คุยเยอะสุด แต่นักเตะไม่อยากมา ก็ชัดเจน ไม่น่ามีดราม่า อะไร

เขารู้กันทั่วโลกไอ้ตือ

ออกห่างไอนี้ให้ไวเลย แค่เห็นหน้าก็ไม่อยากทำธุรกิจด้วยละ

ดีนะหงส์ไม่มีเด็กมัน ทำทีมเสียระบบหมด

มันไม่เกี่ยวเล้ย หาว่าผู้บริหารแมนยูไปบรีฟนักข่าวอีก

แฟนบอลยูไนเต็ดทั่วโลกเค้ายี้ไรโอล่ามาตลอด ทำเป็นไม่รู้ตัว
ล่าสุดตลาดซัมเมอร์ที่แล้ว ยังจี้ให้ป็อกบาย้ายทีม

พอเมื่อวานดอร์ทมุนด์ประกาศคว้าฮาลันด์ ไรโอล่าก็โดนโซเชียลด่าสิครับ

ตอนนี้ไม่รู้เหมือนกันนะว่า เกลียด เอ็ด หรือ อ้วนไรโอล่า มากกว่ากัน

ทะเลาะๆกันไปเลย

ทีมจะได้เลืกยุ่งกับไอ้เอเยนต์นี่สักที

ยังไง โยนกันไปมา

ตอนซื้อป๊อกบา ลูกากู มาคิตายาน ได้ไม่เห็นโทษกู

ไรโอล่าอาจจะกล่าวในใจ

อย่าซื้อขายนักเตะในสังกัดไรโอล่าเลย ปัญหาตามมาเยอะ

"ถ้าเขาต้องการไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผมก็มีหน้าที่ที่จะพาเขาไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่เขาไม่อยากไปไง"

โอเคครับ แปลว่าคุณเลือกทำตามความต้องการของนักเตะเป็นสำคัญไม่ใช่ความต้องการของตัวเองเป็นหลัก ซึ่งผมเชื่อนะว่ามีส่วนที่เป็นจริงอยู่มาก ต่อให้เอเย่นต์กระสันอยากให้ย้ายไปโน่นนี่แค่ไหน จะโน้มน้าวขนาดไหนถ้าตัวนักเตะไม่อยากไป ยังไงก็ต้องเป็นสิทธิ์ขาดของเจ้าตัว เคสวาเลนเซียนี่ผมนับถือใจเขาเลยจริงๆ และจากที่ไรโอล่าพูดออกมาชัดๆแบบนี้และจากการตามข่าวต่างๆมาตลอดทำให้ผมเห็นภาพชัดเจนและรู้สึกว่ามองไม่ผิดจริงๆ

ถ้าประโยคที่ว่า เขาจะ……… ผมยังเบื่อเลย

เพราะว่าถ้าไปแมนยูก่อน ไม่มีทางที่ดอร์ทจะซื้อต่อแพงๆ

กลับกันไปดอร์ทก่อน เดี๋ยวแมนยูก็รอซื้อต่อแพงๆเอง ไรโอล่าได้ค่ากินเปล่าเน้นๆ

เฉียบ

อย่าได้เฉียดไปใกล้ ถ้านักเตะใช้บริการเอเย่นต์รายนี้

ตามนั้นสำคัญสุดคือฮาลันด์เลือกไม่มาเองแต่ที่ว่าแมนยูปล่อยข่าวนี่อ้วนก็มโนเกินไปหน่อยละมั้งครับนักข่าวเค้าอยากเขียนอะไรก็เทียนกันเรื่อยๆอยู่แล้ว ไม่เป็นไรครับตามหานักเตะที่ใจอยากมาจริงๆกันต่อไปตอนนี้เชื่อมั่นในแนวทางซื้อตัวว่าต้องมาเพราะใจไม่ใช่เงินอย่างเดียว ดูแล้วถ้าจะได้กองหน้าอาจได้แบบระยะสั้นอายุเยอะเอามาสำรอง ไปมุ่งเอามิดฟิลด์ตัวรุกเน้นๆไปเลยครับ

เสียงแตกกันเลยเดียว