Simon Henderson

คือผู้อยู่เบื้องหลัง Silly fools ยุคบังโตรวมไปถึง Hangman เป็นคนที่ทำงานด้วยกันกับบังโตจนเข้าขากันแล้วนั้นเอง

ไซม่อนได้ดูคลิปป๋าเต็ดที่ออกอากาศเมื่อวานนี้ และได้คอมเม้นเอาไว้ว่า

Toe was a very unique person, very serious and enthusiastic, with a hot temper. He used to call me in the morning on a studio day and say he is quitting the music business, I would say meet me at Starbucks, I calmed him down everytime, I would always make him laugh and talk him down! He did this with all the albums we made together...I knew one day he would finally give it all up! I guess it's the price we pay for having a super talented thinking man..I still miss him very much..I miss his crazy energy x

แปล แปล... โตเป็นคนที่ค่อนข้างมีเอกลักษณ์ ดูเป็นคนจริงจังและกระตือรือล้น รวมถึง หัวร้อน, เค้าเคยโทรหาไซม่อนแล้วบอกว่า เค้าจะเลิกทำเพลงแล้ววว !!! ไซมอนบอกว่า งั้นเดวเจอกันที่ สตาร์บัค. ไซมอนพยายามที่จะทำให้พี่โตใจเย็นลงทุกทีโดย ไซมอนชอบทำให้พี่โตหัวเราะและพูดคุยเพื่อให้พี่โตหายหัวร้อน พี่โตจะชอบทำไรอะไรแบบนี้ในทุกๆอัลบั้มที่ไซมอนและพี่โต ทำด้วยกัน ไซมอนรู้ว่าวันนึงพี่โตต้องยอมล้มเลิกความตั้งใจ
ไซม่อนคิดว่ามันอาจจะเป็นสิ่งที่ล้ำค้าที่เค้ามีพี่โตผู้ที่มีพรสวรรค์ในด้านนี่ ฉันยังคิดถึงเขามากๆๆๆ ฉันคิดถึงคนบ้าพลังอย่างโต

แปลโดย Paisarn Arun ผู้ใช้เฟสบุคท่านนึง





จากที่ไซม่อนพูด ผมว่าบังแกทนทำเพลงมาให้เราฟังได้ถึง 5 - 6 อัลบั้มนี่ก็สุดๆแล้วนะ 555 คือประมาณว่าแกหลุดมาอยู่ในที่ๆไม่ใช่ตัวตนแก แต่ต้องทำไปก่อน แล้วด้วยที่บังแกเป็นคนๆนึงที่มีศักยภาพ มีคุณภาพ จริงจังซีเรียสอย่างที่ไซม่อนว่างานมันเลยออกมาดีเพราะไหนๆก็ต้องทำแล้วก็ทำให้มันออกมาดี

มันทำให้ใครหลายๆคนเข้าใจบังแกได้มากขึ้นเลยนะ ชีวิตนักดนตรีมันไม่ง่ายสำหรับคนแบบบังเลย ที่ต้องคอยเอ็นเตอร์เทนคนอื่นอยู่ตลอดเวลา ทั้งที่ตัวบังแกเองไม่ได้เป็นคนลักษณะนั้น

แต่ถ้าใครที่เป็นสายเฮฮาปาตี้อยู่แล้วก็จะอยู่ได้สบายๆกับสายงานนี้

ก็เหมื่อนกับเราๆท่านๆนี่แหละ ที่เจองานที่ไม่ใช่ ก็ลาออกเปลี่ยนที่ ไปอยู่ที่ๆเราคิดว่ามันใช่กว่า

เอาเป็นว่าผมเข้าใจบังแกนะ

ผมนี่แฟนคลับแดนตายวงนี้มาก่อนนะแต่ต้องยอมรับความจริงด้วยว่า silly fools ทั้งวงเขาก็ทนแกมานาน ....ตัวแกเองนั่นแหละที่จนวันนี้ยังไม่ยอมรับเลยว่าตัวแกก็มีส่วนผิดไปโทษดนตรีเฉยเลย ผมผิดหวังนะทุกวันนี้ก็ไม่ได้รู้สึกกับแกเหมือนเดิม....

ซักสองเดือนก่อนเห็นมีเพื่อนใน ss แชร์ คลิปปิ้งไก่ของแกกับลูกให้ดูหลังจากไม่สนแกมานานก็ลองเข้าไปดูอยากฟังทัศนะแกซักหน่อยว่าเป็นไงบ้างแล้ว ก็เห็นแกสุขดีก็ดีใจด้วยครับ...
เพลง silly fools ผมก็ยังฟังบ้างแต่ไม่อินเหมือนเดิม...
ก็ยังยืนยันเหมือนเดิม โทษตัวเองบ้างอย่าเอาแต่โทษดนตรี หรือคนอื่นครับบัง...

ฟังสัมภาษณ์แกแล้วผมรู้สึกรับรู้ถึงความร้อนความพลุ่งพล่านมากกว่าความเยือกเย็นที่ควรจะมีในคนที่บอกว่าอยากละจากความวุ่นวาย ขณะที่แกบอกว่าดนตรีว่ามันเปลี่ยนโลกไม่ได้ ผมกลับคิดถึงวงๆนึงขึ้นมา วงที่สอนสัจจธรรมของชีวิต ผ่านบทเพลง bodyslam

ก็อย่างที่ป๋าเต็ด สัมภาษณ์ นั้นแหละ แกทำงานแบบเดิมซ้ำไปซ้ำมาเป็น 10 ปี
จนแกถามตัวเองว่าวันนึง แกเกิดมาทำไม วันเวลาหล่อหลอมให้เค้าไปพบเจอ
เส้นทางที่ทำให้เค้าค้นพบ คำตอบ ที่เค้าถามตัวเอง มาตลอด ซึ่งก็ดีแล้ว
สัมภาษณ์นี้ พี่โต พยายามไม่พูดถึงความสัมพันธ์ในวง ซิลลี่ ฟูล เลย
ผมรอฟัง สัมภาษณ์ สมาชิก ในวงที่เหลือดีกว่า อาจจะเห็นอีกมุมนึงก็ได้

ฟังดูเมื่อวาน แกเกลียดดนตรีน่าดูเลย เสียดายพรสวรรค์แกจริงๆ

แล้วแทบๆม่พูดถึงวงเก่าเลย มีแต่พูดถึงแฮงแมน เคยเห็นมีข่าวนานมาแล้วว่าพี่หรั่งเคยไปหัวแก ไม่รู้เหตุก่อนหรือหลังงานพัทยาที่ แฮงแมนขึ้นก่อนซิลลี่ฟูล งานนั้นอย่างปั่น

ผมนี่แฟนคลับแดนตายวงนี้มาก่อนนะแต่ต้องยอมรับความจริงด้วยว่า silly fools ทั้งวงเขาก็ทนแกมานาน ....ตัวแกเองนั่นแหละที่จนวันนี้ยังไม่ยอมรับเลยว่าตัวแกก็มีส่วนผิดไปโทษดนตรีเฉยเลย ผมผิดหวังนะทุกวันนี้ก็ไม่ได้รู้สึกกับแกเหมือนเดิม....

ซักสองเดือนก่อนเห็นมีเพื่อนใน ss แชร์ คลิปปิ้งไก่ของแกกับลูกให้ดูหลังจากไม่สนแกมานานก็ลองเข้าไปดูอยากฟังทัศนะแกซักหน่อยว่าเป็นไงบ้างแล้ว ก็เห็นแกสุขดีก็ดีใจด้วยครับ...
เพลง silly fools ผมก็ยังฟังบ้างแต่ไม่อินเหมือนเดิม...
ก็ยังยืนยันเหมือนเดิม โทษตัวเองบ้างอย่าเอาแต่โทษดนตรี หรือคนอื่นครับบัง...

สิ่งที่ผมตกใจจริงๆหลังฟังคลิปนี้คือ เพิ่งรู้ว่าศาสนาเขาห้ามฟังพวกเครื่องดนตรีเลย ลำบากน่าดู

พี่โตไม่เคยเสียดายอะไรในชีวิต
มีแต่คนอื่นที่เสียดายแทนพี่โต

“สิ่งที่ทำได้ดี” กับ “สิ่งที่ชอบ”
บางครั้งมันไม่ได้ไปในทิศทางเดียวกัน
เชื่อว่าหลายคนเองก็เคยเผชิญสภาวะแบบนี้
อย่างในกรณีของพี่โต

เพลง >> ทำได้ดี แต่ไม่ได้ชอบ มันขัดต่อคุณค่าที่เขาให้
ศาสนา >> มันใช่เลย นี่คือสิ่งที่เขาได้ศึกษา เขาเข้าใจมัน ปฏิบัติตามกฎได้เป็นอย่างดี

ดีใจกับพี่โตที่ค้นพบในสิ่งที่ชีวิตของเขาต้องการ
บทเพลงที่พี่มอบให้ ข้อความเหล่านั้นส่งถึงพวกเรามาเสมอ
และเชื่อว่ามันจะอยู่ในความทรงจำของเราตลอดไป

ฟังสัมภาษณ์แกแล้วผมรู้สึกรับรู้ถึงความร้อนความพลุ่งพล่านมากกว่าความเยือกเย็นที่ควรจะมีในคนที่บอกว่าอยากละจากความวุ่นวาย ขณะที่แกบอกว่าดนตรีว่ามันเปลี่ยนโลกไม่ได้ ผมกลับคิดถึงวงๆนึงขึ้นมา วงที่สอนสัจจธรรมของชีวิต ผ่านบทเพลง bodyslam

ฟังแกตอบคำถามแล้ว เคารพการตัดสินใจของแกนะ

ยังไงมันก็ชีวิตของคุณโตเค้าน่ะ เราเป็นแค่คนนอก อย่าไปตัดสินพี่โตเลย เราไม่ได้ผ่านโมเม้นต่างๆที่พี่โตเจอมา ตัดสินเค้าไม่ได้หรอก

ทุกวันนี้แกดูปล่อยวาง แกดูมีความสุข ผมก็มีความสุขกับแกนะ

แต่อยากจะบอกกับพี่โตจริงๆว่า เพลงของพี่โตเป็นแรงบันดาลใจให้ผม หรือใครหลายๆคน ผ่านช่วงเลวร้ายของชีวิตมาได้


เพลง แกล้ง ของซิลลี่ฟูล เป็นเพลงที่ทำให้ผมผ่านการอกหักครั้งแรกมาได้ แล้วทำให้ทุกวันนี้เข้มแข็งมากกว่าก่อนที่จะได้ฟังเพลงพี่โต

แกบอกว่า เพลงแก แค่ "อาจจะ" เป็นแรงบันดาลใจ ผมอยากจะบอกว่ามันไม่ใช่แค่อาจจะแน่นอน

ผมว่าเรื่องราวมันไปกันใหญ่ มองหน้ากันไม่ติด ก็เพราะสิ่งที่แกพูดออกแนวเอาดีเข้าตัวในวันแถลงข่าวแยกวงนั่นแหละครับ

ศาสนาพุทธก็ห้ามฟังถ้าถือศีล8 แล้วเราแค่ศีล5ยังรักษากันยากเลย

จริงครับผมว่าแกสุดโต่งไปหน่อย ดนตรีจริงๆ มันสามารถทำให้คนฟังมีความสุขได้แต่แกดันไปจับประเด็นว่าร้องให้คนเมาฟัง แล้วคนตีกัน บางอย่างมันไม่สมเหตุสมผลเรื่องพระเจ้าที่แกกลัวมันก็เป็นเพียงหนึ่งที่แกสมมุติขึ้นมาตามหลักศาสนาไม่ได้มีวิทยาศาสตร์พิสูจย์แกบอกว่าปลงแต่แกก็ยังทำธุรกิจเพื่อเลี้ยงปากท้อง เสียงลูก รัก โลภโกรธหลงแกยังมีเพียงแต่แกเห็นว่าดนตรีคือบาปตามหลักศาสนาซึ่งมันแล้วแต่มุมมองของใครของมัน

คนนี้หรอครับ ชื่อโหลมากเลย โผล่มาเป็นสิบ

ปลงในความหมายของท่านคืออะไร ถ้าหมายถึงการละทุกอย่าง มันไม่ใช่ที่แกพูดเลย
เท่าที่ผมฟัง แกพยายามบอกว่าเส้นทางเก่าที่แกเดินนั้นมันไม่ใช่แล้ว
ก็ไปหาเส้นทางใหม่ของแก ที่แกคิดว่าดี
ก็อย่างที่แกเป็นตอนนี้ ศาสนา ธุรกิจ ครอบครัว

ก็แค่ความคิดไม่ตรงกัน แยกกันไปทางใครทางมันก็ถูกต้องแล้ว