ได้แค่เสียว! "ราชัน" ควง "หมี" สากคู่เจ๊าศึกดาร์บี้ 0-0
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
เกมดาร์บี้เมืองมาดริดจบกร่อยไปนิดเมื่อ แอตเลติโก้ มาดริด เปิดบ้านเจ๊า เรอัล มาดริด 0-0 โดยรูปเกมเป็นทีมเยือนที่ครองบอลและมีโอกาสจบมากกกว่า ทำให้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2005 ที่เกมคู่นี้เสมอกันแบบไร้สกอร์ในลาลีก้า ราชันชุดขาว 7 นัดมี 15 คะแนนเป็นจ่าฝูงต่อไป ขณะที่ตราหมีเตะเท่ากันมี 14 แต้ม รั้งอันดับสาม
แอตเลติโก้ มาดริด
Starting Formation: 4-4-2
12.
เรนาน โลดี้

61'
6.5
20.
วิโตโล่

46'
6
7.
เจา เฟลิกซ์

70'
6
ตัวสำรอง
11.
โธมัส เลอมาร์

61'
6.5
10.
อังเคล คอร์เรอา

46'
6
14.
มาร์กอส ญอเรนเต้

70'
6
ลาลีก้า
สนาม ว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน่
เสาร์ที่ 28 กันยายน 2562
กรรมการ โฆเซ่ กอนซาเลซ
แอตเลติโก้ มาดริด
0
0
เรอัล มาดริด
ตราหมีในระบบ 4-4-2 ตามเคย วางเฟลิกซ์,คอสต้าเป็นหน้าคู่ โดยมีซาอูล,ปาร์เตย์,วิโตโล่,โกเก้คุมกลาง แผงหลังซ้ายไปขวาโลดี้,กิเมเนซ,ซาวิช,ทริปเปียร์ และโอบลัคเฝ้าเสา
ฝั่งราชันมาในแผน 4-1-4-1 ให้เบนเซม่าเป็นหน้าเป้า เบล,อาซาร์ป่วนริมเส้น โครส,บัลเบร์เด้,คาเซมิโร่คุมตรงกลาง แผงหลังนาโช่ลงแบ็คซ้ายตัวจริงต่อเนื่อง แบ็คขวาการ์บาฆาล เซนเตอร์รามอสจับคู่วาราน และคูร์กตัวส์กลับมาเฝ้าเสา
• แอตเลติโก้ไม่แพ้เกมเหย้าในลาลีก้ามา 10 นัดติด
• เรอัล มาดริดยังไม่แพ้ใครในลาลีก้าซีซั่นนี้
• ครั้งสุดท้ายที่แอตเลติโก้ชนะเรอัลในเกมเหย้าลาลีก้าคือเดือนกุมภาพันธ์ 2015 ด้วยสกอร์ 4-0
เฟลิกซ์หลุดซัดหมีเกือบเฮ
เริ่มเกมมาไม่ทันไร แอตเลติโก้ทักทายแรงและเกือบได้ประตูออกนำ จังหวะที่คอสต้ายกบอลจากกลางสนามให้เฟลิกซ์สปีดหลุดแนวรับมาดริดเข้าไปตวัดยิงหักข้อในกรอบฝั่งขวาแต่บอลพุ่งเรียดหลุดเสาสองไปอย่างน่าเสียดาย
นาโช่กดริมกรอบเขตโทษแฉลบบล็อค
จังหวะเตะมุมทางฝั่งซ้ายของมาดริด อาซาร์เล่นสั้นให้โครสไหลต่อให้นาโช่ได้วางเท้ากดริมกรอบเขตโทษ บอลแฉลบบล็อคหลุดกรอบเป็นเตะมุมอีกหน
โครสซัดแฉลบหลุดกรอบ
จังหวะเตะมุมเล่นสั้นทางฝั่งซ้ายของมาดริด เป็นโครสที่ทำชิ่งกับอาซาร์เข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนที่เขาจะลองปั่นด้วยขวาบอลแฉลบบล็อคหลุดกรอบออกหลังเป็นเตะมุมอีกที
โครสกดด้วยซ้ายเข้ามือโอบลัค
โอกาสลุ้นอีกครั้งของมาดริด จังหวะที่เบลไหลบอลให้โครสหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่แข้งเยอรมนีจะแต่งหนีตัวประกบเข้าซ้ายแล้วซัดบอลพุ่งเรียดตรงกรอบแต่ก็เข้ามือโอบลัคไม่ยาก
เฟลิกซ์ตะบันเรียดถากเสา
แฟนบอลตราหมีเกือบได้เฮจังหวะที่ปาร์เตย์เล่นชิ่งให้เฟลิกซ์แต่งบอลเข้าขวาแล้วซัดจากริมกรอบเขตโทษ บอลพุ่งเรียดแรงผ่านมือคูร์กตัวส์ถากเสาฝั่งซ้ายมือหลุดออกหลังไปนิดเดียว
โครสปั่นโค้งเห็นๆ โดนโอบลัคพุ่งปัด
โอกาสยิงไกลอีกครั้งของโทนี่ โครส คราวนี้เป็นจังหวะที่บัลเบร์ได้ไหลขวางสนามมาให้เขาวางเท้าปั่นเน้นๆด้วยขวา บอลพุ่งเรียดโค้งจะเบียดเสาเหมือนกันแต่โอบลัคยังพุ่งไปปัดออกหลังไว้ได้
ครึ่งแรกเล่นได้สูสีและเป็นทีมเยือนอย่างมาดริดที่มีโอกาสลุ้นมากกว่าด้วยซ้ำ แต่ส่วนใหญ่มาจากการยิงไกล แต่ก็ยังไม่คมกันทั้งคู่ทำให้เสมอกันอยู่ 0-0 ไปว่ากันต่อในครึ่งหลัง
คอร์เรอาโฉบโหม่งหมีหวิดเฮ
แอตเลติโก้น่าได้ประตูออกนำในต้นครึ่งหลัง จังหวะที่คอสต้าครอสจากริมกรอบฝั่งซ้ายเข้าไปตรงกลางให้คอร์เรอาโฉบโหม่งแต่บอลหลุดข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
เบลซัดโอกาสโล่งๆ ปลิวหลุดคาน
โอกาสงามๆของมาดริดเมื่อนาโช่เติมหลุดไปทางริมกรอบฝั่งซ้ายก่อนหักเข้ากลางแล้วเป็นเบลที่วิ่งมาง้างยิงโล่งๆด้วยซ้ายแต่ดันโดนไม่ดีทำให้บอลปลิวหลุดคานแบบไม่ได้ลุ้น
คาเซมิโร่ซัดฟรีิคิกแรงออกหลัง
ราชันชุดขาวได้ฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ มีเบลกับโครสยืนเล็งอยู่ แต่สุดท้ายเป็นคาเซมิโร่ที่วิ่งมาซัดด้วยขวาข้ามกำแพงแต่ก็แรงหลุดคานออกหลังไป
ซาอูลโฉบโหม่งเตะมุมหลุดกรอบ
ตราหมีได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย เป็นโกเก้ที่รับหน้าที่เปิดไปที่เสาแรกแล้วเป็นซาอูลที่โฉบไปเทคโหม่ง แต่ก้โดนไม่ดีพอทำให้บอลพุ่งหลุดกรอบไปอีก
เบนซ์โขกสวยแล้วโอบลัคเซฟงามกว่า
ราชันชุดขาวน่าได้ประตูขึ้นนำแบบสุดๆ จังหวะที่นาโช่ได้บอลทางริมเส้นฝั่งซ้าย เขาแต่งเข้าขวาแล้วบรรจงเปิดไปหน้าประตูให้เบนเซม่าเทคโหม่งเน้นๆ บอลกำลังจะพุ่งตุงตาข่ายอยูาแล้วแต่โอบลัคยังโชว์ปฏิกิริยาพุ่งปัดเอาไว้ได้แบบหวุดหวิด
หมียิงตรงกรอบจนได้
โอกาสยิงตรงกรอบครั้งแรกของแอตเลติโก้ในเกมนี้มีขึ้นจนได้ โดยเป็นจังหวะที่เลอมาร์ครอสจากฝั่งซ้ายเข้าไปตรงกลางให้ซาวิชโขกเบาติดเซฟคูร์กตัวส์
จบเกมเจ๊าจืดราชันนำฝูงต่อ
สุดท้ายทำอะไรกันไม่ได้จบไปแบบแบ่งแต้มไร้สกอร์ ราชันชุดขาว 7 นัดมี 15 คะแนนเป็นจ่าฝูงต่อไป ขณะที่ตราหมีเตะเท่ากันมี 14 แต้ม รั้งอันดับสาม
เรอัล มาดริด
Starting Formation: 4-1-4-1
15.
เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้

68'
6.5
7.
เอแด็ง อาซาร์

77'
6
9.
คาริม เบนเซม่า

88'
6
ตัวสำรอง
16.
ฮาเมส โรดริเกซ

77'
6
10.
ลูก้า โมดริช

68'
6
18.
ลูก้า โยวิช

88'
-
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Sun Sep 29, 2019 07:58, ทั้งหมด 11 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ