พอดีนั่งย้อนดูคลิปเก่าๆของทีม ผมมานั่งคิดๆดู ผมว่าแมนยูชุดนี้อะ
เอาจริงๆอาจจะเป็นชุดที่ดีที่สุดเลยนะ ถ้าไม่ติดว่าโชคร้ายไปหน่อยอะ
ไม่งั้นอาจจะเป็นแมนยูชุดต่างดาวเลยก็ได้ เพราะเกือบได้ทุกถ้วยเลยนะ
อย่างถ้วยแรกพรีเมียร์ลีค โอเคแหละมาตราฐานเซอร์ตบเด็ก มาตราฐานสม่ำเสมอ
แถมเป็นปีที่กองหลังโคตรเทพ ไม่แพ้ยุคมูมาใหม่ๆเลย
คลีนชีตติดต่อกัน 14นัดติด
แถมได้คลีนชีตไปทั้งหมด 24นัด (สถิติ EPL คือ 25นัด ของเชลซียุคมูนั่นแหละ)
สถิติทั้งหมดของฤดูกาลนั้น 38นัด ชนะ28นัด เสมอ6นัด แพ้4นัด ยิง78 เสีย 24 ได้90แต้ม
ถ้าเทียบกับยุคนี้ คะแนนเท่านี้อาจจะไม่ได้แชมป์แหละ แต่ยุคนั้นคะแนนเท่านี้คือโคตรเทพละ
หลักๆยุคนั้นทีมมันแน่นอะ แทคติคเซอร์อีก ชนะไม่ค่อยขาดแต่ชัวร์ ถ้าใครดูจะเห็นว่า
ชนะแบบ 1-0, 2-0 เยอะมาก ยิงไม่ค่อยเยอะ แต่ไม่เสีย คือเกมส์รับดี อาจมีเละบางนัด
แต่มาตราฐานทั้งฤดูกาลคือมันดีแหละ
ปีนั้นชนะห่างลูกเดียวไปถึง 16 นัด
การปิดเกมส์ในปีนั้นค่อนข้างดี นำแล้วไม่ค่อยเสียเท่าไหร่
สถิติเล็กๆน้อยๆคือปีนั้นเป็นปีที่วิดิชค่อนข้างฟิต ลงตัวจริงไปถึง 33นัด
จุดที่น่าสนใจคือ
คลีนชีตทั้งหมด 24นัด ใน23นัดนั้นวิดิชลงตัวจริงทั้งหมด
แต่อีกนัดนึงมันคือนัดสุดท้ายในลีค เฟอร์กี้ส่งสำรองลงหมด เพราะอีกสามวันให้หลัง
จะต้องไปแข่งนัดชิงกับบาซ่า แต่สำรองก็เก็บคลีนชีตไปได้เป็นนัดที่ 24
บ่งบอกได้อย่างดีว่า ปีนั้น คือปีที่โคตรพีคสำหรับวิดิชเรา
โดยในปีนั้นเอง เป็นปีที่ผลงานการเจอทีมใหญ่ก็ถือว่าไม่ค่อยดีเท่าไหร่
แต่นั่นแหละมาตราฐานเฟอร์กี้ ทีมเล็กเก็บหมด ทีมใหญ่พลาดบ้างไมเ่ป็นไร
ตอนนั้นยังเป็นท็อป 4อยู่ ผลงานการเจอกับลิเวอร์พูลนี้เละเทะเลย
บุกไปแพ้ 2-1 กลับมาเล่นในบ้านโดนยิงไป 4-1 เป็นจุดด่างพล้อยของวิดิชเลย
คือผลงานดีมาตลอด แต่พอเจอตอเรสนี่คือเละเทะเลย.....
ไม่ใช่แค่นั้นในลีคการไปเยือน อาเซนอลก็บุกไปพ่ายเค้าถึงถิ่น 2-1
แถมกลับมาเล่นในบ้านก็ไม่สามารถเอาชนะเค้าได้ โดยเสมอไป 0-0
แต่ผลงานที่ดีนัดเดียวเห็นจะเป็น นัดเปิดบ้านเอาชนะเชลซีไป 3-0
นั่นคือนัดเดียวที่ชนะท็อป4ในปีนั้น เพราะไปเยือนก็เสมอ 1-1
เรียกได้ว่าการเจอท็อป4ในปีนั้นแพ้ไป3 เสมอไป2 ชนะได้แค่นัดเดียวเท่านั้น
แต่ถ้าหากไม่นับผลงานกับการเจอท็อป4 ด้วยกัน แมนยูของเฟอร์กี้มาตราฐานคือแทบจะเก็บหมด
โดยผลงานที่ได้คือ ชนะ27นัด เสมอ4นัด และพลาดท่าแค่นัเดียวเท่านั้น เก็บแต้มจากทีมไม่ใช่บิ๊ก4
ไปได้เยอะพอสมควร ได้ไป 85 แต้ม เอาจริงๆแต้มแค่นี้บางปีก็เพียงพอเป็นแชมป์ละ ในยุคเก่า
ซึ่งถือว่ามาตราฐาน แมนยุเป็นแบบนั้นแหละนะ ในยุคของเฟอร์กี้ นัดที่ผมชอบก็มีประมาณนี้
นัดชนะสเปอร์ 5-2 หลังจากครึ่งแรกโดนนำไป2-0 ครึ่งหลังยิงรวดเดียว5ลูก
และนัดที่ขาดไม่ได้เลยคือชนะ แอสตันวิลล่า 3-2 มาเคด้าลงมายิง นึกว่าจะเกิดละแต่ก็ดับ
นัดที่ชนะ สโต๊ค 5-0 เวลเบ็คยิงอย่างสวย ปีนั้นก็ลงเยอะ นึกว่าจะเกิดเหมือนกัน แต่ก็นะ....
ละที่นึกออกอีกนัดคือชนะ ฮัลล์ซิตี้ 4-3 นัดนั้นฮัลล์โคตรใจสู้ โดนนำ 4-1 ยิงคืนมาได้ 4-3
ผลงานในลีคปีนั้นคือว่าเป็นมาตราฐานที่ดีสำหรับแมนยูนะ ที่
เก็บแต้มได้ถึง 90แต้ม
โดยเป็นปีที่แต้มเยอะเป็นอันดับที่ 2 ของเฟอร์กี้ตั้งแต่คุมทีมในพรีเมียร์ลีคมมา (นับแบบเตะ 38นัด)
โดยแต้มเยอะสุดที่แกทำได้คือปี 1999/00 ปีนั้นเก็บแต้มไปได้ 91 แต้ม
หากมาอยู่ในยุคนี้ แต้มขนาดนี้แม้งยังไม่พอเป็นแชมป์เลย เดือดเกินน
ถ้วยต่อมาที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ
FA CUP อย่างที่ผมบอกไป ปีนี้อาจจะเป็นปีที่ทีมแน่นมาก
ให้อารมณ์ลิเวอรืพูลปีนี้แหละ ผมว่าคล้ายๆกัน ปิดเกมส์ได้ ทีมเล็กเก็บหมด เล่นบอลดึงจังหวะดี
กลับมาที่ FA CUP ที่ผมจะพูดถึงคือ เราใกล้เคียงมากกับคำว่าได้แชมป์ในปีนั้น
อาจไม่ได้เข้าชิงแต่ผมว่า แอบโชคร้ายนิดๆ รวมถึงการจัดตัวด้วย เพราะบอลถ้วย เฟอร์กี้แก
ยังไงก็ส่งเด็กลงไปให้โอกาสอยู่แล้ว ผลงานถ้วยนั้นในปีนั้น
- ชนะ เซาธ์แธมปตัน 3-0
- ชนะ สเปอร์ 2-1
- ชนะ เดอร์บี้ 4-1
- ชนะ ฟูแล่ม 4-0
- เสมอเอฟเวอตัน 0-0 ยิงจุดโทษแพ้ ตกรอบรอง
ซึ่งเกมส์นั้นเอฟเวอร์ตันเองโอเคมาแบบใจสู้แหละ เล่นได้ดีพอสมควร
แต่แมนยูเองก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน ได้บุกก็มีพอสมควร ได้ยิงก็มี แต่ดันยิงไม่เข้า
เอาง่ายๆผมมองว่ายิงทิ้งยิงขว้างเยอะพอสมควร แต่ถ้าดูจากรายชื่อมันก็นะ....
นัดนั้นแม้จะมี วิดิชกับเฟอร์ดินานลงมาเล่นรวมถึงมีเตเบซมาเป็นตัวรุก
แต่คนอื่นก็ไม่ได้ชื่อชั้นห่างจากเอฟเวอตันเท่าไหร่ อย่างเวลเบ็ค มาเคด้า
กองกลางอย่างกิ๊บสัน แถมไม่มีโรนัลโด้ และรูนีย์ในเกมส์นั้น
เราก็ทำได้ดีที่สุดแล้วในแมตช์นั้นแต่ไม่คมกันเอง แถมยิงจุดโทษกันไม่ละเอียด
ก็ต้องไปจุดโทษตกรอบไป แต่ถ้าหากเข้าชิง เราก็จะไปเจอเชลซี
ซึ่งถ้ามองจริงๆปีนั้นเราก็ดูดีกว่าเชลซีพอสมควร ถ้าเข้าไปอาจจะแพ้ก็จริง
แต่ในตอนนั้น ความรู้สึกผมคือถ้าเข้าไปโอกาสชนะมันก็มีมากกว่า แต่ก็ตกรอบซะก่อน
อีกถ้วยนึงที่เราทำได้ดีเลยก็คือ
ถ้วยลีคคัพในสมัยนั้น ก็ตามสไตล์เราทะลุเข้ามาได้ถึงรอบชิง
ในปีนั้นชิงกับสเปอร์ กองหลังเกมส์รับเราก็ทำได้ดีตามมาตราฐาน แม้จะยิงไม่ได้
เสมอในเวลากันไป 0-0 แต่การยิงจุดโทษเราคมกว่า ทำให้เราได้แชมป์ไป
เป็น 1ถ้วยที่เราได้ในปีนั้น
มาถึงถ้วยต่อไป อย่าง
ถ้วยซุปเปอร์คัพ ถ้วยนี้เอาจริงๆไม่ค่อยมีอะไรจะพูด
แมตช์นั้นเล่นไม่ดีเอง และถ้าให้พูดถึงจุดด่างพล้อยของเฟอร์กี้
ผมว่าคือถ้วยนี้แหละ ได้เตะสองครั้งในปี 1999กับ2008 แต่แพ้ทั้งสองนัด
คือเฟอร์กี้แกไม่เคยได้ถ้วยนี้กับแมนยูเอาง่ายๆเลยตั้งแต่คุมมา 20กว่าปี
ปล.ปี 1999 เตะกับ ลาซิโอ้ ก็แพ้ไป 1-0 อดได้ถ้วยซุปเปอร์คัพ
ส่วนอันนี้ก็เป็นถ้วยที่ไม่มีอะไรเท่าไหร่ ไม่มีอะไรผิดพลาดกับถ้วยอย่าง
คอมมูนิตี้ชิลด์
แม้จะเจอพอร์ทสมัธ แต่ยุคนั้นเป็นทีมตัวป่วนเลยนะ นำโดยโค้ชอย่างคาเปลโล่
โดยในปี 2008 เราดันแพ้ พอร์ธสมัธตกรอบ FA CUP นี่แหละ
แต่ปีนี้มาเจอในบอลการกุศลก็เอาชนะจุดโทษไป หลังจากเสมอ 0-0ในเวลา
มาถึงอีกถ้วยนึงที่ไม่พูดไม่ได้เลยก็ถือ
ถ้วยสโมสรโลก
เพราะแมนยูยังเป็นทีมเดียวจากอังกฤาอยู่ที่เคยได้ถ้วยนี้ ลิเวอร์พูลกับเชลซี
เข้ามาแข่งถ้วยนี้ก็แพ้ไป เลยไม่ได้แชมป์ โดยในปีนั้นแมนยูไปชนกับ
กัมบะ โอซาก้าของญี่ปุ่น เอาชนะไปได้ 5-3 และเข้าไปชนะ ควีโต้จากเอกวาดอร์ 1-0
ได้แชมป์ไป บวกกับรูนีย์ทีไ่ด้ดาวซัลโวจากรายนี้ โดยยิงไป 3ลูกจากสองนัด
MANUTD 5-3 GAMBA OSAKA
MANUTD 1-0 L.D.U. QUITO
มาถึงถ้วยสุดท้ายที่น่าเจ็บใจที่สุดอย่าง
Uefa Champion League
ยอมรับตรงๆว่าปีนั้นผมก็คิดว่าจะป้องกันแชมป์ได้จากฟอร์มที่ผ่านมา
รวมไปถึงบาเซโลน่าเองที่เริ่มเป็นยุคต่างดาว ก็คือยังไม่นึกว่าจะเทพขนาดนั้น
และรอบรองที่ชนะเชลซีเข้ามาแบบมีปัญหาในนัดที่สองของรอบรอง
ผลงานในถ้วยนั้นของเราก็คือ เข้ามาเป็นที่1ของกลุ่ม โดยชนะ2เสมอ4 ไม่แพ้ใครเลย
โดยเส้นทางของรอบน็อคเอาท์คือ
ชนะอินเตอร์มิลานของมูริญโญ่ 2-0 นัดแรกบุกไปยันเสมอ และกลับมาชนะในบ้าน
เกมส์นี้เป็นอีกเกมส์ที่ตอนนั้นผมแอบหวั่น ด้วยชื่อชั้นของมูริญโญ่
ที่ยุคๆนั้นแมนยูไม่ค่อยจะเอาชนะทีมของแกได้เลย แถมมีสลาตันอีก
แต่ก็นั่นแหละ ปีนั้นป๋าแกก็มาเขี้ยวจริง ได้ประตูจากลูกโหม่งสุดสวยของพี่โด้ และวิดิช
รอบต่อมาที่เข้ามาเจอคือปอร์โต้ ชนะมาได้ 3-2 เราเสมอในบ้าน 2-2 และบุกไปชนะ 1-0
ผมคิดว่านัดที่บุกไปชนะ 1-0 ประตูสุดสวยจากโรนัลโด้ หลายๆคนคงชอบนัดนั้นพอสมควร
จากนัดแรกที่พลาดท่าไม่ควรเสียประตูดันเสียถึงสองลูกแบบน่าด่า อีแวนส์ที่ประกบตัวห่าง
รวมไปถึงการยืนตำแหน่งที่ค่อนข้างมั่วท้ายเกมส์ โดนไปเลย 2ลูก แต่ยังดี
นัดที่สอง พี่โด้กดสูตร ยิงไกลซะปอร์โต้หายเลย
มาถึงรอบรองชนะเลิศมาชนะกับอาเซนอล นัดแรกชนะไปได้ 1-0
โดยเกมส์นั้นทีมเรามีโอกาสยิงค่อนข้างเยอะ เยอะพอสมควร คือได้บอลหน้าเขตโทษก็ยิงละ
มีทั้งซุปเปอร์เซฟจากอัลมูเนีย รวมไปถึงลูกยิงชนคานของพี่โด้ ทำให้เกมส์นั้นได้มาแค่1ลูก
ส่วนเกมส์ต่อมาหลายๆคนคงจำได้ดี แม้ว่าจะไม่เคยดู แต่ต้องดูไฮไลท์
ลูกที่พี่โด้ยิงฟรีคิกสุดสวยเข้าไป แถมยังบุกไปเอาชนะได้ 3-1
แถมเกมส์สวนกลับนัดนั้นทำกันได้ดีมาก ปาร์คเองก็วิ่งสุดลงสุด ทันกับตัวรุก
คือเกมส์นั้นสุดจริง รับแน่นสวนโหด เทพสุด แต่เรื่องที่น่าผิดหวังคือ เทพเฟล็ทโดนใบแดง
หากใครได้ดูปีนั้นต้องยอมรับว่าเฟล็ทเชอร์ ทำให้กลางเราแน่นมาก พอโดนใบแดงนัดนั้น
ทำให้นัดชิงแกอดลง กลางเราฮวบลงไปเยอะพอสมควร
มาถึงนัดชิง ถึงแม้จะแพ้ไป 2-0 เฟล็ทเชอร์โดนใบแดง คาริคที่เล่นทั้งๆที่เจ็บ
แต่ก็นั่นแหละมันไม่ใช่ขออ้าง เพราะเราก็ยิงประตูไม่ได้ รวมไปถึงรักษาประตูไม่ได้
หลายๆคนบอกนัดนั้นโดนสอนบอล ผมว่ายังไม่ถึงขนาดนั้นอะ
ไอปี 2011 นั่นอะโดนบาซ่าสอนบอลของจริง โคตรเจ็บใจ แบบสู้ไม่ได้เลย
นัดนี้ยังมีโอกาสได้ต่อบอลเข้ามาบุก สวนกลับมาสวยๆก็มี ได้ยิงไกลอะไรก็มี
แต่เหมือนจะยิงทิ้งยิงขว้างไปซะเยอะ พี่โด้ก็บ้ายิงแถมกดสูตรไม่ติดอีก
แต่แนวรุกบาซ่ามันก็โหดอยู่แล้วอะ ลุยมาเค้าคมกว่า ต้องยอมรับ
สุดท้ายก็เลยแพ้ไปแบบ น่าเจ็บใจนิดๆ
สรุปผลงานในปีนั้น ที่ผมคิดส่วนตัวผมมองว่าชุดทีมนี้ค่อนข้างแน่น
เกมส์บุกอาจจะไม่ได้ยิงตู้มต้ามแบบปี 2008 หรือเนียนๆแบบปี 1999
แต่ผมมองว่าชุดนี้เล่นได้สมดุลที่สุดทั้งรุกรับ การปิดเกมส์ การเล่นแบบเพลย์เซฟ
ค่อนข้างทำได้ดีเลย แถมได้ลุ้นทุกถ้วยด้วย
พรีเมียร์ลีค - ได้แชมป์
เอฟเอคัพ - แพ้จุดโทษ เอฟเวอตัน ตกรอบรองชนะเลิศ
ลีคคัพ - ชนะจุดโทษสเปอร์ ได้แชมป์
คอมมูนิตี้ชิลด์ - ชนะจุดโทษพอร์ธสมัธได้แชมป์
ยูฟ่าซุปเปอร์คัพ - แพ้เซนิต 2-1
สโมสรโลก - ชนะควิโต้ 1-0 ได้แชมป์
ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีค - แพ้บาซ่า รอบชิง 2-0
นี่ก็สถิติเล็กๆน้อยจากทีมชุดปีนั้น
ยิงเยอะสุด - โรนัลโด้ ในลีค18ลูก, เอฟเอคัพ1ลูก, ลีคคัพ2ลูก, ชปล.4ลูก, สโมสรโลก1ลูก = 26ลูก
ลงเล่นเยอะที่สุด - วิดิช 55นัดในทุกรายการจากทั้งหมด 66นัดในปีนั้น
ในปีนั้นทุกรายทีมยิงไปทั้งหมด 119ลูก เสีย46 ลูก จากการลงเตะ 66นัดทุกรายการ
สถิติที่ดีที่สุด คลีนชีต 14นัดติดในลีคทุกรายการ
ชนะต่อเนื่อง11นัดในลีค
แม้จะไม่ได้ทุกถ้วย แต่ปีนั้นก็เป็นปีที่ใกล้เคียงที่สุดละ 1ในความทรงจำดีๆของแฟนผี
ภาพรวมของปีนั้นที่ผมชอบก็ประมาณนี้แหละครับ