คีนพลาดเป็นเรื่อง!วาร์ดี้ยิงตัดสินท๊อฟฟี่พ่ายจิ้งจอกคาบ้าน 1-0
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
ความผิดพลาดทำให้เอฟเวอร์ตันต้องน้ำตาตกใน เมื่อไมเคิ่ล คีนจับบอลไม่ดีเป็นจุดเริ่มต้นให้เจมี่ วาร์ดี้เอาบอลไปยิงประตูตัดสินเกม ท๊อฟฟี่สีน้ำเงินเลยพ่ายต่อเลสเตอร์ ซิตี้ 1-0 และฟอร์มไม่ได้ดีขึ้นเลยชนะแค่เกมเดียวจาก 8 นัดหลังสุด
เอฟเวอร์ตัน
Starting Formation: 4-2-3-1
4.
อันเดร โกเมส

62'
6.0
10.
กิลฟี่ ซิกเกิร์ดสัน

70'
6.0
29.
โดมินิค คัลเวิร์ท-เลวิน
5.5
ตัวสำรอง
14.
เซนค์ โทซุน

70'
5.5
20.
แบร์นาร์ด

62'
5.5
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
สนาม กูดิสัน ปาร์ค
วันที่ 1 มกราคม 2562
กรรมการ มาร์ติน แอตกินสัน
เอฟเวอร์ตัน
0
1
เลสเตอร์ ซิตี้
เอฟเวอร์ตันกลับมาใช้หลังสี่คนแล้วดร็อปมีน่ากับโคลแมน ทำให้แบ็คขวาส่งเคนนี่ดาวรุ่ลงมาเล่นส่วนแนวรุกจะใช้เลวินลงมาช่วยด้วย
ฝั่งเลสเตอร์โรเตชั่นเหมือนกันให้ซิมป์สันออกสตาร์ทในตำแหน่งแบ็คขวา แล้วดันเปเรย์ร่าขึ้นมาเล่นปีกเลย ส่วนแมดดิสันโดนดร็อปแล้วเอาเกซซาลลงมาช่วยแนวรุก
วาร์ดี้ได้ยิงโด่งออกหลัง
ต้นเกมเริ่มมาค่อนข้างคึกคักก่อนที่เลสเตอร์จะได้ลองยิงหน่อย หลังเกซซาลให้มาวาร์ดี้ในกรอบทางซ้ายสับไกส่งบอลโด่งออกหลัง
ท๊อฟฟี่ลองบ้างริชาร์ลิสันยิงติดบล็อกอีแวนส์
ถึงตาเอฟเวอร์ตันได้ลุ้นบ้างจากที่แมกไกวร์เสียบอลเข้าทางซิกเกิร์ดสัน ก่อนจ่ายให้ริชาร์ลิสันในเขตโทษได้ยิงไปติดบล็อกของอีแวนส์
ได้เสียว!เคนนี่ซัดชนคานเกือบพาท๊อฟฟี่นำ
เอฟเวอร์ตันได้เสียวเกือบออกนำด้วยจังหวะขึ้นกันทางซ้าย ดีญเติมมาปาดเข้ากลางแต่บอลผ่านไปหมดหลุดถึงเคนนี่เติมมาขวาสุดเป็นคนซัดส่งบอลไปชนคานออกหลัง
เคนนี่ครอสให้เลวินโหม่งไม่ถนัดหลุดออกไปเยอะ
เอฟเวอร์ตันสร้างโอกาสได้เรื่อยๆ คราวนี้ถ่ายบอลออกมาทางขวาให้เคนนี่ครอสเข้าเขตโทษจบด้วยเลวินพยายามโหม่งแต่ไม่ถนัดนักเลยออกหลุดกรอบไปเยอะ
ซูม่าลองยิงไกลยังไม่เข้าเป้า
เอฟเวอร์ตันยังทำได้ดีกว่ากับการหาจังหวะจบ อย่างหนนี้ซูม่ารับบอลมาแตะหนีตัวเข้าสกัดได้ก่อนลากมาเองแล้วลองจบด้วยการยิงไกลบอลยังพุ่งโด่งออกไป
จิ้งจอกขอลุ้นบ้างแมกไกวร์โหม่งตังให้อีแวนส์โขกอีกทีเบาไป
เข้าช่วงท้ายเกมแล้วเลสเตอร์กลับมาเป็นฝ่ายลุ้นบ้าง เตะมุมเปิดจากขวาลึกมาเสาไกลให้แมกไกวร์โหม่งตั้งกลับมาแล้วอีแวนส์โหม่งต่อแต่น้ำหนักเบาพิคฟอร์ดรับติดมือ
เปเรย์ร่าลากตัดมายิงไกลก็หลุดออกไปอีก
จิ้งจอกได้ลุ้นต่อเนื่องหลังเปเรย์ร่ารับบอลจากชิลเวลล์แล้วตัดจากซ้ายหลบเข้ามาด้านใน ก่อนจะลงเอยด้วยการยิงไกลส่งบอลพุ่งหลุดออกหลัง
คีนพลาดถึงเสีย!วาร์ดี้หลุดมายิงส่งจิ้งจอกออกนำ
กลับมาครึ่งหลังก็มีประตูเกิดขึ้นจนได้โดยเลสเตอร์ออกนำไปก่อน ส่วนหนึ่งมาจากความผิดพลาดของคีนที่เฟิร์สทัชไม่ดีลั่นไปหน่อยเลยเข้าทางเปเรย์ร่าเบิ้ลไปพื้นที่ว่างทันที มีวาร์ดี้โฉบตามเข้าเขตโทษก่อนซัดผ่านพิคฟอร์ดเข้าไป เลสเตอร์ออกนำ 1-0
ท๊อฟฟี่ต้องลุยซิกเกิร์ดสันได้ซัดยังหลุดกรอบไปอีก
เอฟเวอร์ตันพยายามตอบโต้เพื่อเอาประตูตีเสมอ วัลคอตต์มีโอกาสโหม่งให้ซิกเกิร์ดสันเป็นคนสับไกแต่ก็ยังหลุดกรอบไปอีก
ท๊อฟฟี่เปลี่ยนเอาแบร์นาร์ดลงมาเติมเกมรุก
เอฟเวอร์ตันต้องแก้เกมหน่อยเพราะตั้งแต่เข้าครึ่งหลังมายังหาโอกาสดีๆไม่เจอ เลือกถอดโกเมสออกแล้วเอาแบร์นาร์ดลงมาเติมเกมรุกให้มากขึ้น
ท๊อฟฟี่ลุยมาใหม่ซิมป์สันสกัดได้ก่อนง้างไก
ท๊อฟฟี่ขึ้นเกมมาใหม่เพื่อประตูตีเสมอ บอลออกมาขวาสุดให้เคนนี่เติมมารับก่อนจะจ่ายให้แบร์นาร์ดวิ่งโฉบมาในเขตโทษเปิดเข้ากลางแต่โดนซิมป์สันแหย่ทิ้งไปก่อนเลยไม่ได้ยิง
อีแวนส์โหม่งไม่ดีเข้าทางโทซุนยิงไปโดนเซฟ
แนวรับของเลสเตอร์โหม่งไม่ดีเปิดโอกาสให้เอฟเวอร์ตันลุ้นเหมือนกัน จากที่อีแวนส์โหม่งไม่ดีเข้าทางโทซุนเลยจบด้วยการซัดในเขตโทษแต่ตรงตัวชไมเคิ่ลโดนทุบออกมา
จิ้งจอกโต้กลับชิลเวลล์ลากมายิงเองเบาเข้าซองพิคฟอร์ด
เลสเตอร์พยายามโต้กลับมาแล้วได้จบด้วย เริ่มที่โชดฮูรีจ่ายมาให้ชิลเวลล์ติดเครื่องพาบอลขึ้นมาตรงกลางก่อนจะจบด้วยการยิงไกลแต่บอลเบาเลยเข้าซองพิคฟอร์ด
จิ้งจอกไพอได้ลุ้นแมกไกวร์แปลูกฟรีคิกข้ามคานแต่ก็ล้ำ
ท้ายเกมเลสเตอร์ทำเสียวลุ้นเอาประตูที่สอง จากฟรีคิกทางซ้ายของชิลเวลล์โยนลึกเข้ามาถึงเสาไกลแล้วแมกไกวร์สอดมาแปได้แต่ดันข้ามคาน แต่ถ้าเข้าขึ้นมาก็ไม่ได้เพราะมีธงล้ำหน้าตามมา
ไม่เจ๊า!โทซุนโหม่งจ่อๆเสาแรกติดชไมเคิ่ล
ทดเจ็บเอฟเวอร์ตันมีลุ้นเกือบตีเสมอได้จากเตะมุม โยนโค้งมาแล้วมีตัวโหม่งได้มาเข้าทางโทซุนตรงเสาแรกโหม่งจ่อๆแต่ชไมเคิ่ลเซฟได้ก่อน
จบเกมเอฟเวอร์ตันเลยพ่ายต่อเลสเตอร์ 1-0 นับเป็นช่วงผลงานไม่ดีเอาเสียเลย 8 เกมหลังสุดชนะแค่เกมเดียวเท่านั้นเอง
ส่วนเลสเตอร์ชนะมา 3 จาก 4 เกมหลังสุดในลีกทำให้พวกเขาขึ้นมาอยู่ในอันดับ 7 แล้ว
เลสเตอร์ ซิตี้
Starting Formation: 4-3-3
31.
ราชิด เกซซาล

45'
5.5
9.
เจมี่ วาร์ดี้

90+3'
7.5
ตัวสำรอง
7.
เดมาไร เกรย์

90+3'
-
11.
มาร์ก อัลไบรจ์ตัน

45'
6.0
แก้ไขล่าสุดโดย redenzo เมื่อ Tue Jan 01, 2019 22:34, ทั้งหมด 8 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ