ชอบ ss1 มากกว่าเพราะมันทำให้รู้จักตัวตนของน้อง ๆ มุมมองอื่น ๆ มากขึ้น อย่างของเช่นี่ผมชอบมาก ส่วน ss2 เหมือนดู gdc สำหรับโอตะ นำเสนอแค่บางมุมมันไม่ครอบคลุม คือรู้เพิ่มจากที่เคยรู้น้อยมาก ๆ คงต้องรอดู voov เอาถึงจะได้รู้จักตัวน้อง ๆ ในแง่ ๆ มุมอื่นมากขึ้น ss2 ดูแล้วมันเหมือนมีสคลิปเรื่องเล่าว่าใครจะเหมาะกับสคลิปแล้วเอามาลง ทำให้ไม่ดูไม่ค่อยน่าติดตามเหมือน ss1 ที่เราจะเดาไม่ได้เลยว่าน้อง ๆ แต่ละคนจะนำเสนอเรื่องอะไรบ้าง

ซ้ำด้านบนครับ

ถ่ายสวยดีเพจนี้ ♥

ชราไลน์ 4 Life

รายการเซมไปรุ่น2 อาจรู้สึกแปลกๆบ้างกับการเซตติ้ง แต่มันก็แค่ผิดคาดเท่านั้นเอง ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น คงคล้ายๆกับตอนดูเกิร์ลด้อนครายละมั๊ง

จริงๆจะว่าไป อะไรที่เกี่ยวกับรุ่น2 มันก็ไม่เหมือนรุ่น1 มาตั้งแต่ตอนออดิชั่นแล้วก็ช่วงเก็บตัวแล้วนะ โจทย์ไม่เหมือนกัน วิธีการก็ไม่เหมือนกัน ผมปรับโหมดการรับรู้ของตัวเองแล้ว ก็เลยโอเคอะไรง่าย พยายามทำความเข้าใจตามไป 555

เพราะสุดท้ายยังไงเราก็ดู ส่วนเรื่องอินไม่อิน ผมว่ามันแล้วแต่คน บางคนต้องอินก่อนถึงชอบ บางคนก็ชอบไปก่อนแล้ว ยังไงก็อิน งงมั๊ย

ลงชื่อให้สามสาวเหมือนเดิม

เอาจริงๆเรื่องจัดฉากผมก็พอเข้าใจได้นะ แต่ผิดหวังกับวิธีการเล่าเรื่องมากกว่า
คืออยากรู้จักตัวตน/ไลฟ์สไตล์ของน้องๆให้มากกว่านี้
ไม่ใช่รู้แค่ประเด็นดราม่าคนละเรื่องสองเรื่อง

นางแบบสวยด้วยแหละ เซนต์การแต่งตัวก็ดี

พรวดๆ

เอาไปใส่ลายเซ็นต์​จะสูงไปไหมเนี่ย

ไม่สูงหรอกครับ 150 กว่าๆ



แซวเล่นๆ

มีใครจะกดเธียร์เตอร์ รอบวันเสาร์มั้ย ครับ

มากดคู่กันหน่อยยยยย

senpai หลักการทำโปรดักชั่นทั่วโลกเค้าก็ทำแบบนี้แหละครับ
ให้น้องมาสัมภาษณ์ ถ่ายทอดเรื่องราว แล้วไปเซ็ตติ้งถ่าย
ต้องตัดภาพออกไปว่ามันไม่ใช่สารคดีนะ มันแค่กึ่ง
มันเป็นการถ่ายทำที่มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น
ให้ภาพสวยงาม สมจริง

ผมว่ามันอาจไม่ถูกจริตเพราะว่ารุ่น 2 มาแบบเพอร์เฟคระดับนึงแล้ว
มิวนิคนักกีฬาไอซ์สเก็ต มีผลงานในวงการบันเทิงมาเยอะ
เค้กก็เป็นพิธีกรในสถานีของคณะ
จูเน่เด็กอาร์ท ชอบเข้าแกลลอลี่ ชอบถ่ายรูป
มันไม่มีแบบ้านๆไง หรือมีแต่ยังฉายไม่ถึง
เลยเน้นไปที่ดราม่าเป็นเมนหลักแทน

ซ้ำๆๆ