สมัน อดีตที่ไม่มีวันหวนคืน
หนึ่งในกวางที่มีเขางดงามที่สุด พวกมันเคยท่องเที่ยวอยู่ในกรุงเทพและพื้นที่โดยรอบ ทว่าปัจจุบัน ไม่มีกวางชนิดนี้อยู่ในโลกอีกแล้ว
สมัน หรือ เนื้อสมัน(Schomburgk's deer)ชื่อวิทยาศาสตร์ Rucervus schomburgki) ถูกชาวยุโรปค้นพบและตั้งชื่อวิทยาศาสตร์ให้ใน ปี ค.ศ.1863(พ.ศ.2406) เป็นกวางขนาดกลาง ขนสีน้ำตาล สูงที่ไหล่ 111 เซนติเมตร เขาสมันสวยงามกว่าเขากวางชนิดอื่นโดยมีกิ่งเขาข้างละ 6 – 8 กิ่ง แต่บางครั้งอาจมีมากถึงข้างละ 13 กิ่ง ลักษณะเขาเหมือนสุ่ม ทำมุมรับเป็นชั้นๆ ชาวบ้านจึงเรียกว่า กวางเขาสุ่ม และเนื่องจากสมันมีเขาขนาดใหญ่ทำให้หากินในป่าทึบไม่สะดวก จึงมักหากินอยู่ตามที่ราบลุ่มที่มีดงหญ้าขึ้น
สมันเป็นสัตว์เฉพาะถิ่นของไทย พบบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา พวกมันเคยอยู่ในกรุงเทพฯ บริเวณพื้นที่ซึ่งปัจจุบัน คือ จตุจักร บางเขน ดอนเมืองและมีชุกชุมที่สุดแถบรังสิต นครนายก นอกจากนี้ ยังพบในสมุทรปราการ สมุทรสาคร รวมทั้งบริเวณแม่น้ำแควใหญ่ กาญจนบุรี กับแม่น้ำบางปะกง ฉะเชิงเทรา
ช่วงกลางสมัยอยุธยา การค้าหนังกวางเฟื่องฟู โดยถูกส่งออกมากถึงปีละกว่าหนึ่งแสนผืนและในบรรดากวางชนิดต่างๆนั้น หนังสมันถือว่า มีราคาสูงสุด จึงมีสมันถูกล่า ปีละนับหมื่นตัว
แม้ถูกล่าเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากถิ่นอาศัย ยังอุดมสมบูรณ์ ไม่ถูกบุกรุกเพราะอยู่ไกลจากชุมชน ทำให้ยังมีสมันเหลืออยู่มาก อีกทั้งเมื่อการค้าหนังกวางลดลงในช่วงปลายสมัยกรุงศรีฯ ทำให้การล่าน้อยลง ส่งผลให้พวกมันเพิ่มจำนวนมากขึ้น
ในสมัยกรุงเทพ ไทยทำสัญญาบาวริ่งกับอังกฤษส่งผลให้ต้องเปิดการค้าเสรีและข้าวกลายเป็นสินค้าออกที่สำคัญ จึงมีการบุกเบิกพื้นที่ในพระนครและปริมณฑล ก่อนขยายไปทั่วลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพื่อเปลี่ยนเป็นทุ่งนาและชุมชนมนุษย์ก็เข้าใกล้ถิ่นของสมัน
เนื่องจากสมันมีเขาสวยและเนื้อรสชาดดีทำให้ชาวบ้านนิยมล่า อีกทั้งการที่พวกมันหากินในทุ่งหญ้า ทำให้ถูกพบได้ง่ายและเมื่อถึงฤดูฝน จะมีน้ำหลากท่วมทุ่ง สมันว่ายน้ำไม่เก่ง จึงขึ้นไปอยู่บนโคกหรือเนินที่น้ำท่วมไม่ถึง พวกชาวบ้านจะขี่ควายลุยน้ำหรือพายเรือออกไปล่าสมันตามโคกตามเนินได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ พวกพรานยังล่าสมันในฤดูผสมพันธุ์อีกด้วย
การล่าที่ไร้ขอบเขตและการขยายพื้นที่เกษตรกรรมที่บุกรุกทำลายถิ่นอาศัยของสมันจนเหลือน้อยลง ทำให้พวกมันลดลงเรื่อยๆ และในปี ค.ศ.1932(พ.ศ. 2475) สมันตัวสุดท้ายในธรรมชาติก็ถูกยิงตายในป่าแถบแม่น้ำแควใหญ่ กาญจนบุรี ส่วนสมันตัวสุดท้ายของโลก ถูกเลี้ยงอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในตำบลมหาชัย อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร และถูกคนเมาที่เตร่เข้าไปในวัด ตีตาย เมื่อปี ค.ศ.1938(พ.ศ. 2481)
ที่จริง หลังค้นพบในปี ค.ศ.1863 มีสมันจำนวนหนึ่งถูกเลี้ยงในสวนสัตว์ทั่วยุโรป ทว่าไม่มีบันทึกถึงการขยายพันธุ์พวกมัน ส่วนหลักฐานแสดงถึงการเคยมีอยู่ของสมันนอกจากเขาแล้ว ก็มีภาพถ่ายของสมันตัวผู้เพียงตัวเดียว ที่อยู่ในสวนสัตว์กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน ตั้งแต่ปี ค.ศ.1899 - ค.ศ.1911 กับซากสตัฟฟ์ของตัวผู้อีกตัวในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติกรุงปารีส ฝรั่งเศส ซึ่งยังคงอยู่จนทุกวันนี้
ในปีิ ค.ศ.1991(พ.ศ.2534)มีการพบเขากวางลักษณะประหลาดที่ร้านขายยา เมืองพงสาลี หลวงพระบาง ประเทศลาว ในสภาพยังสด
ลอเรนท์ ชาซีร์ นักธรณีวิทยาของสหประชาชาติได้ตรวจสอบเขากวางดังกล่าวจากภาพถ่ายและระบุว่าน่าจะเป็นเขาสมัน จึงทำให้บางคน เชื่อว่า อาจยังมีสมันหลงเหลืออยู่ในป่าประเทศลาว แต่ก็ไม่มีสิ่งใดยืนยัน
ทุกวันนี้ สมันอยู่ในบัญชีสัตว์ป่าสงวนของไทย และเมื่อค.ศ.2006 (พ.ศ.2549) สหภาพการอนุรักษ์ธรรมชาติสากล(IUCN)ได้ประกาศให้สมันเป็นชนิดพันธุ์ที่สูญพันธุ์(Extincted species)
สำหรับสัตว์ที่มีสายพันธุ์ใกล้กับสมันมากที่สุด คือ กวางบาราซิงก์ที่อยู่ในสกุล Rucervus เหมือนกัน ซึ่งนอกจากอยู่ในสกุลเดียวกัน สมันกับกวางบาราซิงก์ยังมีรูปร่างหน้าตาสีสันเหมือนกันแทบทุกอย่าง จนพวกนักวิทยาศาสตร์ที่เห็นสมันที่ยังมีชีวิตอยู่ ครั้งแรก คิดว่า มันคือ กวางบาราซิงก์ จนกระทั่งสมันตัวนั้นมีเขางอกอย่างสมบูรณ์จึงได้เห็นความแตกต่างของกวางทั้งสองชนิด
และนี่คือ สมัน อดีตที่ไม่มีวันหวนคืนของป่าไทย
สมัน หรือ เนื้อสมัน หนึ่งในกวางที่มีเขาสวยที่สุดในโลก
สมันเพศผู้ที่อยู่ในสวนสัตว์กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน
...ศตวรรษที่ 19 มีคณะสำรวจชาวยุโรปหลายคณะเดินทางมาประเทศไทยและได้นำสมันจำนวนหนึ่งไปเลี้้ยงไว้ในสวนสัตว์หลายแห่งทั่วยุโรป
สมัยก่อน เมื่อถึงฤดูน้ำหลาก ชาวบ้านแถบทุ่งรังสิต ซึ่งเป็นถิ่นที่มีสมันชุกชุมจะขี่ควายลุยน้ำไปล่าสมันที่หนีน้ำตามโคกตามเนิน
พรานจะเอาเขาสมันมาผูกกับศีรษะเพื่อให้สามารถเข้าใกล้ฝูงสมันมากพอจะใช้หอกแทง
ภาพถ่ายของสมันตัวผู้ ในสวนสัตว์เบอร์ลิน
ซากสตัฟฟ์ทั้งตัวของสมันชิ้นเดียวในโลก ถูกเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ กรุงปารีส ฝรั่งเศส
กวางบาราซิงก์ (Rucervus Duvaucelii) หรือ กวางบึงอินเดีย เป็นกวางที่มีสายพันธุ์ใกล้เคียงกับสมันมากที่สุด โดยอยู่ในสกุล Rucervus เหมือนกัน
ในสมัยก่อน นักวิทยาศาสตร์เคยเข้าใจว่า สมันเป็นชนิดย่อยของกวางบาราซิงก์ เนื่องจากมีลักษณะเหมือนกันมาก โดยเฉพาะถ้าเป็นตัวเมียจะแยกไม่ออก ข้อแตกต่างภายนอกที่ชัดเจนของทั้งสองชนิด คือ กิ่งเขาของสมันที่แตกแขนงมีกิ่งก้านมากกว่าบาราซิงก์
เครดิต komkid.com