พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2018/19 เริ่มต้นขึ้นแล้ว หลายๆคนคงได้เห็นฟอร์มของทีมรัก ทีมคู่แข่งกันไปแล้ว บางคนอาจทำงานถูกใจบ้าง บางคนก็ไม่ถูกใจนัก เผอิญผมเจอบทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับผู้จัดการทีมของ Big 6 เลยอยากหยิบมาชวนเพื่อนๆคุยกันครับ
จากบทความของ นิค ไรท์ ของสกายสปอร์ท
http://www.skysports.com/football/news/11095/11440594/premier-league-201819-the-challenges-facing-the-top-six-managers
ก่อนอื่นขอออกตัวนิสสส ผมไม่เก่งภาษานะครับ และก้อไม่ใช่นักวิเคราะห์บอล แต่แค่ชอบดู เชียร์หงส์ และอยากชวนคุย ไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกมั้ย เลยไม่ได้หยิบมาแปล แต่จะเป็นการชวนคุยกันสนุกๆนะครับ
เป็บ กวาดิโอลาร์ กับภารกิจ ป้องกันแชมป์
ตั้งแต่มีพรีเมียร์ลีกมา
มีผู้จัดการทีมเพียงแค่ 2 คนที่เป็นแชมป์และสามารถป้องกันแชมป์ในฤดูกาลถัดไปได้คือ เซอร์ อเล็กซ์ ทำได้ 6 ครั้ง(3ฤดูกาลติด 2 ครั้ง) ส่วนกับมูรินโย่ ทำได้ 1 ครั้ง ฤดูกาลนี้เป็ป มีโอกาสดีที่จะเป็นคนที่ 3 ที่ทำได้ ด้วยทีมของเขาที่พร้อมทุกตำแหน่ง ขนาดทีมที่ใหญ่พอ และมีสุดยอดนักเตะในทีมมากมาย รวมถึง ระบบการเล่นที่น่าจะดีที่สุดในยุโรปตอนนี้ เป็ปมีโอกาสมากๆ ทีมสำคัญคือจิตวิญญาณที่เป็ปใส่ลงไปในทีม ที่ต้อง"ชนะด้วยความยอดเยี่ยมทุกมุมมอง" ทำให้ทีมแมนซิตี้พร้อมจริงๆ ที่สำคัญ เป็นทีมที่มีความยืดหยุ่นสำหรับการเปลี่ยนแปลงแท็คติคสูงมาก สามารถแก้เกมระหว่างการแข่งขันได้หลายรูปแบบอพร้อมชนะสวยๆกับทีมทุกทีม แมนซิตี้ จึงเป็นเต็ง1ในฤดูกาลนี้ และเป็ปน่าจะทำมันได้อีกครั้งไม่ยาก แต่กับเป้าหมายที่สูงขึ้น เช่น ดับเบิลแชมป์ ทริปเปิ้ลแชมป์ เป็ปยังคงมีเครื่องหมายคำถาม โดยเฉพาะบอลยุโรป ที่แมนซิตี้มักจะมีผลงานไม่เป็นใจ มาดูกันว่าปีนี้ เป็ปจะทำได้รึไม่
เรทติ้งของเป็ป ความกระหายความสำเร็จ S , เกมรุก S , เกมรับ S , การแก้เกม A , การสร้างพลังใจให้ทีม A , บทบาทนอกสนาม B+ , การทำงานโครงสร้างระยะยาว A+
โฆเซ่ มูรินโย่ กับการรักษาโรคฤดูกาลที่3
แม้จะมีเสียงวิจารณ์ และข่าวต่างๆนาๆมากมายในช่วงนี้ แต่โลกเรายังคงจดจำความสำเร็จของมูรินโย่ไว้ว่า เป็นสุดยอดผู้จัดการทีมคนหนึ่ง ที่การันตีแชมป์ การันตีความสำเร็จให้ทีมได้ เพียงแต่การที่เขาอยู่ในทีมที่มีความคาดหวังสูง ทั้งผลงาน และ รูปแบบการเล่น มูรินโย่ที่จบมือเปล่าฟดูการที่แล้วยังทำงานอย่างกับความกดดัน และเป้นเต็ง 1 ที่จะถูกไล่ออกในตอนนี้ แต่ในมุมมองของผม ถ้าเรายอมรับได้ว่า ยุคของเฟอร์กี้นั้นจบไปแล้ว ไม่เอาความสำเร็จและรูปแบบการเล่นนั้นมาคาดหวังในตัวมูรินโย่ ผลงานของเขาไม่ได้เลวร้ายเลย เพียงแต่มันเป็นไปไม่ได้ มูรินโย่ตอนนี้เปรียบเสมือนลูกเศรษฐีที่รับช่วงตัวกิจการอันใหญ่โต่ของรุ่นพ่อ ทุกวันเขาจะถูกตั้งคำถามว่า จำทำได้ดีเหมือนคนก่อนหน้ามั้ยนั่นเอง และด้วยบรรยากาศในทีมที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนักตอนนี้ มีหลายคนบอกว่า มูรินโย่ ได้เสียบรรยากาศห้องแต่งตัวนักเตะของเขาไปแล้ว ถ้าเป็นจริง เป้นเรื่องยากมากที่จะกลับมาสรา้งความสำเร็จ และผมคิดว่า ไม่ใช่แค่กลับมาเป็นแชมป์ยาก แต่มูรินโย่อาจจะจบไม่สวยนักในฤดูกาลนี้ เพื่อนๆว่าไงครับ
เรทติ้งของมูรินโย่ ความกระหายความสำเร็จ A , เกมรุก B , เกมรับ A+ , การแก้เกม S , การสร้างพลังใจให้ทีม C , บทบาทนอกสนาม S , การทำงานโครงสร้างระยะยาว D+
เมาริซิโอ โพเช็ตติโน่ กับการเปลี่ยนสนาม
พอช เป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ผมชื่นชอบการทำงานมากๆ เน้นการสร้างระบบ เน้นการพัฒนานักเตะ ที่สำคัญคือเขาก็ทำมันได้ดีเสมอมา สเปอร์ ของพอช เป็นทีมที่มีเกมรุกดุดัน และสวยงามมากทีมหนึ่ง และมีเกมรับที่แข็งแกร่ง มีครบทั้งบุ๋นและบู้ รวมถึงลูกหนัก เพียงแต่ปัญหาเรื่องการสร้างสนามใหม่ ทำให้ส่งผลต่องบประมาณในการเสริมทัพ ปีนี้เขาไม่ได้นักเตะใหม่เลย และยังโชคดีที่ยังไม่เสียผู้เล่นตัวหลักไป สำหรับฤดูกาลนี้ เป้าหมายของพอชในช่วงแรก อาจยังไม่ได้มองเรื่องการคว้าแชมป์ลีก ยกเว้นถ้าสามารถเกาะกลุ่มนำไปจนจบปีใหม่ เรื่องนี้คงถูกคาดหมายกันอีกที แต่ดีไม่ดีอาจต้องดูจนจบตลาดหน้าหนาวด้วย เพราะยังคงมีความเป็นไปได้ที่จะเสียผู้เล่นตัวหลักให้กับทีมเงินถุงเงินถังทีมอื่น แต่ในบอลถ้วย ถ้าสเปอร์ตั้งเป้าหมายจริงๆ ผมว่ามีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จมาก เพราะอย่าลืมว่า แชมป์ยุโรปยังรีลมาดริด ยังเสร็จสเปอร์มาแล้วในรอบแบ่งกลุ่ม นั่นหมายความว่า สเปอร์ยังมีโอกาสครับในฤดูกาลนี้
เรทติ้งของพอช ความกระหายความสำเร็จ B+ , เกมรุก A , เกมรับ A , การแก้เกม A , การสร้างพลังใจให้ทีม B , บทบาทนอกสนาม B , การทำงานโครงสร้างระยะยาว A
เจอร์เก้น คล็อปป์ กับการเป็นผู้ท้าชิงแชมป์
"We have to change from doubter to believer." หากใครจำคำพูดนี้ของคล็อปได้ ประโยคนี้คล็อปพูดฤดูกาลแรก หลังจากที่เกมก่อนหน้านั้น มีภาพแฟนบอลลิเวอร์พูลเดินออกจากสนามก่อนหมดเวลาหลายนาที มาถึงทุกวันนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนไป คล็อปป์ อาจไม่ได้ตรึงผู้คนไว้ด้วยความหวังใน เฟอร์กี้ไทม์ที่มีทีเด้ดช่วงทดเวลาเสมอ แต่ คล็อปป์ตรึงคนดูไว้ด้วยแพชชั่นของตัวเขาเอง และรูปแบบการเล่นที่เรียกว่าโคตรมันส์ เร็ว แรง ดุดัน เฉียบคม ตลอด 95 นาที ซึ่งกับเรื่องสไตลืการเล่นและระบบทีม ผมว่าคล็อปสอบผ่านแน่นอน แต่กับการท้าชิงแชมป์ ยังคงเป้นเครื่องหมายคำถาม เพราะการที่จะท้าชิงแชมป์ คุณต้องมีความสม่ำเสมอ รวมถึงความหลากหลายด้วยเช่นกัน สำหรับผม ผมว่าสิ่งหนึ่งที่ลิเวอร์พูลขาดอยุ่ คือลูกหนัก ลูกบู้ ลิเวอร์พูลไม่ได้เล่นอ่อนปวกเปียก แต่ไม่ใช่ทีมเล่นหนัก ซึ่งบางครั้ง มันจำเป็น โดยเฉพาะการเจอกันกับทีมใหญ่ๆ หรือแม้แต่เกมดุๆอย่างแดงเดือด หรือเมอร์ซี่ไซด์ดาร์บี้ ลูกหนัก สำคัญมาก ในฤดูกาลที่แล้ว ถ้าลิเวอร์พูลมีลูกหนักแบบที่สเปอร์เล่นใส่มาดริดบ้าง บางทีนัดชิงอาจมีลุ้นมากกว่านี้ ซึ่งผมรู้สึกว่ามันเป้นเรื่องของคาแรคเตอร์ของทีมแชมป์ด้วยครับ แข็งแกร่ง สวยงาม ดุดัน(อย่างมีศิลปะ) ซึ่งถ้าคล็อปป์ใส่มันในทีมได้ ลิเวอร์พูลลุ้นแชมป์สนุกแน่
เรทติ้งของคล็อปป์ ความกระหายความสำเร็จ A+ , เกมรุก S , เกมรับ A , การแก้เกม B , การสร้างพลังใจให้ทีม A+ , บทบาทนอกสนาม A , การทำงานโครงสร้างระยะยาว S
เมารืซิโอ ซารี่ กับการสร้างรูปแบบใหม่ให้เชลซี
ขอบอกก่อนว่าผมไม่เตยติดตามผลงานของ ซารี่ เลย แต่พอรู้ประวัติเขา กลับรู้สึกว่าน่าสนใจ ซารี่เคยเป้นนักฟุตบอลมาก่อน ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จ แต่เขาเป็นคนที่ชอบเรื่องแท็คติกมาก เขาศึกษามันอยุ่เสมอ จุดกำเนิดคือในร้านเหล้าที่มีคนถามว่า เก่งแบบนี้ ทำไมไม่ไปคุมทีมละ หลังจากนั้นเขาจึงเริ่มทำงานโค้ช คู่กับงานธนาคารของเขา และก็ใช้เวลาถึง 30ปี กับการทำงานโค้ชในทีมต่างๆจนมาถึงเชลซี ระบบที่ซารี่ชื่นชอบที่สุดคือ 4-3-3 และจุดที่น่าใจคือ เขาจะต้องมีผู้เล่นกองกลางที่เป็นPlaymaker แต่ยืนต่ำสุดเพื่อลำเลียงบอลไปข้างหน้า และในตอนนี้คือ จอร์จินโย่ ด้วยแท็คติคนี้ทำให้บอลของซารี่ถูกกระจายไปทั่วสนามได้ เพียงแต่รูปแบบนี้ยังคงมีเครื่องหมายคำถามว่า ถ้าเจอทีมที่เพรซซิ่งเร็วและมีระบบ จะยังทำงานได้ดีอยู่มั้ย ใน 2 เกมส์แรก เรายังไม่ได้เห็นเรื่องนี้มากมายนัก แต่คาดว่าจะได้เห็นเรื่อยๆ โดยส่วนตัว ผมเชื่อว่าเป้าหมายเชลซีตอนนี้จะคล้ายๆกับสเปอร์ คือแม้จะมีผลงานดีในช่วงแรก แต่น่าจะเป็นการเกาะกลุ่มนำให้ได้จนจบมกรา แล้วดูการเสริมทัพช่วงนั้น ถ้าทุกอย่างไปได้สวย อาจเปลี่ยนจากเป้าหมายท็อป 4 เป็นลุ้นแชมป์ได้เลย ซึ่งเด็กหงส์อย่างผม อยากเห็นเชลซี และลิเวอร์พูล ร่วมกันไล่กดดันแมนซิตี้ในฤดูกาลนี้ไปจนจบ
เรทติ้งของซารี่ ความกระหายความสำเร็จ A , เกมรุก A+ , เกมรับ A , การแก้เกม A , การสร้างพลังใจให้ทีม A , บทบาทนอกสนาม B , การทำงานโครงสร้างระยะยาว B
อูไน อเมอรี่ กับยุคใหม่ของอาร์เซนอล
อาจเป็นฤดูกาลที่แฟนๆปืนใหญ่ลุ้นหนักสักหน่อยว่า ทีมจะออกมาในรูปแบบไหน จาก 2 เกมส์แรก เรายังไม่เห็นอะไรมากนัก แต่นั่นเพราะเจอเกมหนักมากๆ 2 เกมส์ ผมคิดว่าหลังจากนี้ เราจะได้เห็นมากขึ้น ซึ่งสิ่งที่แฟนๆอยากเห็นเป็นอย่างแรก คือทีมจะไม่เสียสูญจากการเดินจากไปของเวงเกอร์มากนัก ถ้าไปได้สวย ถ้าตั้งตัวเร็ว ถ้ารูปแบบการเล่นดี เราค่อยมากำหนดเป้าหมายกันอีกที แต่ต้องยอมรับว่า ปรัชญาการทำทีมที่เวงเกอร์เคยทำในยุคไร้พ่ายของอาร์เซนอล ที่มีเกมส์รุกสวยงาม ดูบอลสนุก เป็นรูปทรงบอลที่ได้รับการชื่นชมจากทั่วยุโรป อาจจะไม่ย้อนกลับมาในยุคของอเมอรี่ เนื่องด้วยทั้งสไตล์ของเจ้าตัวเองและผู้เล่นที่ไม่อำนวยนักในตอนนี้ อย่างไรก็ดี ผมเชื่อว่าอาร์เซนอล จะไม่แย่เกินไปนัก สามารถตั้งเป้าหมาย Top4 ได้ในฤดูกาลนี้
เรทติ้งของอเมอรี่ ขอยังไม่ให้คะแนนนะครับ เพราะผมไม่ค่อยได้ติดตามเขา ถ้าเพื่อนๆคนไหนคิดว่าอย่างไรก้อคุยกันมาได้ครับ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านหรือแวะเข้ามานะครับ ขอให้สนุกสนานกับเกมนัดที่ 3 และ ฤดูกาลใหม่ครับ
ปล. ปรับนิดเรทติ้งครับ