้วคำจำกัดความพวกนี้ ต้องตีแยกออกมาเป็นสามหลักง่ายๆก่อนคือ - สังคม เศรษฐกิจ และ การเมืองครับ

ถ้าเราแยกง่ายๆว่า ซ้าย ขวา คนที่เป็นซ้ายในด้านของสังคมและการเมือง อาจจะเชื่อในการเป็นขวาในด้านเศรษฐกิจก็เป็นไปได้ครับ ฉะนั้น เราควรจะดูเป็น quadrant มากกว่าครับ เมกันก็ยังแยกเป็นรีบลัคบลิกัน และเคมฯ ซึ่งชุดความคิดของสองพรรคนี้ก็ต่างกันไปอีกครับ อันนึงเป็นซ้าย อีกอันเป็นขวา ฯลฯ ลองดูตามรูปด้านล่างเลยครับ

และอย่างที่หลายๆเรปตอบไปแล้วคือ การปกครองแบบเมกันนั้น รัฐเองก็มีอำนาจเทียบเท่ากับรบ.ครับ เค้ามี state law ที่แต่ละรัฐแยกกฏหมายกัน แต่ก็มี federal law ซึ่งในรายละเอียดลึกๆแล้ว เค้าจะแบ่งกันชัดเจนครับ ว่ากฏหมายชุดไหน ให้ไปดูที่ state law ก่อนหรือที่ federal law ก่อน (ผมรู้แค่นี้)

กลับมาที่ quadrant ด้านล่างกันครับ การเป็นซ้ายสุดโต่ง มันก็ไม่ใช่ประชาธิปไตยต่อไปครับ ซ้ายแบบ authoritative มากๆก็จะเป็นแบบคอมมูนิสต์ ขณะที่ซ้ายที่เป็นฟรีมากๆ ก็จะเป็นอนาธิปไตย (anarchy) คือการมีอยู่ของรัฐไม่ได้จำเป็น ทุนนิยมคือเลว และทุกคนมีสิทธ์ที่จะทำอะไรก็ได้ (คือฟรีในระดับนั้นเลย) - ถ้าแยกง่ายๆ แกนซ้าย = เท่าเทียม ขวาคือ = individualist (ผมไม่รู้จะจำกัดความภาษาไทยว่าอะไร) ส่วนแกน บน = ควบคุม ล่าง = เสรีนิยม ... อย่างโอบามานั้นอยู่ในกล่องซ้ายล่าง ขณะที่ทรัมป์ออกจะเป็นแนวขวาบนครับ แต่เมกันส่วนใหญ่จะเป็นขวาล่างหรือ ทุนยิมแบบเสรีมากกว่า (คือไม่ใช่เสรีประชาธิปไตย เพราะไม่เหมือนกัน) ขณะที่ยุโรปส่วนใหญ่จะเป็นจะยึดแนวกลางล่างๆซะส่วนใหญ่ครับ คือสร้างความเท่าเทียมมากกว่าเมกันแต่ไม่เสรีเท่าครับ

การเมืองการปกครองเป็นเรื่องสนุกครับ และต้องใช้เวลาศึกษา เพราะไม่งั้นเราก็จะไม่เข้าใจว่าจริงๆแล้วอะไรคืออะไรครับ เหมือนที่เคยมีช่วงนึงที่ช่องทีวีช่องนึงหรือเซเลบหลายๆคนชอบด่าเมกาว่าเสรีจนเกินไป ฯลฯ ทั้งๆที่จริงๆแล้วคนเหล่านั้นไม่ได้เข้าใจอะไรเลยครับ (โจ นูโวที่พูดเกี่ยวกับทฤษฎีของดาร์วินก็ใช่)