หลังจาก Apple ประกาศเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่อย่างเป็นทางการในวันที่ 10 กันยายนนี้ ล่าสุดมีข้อมูลว่าสมาร์ทโฟนทั้ง 3 รุ่นใหม่นี้จะมาในชื่อ iPhone 11, iPhone 11 Pro, iPhone 11 Pro Max







iPhone 11 จะมีหน้าจอ 6.1 นิ้ว LCD มีระบบ Face ID และใช้ชิป A13 กับแรม 4GB โดยมีกล้องหลังเลนส์คู่ขนาด 12 ล้านพิกเซล รองรับชาร์จไร้สาย ราคาเริ่มต้นราว 749 ดอลลาร์หรือประมาณ 22,900 บาท

iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max มีหน้าจอ 5.8 นิ้ว และ 6.5 นิ้ว ตามลำดับ โดยทั้งคู่เป็นแผงหน้าจอ OLED มีฟีเจอร์เหมือนกันทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นชิป A13 กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และที่เป็นจุดเด่นของปีนี้คือรองรับการทำงานร่วมกับปากกา Apple Pencril

iPhone 11 Pro ราคาเริ่มต้น 999 ดอลลาร์หรือประมาณ 30,500 บาท และ iPhone 11 Pro Max ราคาเริ่มต้น 1,099 ดอลลาร์หรือประมาณ 33,600 บาท

สำหรับกำหนดวางจำหน่าย iPhone 11, iPhone 11 Pro, iPhone 11 Pro Max ในวันที่ 20 กันยายนนั้นจะเป็นกลุ่มประเท ศแรก หลังจากเปิดพรีออเดอร์ไป 1 สัปดาห์ แต่ถึงอย่างไรก็ยังถือว่าเป็นเพียงข่าวลือเท่านั้นจนกว่าจะมีการประกาศจาก Apple

-----------------------------------------------

iPhone 11R

หน้าจอ LCD ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด 1792 x 828 พิกเซล
หน่วยประมวลผล A13
RAM 4GB
ROM 64/256/512GB
กล้องหลัง 2 เลนส์ความละเอียด 12+12 ล้านพิกเซล
แบตเตอรี่ 3,110 mAh

iPhone 11 Pro

หน้าจอ OLED ขนาด 5.8 นิ้ว ความละเอียด 2436 x 1125 พิกเซล
หน่วยประมวลผล A13
RAM 6GB
ROM 64/256/512GB
กล้องหลัง 3 เลนส์ความละเอียด 12+12 ล้านพิกเซล
แบตเตอรี่ 3,190 mAh

iPhone 11 Pro Max

หน้าจอ OLED ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2688 x 1242 พิกเซล
หน่วยประมวลผล A13
RAM 6GB
ROM 64/256/512GB
กล้องหลัง 3 เลนส์ความละเอียด 12+12 ล้านพิกเซล
แบตเตอรี่ 3,500 mAh



ตามรายงานล่าสุด iPhone 11 จะมีหน้าจอ 6.1 นิ้ว LCD มีระบบ Face ID และใช้ชิป A13 กับแรม 4GB โดยมีกล้องหลังเลนส์คู่ขนาด 12 ล้านพิกเซล รองรับชาร์จไร้สาย ราคาเริ่มต้นราว 749 ดอลลาร์ (ประมาณ 22,900 บาท) เท่ากับตอนเปิดตัว iPhone XR ในปีที่แล้ว

สำหรับ iPhone 11 Pro ราคาเริ่มต้น 999 ดอลลาร์ (ประมาณ 30,500 บาท) และ iPhone 11 Pro Max ราคาเริ่มต้น 1,099 ดอลลาร์ (ประมาณ 33,600 บาท) ก็เป็นราคาที่เท่ากับตอนเปิดตัว iPhone XS และ iPhone XS Max เช่นเดียวกัน

กลับมาที่ราคาในประเทศไทย หากมองว่าในสหรัฐอเมริกาเปิดราคาเท่าเดิมเหมือนในปีที่แล้วตามที่มีข่าวลือ ก็พอเป็นไปได้ว่าในไทยเองก็จะเปิดราคาเท่ากับในปีที่แล้ว มาดูกันว่าแต่ละรุ่นจะมีราคาเท่าไหร่หากคาดการณ์นี้เป็นจริง

คาดการณ์ราคา iPhone 11 ในไทย (มาแทน iPhone XR)



ความจุ 128GB ราคา 29,900 บาท
ความจุ 256GB ราคา 31,900 บาท
ความจุ 512GB ราคา 35,900 บาท



คาดการณ์ราคา iPhone 11 Pro ในไทย (มาแทน iPhone XS)

ความจุ 128GB ราคา 39,900 บาท
ความจุ 256GB ราคา 45,900 บาท
ความจุ 512GB ราคา 53,900 บาท



คาดการณ์ราคา iPhone 11 Pro Max ในไทย (มาแทน iPhone XS Max)

ความจุ 128GB ราคา 43,900 บาท
ความจุ 256GB ราคา 53,900 บาท
ความจุ 512GB ราคา 57,900 บาท

อย่างไรก็ตาม ราคาดังกล่าวเป็นเพียงการคาดการณ์อ้างอิงจากราคาในปีที่แล้วเท่านั้น ไม่ใช่ราคาอย่างเป็นทางการสำหรับ iPhone ในปีนี้ เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นสำหรับแฟนๆ ที่รอคอย iPhone รุ่นใหม่ โดยราคาจริงนั้นคงต้องรอการประกาศจาก Apple ต่อไป

มีแต่คนไม่ซื้อ ส่วนคนซื้อมักจะไม่เม้น 5555

ใครชอบแอนดรอย มันก็เหนือกว่า iPhone มาตั้งแต่ iPhone 5 ละ ทุกอย่างดีกว่าหมด ใช้ง่าย กล้องคม ชัด ดีไซน์สวย ผมอ่านมาทุกปี อ่านจนเบื่อ 5555

คนใช้ iPhone เขาก็ใช้ ใช้กันเยอะด้วย แฟนผม iPhone 6s ก็ยังใช้ ส่วนผมเพิ่งเปลี่ยนเป็น xs ก็เสถียรดี แบททนดี แต่งรูปง่าย ไม่รวน ไม่ค้าง

ก่อนหน้านี้ก็ใช้ note9 กับ sumsung S5 ของบริษัท เครื่องใหม่ ก็ดี แต่ส่วนตัวคิดว่ามันไม่เสถียร และไอทีคนเม้นว่าใช้ง่ายบ้าง อ่านไฟล์ง่ายบ้าง ผมเฉยๆ ถ้าอยากใช้ window office/PDF ก็เปิด note book ทำงานง่ายกว่า เร็วกว่า และคนรอบตัวใช้ iPhone เยอะกว่า ก็เลยชอบใช้ iPhone

ส่วนตัวใหม่ก็รอเปิดตัววันที่ 10 กย. ถ้าดีกว่าก็ซื้อ 30-50k ถ้าซื้อแล้วใช้ มันก็ไม่ได้ฟุ่มเฟือยอะไร ก็ใช้กันจนคุ้ม จนพังทุกเครื่อง ไม่ได้ตามกระแส ตัวใหม่มาแล้วต้องเปลี่ยนตาม....

แค่อยากเสนออีกมุมมองหนึ่งของคนที่จะซื้อ ถ้าเครื่องเก่าพัง และเบื่อคำว่า”ดีกว่า” ของแอนดรอยส์ 5555

ผมคาดหวังกับรุ่นนี้มากเพราะ 6s plus เพิ่งพังไป แต่ดูดีไซน์แล้วถ้าออกมาแบบนี้จริงๆผมโคตรผิดหวังเลย ที่ไม่ซื้อXSเพราะเกลียดจอแหว่ง ถ้ารุ่นนี้จอยังแหว่งแล้วกล้องทุเรศแบบนี้คงขอบายไปหาแบรนด์อื่นไม่ก็รอดูรุ่นที่รู้สึกโอเคกว่ารุ่นนี้ดีกว่า

เอาจริงดิ ดีไซน์กากสุดๆ ยิ่งตัวล่างสุดสีเป็นขนมหวานเลย

เอาจริงดิ ดีไซน์กากสุดๆ ยิ่งตัวล่างสุดสีเป็นขนมหวานเลย

เรื่องรูกล้องทุเรศ น่าจะมีเคสที่ออกแบบมาบังได้อยู่นะ

แต่เสียดายที่ยังใช้จอแหว่งแบบใหญ่ๆอยู่

คือถ้ายังไม่ใช้กล้องพับ อย่างน้อยขอจอรูก็ยังดี

หรือถ้าไม่อยากจอรู เอาแหว่งน้อยๆแบบหยดน้ำก็ได้

หยีกล้องหน้าโน๊ต10 เจอกล้องหลังไอโฟนไปยอมเลย

สเปคโคตรกั๊กเลย แถมดีไซน์ทุเรศสุดๆ มาราคานี้อีกใครซื้อก็ซื้อ ผมไม่ซื้ออ

ผมคาดหวังกับรุ่นนี้มากเพราะ 6s plus เพิ่งพังไป แต่ดูดีไซน์แล้วถ้าออกมาแบบนี้จริงๆผมโคตรผิดหวังเลย ที่ไม่ซื้อXSเพราะเกลียดจอแหว่ง ถ้ารุ่นนี้จอยังแหว่งแล้วกล้องทุเรศแบบนี้คงขอบายไปหาแบรนด์อื่นไม่ก็รอดูรุ่นที่รู้สึกโอเคกว่ารุ่นนี้ดีกว่า

อูย ใช้ 6S ต่อไปแล้วกันแพงเกิ๊น

มือถือ 30+k ได้จอ LCD + กล้อง 12 mp

สงสัยจะได้บอกลาแอปเปิ้ลก็คราวนี้แหละ

กั๊กสเป็คชิบหาย รุ่นโปร 3 เลนส์ + รองรับปากกามันก็แตกต่างกับรุ่นล่างแล้ว
แต่มือถือปี 2019 จะ 20 นี่ยังกล้าให้จอ LCD อยู่อีกหรอเนี่ย

กล้องไม่น่ามองเลย ขนลุก

ติ่งยาวโครตน่าเกลียด

ว่าจะซื้อiphone11 ให้แฟน ตอนนี้เปลี่ยนใจเก็บเงินดีกว่า

ตอนแรกว่าจะซื้อnote10ให้แต่มีแต่คนบ่นเรื่องแบตเหลือเกิน เลยไม่เอา

เขาทำมาให้สาวกใช้

ส่วนผมออกจากสาวกตั้งแต่ ip4 แล้วครับ

อยา่งน้อยรูกล้องก็แตกต่างจากรุ่นก่อนนะครับ

คิดถูกละที่ย้ายมาเล่นNote

กั๊กสเปค แถมขายอะไรแพงๆ

เอาจริงๆนะ ตั้งแต่ย้ายมาใช้แอนดอยชีวิตโครตง่ายเลย
ไฟล์อะไรอ่านได้ แก้ได้หมด ลากลงๆ
ถ่ายรูป กดปากกามาแก้แบบให้ลูกน้องต่อสบายๆ
เซ็นเอกสารสำคัญได้ง่ายๆ
ใครขี้ลืม ก็กดปากกามาดๆ กดเตือนความจำได้อีก

ทำไมไอรุ่นโปรธรรมดาต้องจอเล็กกว่าตัวไม่โปร

ที่ผมเซ็งที่สุดคือเรื่องราคาในไทยแพงกว่าที่อเมริกามากกกกก ต้องซื้อปากกาเพิ่มอีกต่างหาก
ศูนย์กล้องนี่ยอมรับเลยทุเรศจริงๆ 555