*กระทู้อาวุธเก่าๆ สามารถหาอ่านได้ในล็อกเกอร์ของผมนะครับ
**และเช่นเคย หากมีข้อสงสัยก็สอบถามเพิ่มเติมไว้ได้ในกระทู้ รวมถึงถ้ามีจุดใดอยากให้ปรับปรุงก็สามารถบอกกล่าวไว้ได้เช่นเดียวกันครับ
VIDEO
สเตตัสอาวุธสำหรับสายเกม
(ต่ำสุดที่ 5 สูงสุดที่ 10)
โจมตีกายภาพ(
10 ) โจมตีธาตุ(
6 ) โจมตีสเตตัส(
5 ) โจมตีขี่(
6 )
ป้องกัน(
5 ) ความคล่องตัวตอนโจมตี(
6 ) ความคล่องตัวตอนหลบ(
6 )
ความยากตอนเริ่มใช้(
5 ) ความยากในการใช้ให้คล่อง(
8 ) ความยากในการฝึกใช้(
6 )
เปรียบเทียบกับอาชีพในเกมออนไลน์หรือโมบ้า
อาชีพประเภท Monk/Berserker ที่เน้นแดมเมจหนักๆหรือแลกเลือดเพื่อทำแดมเมจต่อเนื่อง หรือ สายเมจที่ไม่ค่อยมีสกิลเคลื่อนไหวแต่ทำแดมเมจถึงตายได้ในสกิลชุดเดียว
ข้อดี
1.แดมเมจสูง
2.การชาร์จตีทำให้แดมเมจต่อครั้งสูงที่สุดในเกม
3.การชาร์จตีทำให้มอนสเตอร์สะดุ้ง(เนื่องจากแดมเมจถึง)บ่อย
4.ระยะตีไกล
5.เสียความคมช้ากว่าอาวุธชนิดอื่น
6.การ์ดได้
7.แดมเมจ!!!
ข้อเสีย
1.เดินช้าและตีช้า
2.การฝึกการกะระยะและจังหวะจำเป็นมาก
3.ต้องเล่นแบบ Hit n’ Run (ตีแล้ววิ่งออก)
4.แม้จะการ์ดได้ แต่ไม่สามารถเล่นสไตล์เต่า(การ์ดค้างแบบหอก)ได้
สิ่งที่ผู้เล่นมักเข้าใจผิด
1.ดาบใหญ่รู้ท่าหมดก็เล่นได้
2.ต้องชาร์จทุกครั้งที่โจมตี
3.ต้องคอมโบให้จบทุกครั้ง
4.ต้องตีมอนสเตอร์ตลอดเวลา
สไตล์การเล่น
Great Sword หรือ GS หรือดาบใหญ่
คืออาวุธที่เทอะทะ เชื่องช้าทั้งการโจมตีและการหลบ รวมทั้งมีคอมโบที่ใช้เวลานาน แต่ก็มีระยะการตีที่ยาวกว่าอาวุธอื่น รวมทั้งยังมีพลังโจมตีต่อฮิตที่สูงอันดับต้นๆของเกม ถึงแม้จะไม่ได้ชาร์จโจมตีก็ตาม นอกจากนี้ยังเป็นอาวุธที่จับง่ายและฝึกง่าย แต่ยากและต้องเรียนรู้พอสมควรที่จะใช้ให้ชำนาญ
ด้วยความเชื่องช้าของตัวอาวุธเอง ที่แม้กระทั่งคอมโบพื้นฐานก็ใช้เวลาพอๆกับท่าใหญ่ของอาวุธบางชนิด
ทำให้สไตล์การเล่นของดาบใหญ่เน้นไปที่การโจมตีเพียงไม่กี่ครั้งแล้วหลบออกหรือ Hit n’ Run ซึ่งสามารถทำได้เพราะพลังโจมตีต่อฮิตที่สูงบวกกับสกิลพิเศษของตัวอาวุธอย่างการ “ชาร์จ” ที่แทบจะเพิ่มแดมเมจเป็นสองเท่า รวมทั้งยังมีคอมโบชาร์จโดยเฉพาะอีก
ทั้งหมดนี้ทำให้แม้ดาบใหญ่จะตีน้อยครั้งกว่า แต่ก็สามารถทำแดมเมจได้พอๆหรือมากกว่าอาวุธชนิดอื่นๆ ส่งผลให้ความคมของอาวุธลดลงช้ากว่าและรีดแดมเมจได้เยอะกว่าเมื่อวัดกันในระดับความคมเท่าๆกัน ประกอบกับระยะการโจมตีที่ยาวกว่าชาวบ้านชาวช่องเขา ทำให้ดาบใหญ่โจมตีส่วนของมอนสเตอร์ที่มักจะอยู่สูงอย่าง หาง หรือปีกได้ง่าย ทั้งยังสามารถยกดาบขึ้นกันได้ด้วยความเร็วสูง และมีประสิทธิภาพกินดาบโล่ห์นิดๆ
นอกจากนี้ในภาค MHW ดาบใหญ่ยังสามารถแคนเซิลท่าชาร์จเพื่อเปลี่ยนมาเป็นการกระแทกศัตรูอย่างรวดเร็วแทน ที่เมื่อรู้จังหวะการใช้แล้วและโฟกัสไปที่การเล่นสไตล์กึ่งบ้าเลือดแล้ว ก็จะเพิ่มมิติการเล่นไปได้ในอีกรูปแบบหนึ่ง
แต่ความง่ายในการเริ่มและฝึกใข้นั้น ไม่ได้ลดความยากในการใช้ดาบใหญ่ให้คล่องลงแต่อย่างใด ด้วยความเชื่องช้าจึงต้องเน้นไปที่การโจมตีเพียงไม่กี่ครั้งก่อนจะถอยออกนั้น ผู้เล่นต้องสามารถกะระยะการโจมตีให้ถูกต้อง รวมทั้งต้องอาศัยความรู้เกี่ยวกับมอนสเตอร์แต่ละตัว และสามารถหาช่องทางและจังหวะในการโจมตีได้จึงไม่ผิดนักที่จะบอกว่าสิ่งที่ยากที่สุดของการใช้ดาบใหญ่นั้น คือการจับระยะและจังหวะในการโจมตี ทั้งของตัวผู้เล่นเองและของมอนสเตอร์แต่ละตัวในเกมด้วย
อีกเรื่องหนึ่งก็คือ
แม้จะสามารถการ์ดได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่ควรใช้การการ์ดมากนัก และไม่สามารถจะเล่นสายกันเพียวๆได้ เพราะความที่ไม่มีท่าโจมตีต่อจากการการ์ด และกินความคมของอาวุธเวลาที่กัน จึงเหมือนกับดาบโล่ห์ที่เน้นใช้กันเสียงคำรามหรือยามจวนตัวจริงๆ ซึ่งพึ่งพาได้มากกว่าดาบโล่ห์อยู่นิดหน่อย
ดาบใหญ่จะปล่อยให้เพื่อนทำสเตตัสหรือ CC ให้ ก่อนที่จะใช้พลังโจมตีทางกายภาพเพียวๆเพื่อขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งท็อปแดมเมจของทีม โดยมักรับหน้าที่เป็นนักสับหางและชาร์จฟันระเบิดประจำปาร์ตี้ หลังจากนั้นก็จะเปลี่ยนเป้าหมายไปยังจุดที่คนอื่นเอื้อมถึงได้ยาก อย่างหลังหรือปีกแทน
ซึ่งผลพลอยได้อีกอย่างที่ปาร์ตี้จะได้รับจากดาบใหญ่ก็คือการชะงักบ่อยๆของมอนสเตอร์ ที่ช่วยพลิกสถานการณ์ได้ในบางจังหวะเวลา
โดยรวมแล้ว
ดาบใหญ่คือดาบยาวที่ทิ้งความพลิ้วไหว มาเสริมเป็นพลังการโจมตีแทน เหมาะกับสายสโลวไลฟ์ ผู้ที่ชื่นชอบการเห็นแดมเมจหนักๆด้วยการโจมตีไม่กี่ครั้งผ่านสไตล์ตีแล้ววิ่งหนี และสามารถที่จะทำลายมอนสเตอร์หลายๆตัวลงได้ด้วยคอมโบชาร์จหากมีโอกาส แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความอืดอาด และการใช้อาวุธให้ได้เต็มประสิทธิภาพ จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้จังหวะและระยะของตัวเองและมอนสเตอร์มากกว่าอาวุธชนิดอื่นๆภายในเกม