Kop คิด Kop ทอล์ค : 7/38
สวัสดีครับ เพื่อนๆ เดอะค็อปทุกคน ห่างหายจากการเขียนไปเกือบ 4 ปี รู้สึกแปลกๆไปเหมือนกัน ฮ่าๆ เลยอยากมาเขียนอะไรเล่นๆ และ ข้อมูลบางอย่างที่ได้ทำเก็บไว้ตั้งแต่นัดแรกเอามาให้ได้ติดตามกัน
หลังจากผ่านพ้นการแข่งขันพรีเมียร์ลีคเข้าสู่นัดที่ "7/38 " คงไม่มีคาดคิดกันหรอกว่า ลิเวอร์พูลจะคว้าชัยชนะได้ 7 นัดติดในพรีเมียร์ลีค ของฤดูกาล 2019-2020(ส่วน UCL ค่อยว่ากันทีหลัง) โดยที่ยังไม่เพลี้ยงพล้ำให้กับทีมใด จากตารางด้านล่างนั้นเป็นผลงานเมื่อผ่านพ้นไป 7 นัด ตอนแรกคิดว่าจะเอามาเฉพาะของลิเวอร์พูลอย่างเเดียว ไหนๆก็ทำไว้แล้วก็เลยลงทุกทีมเลย
ผ่านไป 7 นัด ลิเวอร์พูล เป็นเกมเหย้า 3 เกม และ เกมเยือนอีก 4 เกม ส่วนรายละเอียดประตูได้เสียผลต่างเท่าไหร่ดูจากข้อมูลตามภาพได้เลยครับ ในช่อง "Position" หัวลูกศรขึ้นลงนั้น เป็นอันดับที่ทำไว้จากนัดที่ 6 ซึ่งในนัดที่ 7 นี้มีความเปลี่ยนแปลงของอันดับตารางคะแนนว่าขึ้นหรือลงมากี่อันดับ
ถัดลง(จากรูปภาพด้านล่าง)มาเป็นการแสดงผลเปรียบเทียบเป็น
"กราฟแท่งแสดงผลต่างประตูได้เสีย" เรียงจากทีมอันดับจากน้อยไปมาก ทีมแชมป์เก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังจากที่ถล่ม วัตฟอร์ดไป 8-0 ทำให้มีผลต่างถึง + 20 ประตู ส่วน ลิเวอร์พูลอันดับ 1 ของตาราง มีผลต่างประตู +13 นับว่าห่างกันเลยทีเดียว ซึ่งถ้าหากทีมใดจะลุ้นแชมป์อย่าไปวัดลูกได้เสียกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้เลย ต้องมีผลต่างของคะแนนอย่างเดียว
ส่วนใน
" Line แสดงผลงานของทีม Top 6" สำหรับโควต้าบอลยุโรป ว่าผลงานที่ผ่านมานั้น แต่ละทีมกว่าจะผ่านขึ้นมาได้นั้น เคยขึ้น และ ร่วงไปอันดับกันที่เท่าไหร่แล้วบ้าง เกรงว่าถ้าเอามา 20 ทีมเลยเกรงว่าตัวเลขจะยั้วเยี้ยเต็มไปหมด
มาดูผลงานการทำประตูกันบ้างสำหรับลิเวอร์พูลในช่วง 7 นัดทีผ่านมาซึ่งดูรายชื่อผู้ทำประตูแต่ละคนแล้ว ตำแหน่งกองหน้าถือว่าช่วยทำประตูกันได้ดี เรียกได้ว่า "ช่วยกันแบก" น่าเสียดายในนัดที่ผ่านมา สองผู้นำดาวซัลโวของทีมอย่าง " ซาลาห์ และ มาเน่ " พลาดโอกาสเบิกสกอร์อย่างน้อยคนละประตู จากจังหวะแปบอลหลุดเดี่ยวและยิงชนเสาของ"มาเน่" และ จังหวะหลุดเดี่ยวของ"ซาลาห์"ของทำให้เกมที่ผ่านมานั้น ต้องเกร็งกันจนวินาทีสุดท้าย โดยมีแนวรับอย่าง "ฟาน ไดค์" บอลมาทางไหนก็มีเขาอยู่ในแนวรับ
ลิเวอร์พูลยังขาดกองกลางที่ทำการสร้างสรรค์เกม และ ทำประตู การสร้างสรรค์เกมในกาารผ่านบอลให้ทำประตูนั้นส่วนใหญ่เกิดจาก 3 กองหน้า จะเป็นปัจจัยหลักในการสร้างสรรค์เกม และ แบคทั้ง 2 ข้างอย่าง โรเบิร์ตสัน และ อาโนล์ด ถ้ากองกลางมีบทบาทกับเกมรุกมากขึ้น จะทำให้ 3 กองหน้ามีโอกาสทำประตูมากขึ้น ไม่ต้องลงมาล้วงบอลพาขึ้นหน้าไปเอง
*หมายเหตุ : (OG) = Own Goal
สำหรับ 7 นัดที่ผ่านมานี้ ผลงานของ "คล๊อปป์" คงไม่ต้องพูดถึงได้แสดงให้เห็นอย่างต่อเนื่อง แต่ต้องขอชม"อาเดรียน" ที่เข้ามาเป็นตัวสำรองแทน มิโญเล่ต์ ที่ย้ายทีมออกไป หากในความผิดพลาดที่เขาเกิดขึ้นนั้นคงเป็นเกมเดียวที่แข่ง กับ เซาท์แธมป์ตัน ทำให้พลาดเสียประตู ส่วนที่ผ่านมานั้นทำหน้าที่เกินคาดหวังของแฟนบอล ที่เข้ามาแทนหลัง "อลิซอน" ได้รับบาดเจ็บไป
และวันเสาร์ที 5 ต.ค. นี้จะเปิดแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของเลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งมีฟอร์มที่ร้อนแรงอยู่ในตอนนี้ หวังว่าลิเวอร์พูลยังรักษาความแข็งแกร่งได้อย่างต่อเนื่อง ลุ้นกันไปทีละนัดจนกว่าจะถึงวันนั้น