ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1155
ที่อยู่: Hat yai สภาทนายความภาค9
โพสเมื่อ: Tue Jun 04, 2019 20:54
10อันดับพ่อมดแม่มดที่มีฝีมือสูงในยุคHarrryPart2
ก่อนอื่นต้องขอโทษด้วยนะครับที่ลงช้าเพราะงานยุ่งมากๆ
สืบเนื่องมาจากกระทู้นี้
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1760213
ผมเลยจะขอลงPart2ต่อเลยครับ
เหมือนกับกระทู้ก่อน ในส่วนของการจัดอันดับนี้นั้น ไม่จำเป็นว่าคนที่อันดับดีกว่าจะต้องเก่งกว่าอันดับรองลงมา เพราะแต่ละครล้วนมีความสามารถแตกต่างกันไป


ส่วนคนที่ไม่อยากย้อนไปดูกระทู้เก่าผมจะครอบสปอยล์ไว้ให้นะครับ

Spoil
อันดับ10.Harry PotterจากOrder of the Phoenix



จริงอยู่ที่แฮรี่อาจจะยังเป็นเด็กอยู่ และมีพ่อมดแม่มดอีกหลายๆคนที่เก่งกว่าแฮรี่
และไม่ติดในท์อปลิตส์นี้ แต่ที่ผมใส่เข้ามาก็เพราะว่าแกเป็นคนที่ถูกเลิือก
หรือเอาง่ายๆก็คือสกิลพระเอกอะครับ โดนวางตัวให้เป็นคนจัดการเจ้าแห่งศาสตร์มืด
มันต้องไม่ธรรมดายุแล้ว ขนาดไม้กายสิทธิ์แกนไม้ยังเหมือนกันเลย



แต่ถึงยังนั้นก็เถอะแฮรี่ก็เก่งกว่าผู้ใหญ่หลายๆคนด้วยซ้ำเหมือนกัน เพราะแกถูกจ้องเล่นงานมาตลอดจึงสามารถนำคาถาที่เรียนมา
เอาไปใช้ต่อสู้ป้องกันตัวได้เสมอ ซึ่งตรงข้อนี้แหละที่แฮรี่พิเศษกว่าเพื่อนๆคนอื่นๆ
เปรียบเทียบเหมือนกับว่า ฝึกแต่ในห้องกับออกภาคสนามอะ เพราะสถานจริงมันจะมีสิ่งที่ไม่คาดฝันอยู่เสมอ แถมแกยังเป็น ซีกเกอร์(ไม่แน่ใจ)ของควิชดิชที่อายุน้อยสุดอีกด้วย
ลงสนามครั้งแรกพี่แกก็พาทีมชนะเลย



ผมจึงต้องใส่ชื่อแกลงมาด้วย

สามเกลอตัวแสบ





แต่ตอนนี้แดเนียลแกเข้าด้านมืดไปแล้ว เสียดายความน่ารักตอนเด็กจริงๆ




อันดับที่9(ร่วม).Lucius MalfoyจากDeath Eater



สำหรับลำดับนี้ที่จริงผมจะให้ซีเรียส แบล็คแต่แกตายง่ายไปหน่อยเลยยกให้ลูเซียสแทน



ลูเซียสนั้นมาจากตระกูลมัลฟอย ซึ่งเป็นหนึ่งในตระกูล ที่ถูกเรียกว่า28ตระกูลศักสิทธิ์ เพราะสืบเชื้อสายจากเลือดบริสุทธิ์ และลูเซียสเป็นพ่อของ เดรโกมัลฟอยที่นับว่าเป็นคู่กัดแฮรี่อีกคน


ซึ่งว่ากันตามตรงแล้วนี่แกเป็ยสมุนเอกของโวลดี้เลยนะ มือซ้าย-ขวาของโวลดี้
คือเบลลาทริกซ์กับลูเซียสนี่แหละ แต่พอสเนปกลับมาตำแหน่งจึงไปอยู่ที่สเนปแทน



ซึ่งหลังจากนั้นบารมีความยิ่งยโสโอหังแบบภาคแรกหายไปหมด แถมยังโดนโวลดี้แกล้งบ่อยๆ ทำให้คนมองแกว่ากระจอกไปเลย แต่ถ้าลองย้อนนึกกลับไปดูให้ดี
จะเห็นได้ชัดว่าโวลเดอมอไว้ใจลูเซียสมากในระดับนึงเลยนะ เพราะถ้าไม่วางใจในฝีมือ
คงไม่เอาบันทึกของทอมริดเดิ้ลซึ่งเป็น(Horcrux)ให้หรอก และฉากต่อสู้ต่างๆก็ถือว่าทำได้ดีเลยทีเดียวผมจึงยกอันดับนี้ให้


อันดับ9(ร่วม).James Potterจาก Order of the Phoenix



เจมส์พ็อตเตอร์ก็อย่างที่รู้ๆกันว่าแกเป็นพ่อของแฮรี่ ที่ผมเลือกเจมส์เข้ามาในลิตส์นี้นั้น
ก็เพราะว่า กิตติศัพท์ต่างๆของแกก็เป็นที่เลื่องลืออยู่ไม่น้อย ที่เราได้เห็นเลยก็คือชื่อแกในmuseam ควิชดิช และในตอนที่แฮรี่โดนโวลดี้ตามล่าตัวนั้น พี่แกเสกคาถา ฟิเดลลิอัส
ซึ่งถือว่าเป็นคาถาที่ซับซ้อนมากๆ ในตรงนี้จึงทำให้รู้ว่าแกก็เป็นพ่อมดที่เจ๋งพอตัว


แต่แกมาพลาดเพราะไว้ใจคนผิด เลยโดนหางหนอนหักหลังจนจบชีวิตไปที่สุด ในตอนเรียนที่ ฮอร์กวอร์ตนั้นแกจะมีแก๊งอดยู่4คน
คือ เขาแหลม(เจมส์)หางหนอน(เพ็ตติกรู)จันทร์เจ้า(รีมัส)เท้าปุย(ซีเรียส)
และตาม คหสต เจมส์เหมือนจะเป็นหัวหน้าแก๊งนะตอนที่ยังเรียนคงเกรียนน่าดู
พี่แกเล่นแกล้วสเนปไม่เว้นแต่วัน ส่วนฉายาเขาแหลมนั้น เพราะเจมส์ก็เป็นเอนิเมจัสกวางที่ไม่จดทะเบียนเหมือนกับซีเรียส และเจมส์ก็ถือเป็นลูกหลานของ อิกนอตัส เพฟเวอเรลล์
เจ้าของเครื่องรางยมทูต ทำให้ผ้าคลุมล่องหนเป็นสมบัติของแก
ป.ล.ตัวละครนี้อย่างที่บอกบทแกน้อยเกินไป เลยวัดอยากว่าจะให้อยู่อันดับไหนดี
เลยเลือกใส่อันดับ9ร่วม บางทีแกอาจจะเก่งกว่าหรือด้อยกว่าพวกที่เหลือก็เป็นไปได้หมด




อันดับ8.Barty Crouch JrจากDeath Eater



บาร์ตี้ เคร้าช์ จูเนียร์ หรือชื่อเต็ม บาร์ทีเมียส เคร้าช์ จูเนียร์
เป็นพ่อมดเลือดบริสุทธิ์ จากตระกูลเคร้าช์หนึ่งใน28ตระกูลศักสิทธิ์ ซึ่งเป็นตระกูลที่มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับ กระทรวงเวทมนตร์อังกฤษ มาอย่างยาวนาน บาร์ตี้ จูเนียร์ เป็นบุตรชายของ บาร์ทีเมียส เคร้าช์



แกโดนจับได้ว่าเป็นผู้เสพความตาย ในห้องไตร่สวนคดีของไอกอร์ คาคารอฟ ซึ่งผู้ที่ทำหน้าที่เป็นประธานไตร่สวนก็คือบาร์ทีเมียส เคร้าช์นั่นแหละ ซึ่งตอนแรกนั้น คาคารอฟซักทอดสเนปก่อนแต่ไม่เป็นผล แกเลยเอ่ยชื่อบาร์ตี้ขึ้นมา และถูกแมดอายจับกุมไปยังอัซคาบันด้วยเพียง 19 ปีในขณะนั้น


แต่แล้วเขาก็สามารถออกมาจากคุกอัซคาบันได้ เพราะคุณนายเคร้าซ์ แต่ของบาร์ตี้
ใช้น้ำยาสรรพรสเปลี่ยนตัวกับบาร์ตี้ และแม่ของเขาก็ตายในคุกอัซคาบัน(ข้อมูลตรงนี้ไม่มั่นใจเท่าไหร่นะครับ)
จึงทำให้บาร์ตี้ได้ออกมาอีกครั้งโดยปลอมตัวมาเป็น อลาสเตอร์ มู้ดดี้เพื่อหลอกล่อแฮรรี่โดยใช้กุญแจนำทางไปยังหลุมศพของพ่อโวลดี้ ทำให้เจ้าแห่งศาสตร์มืดคืนชีพอีกครั้ง

แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ถูกเปิดโปงโดย อัลบัส กับสเนป ว่าไม่ใช่มูดดี้
สำหรับตัวละครนี้ที่ผมให้ลำดับสูงเพราะพี่แกสามารถจับ แมดอายยัดเข้ากล่องได้
ซึ่งนักโทษในอัซคาบันส่วนใหญ่เป็นแมดอายนี่แหละที่จับยัดพวกนี้เข้าซังเต
ถึงแม้ต่อให้ใช้วิธีลอบกัดก็ตามเถอะแกก็ไม่ธรรมดาอยู่ดี(ที่จับแมดอายได้ยังไงผมก็ไม่รู้)



อันดับ7.Kingsley Shackleboltจาก Order of the Phoenix.


คิงส์ลีย์ ชักเคิลโบลต์ รัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์หลังจากสงครามโลกเวทย์มนต์ครั้งที่สอง
อดีตมือปราบมารผู้โด่ง สายลับของภาคีนกฟีนิกซ์ในการสืบข้อมูลจากกระทรวงเวทย์มนต์มาให้กลุ่มภาคีอยู่เสมอ สำหรับตัวละครนี้นั้นผมมองว่า underrate มากเลยเพราะแกไม่ค่อยได้โชว์ฝีมือ หรือจะอ้างว่าตอนที่จะไปจับอัลบัส สามคน มี คิงส์ลี่,อัมบริจ,ฟรัด
ก็ยังจับอัลบัสไม่ได้ แต่อย่าลืมว่าคิงส์ลี่นะอยู่ฝั่งนี้(กลุ่มภาคี)มาโดยตลอด แม้ว่าเอาจริงก็สู้ดัมเบิ้ลดอร์ไม่ได้ก็เถอะ

แต่สำหรับบทบาทในกลุ่มภาคีหรือหน่วยมือปราบมารนั้น
แกจะอยู่อันดับต้นๆเลย และที่สำคัญที่สุดตัวละครนี้ไม่ตายในช่วงโวลดี้เรืองอำนาจ
ผมจึงให้แกอยู่เหนือพวก รีมัสหรือซีเรียสถึงจะบอกว่าที่ให้สองคนนั้นตายไปเพื่อสอนแฮรรี่ก็เถอะ

ผมละอยากเห็นแกไฝว้กับเจ๊ เบลลาทริกจริงคงบันเทิงน่าดู
อีกอย่างตระกูลชักเคิลโบลต์ของแกนั้น ก็เป็นหนึ่งใน28ตระกูลศักสิทธิ์เหมือนกัน



อันดับ6.Bellatrix LestrangeจากDeath Eater


สำหรับเบลลาทริกซ์นั้นถือได้ว่าเป็นคนที่จอมมารไว้ไว้ใจที่สุดก็ว่าได้ และหล่อนเองก็เคารพรักนับถือในตัวจอมมารมากกว่าใครอื่น เปรียบเสมือนเป็นมือมือขวาของจอมมารก็ว่าได้ เธอจึงได้รับอิทธิพลความอำมหิตจากจอมมารมามากเลยทีเดียว และสิ่งที่แสดงถึงความอำมหิตที่เป็นที่จดจำมากมากสุดคงหนีไม่พ้น การใช้1ใน3เวทย์มนต์ต้องห้าม
คำสาปกรีดแทง ซึ่งทรมานยิ่งกว่าความตายซะอีก ใส่แฟรงก์ ลองบัตท่อม และ อลิซ ลองบัตท่อม พ่อแม่ของเนวิลนั่นเอง

ตอนเธอโดนจับกุมช่วงแรกในตอนที่จอมมารโดนคาถาย้อนกลับ ของลิลี่ พ็อตเตอร์
ตอนไตร่สวนคดีเธอยอมรับอย่างภาคภูมิ ว่าเธอนั้นจงรักภักดีกับจอมมาร
และพอลอร์ด โวลเดอมอร์กลับมาเรืองอำนาจอีกครั้งเธอก็ได้ออกจากอัซคาบัน
มาช่วยจอมมารในฐานะผู้เสพความตายอีกครั้ง พอหลังจากออกจากอัซคาบันไม่นาน กลุ่มDeath Eaterได้ไปหาลูกแก้วพยากรณ์ตามคำสั่งจอมมาร


และฉากที่เศร้าที่สุดฉากนึงในเรื่องก็เกิดขึ้นที่กองปริศนาเมื่อกลุ่มDeath Eater ได้ปะทะกับ Order of the Phoenix
และเธอก็เป็นคนใช้คำสาปพิฆาต avada kedavra ทำให้ซีเรียสต้องตายไป ซึ่งตามศักดิ์แล้วซีเรียสถือว่าเป็นลูกพี่ลูกน้องของเขา
และเธอยังมีน้องสาวอีกสองคน ผมขอยกคนที่เด่นกว่ามานั่นก็คือ นาร์ซิสซา แบล็กซึ่งภายหลังก็ได้แต่งงานกับลูเซียส ซึ่งตระกูลมัลฟอยเป็นสายเลือดบริสุทธิ์เหมือนกัน
สำหรับเบลลาทริกซ์นั้นเธอเกลียดพวกเลือดสีโคลนเป็นที่สุดเลย เพราะเธอและสามีล้วนมาจากสายเลือดบริสุทธิ์ทั้งนั้น และชอบพูดถึงซีเรียสบ่อยๆว่าทรยศสายเลือด



และในอีกเหตุการณ์ที่ช็อคมากที่สุดสำหรับคนที่พึ่งอ่านช่วงนี้ครั้งแรก
หรือดูหนังในฉากนี้ครั้งแรกนั้น เหตุการณ์ที่หอดูดาวที่ปิดฉากพ่อมดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนั้น
Albus Percival Wulfric Brian Dumbledore เสียชีวิตซึ่งเธอก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย

แต่สุดท้ายเธอต้องจบชีวิตลงด้วยฝีมือมอลลี่ วีสลีย์

 


คนที่ติดอันดับส่วนใหญ่มาจาก2กลุ่มหลักคือ Death EaterกับOrder of the Phoenix มาเริ่มกันเลยดีกว่า


อันดับ5.Alastor "Mad-Eye" MoodyจากOrder of the Phoenix




ในรายของแมดอายนั้น แกถือเป็นอีกคนนึงที่เป็นสายเลือดบริสุทธิ์
และเกิดมาจากตระกูลมือปราบมาร(พ่อแม่ของแกเป็นมือปราบมารทั้งคู่)ส่วนในเรื่องฝีมือนั้น มูดดี้ถือได้ว่าเป็นมือปราบมารที่เก่งที่สุดในยุคนั้นเลยก็ว่าได้ แถมแกยังมีสิทธิพิเศษให้สามารถใช้คำสาปพิฆาต กับพวกที่ทำผิดขั้นร้ายแรงได้



ซึ่งตัวแกนั้นได้ใช้คำสาปต้องห้ามเหล่านั้นที่แกได้รับอนุญาต จัดการพวกผู้เสพความตายไปเยอะเลยทีเดียว ไม่เพียงแต่จัดการถึงตายเท่านั้นแกยังสามารถจับเป็นได้เยอะอีกด้วย
ซึ่งการที่จะจับตัวเป็นๆมันต้องยากกว่าการจับตายอยู่แล้ว และเหล่านักโทษในคุกอัซคาบันเกินกว่าครึ่ง อาจจะถึง90%เลยด้วยซ้ำล้วนแล้วแต่เป็นฝีมือแกทั้งสิ้น วีรกรรมเหล่านี้คงจะอธิบายได้ว่า อลาสเตอร์มู้ดดี้เก่งกาจขนาดไหน




ส่วนสาเหตุที่ทำให้แกเสียตาและขาไปนั้น เกิดขึ้นในช่วงแต่สงครามโลกเวทย์มนต์ครั้งที่1
ในส่วนนี้ผมก็ไม่ค่อยทราบข้อมูลว่าเสียไปเพราะอะไร ต่อมามู้ดดี้ได้ใส่ดวงตาเทียม
จึงได้ฉายาว่าแมดอาย หลังจากแกเกษียณจากตำแหน่งมือปราบมาร อัลบัสได้เชิญแกมาสอนในรายวิชา การป้องกันตัวจากศาสตร์มืด แต่โดยสวมรอยโดย บาร์ตี้ เคร้าช์ จูเนียร์
ซึ่งร่วมมือกับหางหนอน ในการจับตัวแกไปและใช้น้ำยาสรรพรสปลอมแปลงเป็นแก
เพื่อที่จะใส่ชื่อแฮรี่ลงในการแข่งประลองเวทย์ไตรภาคี และทำการเปลี่ยนแปลงถ้วยอัคคีเป็นกุญแจนำทาง เพื่อไปที่หลุมศพของพ่อจอมมารเพื่อใช้ในการคืนชีพโวลเดอมอร์
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไม แม้ดอายอันดับดีกว่าบาร์ตี้ ทั้งๆที่โดนบาร์ซี้จับไว้และสวมรอยเข้ามาสอนในฮอร์ควอร์ต ตามความเห็นผม ผมไม่คิดว่าแม้ดอายจะพลาดท่าหรอกถ้าดวลกันตัว-ตัว แต่กรณีนี้ผมว่าไม่โดนลอบทำร้ายก็โดนรุมหรือโดนวิธีสกปรกแน่นอน
ผมดูลักษณะของบาร์ตี้แกเองคงไม่เล่นซึ่งๆหน้าหรอก ส่วนอีกอย่างคือพ่อมดแม่มดคนอื่นจะใช้ไม้กายสิทธิ์ แต่ของแกใช้ไม้เท้าในการปล่อยเวทย์ และเขาได้เสียเสียชีวิต
ในตอนเดินทางจาก บ้านเลขที่ 4 ซอยพรีเว็ต เพื่อพาแฮรี่หลบหนีไปยังบ้านโพรงกระต่ายเนื่องจากเวทย์ของ ลิลี่เสื่อมลงตอนแฮรี่อายุ 17 ปี แต่ระหว่างหลบหนี มันดังกัส เฟล็ทเชอร์ ได้หักหลังแม้ดอายเขาจึงถูกลอร์ดโวลเดอมอร์สังหารจนเสียชีวิต





อันดับ4.Aberforth DumbledoreจากOrder of the Phoenix



อาเบอร์ฟอร์ธนั้นเป็นน้องชายแท้ๆของอัลบัส ดัมเบิลดอร์ เขาเป็นพ่อมดเลือดผสม
พ่อและแม่ของเขาคือ เพอร์ซิวาลและเคนดรา ดัมเบิลดอร์ และยังมีน้องสาวอีกหนึ่งคน
ซึ่งเธอมีชื่อว่าแอรีอานนา เรามักจะไม่ค่อยได้เห็นอาเบอร์ฟอร์ธแสดงตัวมากนัก
เพราะเขาเคยมีปัญหาถึงขั้นแตกหักกับพี่ชายของเขาอัลบัสอย่างรุนแรง ซึ่งสาเหตุมาจากการเสียชีวิตของแอรีอานนา ซึ่งในส่วนของการตายของแอรีอานนานั้น ในแฮรี่ทุกภาคยังไม่เปิดเผยว่าเธอเสียชีวิตเพราะอะไรยังไง แต่พอหนังสัตว์มหัสจรรย์ฯออกฉาย จึงทำให้ผู้ชมพอที่จะเดาออกออกได้ว่า เธอน่าจะเป็นออบสครูเรียส และน่าจะอยู่ในตอนที่อัลบัสปะทะกับกริลเดอวัล(ตรงนี้ขอให้ไปดูหนังเรื่องนี้กันเองจะดีกว่าเพราะไม่อยากสปอยมาก)
กลับมาที่อาเบอร์ฟอร์ธต่อ พอหลังจากเหตุการณ์นั้นแกก็เก็บตัว เปิดบาร์เทนเดอร์และเจ้าของร้านหัวหมู ในหมู่บ้านฮอกส์มี้ด แต่ถึงอย่างนั้นแกยังคอยสังเกตุการณ์พวกแฮรี่มาโดยตลอด เผื่อว่าในเวลาคับขัน แกจะได้ช่วยเหลือพวกแฮรี่ทันท่วงที
อย่างตอนที่แกส่งด็อบบี้ไปช่วยให้พวกแฮรี่ หลบหนีออกจากคฤหาสน์มัลฟอย

ถึงจะหลบหนีมาได้แต่ต้องแลกด้วยชีวิตของด็อบบี้ ซึ่งเป็นฉากพี่ผมเศร้ามากสุดในเรื่องเลย


ส่วนอาเบอร์ฟอร์ธนั้นถึงบทแกจะไม่เยอะแต่การที่แกออกมาช่วยสู้ ทำให้ฝั่งภาคีกลับมาได้เปรียบอีกครั้ง และผมชอบตอนที่แกเสกคาถาผู้พิทักษ์ใส่ผู้คุมวิญญานแค่ทีเดียว
ยังทำให้พวกนั้นกระจายเป็นฝูงอะ ทั้งที่คนอื่นทำได้ไม่เยอะเท่าแกผมจึงยกอันดับนี้ให้แก





อันดับ3.Severus SnapeจากDeath EaterกับOrder of the Phoenix



เซเวอรัสสเนป เป็นอาจารย์สอนวิชาปรุงยาต่าจากอาจารย์สลักฮอร์น ซึ่งในตอนแรกที่แกเข้าสมัครเป็นอาจารย์นั้น แกต้องการที่จะเป็นครูสอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดแต่แกก็ไม่ได้เป็นในตอนนั้น ซึ่งถ้าว่ากันตามตรงฝีมือแกนั้นสูงกว่าอาจารย์ที่สอนวิชาปกกันตัวจากศาสต์มืด(ในช่วงที่แฮรี่เรียน)แทบทุกคนโดยเฉพาะ กิลเดอรอย ล็อกฮาร์ต



นอกจากจะสอนวิชาปรุงยาแล้วสเนปเองยังเป็นครูประจำของบ้านสลิธีรีนอีกด้วย
ในวัยเด็กสเนปนั้นอาศัยอยู่ที่เมืองโค้กเวิร์ธ ใกล้ๆกับบ้านของ ลิลี่ เอฟเวนส์
ซึ่งทั้งคู่สนิทกันมากๆในวัยเด็ก แต่โชคชะตาช่างไม่เข้าข้างเขาเพราะวันที่เข้ารับการคัดสรรว่าจะได้ไปอยู่สังกัดบ้านไหนนั้น สเนปถูกจัดให้ไปอยู่บ้าน สลิธีรินส่วนลิลี่เข้ากริฟฟินดอร์


ทำให้ช่วงหลังๆความสัมพันธ์ของทั้งคู่ค่อยๆห่างเหินกันเรื่อยๆ ยิ่งมีเจมส์มาเป็นก้างขวางคอที่คอยมากันท่าสเนปไม่ให้เข้าใกล้ลิลี่ ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ห่างเหินเพิ่มขึ้นไปอีก
และสเนปมักจะถูก4สหาย เขาแหลม(เจมส์)หางหนอน(ปีเตอร์)จันทร์เจ้า(รีมัส)เท้าปุย(ซีเรีนสแกล้งแกอยู่บ่อยครั้ง)ทำให้แกไม่ชอบพวกนี้เป็นอย่างมากโดยเฉพาะเจมส์
และสุดท้ายความสัมพันธ์กับลิลี่ถึงกับจบลงเลยเพราะว่าสเนปไปเรียก ลิลี่ว่าเป็นพวกเลือดสีโคลน (ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นี้สเนปไม่เคยพูดคำนี้กับใครอีกเลย)ซึ่งในตอนนั้นสเนปได้ศึกษาด้านมืดอย่างจริงจัง ถึงแม้ว่าเขาจะเก่งเรื่องการปรุงยามากๆก็เถอะ แต่ในเรื่องศาสตร์มืดนั้นความรู้ความสามารถด้านนี้ของแกไม่ได้ด้อยไปกว่าวิชาปรุงยาที่แกถนัดเสียอีก รีมัสหรือซีเรียส(ผมจำไม่ค่อยได้)เคยกล่าวว่าสเนปเก่งในเรื่องคำสาปมาก สามารถคิดคิดค้นคำสาปของตัวเองได้ตั้งแต่ตอนอายุ11 ที่เห็นชัดๆก็ในภาคเจ้าชายเลือดผสม
คาถาเซ็กตรัมเซมป้า ที่แฮรร์ลองเอามาใช้กับเดรโกรอะผมว่าโครตแรงสำหรับคาถานั้น
อีกอย่างก็ยังสามารถลอกเลียนแบบการบินจากโวลดี้ได้ด้วยถึงของแกจะบินแบบค้างคาวก็เถอะ เพราะไม่มีพ่อมดแม่มดคนไหนที่สามารถบินได้ยกเว้นโวลเดอมอร์ แต่สเนปก็เลียนแบบได้ถึงจะไม่ดีเท่าก็เถอะ แต่ก็ทำให้รู้ว่าแกนั้นไม่ธรรมดา
(แต่ในหนังใส่มาแบบบินกันให้ว่อนเลย)


ถึงแม้ว่าลิลี่จะแต่งงานกับเจมส์ไปแล้วแต่สเนปแกก็ยังรักและอยากปกป้องอยู่เสมอแต่นั่นก็เป็นหนึ่งในความผิดพลาดของสเนป เนื่องมาจากมีคำทายว่าเด็กที่เกิดวันที่31 กรกฏาคม
จะเป็นคนมาปราบจอมมาร ซึ่งเด็กที่เกิดวันนั้นมีสองคนคือแฮร์รี่กับเนวิล และก็เป็นสเนปนี่แหละที่ไปบอกจอมมารว่าเด็กคนนั้นคือแฮร์รี่ เพียงเพื่อจะขอร้องโวลดี้ให้ไม่กำจัดเด็กและลิลี่แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะโวลเดอร์มอร์ไม่สนใจใครนอกจากตัวเองจึงจัดการทั้งเจมส์และลิลี่แต่ตอนใช้คำสาปพิฆาตินั้น โวลดี้โดนคาถาย้อนกลับเข้าตัวทำให้แฮร์รี่รอดมาได้


สำหรับตอนแรกนั่นสเนปเป็นผู้เสพความเต็มตัว เพราะคิดว่าจะกล่อมจอมมารได้แต่ก็ไม่เป็นผล พอดัมเบิลดอร์รู้เรื่องเข้าแทนที่แกจะจัดการสเนป แต่อัลบัสเลือกที่จะขอให้สเนปเป็นสปายในกลุ่มผู้เสพความตาย เพื่อที่จะคุ้มครองตัวแทนของลิลี่(แฮร์รี่)สเนปจึงยอมทำ
เพราะลิลี่ถือเป็นรักแรกและรักเดียวของสเนปตลอดวาระสุดท้าย




และในภายหลังเมื่อลอร์ด โวลเดอมอร์ฟื้นคืนชีพ และเรืองอำนาจขึ้นมาอีกครั้ง
แถมยังรู้เรื่องHorcruxอีก อัลบัสเลยวางแผนให้สเนปกำจัดเขาเมื่อตอนที่อัลบัสจวนตัว
และสุดท้ายเหตุการณ์ที่หอดูดาว สเนปได้ใช้คาถาavada kedavraใส่อัลบัสตามแผน



การที่ทำอย่างนั้นเพื่อที่จะทำให้ โวลเดอมอร์ไว้ใจมากที่สุด และก็เป็นไปตามนั้นโวลเดอมอร์ไว้ใจสเนปมาก จึงทำให้สเนปได้เป็นเสมือนมือขวาของจอมมาร และเป็นอาจารย์ใหญ่ฮอกวอตส์ด้วย


ซึ่งในตอนที่ยังไม่รู้เหตุผลของการกระทำของสเนปผมเชื่อว่าหลายคนคงเกลียดสเนปเข้าใส้แน่ๆอะ(รวมถึงผมด้วย)แต่พอหลังจากที่โวลเดอมอร์ให้นากินีสังหารสเนป แล้วแฮร์รี่เข้ามาทีหลังนำน้ำตาไปลงในอ่างเพนซิป ได้รู้ว่าที่แกทำแต่ละอย่างที่คนอื่นว่ามันไม่ดีจริงๆแล้วแกก็ไม่ได้อยากทำ แต่แกจำใจต้องทำถึงแม้คนรักจะจากไปแล้ว แต่อย่างน้อยๆลูกของคนรักก็ยังอยู่ ทำให้รู้เลยว่าชายคนนี้ถือเป็นพ่อมดที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้อัลบัส,กรินเดอวัล,ทอม ริดเดิลเลย อีกอย่างแกยังเป็นคนที่สามรถหลอก2พ่อมดผู้ยิ่งใหญ่แห่งยุคอย่างอัลบัสัมเบิลดอร์และลอร์ดโวลเดอร์มอร์ได้ ซึ่งการที่ให้แกอยู่อันดับ3คงจะไม่น่ามีข้อโต้แย้งเลย




2.Tom Marvolo Riddle or Lord Voldemort


Tom Marvolo Riddle หรือ Lord Voldemort เจ้าแห่งศาตร์มืดต่อจากกรินเดอร์วัล สำหรับทอมนั้นเกิดมาจาก ตระกูลก๊อนท์ ซึ่งเป็นตระตูลสายเลือดบริสุทธ์ที่เคร่งมากในการสืบสายเลือดกับเฉพาะผู้วิเศษเท่านั้น แต่เมโรเพ ก๊อนท์ ผู้ที่เป็นแม่ของทอมกลับไปแต่งงานกับมักเกิ้ล คือ ทอม ริดเดิ้ล แต่ไม่นานหลังจากนั้น ทอมก็ได้ทิ้งเมโรเพไป แต่ในตอนนั้นทั้งคู่ก็ได้ให้กำเนิดพ่อมดที่ชั่วร้ายที่สุดขึ้นมา โดยที่ทอมได้คลอดที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งนึงในอังกฤษ และแม่ของทอมก็สิ้นใจหลังจากคลอดไม่นาน ทำให้ทอมอยู่ที่สถานเด็กกำพร้ามาตลอด



หลังจากที่ทอมอยู่ที่สภานเด็กกำพร้าหลายปี เขามักจะขโมยของ ของคนอื่นเสมอ
แต่แล้ววันนึงโชคชะตาได้มาหาเขา คือการที่อัลบัส ดัมเบิลดอร์ เดินทางมาหาทอมเพื่อที่จะพาทอมไปเรียนที่ฮอร์กวอร์ต และบอกความจริงว่าทอมนั้นเป็นผู้วิเศษ(พ่อมด)
และทอมก็ได้เล่าเรื่องที่เขาทำอะไรต่างๆแบบที่คนอื่นทำไม่ได้ อัลบัสเลยโชว์ให้ดูว่าพ่อมดแม่มดนั้นทำได้ทุกคน แต่อัลบัสต้องมาชะงักนิดนึงในตอนที่ทอมบอกว่าคุยกับงูได้
แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังพาทอมเข้าเรียนที่ฮอร์กวอร์ตอยู่ (โดยที่ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้ในอนาคตจะเป็นพ่อมดที่ร้ายกาจที่สุด)แต่ดัมเบิลดอร์ก็ตั้งใจคอยจับตาดูทอมตลอดเวลาที่เขาอยู่ในฮอกวอตส์ ในทางกลับกัน ทอมก็รับรู้ได้ว่าเขาถูกจับตามองโดยดัมเบิลดอร์เช่นกัน
ซึ่งการที่เขาพูดกับงูได้นั้น เพราะแกสืบเชื้อสายโดยตรงมาจากหนึ่งในผู้ก่อตั้งฮอร์กวอร์ต Salazar Slytherin หรือเรียกได้ว่าเขานั้นเป็น
พาร์เซลเมาท์
(ข้อแตกต่างก็ของแฮร์รี่กับกับโวลดี้นั้นคือ โวลดี้สามารถควบคุมหรือสั่งการงูได้ก็พี่แกเล่นคุยกับนากินีเหมือนเพื่อนแกอะ คุยรู้เรื่องอยู่คนเดียว แต่แฮร์รี่ทำได้เพียงแค่พูดคุยเท่านั้น ดูได้จากฉากห้องแห่งความลับ)แต่ที่จริงตระกูลก๊อนท์แทบจะคุยกันเองด้วย ภาษาพาร์เซลเมาท์ด้วยซ้ำไป


และก็เป็นแกอีกนั่นแหละที่เปิดห้องลับได้ ซึ่งนำมาสู่ความตายของ เมอร์เทิล เอลิซาเบธ วอร์เรน หรือ เมอร์เทิลจอมคร่ำครวญ และรูเบอัส แฮกริดกับอาราก็อกก็โดนผลพวงจากเหตุการณ์นี้ด้วย การที่ทอมเปิดห้องแห่งความลับได้นั้น อย่างที่ผมบอกไว้ก่อนหน้านี้
เพราะพี่แกเป็นทายาทโดยตรงของสลิธิรีนผู้ยิ่งใหญ่ จึงทำให้แกยิ่งไม่ชอบที่ตัวเองเป็นเลือดผสม ทำให้แกนำชื่อตัวเอง เปลี่ยนเป็นLord Voldemortในภายหลัง



ซึ่งทอมนั้นถือได้ว่าโดเด่นมากๆในทุกๆวิชา ทำให้ให้เป็นที่รักใคร่ของครูแทบทุกคน
(ยกเว้นอัลบัส) โดยเฉพาะ Horace Slughorn ซึ่งเป็นอาจารย์ประจำบ้านสลิธีรีน
และได้สอบถามเกี่ยวกับเวทย์มนต์ต้องห้ามจาก Slughorn นั่นก็คือฮอร์ครักซ์
โดยการแบ่งเศษเสี้ยววิญญานลงไปในสิ่งของต่างๆ ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้สลักฮอร์นรู้สึกละอายใจมาโดยตลอด





ซึี่งทอมก็ได้สร้างฮอร์ครักซ์ขึ้นมาสำเร็จทั้งหมด 7 ชิ้น เพราะเลขเจ็ดเป็นเลขวิเศษที่มีพลังอำนาจที่สุด และต่อมานั้นโวลเดอมอร์ก็ได้ออกรวบรวมกองทัพผู้เสพความของเขา และแผ่ขยายอำนาจมืดออกไปทั่วโลกผู้วิเศษ ทำให้เกอดสงครามโลกเวทมนต์ครั้งที่1ในตอนนั้นเอง โดยกลุ่มผู้เสพความตายกับกลุ่มภาคีนกฟินิกซ์ แต่พอสเนปได้นำข้อมูลเกี่ยวกับคำทำนายของ อ.ซิบิลล์ ทรีลอว์นีย์ ว่า "ผู้มีอำนาจปราบเจ้าแห่งศาสตร์มืดใกล้เข้ามาแล้ว เกิดกับคนที่ท้าทายเขาถึงสามหน เกิดเมื่อเดือนที่เจ็ดวางวาย และเจ้าแห่งศาสตร์มืดจะทำเครื่องหมายเขาในฐานะผู้เท่าเทียม แต่เขานั้นจะมีอำนาจที่เจ้าแห่งศาสตร์มืดหารู้จักไม่ และคนหนึ่งจะต้องตายด้วยน้ำมือของอีกคน เพราะทั้งสองจะไม่อาจอยู่ได้ถ้าอีกคนยังอยู่รอด"ซึ่งก็คือแฮร์รี่ ทำให้แกไปเพื่อที่จะจัดการกับแฮร์รี่แต่กลับโดนคาถาย้อนกลับใส่ตัวเอง เพราะมนต์ปกป้องกันของลิลี่คือความรักที่มีต่อลูก ทำให้เจ้าแห่งศาสตร์สิ้นอำนาจไป
ชั่วขณะ



แต่หลังจากนั้นโวลดี้ก็ได้พยายามคืนชีพให้ตัวเองหลายวิธีหนึ่งในนั้นคือการใช้ศิลาอาถรรพ์


แต่ก็ไม่ได้ผลจนกระทั่ง บาร์ตี้ได้ปลอมตัวเป็นแม้ดอายเปลี่ยนถ้วยอัคนีเป็นกุญแจนำทาง
ล่อแฮรร์รี่ ไปยังหลุมศพของพ่อโวลเดอมอร์ โดยมีหางหนอนเป็นผู้ช่วยอีกคน
ทำให้แกคืนชีพอีกครั้งนึง



แต่ถึงแกจะคืนชีพขึ้นมาได้แล้วก็เถอะ แต่ก็ยังไม่สามารถเรืองอำนาจได้เต็มที่เพราะยังมี อัลบัส ดัมเบิ้ลดอร์ชายที่เขากลัวที่สุด เขาเลยพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะกำจัดอัลบัส
โดยทั้งคู่ได้เจอกันอีกครั้ง หลังจากที่โวลดี้คืนชีพซึ่งทั้งสองได้ดวลกันอย่างดุเดือด
(ฉากนี้ในหนังทำให้โวลดี้เหนือกว่า แต่ในหนังสือเขียนชัดเจนเลยว่าอัลบัสเหนือกว่า)







ในเมื่อจัดการด้วยตัวเองไม่ได้แกจึงให้เดรโกมัลฟอย นำพวกผู้เสพความตายไปที่โรงเรียนโดยใช้ตู้อันตธานจากร้านบอเจนและเบิร์ก ซึ่งตู้นี้จะมี2อัน อันนึงไว้ที่ร้านอีกอันนำมาไว้ที่ห้องต้องประสงค์(ซึ่งอันหลังมันเสียอยู่แต่ก็ซ่อมได้ในเวลาต่อมา)พวกผู้เสพความตายจึงเข้ามาได้ และตรงดิ่งไปหาอัลบัสซึ่งพึ่งกลับมาจากการหาฮอครัก และเดรโกได้ทำการใช้คาถาปลดอาวุธอัลบัส แต่คนที่ปิดฉากนั้นคือ สเนป(ตามแผนที่วางกันเอาไว้)
แต่ถึงอย่างนั้นทำเอาผมตาค้างไปเลยตอนนั้น



และหลังจากที่อัลบัสเสียชีวิตนั้น ทำให้โลกเวทย์มนต์ตกอยู่ภายใต้การควบคุมจากเขาและผู้เสพความตายทั้งหมด แต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังมีกลุ่มที่ต่อต้านเขาคือกลุ่มภาคี และพวกแฮร์รี่ ซึ่งคอยทำลาย ฮอร์ครักซ์ ของโวลดี้ไปทีละชิ้นแกจึงหาทางที่จะจัดการกับแฮร์รี่ให้ได้
แต่เพราะไม้กายสิทย์ของทั้งคู่มีแกลนเหมือนกัน (เหมือนไม้พี่ไม้น้องอะ)เลยไม่สามารถจัดการกันเองได้แกจึงได้ไปถามเกโกโรวิตหรือโอลิเวนเดอร์นี่แหละ จึงทำให้รู้ว่ามีไม้กลายสิทธิ์ที่ทรงพลังที่สุดอยู่คือไม้เอลเดอร์ ซึ่งเคยเป็นของGrindelwaldมาก่อน
แกจึงไปหาGrindelwaldถึงคุกนูร์เมการ์ด จึงได้รู้ว่าไม้นี่ตกมาอยู่ที่อัลบัสแล้ว


หลังจากแกได้ไม้เอลเดอร์มาแล้วแกก็สั่งบุก ฮอร์กวอร์ตทันทีก่อให้เกิดเป็น สงครามโลกเวทมนต์ครั้งที่2 ซึ่งแม้จะได้ไม้เอลเดอร์มาแล้วและถึงมันจะทรงพลัง แต่จอมมารก็รู้สึกว่ายังใช้ไม้ได้ตามที่ต้องการ แถมฮอร์ครักซ์ยังถูกทำลายไปเกือบหมดแล้ว แกเลยไปจัดการสเนปเพราะแกนึกว่าไม้นี้เปลี่ยนมือจากการที่สเนปจัดการดัมเบิ้ลดอร์





แต่ความจริงคือไม้นี้ตกไปเป็นของเดรโกเพราะเดรโกเป็นคนปลดอาวุธดัมเบิ้ลดอร์และเดรโกรโดนแฮรร์รี่ปลดอาวุธอีกที จึงทำให้ไม้เอลเดอร์มันเป็นของแฮร์รี่ แต่แกไม่รู้หลังจากการต่อสู้ยืดเยื้อมานานแกก็ได้ต่อสู้กับแฮร์รี่เป็นครั้งสุดท้าย
(ในส่วนนี้ผมขอข้ามฉากที่โวลดี้ทำลายฮอร์ครักซ์ในตัวแฮร์รี่ด้วยตัวแกเองนะครับ)
แกก็ได้แพ้ให้แก่แฮร์รี่เพราะนากินีถูกจัดการแต่ส่วนสำคัญคือไม้กายสิทย์จะไม่ฆ่าผู้ที่เป็นของตัวเอง จึงจบตำนานเจ้าแห่งศาสตร์มืดผู้ยิ่งใหญ่ได้ในที่สุด






ป.ล.จะว่าไปvoldemortฉบับหนังนี่ชั่งจ้อมากนะผมว่าผิดกับที่คิดจากหนังสือเยอะเลย



1.5 Gellert Grindelwaldและจะใส่ข้อมูลของPercival Gravesมาด้วย




เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ หนึ่งในพ่อมดที่ชั่วร้ายที่สุดคนนึงในโลกเวทมนตร์
สำหรับกรินเดลวัลด์นั้น ถือเป็นพ่อมดที่มีพรสวรรค์ในระดับที่สูงมาก ซึ่งตัวเขานั้นเคยเข้าเรียนที่โรงเรียนเดิร์มสแตรงก์(โรงเรียนที่มาในภาค ถ้วยอัคนีอะครับ ถ้าจะเอาแบบจำง่ายๆคือโรงเรียนที่มี วิคเตอร์ ครัมเป็นตัวแทนคนลงแข่งอะครับ)แต่ในภายหลังนั้น
เขาถูกไล่ออกจากโรงเรียน เนื่องจากการที่แกทดลองศาสตร์มืดและนำมาใช้กับเพื่อนร่วมโรงเรียนของเขาเอง



หลังจากที่แกได้ออกจากโรงเรียนมาแล้วนั้น แกได้เดินทางมายัง ก็อดดริก ฮอลโล่ว
ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ 1ใน4ผู้ก่อตั้งฮอร์กวอร์ต ก็อดดริก กริฟฟินดอร์ แต่เป้าหมายที่แกมายังที่นี่นั่นก็เพราะ ที่แห่งนี้มีหลุมศพของหลุมศพของ อิกนอตัส เพเวอเรลล์ เจ้าของผ้าคลุมล่องหน ที่เป็นหนึ่งในเครื่องรางยมทูตนั่นเอง ซึ่งเขาหมกมุ่นกับเรื่องราวของเครื่องรางยมทูตเป็นอย่างมาก ถึงขั้นสร้างสัญลักษณ์ของเครื่องรางยมทูตขึ้นมา พร้อมกับประทับมันไว้บนกำแพงของเดิร์มแสตรงก์ก่อนออกมาด้วย โดยเฉพาะไม้กายสิทธิ์เอลเดอร์ ซึ่งแกได้ขโมยมาจากร้าน เกโกโรวิต (เป็นร้านขายไม้กายสิทธิ์อีกร้านนอกจากร้านของโอลิแวนเดอร์)

และกรินเดลวัลด์มาอาศัยอยู่กับ บาทิลด้า เบ็กช็อตผู้เขียนหนังสือประวัติศาสตร์เวทมนต์ และมีศักดิ์เป็นญาติของเขา(น่าจะย่ายายหรือทวด)และที่นี่นั่นเองที่แกได้พบกับว่าที่เพื่อน(คู่)รักคู่ปรับของแก อัลบัส ดัมเบิ้ลดอร์

ทั้งสองคนนี้นั้นที่ได้ว่าเป็นสุดยอดพ่อมดที่เก่งกาจกันทั้งคู่ จนพัฒนาความสัมพันธ์ไปถึงขั้นเป็นคู่รัก และทั้งคู่น่าจะทำปฎิญาณไม่คืนคำว่าจะไม่สู้กันเอง



ซึ่งหลังจากที่ทั้งคู่ได้รู้จักกันซักพักนึงแล้วนั้น ก็มีความคิดที่ว่าทำไมผู้วิเศษ(พ่อมดแม่มด)ถึงไม่ควบคุมมักเกิ้ลโดยการที่ให้พวกพ่อมดแม่มดอยู่เหนือพวกมักเกิ้ลนั่นเอง
ซึ่งแนวคิดนี้นั้น อัลบัสก็เห็นด้วยเหมือนกันเพราะในตอนแรกเริ่มนั้นเพราะคิดว่าสิ่งที่ทำนั้น ทำไปเพื่อมุ่งเน้นการทำเพื่อประโยชน์สุขของคนส่วนใหญ่ ทำให้อัลบัสรู้สึกคล้อยตามกรินเดลวัลด์ไปอย่างง่ายดาย



อีกอย่างในยุคนั้นเหล่าผู้วิเศษต้องคอยหลบๆซ่อนๆในส่วนนี้เห็นได้จากหนัง แฟนตาสติกฯ ที่กล่าวถึงการล่าแม่มด ทั้งคู่จึงศึกษาศาสตร์มืดและเวทย์มนต์ต่างๆด้วยกันมากมายโดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวข้องกับเครื่องรางยมทูต จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่ทั้งคู่ต้องการตามหาเครื่องรางยมทูต รวมถึงอาจจะศึกษาเกี่ยวกับออสเรียล(ออบคลูรัสด้วย)) แต่อัลเบอร์ฟอร์ดคัดค้านเพราะการศึกษาทดลองอาจจะมีส่วนทำให้แอรีแอนนาน้องสาวของ อาร์เบอร์ฟอร์สและอัลบัสป่วอยู่ ทำให้ทั้งคู่เถียงกันซึ่งตอนนั้นกรินเดลวัลด์ก็อยู่ด้วย จากที่ตอนแรกที่แค่เถียงกัน ตอนหลังกรินเดลวัลด์ได้ใช้คำสาปกรีดแทงใส่อาเบอร์ฟอร์ด จึงทำให้ทั้งสามต่อสู้กันทำให้แอรีอานนาที่เห็นเหตุการณ์เกิดอาการคุ้มคลั่งขึ้น ด้วยความที่เธอต้องการช่วยพี่ชาย แต่เธอนั้นไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เนื่องจากเธอเป็นออบคลูรัส แอรีอานนาจึงเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้



ซึ่งหลังจากนั้นแกก็ได้เดินทางออกจากอังกฤษโดยการรวบรวมสมัครพรรคพวกต่างๆมากมาย โดยเฉพาะโซนยุโรปและต่อมาแกก็ได้เดินทางไปยัง USA เพื่อที่จะศึกษาเรื่องออบคลูรัสและต้องการเปิดเผยถึงการมีอยู่ของผู้วิเศษ
และแกก็ได้แอบปลอมตัวเป็น


Percival Graves




ซึ่งเกรฟนั้นทำงานอยู่ในสำนักงานกระทรวงเวทย์มนต์ของเมกาหรือเรียกว่ามาคูซ่า
ซึ่งในกรณีที่กรินเดลวัลด์ปลอมตัวมาเป็นเกรฟนั้น ผมว่าไม่น่าจะแปลงกายโดยใช้น้ำยาสรรพรสแต่เป็นวิชาแปลงร่างมากกว่า(ในส่วนนี้อ.มักกอนนากัลเคยบอกว่าการแปลงเป็นคนนั้นยากมากๆ)แต่ระดับแกคงทำได้แหละเพราะแทบจะไม่มีฉากกินน้ำให้เห็นเลย
ซึ่งถ้าใช้น้ำยาสรรพรสนั้น มันต้องมีซีนกินน้ำให้เห็นบ้างละนะ ซึ่งในตอนที่กริลเลิร์ตได้สวมบทเกรฟนั้น แกก็พยายามหาตัวผู้ที่มีพลังของออบคลูรัสภายในตัว จึงหลอกครีเดนซ์ให้มาช่วยแกในการตามหาเพราะแกคิดว่าต้องเป็น หนึ่งในน้องของครีเดนซ์ แต่แกก็คิดผิดเพราะตัวครีเดนซ์นั่นแหละที่เป็นออบคลูเรียส



แต่ก่อนหน้านั้นแกก็ได้พบกับ นิวท์ สคาร์เมนเดอร์ที่เดินทางมา ยูเอสเอและเกิดเหตุการ หลายๆอย่างขึ้น(ผมขี้เกียจพิมพ์เพราะมันมีอยู่ในเนื้อหาของหนัง)และเกรฟก็พบกับออบคลูรัสที่ถูกแยกออกจากกระเป๋าของนิวท์ แต่โดนนิวท์สวนกลับมาว่ามันแค่ของไร้ประโยชน์และแซะเกรฟเล็กน้อยเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริง ซึ่งตอนหลังนั้นแกก็ถูกเปิดโปรงในที่สุด แต่ก็มีฉากเท่ๆที่แกเดินตรงดิ่งเข้ามาหาพวกมือปราบมารระดับท็อปของยูเอส อย่างเหนือชั้น แม้ตัวคนเดียวแต่พี่แกก็เสกคาถาไล่ต้อนทีละคนทีละคนเรื่อยๆ จนรัฐมนตรีถึงกับหน้าถอดสีเลยทีเดียว




แต่ก็โดยนิวท์แอบจัดการโดยใช้สัตว์วิเศษจับกุมไว้ได้และตัวตนที่แท้จริงก็โดนเปิดเผยในที่สุด



และก็ไม่ใช่ใครที่ไหน กัปตัน แจ็ค สแปร์โร่วนั่นเอง


นั่นคือ เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์





และหลังจากโดนจับอยู่ที่คุกของมาคูซ่ากระทรวงเวทย์มนต์USA แกก็สามารถหนีออกมาได้โดยง่ายๆอย่างที่แกเคยโม้ว่าคุกขังเขาไม่ได้หรอก





เมื่อออกจากคุกมาได้ กรินเดลวัลด์เริ่มจะหาพักพวกที่มีอุดมการณ์เดียวกับตนทั่วโลกยกเว้นอังกฤษ(เพราะมีอัลบัส)



สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของแกไม่ใช่แค่พลังเพียงอย่างเดียว แต่จุดเด่นจริงๆคือการพูดโน้มน้าวใจให้คนคล้อยตามนี่แหละและสำเร็จซะด้วย





มีพ่อมดแม่มดติดตามแกเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่วนคนที่ปฎิเสธก็ต้องเจอกับจุดจบ





หลังจากมีพรรคพวกเพิ่มขึ้นและออกคุกคามโลกเวทมนตร์มากขึ้นเรื่อย ๆ ก็ถึงจุดที่
อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ไม่สามารถทนนิ่งเฉยและต้องออกไปปราบเขาให้จงได้
(ในส่วนนี้ตอนแรกที่อัลบัสไม่ออกตัวเองเพราะทำอาจจะเป็นปฎิญาณไม่คืนคำว่าจะไม่สู้กันเองกับกรินเดวัลแค่ ในส่วนนี้ นิวส์ สคราเมนเดอร์ก็ปลดล็อคเอาของที่อาจจะทำให้อัลบัสสามารถมาสู้กับกินดี้ได้อีกครั้ง)

ซึ่งถือเป็นสิ่งที่เขาควรทำมานาน แต่เพราะติดเงื่อนไขตามที่กล่าวไป ท้ายสุดการเผชิญหน้ากับกรินเดลวัลด์ก็ได้มาถึง การประลองเวทย์ระหว่างสองพ่อมดที่ยิ่งใหญ่จึงเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1945 และอัลบัสก็ชนะไปได้ ทั้งที่กรินเดลวัลด์มีไม่กายสิทธิ์เอลเดอร์ 1ใน3เครื่องรางยมทูต ในตรงนี้ไม่รู้ว่าการต่อสู้เป็นรูปแบบไหนคำตอบก็คงจะอยู่ในหนังแฟนตาสติคบีสต์ภาคสุดท้ายนั้นแหละผมว่า



ส่วนกรินเดลวัลด์นั้น เลือกจะจองจำตัวเองในคุกนูเมนการ์ดที่เขาสร้างขึ้นเอง จนวาระสุดท้ายของชีวิต



ป.ล.ทีผมให้แกเหนือโวลเดอมอร์เพราะว่า กรินเดลวัลด์นั้นรู้จักที่จะแฝงตัวไปในการทำภารกิจต่างๆ แทรกซึม ปั่นป่วนก็ก่อความวุ่นวายจากภายใน มีวาทะเป็นเลิศชักจูงเหล่าผู้วิเศษมาอยู่กับแกอย่างเต็มใจได้ ซึ่งตรงนี้แหละที่ผมให้แกหน้ากลัวว่าโวลดีที่ใช้ใช้แต่ความกลัวอย่างเดียวควบคุมผู้ภักดี ซึ่งโวลเดอมอร์ที่แกเลือกที่จะเปิดเผยโดยตรงไปเลย ถ้าเป็นในชีวิตจริงสำหรับผมคนแบบกรินเดลวัลด์นั้นน่ากลัวว่า เพียงแต่โวลดี้มันมีฮอร์ครักซ์ช่วยเสริมทำให้จัดการยากกว่าก็เท่านั้น ถ้าวัดกันด้านเวทย์มนต์อย่างเดียว กรินเดลวัลด์คงเหนือกว่า
เพราะพี่แกมีทักษะในการต่อสู้ขั้นสูงมาก เห็นชัดๆก็ตอนปลอมเป็นเกรฟไล่อัดมือปราบมารเป็นเด็กไปเลย รวมถึงเสกคาถาจัดการผู้ไม่เห็นด้วยที่ออกในภาค2 ยิ่งเป็นเครื่องยืนยันได้ดีขึ้นไปอีกว่าแกสุดยอดจริง


แถมสามารถหายตัวได้ด้วยคาถา โดยที่ไม่ต้องใช้ผ้าคลุมล่องหนเลยด้วยซ้ำ ใช้มือเปล่าเสกคาถา และยังสามารถปิดกั้นจิตไม่ให้พ่อมดแม่มดเข้ามาล้วงเอาข้อมูล หรือควบคุมจิตใจของเขา ซึ่งถือเป็นศาสตร์ขั้นสูงที่สืบทอดมาตั้งแต่สมัยยุคกลางเลยทีเดียว




และก็มาถึงอันดับ1จนได้ไม่ใช่ใครที่ไหนพ่อมดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลาดกาล

1.Albus Percival Wulfric Brian Dumbledore






สำหรับอันดับนี้คงเป็นคนอื่นไปไม่ได้ นอกจาก อัลบัสเพอซิวาลวูลฟริกไบรอันดัมเบิลดอร์
ตัวอัลบัสนั้นเป็นหนึ่งในพ่อมดที่เป็นHarf Bloodเลือดผสมนั่นเอง ดัมเบิ้ลดอร์มีน้องชายกับน้องสาวอย่างละคน นั้นก็คือ อาเบอร์ฟอร์ธกับแอรีแอนนา ในวัยเด็กนั้นเต็มไปด้วยเรื่องราวโศกนาฏกรรม เกี่ยวกับน้องสาวของเธอที่โดนมักเกิ้ลทำร้าย จนเธอไม่กลัวการใช้เวทย์มนต์เป็นอย่างมาก(ตรงนี้นั้นสำหรับพ่อมดแม่มดที่มีเวทย์มนต์แต่เก็บกดไม่กล้าใช้ ไม่ได้รับการฝึกสอนการใช้เวทย์มนต์จะรู้สึกกดดัน จะทำให้เวทมนต์ย้อนเข้าตัว จนกลายเป็นออบคลูเรียสตามที่นิวท์กล่าวไว้ในหนังแฟนตาสติกฯ)และรู้สึกว่าหลังจากนั้นพ่อของแก ได้ตามหามักเกิ้ลทั้งสาม และทำร้ายพวกนั้นทั้งหมดทำให้ต้องไปอยู่อัซคาบัน
แม่ของแกเลยตัดสินใจนำลูกๆย้ายไปอยู่ที่ ก็อดดริก ฮอลโล่ซึ่งถือเป็นบ้านเกิดของหนึ่งในสี่ผู้ตั้งฮอร์กวอร์ต
Godric Gryffindor
godrichollow


และหลังจากนั้นอัลบัสก็ได้เข้าเรียนที่ฮอร์กวอร์ต โดยที่เข้าถูกคัดสรรไปอยู่บ้านกริฟฟินดอร์ ช่วงแรกๆนั้นก็มักจะโดนนินทาเกี่ยวกับเรื่องพ่อของเขา แต่คำนินทาต่างๆนั้นได้หายไปเพราะว่าเขากลายเป็นนักเรียนที่เก่งที่สุดเท่าที่มีมา ของบ้านกริฟฟินดอร์หรืออาจจะของโรงเรียนเลยก็ว่าได้ และแกก็ได้รู้จักคนดังมากมาย เช่น นิโคลัส แฟลมเมล นักเล่นแร่แปรธาตุผู้ครอบครองศิลาอาถรรพ์ บาธิลดา แบ็กช็อต นักประวัติศาสตร์เวทมนตร์ กริเซลด้า มาร์ชแบงส์ สมาชิกอาวุโสของสภาพ่อมดแม่มดและเพื่อนสนิทของเขาในตอนนั้นก็คือเอลฟายอัส โดจที่ต่อมารู้สึกว่าแกจะได้เป็น ที่ปรึกษาพิเศษของศาลวิเซ็นกาม็อต
นี่คือรูปของโดจ
และตารประจำบ้านกริฟฟินดอร์




และหลังจากนั้นพอจบการศึกษาแล้วอัลบัสก็ได้รู้จักกับกริตเลิร์ต กริลเดลวัลด์
(ข้อมูลส่วนนี้ผมใส่ไว้ในข้อมูลของอันดับ1.5แล้วนะครับ)ซึ่งทั้งคู่นั้นได้ภายอะไรหลายๆอย่างมาด้วยกันไม่ว่าเรื่องดีหรือร้าย

แต่สุดท้ายเมื่อก กรินเดลวัลด์เริ่มที่จะใช้วิธีการรุนแรงมากขึ้น อัลบัสจึงต้องออกโรงมาจัดการด้วยตัวของแกเอง และก็เอาชนะไปได้ทั้งๆที่กรินเดลวัลด์มีไม้เอลเดอร์อยู่ในมือ และการต่อสู้ในครั้งนี้ก็ได้ถูกจดจำไปในหน้าประวัติศาสตร์ของโลกเวทย์มนต์ และอัลบัสยังได้รับเหรียญตราเมอร์ลินขั้น1อีกด้วย
(ในส่วนนี้ผมคิดได้2กรณีคือ1แกแพ้เพราะอัลบัสเหนือกว่า2.แกแพ้เพราะอาจจะรู้สึกผิดขึ้นมาจริงๆหรืออาจจะช่วงเวลาเล็กน้อยที่แว็บมาในหัวเลยทำให้แพ้ไปในส่วนตรงนี้ต้องรอดูในแฟนตาสติกฯต่อไป)และอีกอย่างทั้งคู่นั้นถือได้ว่ามีฝีมือทัดเทียมกันเลยก็ว่าได้ เพราะมีพ่อมดแม่มดไม่กี่หนที่สามรถ หายตัวโดยไม่ใช้ผ้าคลุมหรือสามารถใช้มือเปล่าเสกคาถาขึ้นมา ล้วนแล้วแต่เป็นศาสตร์ขั้นสูงที่ยากมาก

อันนี้เป็นตอนกริลเดลวัลด์ในร่างเกรฟใช้มือร่ายคาถา



ในเวลาต่อมานั้นอัลบัสที่เป็นครูสอนวิชาแปลงกายรวมถึงวิชาป้องกนตัวจากศาสตร์มืดในตอนนั้น ได้รับข้อเสนอเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเวทย์มนต์หลายต่อหลายครั้ง แต่แกก็ปฏิเสธทุกครั้งไป และยังทำหน้าที่อาจารย์ต่อไป


ต่อมาแกจึงได้ชักชวนเด็กหนุ่มคนหนึ่งให้เข้ามาเรียนที่ฮอร์กวอร์ต ชื่อของเด็กคนนั้นคือ ทอม มาร์โวโร่ ริดเดิ้ล โดยที่ตัวแกตอนนั้นไม่รู้เลยว่าเด็กคนนี้ต่อมานั้นจะกลายเป็นเจ้าแห่งศาสตร์มืดคนต่อมาหลังกรินเดลวัลด์ เพราะหลังทอมจบการศึกษานั้นแกก็กะที่จะเข้ามาเป็นอาจารย์วิชา การป้องกันตัวจากศาสตร์มืดซึ่งรู้สึกว่าทอมจะเข้าไปหาอาจารย์ดิพพิตเป็นคนแรกมั้งมั้ง แต่อัลบัสก็คัดค้านและดิพพิตจึงบอกทอมไปว่าพึ่งจะ อายุ18เด็กเกินไป และต่อมาทอมก็จะมาสมัครอีกก็โดนขัดขวางโดยอัลบัสนี่แหละ เพราะแกรู้ถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงของทอม(ตรงนี้อ่านเนื้อหาอันดับ2จะมีข้อมูลมากกว่านะครับ)
ต่อมาภายหลังแกจึงได้ขึ้นเป็นอาจารย์ใหญ่ของฮอร์กวอร์ตในที่สุด



ต่อมาในปี ค.ศ. 1970 โวลเดอร์มอร์ได้เรืองอำนาจอย่างสุดขีด รวบรวมสมัครพรรคพวก(ลูกน้อง)หรือพวกผู้เสพความตายนั้นแหละ เพื่อที่จะครอบครองโลกเวทย์มนต์รวมไปถึงโลกของมักเกิ้ลด้วย ดังนั้นอัลบัสถือเป็นกำลังหลักเลย ในการรวบรวมเหล่ากลุ่มคนที่มีความคิดต่อด้านโวลดี้ขึ้นมา
นั่นก็คือกลุ่มภาคีนกฟินิกส์



และจากการที่ทั้งกลุ่มเข้าต่อสู้กันนั้น เรียกได้ว่าเป็นสงครามโลกเวทมนตร์ครั้งที่หนึ่ง ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ทำให้มีการสูญเสียกันสองฝั่ง ที่เด่นๆคือ แฟรงค์กับอลิต ลองบัตท่อมที่ถูกคำสาปกรีดแทงจนทำให้ทั้งสองเสียสติไปเลย และรวมถึงการตายของเจมส์และลิลี่ พอตเตอร์ด้วย ก่อนพวกพอตเตอร์จะตาย ดัมเบิลดอร์ได้ขอยืมผ้าคลุมล่องหนซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องรางยมทูตของเจมส์มาเก็บไว้เพื่อที่จะส่งตอให้แฮร์รี่ และเมื่อโวลเดอมอร์หมดอำนาจจากการถูกคาถาสะท้อนของลิลี่ ดัมเบิลดอร์จึงพาแฮร์รี่ไปอยู่บ้านของเวอร์นอนและเพ็ตทูเนีย เดอร์สลีย์ซึ่งเป็นลุงกับป้าของแฮร์รี่ และดัมเบิลดอร์ได้ร่ายคาถาคุ้มกันทำให้สายสัมพันธ์ในเลือดของแฮร์รี่คือเพ็ตทูเนียรับเขาไว้ในบ้านทำให้สามารถคุ้มครองแฮร์รี่ได้ ด้วยเวทมนตร์นี้ผูกมัดไว้ด้วยความรักทำให้เป็นที่น่าสะพรึงกลัวสำหรับโวลเดอมอร์




และต่อมาแฮร์รี่ก็ได้เข้ามาเรียนที่ฮอร์กวอร์ต และอัลบัสก็คอยชี้ทางและช่วยเหลือแฮร์รี่จากภยันตรายต่างๆ จากคนใกล้ชิดของโวลเดอมอร์ เพราะเขารู้ดีว่าถึงจอมมารจะจากไปแล้วในตอนนั้น แต่ก็ไม่ได้หายไปตลอดกาลและต้องกลับมาอีกแน่นอน อีกทั้งยังมีผู้ที่ภักดีกับโวลดี้อีกมากมาย ซึ่งทำให้แฮร์รี่อาจมีอันตรายได้ และในที่สุดจอมมารก็กลับมาเรืองอำนาจอีกครั้งนึง จึงทำให้ต้องรวบรวมกลุ่มภาคีขึ้นมาอีกครั้ง และการที่จอมมารกลับมาในตอนแรกนั้น รัฐมนตรีกระทรวงเวทย์มนต์ขณะนั้น คลอนีเลียส ฟัจด์ ไม่เชื่อและคิดว่าอัลบัสต้องการแย่งตำแหน่งของแก แต่ในที่สุดแล้ว การต่อสู้ที่กองปริศนาระหว่างทั้งสองกลุ่มภายในกระทรวงเวทย์มนต์ อัลบัสก็ออกโรงมาไล่ต้อนจนพวกผู้เสพความตายต่างพากันหนีเอาตัวรอด ตรงนี้แสดงให้เห็นถึงความน่าเกรงขามของอัลบัสได้อย่างดี



เมื่อลูกน้องถอยไป โวลเดอร์มอร์ก็ปรากฏตัวออกมาต่อสู้กับอัลบัสอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน
(ในส่วนของหนังผมขัดใจมากเลยที่ทำให้ดูเหมือนว่าโวลดี้เหนือกว่า ทั้งที่ในหนังสือนั้นเขียนไว้ค่อนข้างชัดเจนว่า อัลบัสเป็นต่ออยู่พอสมควร)
หลังจากพวกมือปราบมารและฟัจด์มาถึงโวลดี้ก็แยกตัวกลับไป



และหลังจากนั้นพอแกได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับฮอร์ครักซ์ที่โวลดี้สร้างขึ้น แกก็พาแฮร์รี่ออกตามหา และแกมีสิทธิพิเศษที่สามารถใช้คาถาหายตัวไปยังที่อื่นได้โดยไม่ผิดกฏ
(คาถาที่เคลื่อนที่ไปยังที่อื่นอะครับผมไม่มั่นใจว่าควรเขียนยังไง)และไปยังที่ที่เก็บล็อกเก็ตสลิธิลีน(ปลอม)ในถ้ำหลังจากเก็บมันมาได้แล้ว แกกับแฮร์รี่ก็กลับมายังหอดูดาว
แต่เมื่อมาถึงได้ซักพัก เดรโกได้พาพวกผู้เสพความตายมายังฮอร์กวอร์ตแล้ว



และนั่นก็มาถึงจุดจบของพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ ตามแผนที่แกวางไว้กับสเนป



ที่ผมยกให้แกเป็นอันดับ1ก็เพราะว่า เจ้าแห่งศาสตร์มืดทั้งสองคนนั้น ต่างก็เกรงกลัวอัลบัสทั้งคู่ อย่างกรินเดลวัลด์แกไปขยายอิทธิพลทั่วยุโรปรวมถึงยูเอสเอสแต่ไม่กล้ามาอังกฤษเพราะมีอัลบัสอยู่ ส่วนโวลดี้ถึงแม้จะกล้าเปิดเผยการกระทำอันโหดเหี้ยมต่างๆในหลายๆที่
แต่กลับไม่กล้าบุกไปฮอร์กวอร์ตในตอนอัลบัสมีชีวิตอยู่ ตรงนี้ก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ยืนยันถึงความเก่งกาจของอัลบัส เพอซิวาล วูลฟริก ไบรอัน ดัมเบิลดอร์


อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ เรียบเรียงจากข้อมูลอันเก่าแล้วมาดัดแปลงเล็กน้อย
ผิดพลาดตรงไหนติชมได้เต็มที่ครับ
ป.ล.ที่จริงกรินเดลวัลด์ผมไม่ได้อยากจะใส่มาเพราะถือว่าอยู่อีกเรื่องนึงของจักวารนี้ แต่ถึงยังไงแกก็เคยโผล่มาบวกด้วยความชอบส่วนตัวเลยใส่มาด้วย


แก้ไขล่าสุดโดย เป็นความลับ เมื่อ Mon Jun 29, 2020 21:30, ทั้งหมด 2 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ

ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 07 Mar 2009
ตอบ: 12060
ที่อยู่: เป็นกลางจ้า ไม่ได้เชียร์ทีมไหนพิเศษ
โพสเมื่อ: Tue Jun 04, 2019 20:56
[RE: 10อันดับพ่อมดแม่มดที่มีฝีมือสูงในยุคHarrryPart2]
ถ้าเรื่องนี้สร้างเป็น Series 5 Season
น่าจะเป็น NO1 เหนือ GOT+Breaking Bad แน่นอน
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
โค้ช T-License
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Mar 2019
ตอบ: 25177
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Jun 04, 2019 21:03
[RE: 10อันดับพ่อมดแม่มดที่มีฝีมือสูงในยุคHarrryPart2]
เดาถูกเกือบหมด ยกเว้น มักกอนนากัล ผมว่ามักกอนนากัล น่าจะพอๆกับ สเนป หรือ เก่งกว่านะ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออนไลน์
แข้งเจลีก
Status: The Blues Chelsea
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2017
ตอบ: 7602
ที่อยู่: Stamford Bridge
โพสเมื่อ: Tue Jun 04, 2019 21:22
[RE: 10อันดับพ่อมดแม่มดที่มีฝีมือสูงในยุคHarrryPart2]
ขอบคุณครับ อ่านเพลินๆ เลย
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งบุนเดสลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 29 Apr 2010
ตอบ: 8007
ที่อยู่: อยู่ในจินตนาการอยู่ในฝํนฉันข้างใน
โพสเมื่อ: Tue Jun 04, 2019 21:45
[RE: 10อันดับพ่อมดแม่มดที่มีฝีมือสูงในยุคHarrryPart2]
1. ดับเบิลดอร์
2. โวลดี้ ในหนังสือย้ำตลอดยิ่งใหญ่สุดเท่าที่เคยมีพ่อมดฝ่ายมืดมา
3. กรินเดอร์วัล
4. สเนป
5. แม็ดอาย
6. ชักเคิลโบว์
7. บาร์ตี้ เคร้าช์
8. เบลลาทริกซ์
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 May 2009
ตอบ: 1732
ที่อยู่: STOCKPHOTO
โพสเมื่อ: Wed Jun 05, 2019 12:39
[RE: 10อันดับพ่อมดแม่มดที่มีฝีมือสูงในยุคHarrryPart2]
ผมว่า 1 เนี่ย มีสองคน คือดับเบิ้ลดอร์ กับ กรินเดอร์วาล แต่กรินเดอวาลแพ้นะจะมีเหตุนิดหน่อย

ปล.วอเดอร์มอลไม่น่าเก่งกว่า กรินเดอวาลนะ แต่มันหาทางให้ตัวเองหลายชีวิตได้เฉยๆ
คนนึงด้านมืด สร้างความตื่นตะหนกให้โลกเวทมนต์ แต่อีกคนนี่ทั้งโลกเวทมนต์ โลกจริงเลย
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบจ.
Status: สัพเพ ธัมมา นาลัง อภินิเวสายะ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Sep 2018
ตอบ: 1882
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jun 05, 2019 12:54
[RE: 10อันดับพ่อมดแม่มดที่มีฝีมือสูงในยุคHarrryPart2]
ดับเบิ้ลดอร์ อันดับ1ครับส่วนตัว คิดดูถ้าแกเข้าสู่ด้านมืดมันจะขนาดใหนวางแผนก้อเก่ง ดึงคนก้อดี คงไล่ฆ่าคนเป็นว่าเล่นแน่ๆ ช่วงหนึ่งแกมีทั้งผ้าคลุมล่องหน ไม้กายสิทธิ์เอลเดอรื เเละศิลาอาถรรพ์ ใครจะไปสู้
แก้ไขล่าสุดโดย wiliiver เมื่อ Wed Jun 05, 2019 12:55, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel