"หน้าบาก"แม่งสุดจริง!นำม่วงโขยกมิลาน 10 คนเละคารัง 3-1 แพ้นัดที่ 4
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เอซี มิลาน ยังหาทางกลับฝั่งไม่เจอ เมื่อได้เล่นในถิ่นซาน ซิโร่ ของตัวเองแท้ๆ กลับยังโดนฟิออเรนติน่า มาบุกไล่ยำไป 3-1 ทีมเยือนทิ้งขาด 3 ประตูจากเอริค พูลการ์, แกตาโน่ คาโตรวิลลี่ และฟรองค์ ริเบรี่ เจ้าถิ่นแก้คืนได้ 1 ประตูจากราฟาเอล เลเอา แถมต้องเล่นแค่ 10 คนหลัง มาเตโอ มูซัคคิโอ ถูกใบแดงไล่ออกตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง
เอซี มิลาน
Starting Formation: 4-3-3
79.
ฟรองค์ เคสซี่

46'
6
8.
ซูโซ่

79'
6.5
9.
คริสตอฟ พิออนเท็ค

57'
6
ตัวสำรอง
7.
ซามู คาสติเญโฆ่

79'
6
43.
เลโอ ดูอาร์เต้

57'
6
33.
ราเด้ ครูนิช

46'
6
ฟุตบอลเซเรีย อา
สนาม ซาน ซิโร่
วันอาทิตย์ที่ 29 กันยายน 2562
กรรมการ ปิเอโร่ จาโคเมลลี่
เอซี มิลาน
1
3
ฟิออเรนติน่า
เอริค พูลการ์ 14' (Pen.)
แกตาโน่ คาสโตรวิลลี่ 66'
ฟรองค์ ริเบรี่ 78'
เกมนี้เป็นนัดแรกที่ มาร์โค จามเปาโล จัดทีม 11 ตัวจริงชุดเดิมจากนัดที่เล่นได้ดีในเกมแพ้โตริโน่ 2-1 เมื่อกลางสัปดาห์ แต่ความกดดันในการทำทีมของเขามีเพิ่มมากขึ้น เมื่อพาทีมแพ้ไปแล้ว 3 นัดจาก 5 นัดในช่วงออกสตาร์ตฤดูกาล
ขณะที่ทีมเยือน ฟิออเรนติน่า ผลงานดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่แพ้ในลีกมา 3 นัดติด เกมล่าสุดเก็บชัยชนะนัดแรกในซีซั่นนี้ได้แล้วเหนือซามพ์โดเรีย 2-1 เกมนี้ ทั้ง ฟรองค์ ริเบรี่ และเฟเดริโก้ เคียซ่า ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงทั้งคู่
ช่วงแรกเกมยังดูคู่คี่ไม่ห่างกันมาก
ออกสตาร์ช่วง 10 นาทีแรก มิลานเล่นในบ้านตัวเองก็จริง แต่รูปเกมไม่ได้เหนือกว่าทีมเยือนมากมายนัก ภาพรวมยังดูสูสี ฟิออฯทำเกมได้อย่างไม่เป็นรอง
เคียซ่าเล่นเสาแรกน้องดอนยังไม่พลาด
โอกาสดีของฟิออฯ เมื่อริเบรี่ กระดกบอลข้ามแนวรับให้ เคียซ่า หลุดเดี่ยววอลเล่ย์เข้าที่เสาแรก แต่ดอนนารุมม่ายังยอดเยี่ยมล้มตัวปัดบอลทิ้งได้หวุดหวิด
ริเบรี่โคตรแจ่ม,ฟิออได้จุดโทษ
ริเบรี่ พาบอลลากหลบ 2 แนวรับมิลาน ดวลเดี่ยวยิงติดเซฟดอนนารุมม่า บอลกระเฉาะเข้าทางเคียซ่า ที่ถูกเบนนาเซอร์ เกี่ยวล้มในเขตโทษพอดี ผู้ตัดสินให้จุดโทษทันที
พูลการ์ซัดหายทีมเยือนนำ 1-0
พูลการ์ รับหน้าที่สังหารยิงไปทางขวาเบียดเสาเข้าไม่มีพลาด ฟิออฯขึ้นนำเจ้าถิ่นไปก่อน 1-0
ซูโซ่เกือบยิงตีเสมอได้
มิลาน ทำได้ดีจากลูกยิงฮุคตกใต้คานของ ซูโซ่ แต่ดรากอฟสกี้ ปัดข้ามคานออกหลังไปได้ทัน
ฟิออยิงเข้าแต่ไม่ได้ประตู
ริเบรี่ ไหลบอลออกขวาให้ เคียซ่า ได้เปิดบอลที่สุดเส้นหลังไปที่เสาไกลให้ คาสโตรวิลลี่ ซัดเช็คใต้คานทำประตูที่ 2 ให้ทีมเยือน แต่ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์เป็นลูกล้ำหน้าจังหวะแรกไปก่อนแล้ว สกอร์ยัง 1-0
มิลานเร่งเครื่องกดดันดีกว่าชัดเจน
มิลาน เร่งเครื่องกดดันใส่ทีมเยือนอย่างหนัก จังหวะนี้น่าได้สุดๆ เมื่อชาลฮาโนกลู หลุดทางซ้ายได้จ่ายตัดเข้ามาหน้าประตูให้ เลเอา ได้ยิงโล่งๆ แต่หวดวืด ทิ้งโอกาสทองไปอีก
มิลานทำเกมได้ดีกว่าจนจบครึ่ง
เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก มิลานยังทำได้ดีกว่า ครองบอลต่อบอลหาโอกาสต่อเนื่อง
มิลานยังเดินหน้าจะตีเสมอให้ได้
กลับมาสู้กันต่อในครึ่งหลัง เราได้เห็นมิลานเร่งเครื่องกดดันช่วงแรกหนักมาก
งานงอก!มูซัคคิโอสอยริเบรี่โดนแดง
งานเข้าอย่างจัง เมื่อ มูซัคคิโอ ไปเจตนาตัดเกมสวนกลับด้วยการหงายปุ่มใส่หน้าแข้งริเบรี่ ผู้ตัดสินเสียเวลาไปเช็ค VAR ก่อนควักใบแดงไล่กองหลังเจ้าถิ่นออกจากสนาม
มิลานต้องถอดเอาพิออนเท็คออก
ไม่มีทางเลือก จามเปาโล ต้องถอดเอาพิออนเท็คออก แล้วให้ดูอาร์เต้ ลงไปช่วยแนวรับแทน
น้องดอนซูเปอร์เซฟช่วยทีมหวุดหวิด
ถัดมาแปปเดียว ฟิออฯจะบวกลูกสองเลย จากลูกยิงไกลสุดคมของพูลการ์ ยังดีที่น้องดอนไม่พลาด พุ่งปัดบอลทิ้งออกไปได้ทัน
ไม่รอดฟิออบวกสกอร์ 2-0 สำเร็จ
10 คนของมิลานต้านทานฟิออฯได้แค่ 10 นาทีก็ต้องมาเสียประตู 2-0 จากเคียซ่า ทิ้งตัวจ่ายตัดเข้ากลาง ดอนนารุมม่า พุ่งปัดบอลทิ้งไปเข้าทางปืนคาสโตรวิลลี่ ซ้ำดาบสองไม่เหลือซาก
เบนนาเซอร์ทำเสียจุดโทษอีกแล้ว
ยับเยินอย่างที่สุด มิลานต้องมาเสียจุดโทษอีกหน เมื่อเบนนาเซอร์คนดีคนเดิมเข้าบอลเสียเหลี่ยมคาสโตรวิลลี่ พาทีมเดือดร้อนในที่สุด
น้องดอนฮีโร่โชว์เซฟลูกโทษเคียซ่า
อย่างไรก็ตาม ดอนนารุมม่า หนึ่งเดียวคนนี้ที่ฟอร์มยังอยู่ในมาตรฐาน ช่วยเซฟจุดโทษจากเคียซ่า ที่ยิงทางขวาได้สำเร็จ
ริเบรี่โชว์ล็อคหลบ 2 ก่อนซัด 3-0
ริเบรี่ ที่เล่นได้คุ้มเกินอายุมากๆ ด้วยการไขว้หลังล็อคหลบ 2 แนวรับมิลานแล้วซัดด้วยขวาอย่างเหนือชั้น สกอร์ทิ้งขาดไป 3-0
เลเอาตีไข่แตกปลอบใจ 3-1
มิลาน ตีไข่แตกได้ก่อนหมดเวลา 10 นาที จากเลเอา ที่้โชว์สเต๊ปพาบอลแหวก 2 แนวรับฟิออฯเข้าไปซัดผ่านมือดรากอฟสกี้ อย่างยอดเยี่ยม มิลานไล่มาเป็น 3-1
หมดเวลาการแข่งขัน มิลาน ที่เหลือ 10 คนเละเทะคารังไป 3-1 แพ้เป็นนัดที่ 3 ติดต่อกันแล้ว
ฟิออเรนติน่า
Starting Formation: 3-5-2
69.
บาร์โตลเมจ ดรากอฟสกี้
6.5
7.
ฟรองค์ ริเบรี่

89'
8
8.
แกตาโน่ คาสโตรวิลลี่

79'
8.5
25.
เฟเดริโก้ เคียซ่า

84'
8
ตัวสำรอง
10.
เควิน ปรินซ์ บัวเต็ง

84'
6.5
24.
มาร์โค เบนาสซี่

79'
6
18.
ราชิด เกซซอล

89'
6
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Mon Sep 30, 2019 07:03, ทั้งหมด 18 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ