โด้เริ่มมีการขยับหาตำแหน่งอันตลายได้มากขึ้น เริ่มหาพื่นที่จบได้ดี กว่านัดที่ผ่านมา
ลูกสอง สปีดขึ้นมาได้เร็วมาก

เอาจริงๆทีมพยายามปั้นโด้มากเกินไปทำให้จังหวะมันดูแปลกๆยังไงไม่รู้

แต่ลูกที่ได้ ทั้ง2 ประตูนี่มองว่าไม่ได้เกิดจากการปั้นโด้น่ะ คือบุกตามจังหวะปกติเลย

อยากให้ยูเว่เล่นแบบปกติไม่ต้องปั้นโด้มันมากก็ได้ เดี๋ยวมันก็หาจังหวะยิงของมันเองแหละ แล้วเกมส์จะดูไหลลื่นกว่านี้อีก ค่อยๆจูนกันไป

ไม่ถึงกับปั้นอะไรขนาดนั้นนะ
คือ บอลมันก็ไหลไปตามจังหวะแหละ ไม่ถึงกับขนาดว่า บางจังหวะตัวเองยิงได้ แล้วยังจะส่งให้โด้ บางลูก เช่น บอลเปิด มันก็เลือกเป้าได้ตลอด 2-3 ตัว ก็สลับๆไป ไม่ได้ลงที่โด้อย่างเดียว
แต่ก็ใช่ ที่ดูเหมือนจะเน้นให้โด้มากขึ้น ถ้าเทียบกับยุคก่อนหน้า (ก็แน่นอน ลงเงินไป 100 ล้าน ต้องมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างนิดๆหน่อยๆ)


เรื่องเอาใจช่วยจากเพื่อนๆนี่ มีเยอะขึ้นจริง ตอนอิกัวอินอยู่ ไม่ขนาดนี้
อีกเรื่องก็คือ กล้อง
จับภาพโด้เยอะมาก จะได้ยิง ไม่ได้ยิง ก็จับโด้ อาจจะเพราะเรื่องนี้ด้วย เลยดูเหมือน อะไรๆก็โด้

---

ในส่วนของแผน ระบบทีมตอนนี้ยังไม่ลงตัวนะ
จากสถิติ ยูเว่ของอัลเลกรี้ จะไปลงตัวช่วงประมาณครึ่งฤดูกาลหลัง การเล่นจะไหลลื่น มีประสิทธิภาพขึ้น เป็นแบบนี้มาทุกฤดูกาลเลย ฉะนั้น ช่วงนี้ก็จะดูมึนๆงงๆไปพักนึง

แต่ก็ไม่ใช่ว่า พอระบบทีมลงตัว แล้วโด้จะยิงเยอะขึ้นแน่ๆนะ ตรงนี้ไม่เกี่ยวกัน
ยูเว่ทั้งยุคของคอนเต้และอัลเลกรี้ มีจุดร่วมอย่างนึงคือ กองหน้ายิงไม่เยอะ ถ้าเทียบกันกับทีมใหญ่ๆด้วยกัน ถึงแม้ว่าจังหวะเกมจะคนละแบบไปเลย

ดูจากแฟนบอลนั่นแหละ ยุคอัลเลกรี้ เสียงเชียร์จะหึ่งๆๆๆๆๆ แล้วก็ฮืออออออออ เป็นพักๆ แบบนี้ บางเกม อาจจะหึ่งนานหน่อย
ช่วงคอนเต้ โดยเฉพาะปีสุดท้าย จะเหมือนคนป่า ไร้อารยธรรม

ถามหน่อยครับ ดีบาล่า จะเป็นโมดริด แห่งยูเว่ได้มะครับ เห็นวันนี้ลงมาล้วงบอลพลิกบอลไปหน้าโอเคเลย

อีกเรื่องคือ ตัวโด้เอง ด้วยที่ต้องปรับตัว ที่แฟนบอลลีกนี้ เขาชอบเม้นกันว่า จับจังหวะ อะไรเนี่ยแบบนี้แหละ

ฐานคิด เรื่องนี้ มันมาจาก กองหน้าสไตล์เบอร์ 9
ช่วงหลังๆ ในหลายๆทีม หลายๆลีก มักจะพูดถึงกองหน้าอย่าง F9 /false9 อะไรแบบนี้ใช่ไหม แต่ที่อิตาลี กองหน้าที่เล่นเป็นเบอร์ 9 แบบปกติ ยังสามารถมีบทบาทและอิทธิพลได้ตลอดนะ

พอมีคอนเซป F9 ขึ้นมา แล้วจะเรียก 9 ปกติ ในภาษาไทย เนี่ยมันต้องคิดมากเลยว่า จะใช้คำไหน
จริงๆ น่าจะใช้คำว่า กองหน้าตัวเป้า
แต่พอใช้คำว่า กองหน้าตัวเป้า ในช่วงหลังนี้ ก็มักจะต้องนึกถึงการพักบอลอะไรงี้ด้วย ต้องตัวใหญ่ ต้องเก็บบอลได้ ซึ่ง 9 ในความหมายนี้ก็ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น (หรือถ้าจะทำก็ทำได้) ช่วงหลังๆเลยใช้คำว่า กองหน้าตัวยิง แทน (รวมไปถึงพวกกึ่งๆ เบอร์ 9 ด้วย)


แล้วมันเป็นยังไง

คือในการต่อบอลมา ไม่ว่าจะเล่นมากี่จังหวะ ในจังหวะท้ายๆของการเล่นที่ต้องเป็นการจบสกอร์ พวกนี้ มักจะโผล่มายิง ไม่ได้หมายถึงแค่จังหวะแทปอินนะ หลายครั้งที่ต้องแต่งบอล ต้องเล่นในจังหวะเวอร์ๆแปลกๆ ต้องจมูกไว ต้องฉวยโอกาสเก่ง
พวกนี้ อาจจะหายเงียบไปนานมาก หรือนานๆ นานมากๆถึงจะได้บอลที แต่บทจะยิงก็ยิงเลย ไม่ว่าจะในกรอบหรือนอกกรอบ แต่ต้องอันตรายให้มากๆเข้าไว้โดยเฉพาะในกรอบเขตโทษ


พวกนี้ต้องมาพักบอล ต้องเป็นกองหน้าตัวใหญ่ๆถึกๆอะไรงี้ป่าว ก็ไม่จำเป็นเสมอไป สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ต้อง"ยิง"ให้ได้
หรือพูดอีกแบบ ต้องทำจังหวะที่เหมือนไม่มีอะไรให้มีอะไร ต้องทำจังหวะที่ยากมากๆให้เป็นประตู

เช่น



แล้วถ้าเอานิยามแค่ว่า ต้องทำจังหวะที่เหมือนไม่มีอะไรให้มีอะไร เนี่ย คิดว่า ความสามารถของโด้ พรสวรรค์และพรแสวงที่โด้มี โด้ทำตรงนี้ได้อยุ่แล้ว
ช่วงหลังๆของโด้ในยุคของซีดาน ก็มีความเป็นกึ่งๆในการเล่นลักษณะนี้อยู่แล้วด้วย เลยยิ่งคิดว่า ทำได้แน่ๆ รอปรับตัว (แต่อย่างวันนี้ หมูหก 2 จังหวะ ต้องได้อย่างน้อยซักลูกนะ ถึงจะดี)


ถ้าโด้จะเป็นตัวยิง เลยต้องปรับตัวให้ได้กับเรื่องนี้ จับจังหวะให้ได้
เพราะกองหลังและแนวรับที่นี่ เล่นประมาณนี้เป็นปกติ ผ่านมา 4 นัดในปีนี้ ยังไม่มีนัดไหนที่ดีกว่าปกติ ยังไม่มีนัดไหนที่เล่นแบบเหนียวเป็นพิเศษ (ถ้าแนวรับทีมไหนมาแบบดีมากๆ ในเกมนั้นๆ ทีมที่เป็นคู่แข่งอาจจะมีจังหวะได้ยิงแบบจังๆ แค่ 1-2 ครั้งเท่านั้น ตลอด 90 นาที)


--------

กลับไปที่เรื่องระบบทีมอีกรอบ
ของยูเว่เนี่ย ในช่วงหลังๆ การเข้าทำในพื้นที่สุดท้าย มักไม่ได้จบลงด้วยการที่ให้เบอร์ 9 ได้ยิง แต่เป็นใครก็ได้ ไม่สนใจ ขอให้ยิงได้ก็พอ
ผ่านมา 4 นัด การยังมีแนวโน้มประมาณนี้นะ มีบ้างบางจังหวะที่ให้โด้มากขึ้น แต่ก็ยังไม่ใช่ว่าเยอะแยะจนฝืนอะไร
ตรงนี้ยังไม่รู้ว่า ในอนาคตจะมีการปรับทีมไปในทิศทางไหน

คงต้องบอกว่า มาคนละเส้นทางนะ

ดิบาล่า ถูกฝึกไปทางเบอร์ 10 แบบพวกอิตาเลียนอะ
การลงต่ำไปปั้นเกมขนาดนั้นเป็นเรื่องปกติ