[RE: แย่ให้พอ...ผีสิ้นท่าค้อนยิงดับ 3-1 ไร้ชัย 3 เกมรวด]
FokuchzRedDevil พิมพ์ว่า:
Spoil
Famelaini พิมพ์ว่า:
ถ้าอยากรู้ว่า Negative Footballเป็นยังไง ให้ดูเกมนี้เป็นกรณีศึกษาได้เลย
เป้าหมายอันดับแรกของกุนซือประเภทNegative Football คือ
ลงสนามไปด้วยความคิดที่ว่า "จะรับมือคู่แข่งยังไง?"
นี่มันแมนยูนะเว้ย มันต้องเป็นทีมอื่นสิว่ะที่ต้องเป็นฝ่ายกังวล ว่าจะรับมือกับเกมรุกของแมนยูได้ยังไง?
พยายามจะเข้าใจนะว่า เวสแฮม มีกองหน้าอย่างอาร์เนาโตวิช ที่ต้องรับมือให้ได้
แต่มันจำเป็นต้องกลัวขนาดนั้นมั้ย? ถึงขั้นส่งแมคโทมิเนย์ไปประกบ จนทิ้งเกมรุกของตัวเองเนี่ยนะ?
มูมันสนใจบ้างมั้ยว่าแมนยูจะบุกยังไง? ต้องทำแบบไหนเวสแฮมถึงจะเจอความลำบาก!!
คิดแบบทีมใหญ่หน่อยดิว่ะ!!
ดูอย่างเซอร์อเล็กซ์สิ เขาเจอเอฟเวอร์ตันที่มีเฟลไลนี่เป็นอาวุธ ก็ไม่เคยเห็นเขาส่งตัวสูงๆไปประกบ
ต่อให้อริอย่างลิเวอร์พูลมีปีเตอร์ เคราช์ หรือแคร์โรล แมนยูยังไม่เคยกลัวเลย
เวลาเจอทีมในลีกเลย ไม่เคยเห็นเซอร์จัดตัว โดยการลดผู้เล่น"ตัวรุก" แล้วแทนด้วยนักเตะ"ตัวรับ"ไปประกบใครสักคน
เขาสนใจแค่เกมของเขา จะบุกยังไง จะเจาะคู่แข่งยังไง จะยิงคู่แข่งได้ยังไง
จุดอ่อนคู่แข่งตรงไหน ก็เดินหน้าบุก จี้ไปที่จุดอ่อน
คุมเกม ครองบอล เดินหน้าบุก จนคู่แข่งโงหัวไม่ขึ้น นั่นแหละ คือ แมนยู
แมนยูไม่เคยกลัวว่าจะโดนยิง แต่กลัวที่จะยิงคนอื่นไม่ได้โว้ยย
แมนยูถึงได้มีเกมทีตาม2-0 ตาม3-0 แล้วพลิกแซงได้บ่อยๆไงล่ะ
สิ่งที่มูริญโญ่ ทำกับทีมตอนนี้ มันคือ Negative Football
มันคือทีมอะไรก็ไม่รู้ ที่ใส่เสื้อสีชมพู
มันเหมือนทีมท้ายตาราง ที่คิดว่าทุกทีมคือทีมที่อยู่ในระดับที่เหนือกว่าตน
และลงสนามไปโดยมีเป้าหมายแค่รับมือคู่แข่งให้ได้ เอาตัวรอดเป็นนัดๆ
เพื่อเอาตัวรอดในพรีเมียร์ลีกไปวันๆ
คือเอาจริงนะ เห็นด้วยแต่ไม่หมด จะบอกว่าสมัยป๋าไม่ใช้ตัวประกบไล่ปิดตัวรุกก็ไม่ใช่นะ เห็นชัด ๆ ในเกมใหญ่ คือ park jisung นี่หละ หรือบางที fletcher ก็ทำหน้าที่นั้นบางเกม
รบกวนช่วยอ่านบรรทัดนั้นอีกสักรอบนะครับ
ผมคิดถึงเคสที่คุณว่าไว้เหมือนกัน และรู้ว่าต้องมีคนแย้ง
ผมถึงได้เจาะจงไปที่ "ในลีก"
เจอทีมในลีก ไม่ใช่โคตรทีมในบอลยุโรป