ขอบคุณโมราต้า!ซูเปอร์ซับโขกพาตราหมีเฉือนห้างยา 1-0
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
ถึงจะหืดขึ้นคอหน่อยแต่แอตเลติโก้ มาดริดก็กลับมาคว้าชัยได้สักทีเมื่ออัลบาโร่ โมราต้าเป็นซูเปอร์ซับลงมาโขกประตูในช่วงท้ายเกม พาตราหมีเฉือนเอาชนะไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 1-0
แอตเลติโก้ มาดริด
Starting Formation: 4-4-2
2.
โฮเซ่ กิเมเนซ

15'
6.0
6.
โกเก้

70'
6.0
10.
อังเคล คอร์เรอา

62'
5.5
ตัวสำรอง
9.
อัลบาโร่ โมราต้า

70'
7.0
11.
โธมัส เลอมาร์

62'
6.0
22.
มาริโอ เอร์โมโซ่

15'
6.5
ฟุตบอลแชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ป ดี
สนาม ว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน่
วันที่ 22 ตุลาคม 2562
กรรมการ อาร์ตูร์ โซอาเรส ดิอาส
แอตเลติโก้ มาดริด
1
0
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
แอตฯ มาดริดไม่มีเฟลิกซ์ที่บาดเจ็บทำให้ต้องส่งคอร์เรอาลงมาคู่กับคอสต้า ขณะที่แดนกลางเอร์เรร่าได้รับโอกาสให้ลงมาเป็นตัวจริง
ส่วนเลเวอร์คูเซ่นให้โฟลลันด์ยืนแดนหน้าแล้วดร็อปอลาริโอไป ขณะที่เบลลาราบี้ได้ลงเล่นในตำแหน่งวิงแบ็คซ้าย
เริ่มเกมมาผลัดกันยิงฝั่งละหนยังไม่เข้ากรอบ
เริ่มช่วงแรกต่างฝ่ายต่างมีโอกาสทักทายกันไปบ้างแล้ว แอตฯ มาดริดลองก่อนด้วยจังหวะยิงไกลของทริปเปียร์ที่โด่งออกหลังไปเยอะ
ก่อนเลเวอร์คูเซ่นจะได้ลองบ้างกับจังหวะต่อจากเตะมุมเล่นสั้นให้เบลลาราบี้ตวัดยิงไม่ดีบอลมาเข้าทางเบาม์การ์ทลินเกอร์ในเขตโทษซัดข้ามคานไปหน่อย
ห้างยาขอลุ้นโฟลลันด์จ่ายถึงอามิรี่ยิงโดนบล็อก
เลเวอร์คูเซ่นบุกกมากดดันกันอีกครั้งหลังบอลทะลุช่องให้โฟลลันด์ฉีกตัวตามบอลมาทางซ้ายถึงเขตโทษ ก่อนจะตบเข้ากลางให้อามิรี่ยิงไม่ดีเท่าไหร่เลยโดนโหม่งสกัดเข้าทางเดเมียร์บายยิงซ้ำก็ถูกบล็อก
ตราหมีต้องเปลี่ยนตัวคนแรกกิเมเนซเจ็บ
แอตฯ มาดริดต้องเปลี่ยนตัวไวเลยกิเมเนซเหมือนจะมีอาการบาดเจ็บเลยถอดออกไป ให้เอร์โมโซ่ลงมาทำหน้าที่แทน
ตราหมีได้ลุ้นใหม่โลดี้สับไกหน้าเขตโทษโดนรับได้
ผ่านครึ่งชั่วโมงแรกของเกมมาแล้วโอกาสของทั้งสองทีมยังน้อยๆอยู่ จนกระทั่งหนนี้แอตฯ มาดริดวางยาวขึ้นมาทางซ้ายแล้วโลดี้เติมมาจับจังหวะแรกสวยตัดมาหน้าเขตโทษเลยสับไกเลยแต่โดนเซฟ
พาร์เทย์ยิงหน้าเขตโทษหลุดออกเสาแรก
แอตฯ มาดริดแม้ได้ครองบอลมากกว่าหน่อยแต่มีโอกาสลุ้นน้อยจริงๆ เพิ่งได้ลองอีกครั้งกับจังหวะที่โลดี้จ่ายมาให้พาร์เทย์หน้าเขตโทษจบด้วยการสับไกส่งบอลหลุดออกทางเสาแรก
ห้างยาบุกได้โอกาสสวนกลับแต่จบไม่ได้
ช่วงท้ายครึ่งแรกแอตฯ มาดริดพลาดกลางสนามเลยเปิดโอกาสให้เลเวอร์คูเซ่นสวนกลับ แทงทะลุเข้าเขตโทษให้เบลลาราบี้ตามถึงบอลแตะหลบแล้วพยายามเปิดเข้ากลางแต่โดนโอบลัคดักไว้ก่อนเลยไม่ได้ลุ้น
ห้างยาได้จบอีกครั้งอามิรี่ยิงสวนหน้าเขตโทษไม่เข้ากรอบ
กลับมาครึ่งหลังยังไม่ต่างจากเดิมเลยคือบุกได้แต่โอกาสยิงดีๆมีน้อย เลเวอร์ฯมาลองด้วยลูกเตะมุมเปิดเข้ามาไม่มีอะไรแต่บอลสกัดเข้าทางวอามิรี่เก็บได้หน้าเขตโทษและยิงสวนเข้ามาแต่ก็ไม่ตรงกรอบ
ทริปเปียร์ครอสให้คอสต้าโหม่งแต่โดนบางเฉียบ
แอตฯ มาดริดบุกมากดดันได้บ้างเมื่อทริปเปียร์มีโอกาสครอสจากทางขวาเข้าไปลุ้นในเขตโทษ คอสต้าพยายามขึ้นโหม่งแล้วแต่โดนเบียดไว้นิดบอลมันเลยโดนบางๆห่างประตูไปไกล
ตราหมีเปิดฟรีคิกถึงเฟลิเป้ยิงไปติดบล็อกอีก
ฟรีคิกทางขวาของตราหมีเป็นโอกาสจบอีกครั้งนึง โกเก้โยนเข้าไปในเขตโทษแล้วมีเฟลิเป้วิ่งมายิงได้แต่ก็โดนขวางเอาไว้เต็มๆ
ตราหมีปรับเกมหนสุดท้ายโมราต้าลงช่วยแดนหน้า
แอตฯ มาดริดขอปรับเกมเป็นรอบสุดท้ายด้วยการถอดเอาโกเก้ออก แล้วให้โมราต้าลงมายืนหน้าคู่กับคอสต้าไปเลย
ห้างยาโต้กลับแต่อามิรี่ยิงเองโดนโอบลัครับง่ายๆ
ห้างยาได้จังหวะโต้กลับจากการแย่งบอลได้กลางสนาม อามิรี่เป็นคนลากพาบอลขึ้นมาแต่โดนปิดมุมจะจ่ายก็ได้แต่สุดท้ายยิงไกลเองบอลพุ่งเรียดให้โอบลัครับไม่ยากเย็น
มาสักที!โลดี้ครอสเข้าหัวโมราต้าโหม่งพาตราหมีนำ
สุดท้ายกลายเป็นแอตฯ มาดริดเอาประตูออกนำสำเร็จ เมื่อเลอมาร์จ่ายออกมาซ้ายสุดมีโลดี้เติมขึ้นมาว่างเลยจับก่อนโยนเข้าไปในเขตโทษให้โมราต้าโขกเต็มหัวโดนปัดแต่ก็ยังปลิ้นเข้าประตูไป แอตฯ มาดริดนำแล้ว 1-0
นอกจากนี้โมราต้ายังกลายเป็นนักเตะคนแรกที่ยิงประตูให้กับทั้งแอตฯ มาดริดและเรอัล มาดริดในแชมเปี้ยนส์ลีก
ห้างยาต้องมาบุกแต่เจาะยากโฟลลันด์ยิงก็ติดบล็อก
ท้ายเกมแล้วเลเวอร์คูเซ่นกลายเป็นฝ่ายที่ต้องมาบุกกดดัน แต่พอมาเจอกับทีมเกมรับแน่นๆอย่างแอตฯ มาดริดเลยทำอะไรไม่ได้มาก ทดเจ็บมีจังหวะที่โฟลลันด์พลิกดีเข้าเขตโทษมายังโดนประกบติดสุดท้ายสับไกไม่พ้นบล็อก
จบเกมแอตฯ มาดริดเฉือนชนะเลเวอร์คูเซ่น 1-0 ทำให้ตอนนี้พวกเขามี 7 แต้มขึ้นมาเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม ดีแบบเดี่ยวๆก่อนรอดูว่ายูเวนตุสจะตามมาหรือไม่
ส่วนเลเวอร์คูเซ่นที่หวังจะเบียดๆแทรกๆเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายท่าจะยากแล้ว ผ่านมาครึ่งทางยังไม่มีสักแต้มเลย
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น
Starting Formation: 3-4-2-1
5.
สเวน เบนเดอร์

90+2'
7.0
15.
ยูเลี่ยน เบาม์การ์ทลินเกอร์
6.0
10.
เคเร็ม เดเมียร์บาย

84'
5.5
26.
ไค ฮาเวิร์ตซ์

76'
6.0
ตัวสำรอง
6.
อเล็กซานดาร์ ดราโกวิช

90+2'
-
13.
ลูคัส อลาริโอ

84'
-
7.
เปาลินโญ่

76'
-
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Wed Oct 23, 2019 06:50, ทั้งหมด 8 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ