ส่วนตัวผมเป็นคนที่ข้างนอกดูเงียบๆ หยิ่งๆ แต่ถ้าสนิทจะเป็นกันเองมาก บางทีก็ไม่ได้อยากเป็นคนเงียบๆเลย แต่ก่อนนี้เป็นคนที่มีอะไรก็พูดเลยมากกว่า พูดน้อย ต่อยหนักเลยทีเดียว

ไม่ได้แอนตี้นะครับ แต่ส่วนตัวผมไม่ชอบแนวคิดนี้
หลายๆคนรอบตัวผม พยายามมม เหลือเกินน ที่อยากจะสร้าง
คอนเน็คชั่น หวังสบาย หวังทำอะไร โอ้ยรู้จักคนนู้นคนนี้ หวังพึ่งคนอื่นตลอดเวลา เพราะไอ้คำว่า สร้างง คอนเน็คชั่น

ส่วนตัวผม มีแนวคิดว่า ต้องพึ่งตัวเองก่อน ถ้าเราทำให้คนอื่น อยากมีคอนเน็คชั่นกับเราได้ นั่นสิของจริง .. จริงไหมล่ะ

ถ้าคุณมีดีอ่ะ ทุกวงการแหละ ใครก็อยากรู้จักคุณ

ไม่ได้แอนตี้นะครับ แต่ส่วนตัวผมไม่ชอบแนวคิดนี้
หลายๆคนรอบตัวผม พยายามมม เหลือเกินน ที่อยากจะสร้าง
คอนเน็คชั่น หวังสบาย หวังทำอะไร โอ้ยรู้จักคนนู้นคนนี้ หวังพึ่งคนอื่นตลอดเวลา เพราะไอ้คำว่า สร้างง คอนเน็คชั่น

ส่วนตัวผม มีแนวคิดว่า ต้องพึ่งตัวเองก่อน ถ้าเราทำให้คนอื่น อยากมีคอนเน็คชั่นกับเราได้ นั่นสิของจริง .. จริงไหมล่ะ

ถ้าคุณมีดีอ่ะ ทุกวงการแหละ ใครก็อยากรู้จักคุณ

เพื่อนร่วมงาน เพื่อนสมัยเรียน แจกวาปในSS

ของผมแค่ก็คุยงานไปเรื่อยๆ ครับ เดี๋ยวบทมันจะมามันมาเอง จากเมื่อก่อนผมไม่ค่อยคุยมากเท่าไหร่ เดี๋ยวนี้แทบอยากเลิกคุยละครับ

คอนเนคชั่นที่ดี คือจากการที่เราต้องมีของก่อน ต้องมีอะไรดี แล้วนำไปให้คนอื่น แชร์คนอื่น คนอื่นก็จะแลกเปลี่ยนของกัน ถ้าเรามัวแต่ขอ ไม่เคยให้คนอื่นเลย เขาจะให้เราเพียงครั้งเดียวครับ

ผมก็ทำงานของผมให้ดีที่สุดน่ะแหละครับ ทั้งในทางเทคนิคและพวก soft skills ต่างๆ แต่มาจากทัศนคติคือทำงานของเราให้ดีที่สุดและให้มันไปตลอดรอดฝั่ง ผมพร้อมทำงานให้มากกว่าที่ได้รับมอบหมายเสมอ

ระหว่างทางก็ได้รู้จักคนรู้จักอะไร แล้วเดี๋ยวจังหวะกับโอกาสก็มาเอง เคสของผมก็บังเอิญมีผู้ใหญ่โทรมาคุยกับหัวหน้าเก่าผมเพื่อที่จะหาคนไปทำงาน แกก็เลยส่งผมไป

พอไปถึงที่ใหม่ก็ทำแบบเดิมน่ะแหละครับ ใครอยากให้ทำอะไรถ้าไม่ได้ไปก้าวก่ายหน้าที่คนอื่นผมทำได้หมด ตั้งแต่งานเทคนิคอลที่เป็นงานหลัก จนงานพรีเซนต์ เข้าประชุม รีวิวโครงการและปรับแก้เป็นบางครั้ง ติดต่อพวกหน่วยงานจากต่างประเทศเพื่อจัดงานเวิร์คชอป สัมมนาก็ทำ ยังมีอีกมากนะเกินหน้าที่แต่ส่วนใหญ่ผมได้หมดคือเกิน 100% จริงๆสำหรับผม

สรุปคือผมก็ไม่รู้วิธีที่ต้องดิ่งเข้าไปทำความรู้จักเป็นคนๆหรอกครับ ผมจะเป็นทำนอง connect the dots มากกว่า ส่วนใหญ่ก็เริ่มจากทำงานเราให้เต็มที่ภายใต้หัวหน้าดีๆ แล้วก็จังหวะ+โอกาสน่ะแหละ บางทีที่เราทำไปอาจจะไม่ได้อะไรกลับมาก็ได้แต่อย่าไปสนใจ

เป็นคำตอบที่ดีมากเลยครับ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ ตัวผมเองก็คงจะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด พยายามสร้างโอกาส เก็บเกี่ยวประสบการณ์ครับ

สมัยเรียนเป็นคนไม่ค่อยสุงสิงเท่าไรครับ ที่ทำงานก็มีสนิทกว่าตอนเรียนอีก เมากันตลอด

ใช่ครับ ยังไงคือต้องพึ่งตัวเอง นี่แหละสำคัญ แต่ความหมายของผมคือ เพื่อนฝูงหรือมิตรภาพ ถ้าการที่จะทำให้เราก้าวหน้าอย่างเร็วในทางลัด ผมขออยู่จุดเดิมและไม่เด่นนอกหน้าดีกว่า

คุยเรื่องบอลครับ การเจอคนที่รู้เรื่องบอล มันคุยได้เรื่อยๆ มีเรื่องคุย ส่วนมากจะเล่น pes หรือ fifa ด้วย การเล่นเกมบอลด้วยกัน จะรู้ลักษณะนิสัยจากการคุยด้วย

ถ้าผู้หญิง สร้างคอนเนคชั่นจากทานข้าวด้วยกันนี่แหละ ทานข้าวด้วยกันบ่อยๆจะสนิทกันได้เอง

สำหรับเหล้ากินด้วยกันมันก็สนิทกันไวนะ แต่ด้วยอายุที่เยอะส่วนมาก ผมก็เลี้ยงนานๆที(รุ่นน้อง&เด็กเข้าใหม่)

ไปไหนมาไหนซื้อของฝากเล็กๆน้อยๆมาฝากเพื่อนร่วมงาน

คอนเน็คชั่นในงาน

เรามีของที่เขาต้องการ เขามีของที่เราต้องการ

นั่นคือคุยกันได้

ตอนนี้ผมอายุยังไม่มาก Connection ประสบการณ์ชีวิตยังไม่มากมาย

แต่มีสิ่งที่ผมอยากจะบอกคุณก็คือเราไม่รู้หรอกว่าโอกาสมันจะมาตอนไหน
แต่มักจะมาหาคุณในรูปแบบได้รู้จักคนๆ นึงเสมอ

ไม่ว่าใครที่คุณคุยด้วยในวันนี้ พรุ่งนี้คนที่คุณอาจจะบังเอิญได้เจอ ไม่ว่าอะไรก็ตาม
โอกาสมันมักจะมาหาเราโดยไม่รู้ตัว คุณต้องเป็นตัวของตัวเองเสมอ
เคารพตัวคุณเอง และเคารพกับคนที่เข้ามาในชีวิต ให้เกียรติทุกคน

แต่จำไว้ว่าอย่าไปคาดหวังกับสิ่งที่คุณทำไป
ว่าคุณจะต้องได้รับผลตอบแทนกลับมาเสมอ

บางทีมันอาจจะไม่มีอะไรหรือแค่ไม่ใช่วันนี้ แต่อาจจะมีผลในอนาคตต่อๆ ไป
ทำทุกวันให้ดีที่สุดก็พอครับ

ขอให้โชคดีครับ

ผมเป็นแบบนี้เลย แต่ผมเป็นคนที่เงียบๆ สมัยเด็กๆนี่เป็นคนกวนและปากหมามาก มีอะไรพูดตรงๆเลย แต่โตขึ้นก็พยายามระวังคำพูด อันไหนที่ไม่ดีก็ไม่เอามาพูดเลย กลายเป็นคนเกรงใจหรือกลัวการพูดต่อหน้าด้วยซ้ำเวลามีปัญหา

ส่วนมากรู้จักกันเพราะงานล้วนๆครับ คือต้องเคยทำงานมาด้วยกันมาก่อนนี่แหละ อาจจะเป็นเพื่อนร่วมงานเก่าๆ หรือทีมงาน outsource ที่ทำงานด้วยกันพวกนี้ ,โดยมากคนไหนที่ทำงานดี มีทัศนคติที่ดีคุยกันแล้วถูกคอก็จะเริ่มสนิทกันเองแหละครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราเองก็ต้องเป็นคนมีของด้วยนะไม่ใช่ทำตัวกากๆกะโหลกกะลาไม่งั้นคนพวกนี้เขาก็คงไม่อยากจะมาสนิทกับเราหรอก , ส่วนมากก็จะมาจากคนเคยร่วมงานกันนี่แหละครับ พอแยกย้ายกันไปต่างคนต่างเติบโตในหน้าที่การงานมันก็เลยกลายเป็น Connectionระหว่างบริษัทกันไป คนนี้ไปเป็นผู้บริหารที่นั่น อีกคนไปเป็นleadอีกที่ อะไรราวๆนี้ ,แต่ไม่เคยไปขอให้เขาใช้เส้นทำอะไรให้เราได้ประโยชน์นะ ส่วนมากจะเป็นแบบ ให้ช่วยเช็คประวัติคนให้หน่อยว่าที่ทำงานเก่าเป็นยังไง หรือบางทีก็โทรไปปรึกษาปัญหาที่เจอขอคำแนะนำ เขาก็จะให้คำแนะนำจากประสบการณ์ที่เขาเจอมาก่อนกับที่ทำงานเขา ซึ่งโดยมากมันก็เป็นพวกข้อมูล Insideของบ.เขาที่เขามาแชร์ให้ฟังมาเขาเจอมาแบบนี้ เขาจัดการมันยังไงได้บ้าง อะไรราวๆนี้

คอนเนคชั่นผมมาจากตอนทำงาน ดีลงาน ลงคอร์ส เพื่อนที่เรียนด้วยกัน

ปล. ลงคอร์สต่างๆอาจได้ทั้งคอนเนคชั่นและเมีย