เอเอฟซี บอร์นมัธ ฟอร์มในพรีเมียร์ลีกตกไปเล็กน้อยชนะนัดเดียวจาก 4 นัดหลังสุดเก็บได้ 4 แต้ม วันนี้เปลี่ยนตัวจริงถึง 7 ตำแหน่งจากในคาราบาว คัพรอบ 3 เมื่อกลางสัปดาห์ที่เปิดบ้านเฉือนชนะ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ 3-2 เหลือแค่ ฟรานซิส, สมิธ, เลร์มา และ ลูอิส คุ้ก ที่ได้ออกสตาร์ทต่อเนื่อง

คริสตัล พาเลซ ฟอร์มเริ่มดี 5 นัดหลังสุดแพ้เกมเดียวชนะได้ถึง 3 นัด วันนี้เปลี่ยนตัวจริง 8 ตำแหน่งจากในบาว คัพกลางสัปดาห์เช่นกันที่บุกถล่ม เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 3-0 คนที่ได้ออกสตาร์ทต่อคือ ฟาน อานโฮลท์, ทาวน์เซนด์ และ เมเยอร์

คู่นี้เจอกันในลีกซีซั่นที่แล้วกินกันไม่ลงเสมอ 2-2 ทั้ง 2 นัดโดยที่น่าสนใจอีกอย่างคือกุนซืออย่าง ฮาว อายุน้อยกว่า ฮอดจ์สัน ถึง 31 ปี (40 - 71)

ขณะที่สกาย สปอร์ตส์แสบมากเอา แฟรงค์ เดอ บัวร์ อดีตกุนซือ ปราสาทเรือนแก้ว ซึ่งคุมทีมเปิดฉากซีซั่นที่แล้วแพ้ 5 นัดรวดในลีกจนถูกปลดและแทนที่โดย ปู่รอย มาเป็นกูรูรับเชิญร่วมกับขาประจำอย่าง เจมี่ คาร์ราเกอร์

5'

บรู๊คส์โค้งๆเปิดซิง!เชอร์รี่ออกผล1-0

บอร์นมัธ บุกจากซ้ายไปขวาของจอขึ้นนำเร็ว 1-0 จากโอกาสครั้งแรกของเกม สมิธ เติมเกมด้านซ้ายจ่ายเข้ากลางให้ วิลสัน ไหลต่อมาในกรอบด้านขวา บรู๊คส์ ไม่จับปั่นด้วยซ้ายบอลโค้งหนีมือ เฮนเนสซี่ย์ เสียบสามเหลี่ยมเสาไกลอย่างสวยงาม ! ลูกแรกของเขากับทีมเลยด้วยนับตั้งแต่ย้ายมาจาก เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ซีซั่นนี้ด้วยราคา 12 ล้านปอนด์

12'

เมเยอร์ยิงยัดไม่ผ่านมือเบโกวิช

พาเลซ เกมรุกน่ากลัวอยู่แล้วได้ทักทายบ้างโดย เมเยอร์ ฉีกมารับบอลทางซ้ายลากตัดเข้าในแล้วกดด้วยขวาจากหน้ากรอบบอลพุ่งเข้าเสาแรกแต่ไม่หนักพอ เบโกวิช ทิ้งตัวมารับอยู่หมัด

13'

อาเก้โขกได้เสียว

บอร์นมัธ ตอบโต้ทันควันบุกชุดใหญ่จากลูกเตะมุมถูกเคลียร์ออกมาแต่ยังเก็บบอลได้และขึงต่อก่อนที่ เฟรเซอร์ จะเปิดด้วยขวาจากกราบซ้ายโค้งมาถึง อาเก้ ในเขตโทษลอยตัวโหม่งกดลงพื้นบอลผ่านเสาสองออกไปแบบใกล้เคียง

26'

มิลิกดติดบล็อค

แม้สกอร์ยังไม่ขยับเพิ่มแต่เกมสนุกมากทีเดียว พาเลซ ทำเกมบุกขึ้นมาอีกรอบทางซ้าย ซาฮา จ่ายยัดไปในกรอบ เมเยอร์ พลิกไม่ได้แปะคืนหลังให้ มิลิโวเยวิช วิ่งมาซัดไกลแต่ติดบล็อคก่อนจะต้องฟาวล์ตัดเกมหยุดการสวน

39'

ลุ้นระทึก

ยังคงไม่มีประตูเพิ่มแต่รูปเกมสูสีคู่คี่กันสุดๆโดย พาเลซ ครองบอลน้อยกว่าคือ 48% แต่เหมือนจะได้บุกมากกว่าเล็กน้อยตามสถานการณ์ที่ตามอยู่แต่เจ้าบ้านยังไม่เพลี่ยงพล้ำแถมรอโต้อย่างน่ากลัว

45+1'

ไม่ไหวอายิวปั่นไปไหนไม่รู้

นาที 42 พาเลซ ได้จบสกอร์ส่งท้ายครึ่งแรก เมเยอร์ ไหลบอลมาทางซ้ายให้ อายิว เลี้ยงแหวก 2 ตัดเข้ากลางแล้วปั่นด้วยขวาโค้งหลุดเสาสองไปไกล

จากนั้นทดเจ็บนาทีเดียวแล้วก็หมดครึ่ง เดอะ เชอร์รี่ส์ นำ 1-0 โดยที่ครองบอล 50% เท่ากันโอกาสก็ 4 ครั้งเท่ากัน

HALF TIME

53'

พาเลซกดดัน

กลับมาเล่นกันต่อครึ่งหลังเกมยังสนุกโดยเฉพาะ พาเลซ เล่นดีขึ้นอีกเปิดฉากทักทายตั้งแต่นาที 48 แม็คอาร์เธอร์ ได้ซัดจังหวะเดียวในเขตโทษแต่ข้ามคานและนาที 53 เมเยอร์ หาช่องยิงเข้ากรอบด้วยแต่ดันติดบล็อค แม็คอาร์เธอร์ เพื่อนทำกันได้

55'

เฮ้ย ล้ำ!อานโฮลท์ยิงแสกหน้าเจ๊า

พาเลซ ตีเสมอ 1-1 จนได้แบบน่ากังขาพอสมควร ซาฮา วนหาช่องอยู่ตรงกลางก่อนจะจ่ายทะลุไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ฟาน อานโฮลท์ ยืนเหลื่อมเล็กน้อยชัดเจนแต่ธงไม่ขึ้นแต่งเข้าขวาแล้วซัดเต็มข้อบอลพุ่งแสกหน้า เบโกวิช ที่ปัดโดนแค่ปลายมือเสียบเสาแรกอย่างเด็ดขาด ! ลูกแรกในลีกซีซั่นนี้ของเขา

64'

โธ่!อาเก้โขกว่าว

โอกาสดี๊ดีของ บอร์นมัธ ที่ครึ่งหลังเป็นรองเยอะ คิง รับบอลริมเส้นฝั่งซ้ายแต่งเข้าขวาแล้วเปิดโค้งไปหน้าประตู อาเก้ ไม่มีใครประกบดันสะบัดศีรษะโหม่งไม่โดนอย่างน่าเสียดาย ! บอลไปไต่เท้า ซาโก้ ออกหลังยังได้เตะมุมแต่ก็ถูกเคลียร์ทิ้ง

69'

ทาวน์เซนด์ด้วยขวาโค้งไม่พอ

พาเลซ ยังเดินหน้าบุกอย่างเมามันส์ แม็คอาร์เธอร์ เสียหลักล้มหน้ากรอบแต่ยังกวาดบอลไปทางซ้ายให้ ทาวน์เซนด์ ลากมาเข้าขวาแล้วลองปั่นดูโค้งไม่พอเฉี่ยวเสาสองออกไปได้ลุ้น

77'

ทาถูเติมปีก

รอย ฮอดจ์สัน หมากเกมนี้ชัดเจนตลอดว่าไม่ได้มาเพื่อเสมอและในที่สุดก็เปลี่ยนตัวคนแรกถอด แม็คอาร์เธอร์ กองกลางออกแล้วส่งปีกซ้ายอย่าง ชลุปป์ ลงไปเติมความวูบวาบ

83'

วิลสันพานทองยิงติดเฮนเนสซี่ย์เหลือเชื่อ

บอร์นมัธ ที่ครึ่งหลังเจียนอยู่เจียนไปมาได้โอกาสทองฝังเพชร เฟรเซอร์ แย่งบอลจาก อานโฮลท์ ไปได้เลี้ยงหลุดจากกลางสนามไปถึงในกรอบด้านขวาก่อนจะไหลมาทางซ้ายถวายพาน วิลสัน ยิงติดขา เฮนเนสซี่ย์ เซฟได้อย่างไม่น่าเชื่อ

85'

มาว่ะเฮนเนสซี่ย์!กอสลิ่งโขกตู้มโดนปัด

บอร์นมัธ มาเร่งเอาช่วงท้ายได้ลุ้นแบบจะแจ้งอีกครั้งจากบอลยาวถึง วิลสัน พยายามแก้ตัวพลิกบอลหนี ซาโก้ ไปทางขวาได้ก่อนจะเปิดโค้งมาให้ กอสลิ่ง ตัวสำรองโขกเต็มพลังแต่ เฮนเนสซี่ย์ ยังซูเปอร์เซฟปัดทิ้งไปได้

87'

ซาโก้ศอกหน้า!สตานิสลาสยิงเป้า2-1

บอร์นมัธ กดดันหนักจนมาได้จุดโทษจากฟรีคิกกราบขวาเปิดมาแล้ว ซาโก้ เล่นโฉ่งฉ่างเหวี่ยงแขนขวาศอกไปโดนหน้า เลร์มา คว่ำต่อหน้าต่อตาผู้ตัดสินให้จุดโทษก่อนที่ สตานิสลาส ตัวสำรองจะกลายเป็นซูเปอร์ซับรับหน้าที่แปด้วยขวาเข้ากลางประตูอย่างเยือกเย็นจน เฮนเนสซี่ย์ หมดปัญญาช่วย 2-1 ของเจ้าถิ่น

90+5'

ทดเจ็บเหลืองว่อน!เชอร์รี่ยันอยู่ได้เฮ

เกมมาระเบิดความเดือดเอาช่วงทดเจ็บมีจังหวะปะทะกันในเขตโทษ บอร์นมัธ และเป็นฝั่งเจ้าบ้านได้ประโยชน์จุดชนวนผู้เล่น 2 ฝ่ายมีเรื่องกันจนผู้ตัดสินต้องเข้าไประงับเหตุการณ์และมี 3 รายรับใบเหลืองคือ ทอมกิ้นส์, เลร์มา และ คูยาเต้ ตัวสำรอง

จากนั้น เดอะ เชอร์รี่ส์ ยันอยู่แล้วก็จบเกมเอาชนะไปได้ 2-1 กระโดดขึ้นที่ 7 ส่วน ปราสาทเรือนแก้ว ยังอยู่ครึ่งล่างของตาราง