ครบ 1 ปีที่โดนบอกเลิก กับโอกาสที่ไม่คิดว่าจะมี
อันนี้จะยาวหน่อยนะครับ (น่าจะยาวมากๆครับ)
ขอรบกวนพื้นที่ และขออภัยถ้าทำกระทู้ดีๆตกไป
เจตนาของมู้นี้ก็แค่อยากแชร์ประสบการณ์ที่ได้พบมา ซึ่งวันนี้ก็ตรงกันกับวันนี้ในปีที่แล้วพอดีครับ ที่โดนบอกเลิก ซึ่งผมก็เคยตั้งกระทู้ว่าโดนบอกเลิก(
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1536045) วันนั้นท่านใดได้เข้ามาแชร์ ได้เข้ามาร่วมให้กำลังใจผมหรือให้กำลังใจท่านอื่นๆที่ประสบเหมือนกันกับผมในขณะนั้น ก็ขอขอบคุณมากๆครับ (โดนบอกเลิกวันที่ 6 ส.ค. 60 ครับ)
ผมกับแฟนเก่าคบกันมาได้ 2 ปีกว่าครับ แรกๆนั้นเราก็ทำงานอยู่ในกรุงเทพเหมือนกัน พอคบกันได้ปีเศษๆผมสอบและได้กลับมาทำงานใกล้บ้านที่ต่างจังหวัดซึ่งไกลจากกรุงประมาณ 500+ กม. ในนาทีนั้นผมก็ไม่อยากมาอยู่ไกลแฟนนะครับ แต่ในเมื่อสอบได้ และก็เป็นการกลับบ้านได้อยู่ใกล้ๆพ่อแม่ ทางเลือกดีๆของผมจึงมีไม่มากนัก ประกอบกับในเวลานั้นเราไม่มีปัญหาอะไรกันครับ คิดว่าทุกอย่างคงไปได้ดี ผมเองก็สัญญากับตัวเองว่าจะไปหาเค้าอย่างน้อยเดือนละครั้ง และผมก็สามารถทำได้ครับ จริงๆแล้วผมหาช่องทางที่จะได้ย้ายไปอยู่ใกล้ๆแฟนเหมือนกันนะครับ แต่ติดที่สัญญาที่ผูกตัวผมไว้กับที่ทำงานนั้นทำให้ผมขยับไปที่อื่นได้ไม่สะดวกนักครับ
หลังจากที่ผมกลับมาอยู่ทำงานที่บ้านได้ปีกว่าๆ แฟนเก่าผมก็เปลี่ยนที่ทำงานครับ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนที่ทำงานชั่วคราวเพื่อรอเวลาเปลี่ยนไปทำอีกที่หนึ่งซึ่งเป็นงานการถาวร ซึ่งตัวผมเองก็หาช่องทางคือการสอบเพื่อย้ายไปอยู่ใกล้ๆที่ทำงานถาวรของเค้าด้วยครับ ผมวางแผนไว้แบบนั้น และผมหวังไว้ครับว่าเค้าจะเข้าใจ และเค้าจะรอเวลาที่จะได้อยู่ด้วยกันครับ
แต่นั่นแหละครับ นี่คือจุดเริ่มของปัญหา การที่เราคบกันมาซักระยะหนึ่งซึ่งก็ไม่ได้นานมาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะผ่านมาไม่นาน แต่เราไม่เคยมีปัญหาทะเลาะกันหนักๆ หรือไม่เคยมีเรื่องมือที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องแม้แต่นิดเดียว หลังจากที่แฟนเก่าผมเปลี่ยนมาทำงานที่เป็นที่ชั่วคราวได้ สองถึงสามเดือน เค้ามีอะไรที่เปลี่ยนไป ไม่อยากให้ผมไปหา เริ่มบอกว่าชินแล้วกับการอยู่คนเดียว (ซึ่งผมไปหาทุกเดือนไม่เคยขาด) จนกระทั่งเธอขออยู่ห่างกันซักพัก (ซึ่งก็ห่างกันด้วยระยะทางอยู่แล้วมั้ย ? ฮาา) ผมก็ตกลง เพราะตอนนั้นผมคิดว่าเราแค่มีปัญหากัน คงไม่มีใครเข้ามาแทรกระหว่างเราหรอก แต่การอยู่ห่างกันซักพักไม่ใช่คำตอบของปัญหา เรากลับมีปัญหากันมากขึ้น ผมพยายามไปหาเค้า เพราะคิดว่าถ้าเราได้คุยกันต่อหน้า อาจจะแก้ปัญหาได้ดีกว่านี้ แต่ผลที่ได้คือ วันที่ผมไปหา เค้าออกไปกับเพื่อน (ซึ่งเรานัดกันไว้ว่าจะไปเจอกัน) ออกไปจนดึกมืดค่ำก็ไม่กลับ ติดต่อไม่ได้ แต่เราก็ได้เจอกันในตอนเช้าวันต่อมา ผมไปหาเธอ แต่ท่าทางของเธอเย็นชา และไม่ได้ยินดีอะไรทั้งสิ้นกับการที่ผมไปหาในครั้งนั้น และก็บอกเลิกผม ในวันที่ 6 สิงหา ปีที่แล้วนั่นเอง
หลังจากเลิกกัน ผมกลับเจอสิ่งที่แย่ยิ่งกว่าตอนที่เรามีปัญหากันหรือยิ่งกว่าวันที่เลิกกัน ไม่กี่วันหลังจากเลิก เค้าทักมาหา และขอให้ผมยังอยู่คุยกับเค้า เค้าบอกว่าเค้าเสียใจมาก และไม่รู้ว่าทำอะไรลงไป เค้าขอเวลา และขอให้ผมคิดซะว่านี่คือการถอยคนละก้าวเพื่อออกมาคิดอะไรซักอย่าง ในตอนนั้นผมยังเสียใจอยู่ และยังคงมีใจให้เค้าอยู่มาก ผมจึงตกลง แต่สิ่งที่เค้าได้ทำ เหมือนกับผมนั้นเป็นเพียงแค่ของตาย เหมือนเค้าจะได้ใจว่าทำยังไงผมก็คงไม่ไปไหน ผมได้มารู้ความจริงในภายหลังว่า เค้ากำลังแอบชอบใครบางคน ซึ่งเริ่มชอบในตอนที่เรายังคบกันอยู่ และ ผช คนนั้นมีท่าทีเข้าหาแฟนเก่าของผม แฟนเก่าผมจึงหวั่นไหว อันเป็นที่มาว่าทำไมเค้าถึงมีท่าทีที่เปลี่ยนไปจากผมและเป็นปัญหาที่เรื้อรังก่อนจะเลิกกัน โดยผมรู้เรื่องจากสื่งโซเชี่ยลเจ้าหนึ่ง ซึ่งปกติแล้วเราไม่ค่อยได้เล่น แต่เมื่อได้เจอผู้ชายคนนั้น แฟนเก่าผมกลับมาเล่น และเมื่อผมกลับไปอ่านโดยบังเอิญอ่าน ผมรับรู้ได้ทันทีว่า แต่ละข้อความที่แฟนเก่าผมเขียน ไม่ได้เขียนถึงผมแน่
ผมก็ลองถามแฟนเก่าของผมว่าเจอคนใหม่หรอ แอบชอบคนใหม่หรอ ซึ่งแน่นอนใครจะยอมรับล่ะ 55555 แต่ผมก็ต้องพยายามหักห้ามใจครับ ผมพยายามจะตัดใจไม่คุยกับเค้า และผมก็เริ่มทำได้จริงๆจนกระทั่งวันหนึ่งผมได้รู้ว่า เค้าเองก็ผิดหวังจาก ผช คนนั้น เพราะไอ่คนนั้นมันไม่ได้จริงจังกับแฟนเก่าของผม มันเเค่มาเล่นๆ หลังจากนั้นมาเค้าเริ่มมีท่าทีที่ดีกับผมมากขึ้น ผมเองก็หลงดีใจ แต่ผมพยายามขอกลับมาเป็นเหมือนเดิมอยู่หลายครั้ง เค้าก็บอกว่ายังไม่พร้อม จนกระทั่งหมาตัวเล็ก ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเราทั้งสองได้ตายลง แฟนเก่าของผมเสียใจมาก ร้องไห้ทุกวัน จนได้ขอร้องและขอโทรหาผม ซึ่งผมก็รับสาย ผมเองก็เสียใจที่หมาตาย เพราะผมก็รักมัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมก็นึกขึ้นได้ว่า เค้าเผลอมีใจให้คนอื่น ถึงขนาดยอมเลิกกับเรา และตอนนี้พยายามจะกลับมา และเริ่มสำนึกได้เพราะมีบางสิ่งเสียไป คือเค้าไม่สมหวังกับชายคนนั้นและหมาสุดที่รักก็ตายไปอีก ถ้าเค้าไม่ผิดหวังหรือเสียใจจากสิ่งเหล่านี้ เค้าจะไม่มีวันสำนึกเลยใช่มั้ย ? ผมเลยตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะไม่กลับไปเดินทางเก่าอีกแน่นอน
ประกอบกับตอนนั้นเริ่มมีคนเข้ามามากขึ้น ผมเองก็พยายามเปิดใจ จนกระทั่งวันหนึ่ง แฟนเก่าผมเค้าทักมาและถามผมตรงๆว่าผมมีคนใหม่แล้วหรอ ผมก็ตอบไปว่ายังไม่มี แต่แค่กำลังเปิดใจอยู่ เท่านั้นแหละแฟนเก่าของผมแสดงอาการเสียใจต่างๆนานาและตัดพ้อว่า เค้าไม่ทันแล้วใช่มั้ย เค้าไม่น่าปล่อยให้ไปวันนั้นเลย หลังจากนั้นเค้าก็ตั้งสเตตัส หรือแชร์อะไรหลายๆอย่างในเฟสที่คนอ่านคนอื่นๆจะตีความได้ว่า ผทเป็นคนทิ้งเค้าไป ซึ่งผมก็ไม่สนใจละครับ ผมเจ็บมามากมาย ยอมให้สวมเขาแล้ว และผมจะไม่สนใจอะไรทั้งนั้น จะโพสอะไรก็โพสไป
นั่นก็คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผมโดนบอกเลิกไปครับ
ส่วนต่อไปนี้ ก็จะต่อด้วยเรื่องราวที่เกี่ยวกับผมและแฟนคนปัจจุบันครับ
เท้าความง่ายๆครับ ผมกับแฟนคนปัจจุบันนี้เคยคุยกันมาแล้วถึง 2 รอบ ผมขอใช้ชื่อสมมุตแฟนคนปัจจุบันว่า A นะครับ ทั้งสองรอบนั้นไม่ได้ลงเอยเป็นแฟนกัน ครั้งแรกนั้นผมก็คุยกับ A ไปเรื่อยๆ ทุกอย่างกำลังค่อยๆเป็นไป แต่ผมก็ดันเลือกผู้หญิงอีกคนนึ่ง (ความเลวครั้งที่ 1 555555) หลังจากที่เลิกกับผู้หญิงคนนั้น ผมก็กลับมาคุยกับแฟนคนปัจจุบัน(A) อีกรอบหนึ่ง แต่ก็อีกนั้นแหละ ผมทำความเลวครั้งที่สองด้วยการไม่เลือก A แต่กลับไปเลือก ผญ อีกคนที่เป็นแฟนเก่าในเรื่องยาวๆข้างต้นนี่แหละครับ ขออนุญาติสมมุติชื่อแฟนเก่าคนที่ 2 ว่า P นะครับ
ก่อนที่ผมจะคบกับ P ผมสัญญากับตัวเองแล้วว่าจะไม่กลับไปคุยกับ A อีก เพราะเคยคุยกันมาแล้วและผมก็เคยเทเค้าไปแล้ว เลือกทางใดทางหนึ่งเท่านั้น
แต่หลังจากผมเลิกกับ P มา ผมเองก็อยากกลับไปคุยกับ A นะครับ แต่จำได้ว่าสัญญากับตัวเองไว้แล้ว และเทเค้ามาสองรอบแล้ว จะมีหน้าไปคุยกับเค้าได้ยังไงกัน
แต่ก็นั่นแหละครับ ไม่รู้อะไรดลใจให้ A ทักมาหาผมก่อน ใช่แล้วครับ เธอทักมาหาผมก่อน และก็กลายเป็นว่าเราก็ได้กลับมาคุยกันอีกครั้งหนึ่ง แต่คุยกันอย่างเดียวก็คงไม่มีอะไรครับเพราะเราก็อยู่ไกลกัน ผมอยู่บ้านที่ ตจว ส่วน A อยู่กรุงเทพ แต่แล้ววันหนึ่ง A มีโอกาสได้มาจังหวัดผม ไม่ไกลจากบ้านผมด้วย ในเวลานั้นผมก็ชั่งใจว่า ผมจะออกไปเจอ A ดีมั้ย คือ A ก็มีเพื่อนๆมาด้วยครับ และเพื่อนๆของ A ก็รู้ว่าผมเป็นใครและรู้ว่าเราเคยคุยกันมาก่อนถึงสองครั้ง แต่ผมก็รวบรวมความคิดในใจ และคิดว่าโอกาสแบบนี้คงไม่มีกันบ่อยๆ ผมก็เลยตัดสินไปหา A ในวันนั้นครับ
จากที่เราได้กลับมาคุยกันในครั้งที่ 3 ทำให้ผมรู้ว่า A ไม่เคยมีแฟนครับ เราุยกันไปอีกซักพักใหญ่ๆ จนกระทั่งผมตัดสินใจขอ A เป็นแฟน และเธอก็ตอบตกลง
ผมไม่รู้จะบรรยายยังไงดี ผมไม่คิดว่าชีวิตนี้เราจะได้คบกันจริงๆเพราะผมเองก็เทเค้าไปถึงสองรอบ แต่โอกาสนี้กลับมาอีกครั้ง เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อ ผมไม่รู้ว่าที่ A ไม่มีแฟนนั้นเพราะเค้ารอผมหรือเปล่า และผมจะใช้โอกาสนี้ให้คุ้มค่าที่สุด สมกับความผิดพลาดที่ผมเคยทำกับเค้าครับ
ปล. แฟนใหม่ทั้งทีก็อยู่ไกลกันอีกละ
ขอบคุณและขออนุญาตพื้นที่ตรงนี้อีกครั้งครับ
ไม่ว่าท่านจะอ่านจบหรือไม่ ขอบคุณมากๆครับ