การสังหารหมู่ที่นานกิง VS. การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เอาชวิทซ์ ???
เหตุการณ์ไหนที่ทำให้ท่านรู้สึกหดหู่มากกว่ากันครับ?
การสังหารหมู่นานกิง (Nanjing Massacre)
หลังจากกองทัพญี่ปุ่นบุกเข้านานกิงได้เรียบร้อยแล้ว ก็ทำการเข้าปลดอาวุธทหารจีนที่ยอมแพ้และยอมตกเป็นเชลย โดยมีคำสั่งต่อทหารญี่ปุ่นว่าให้กำจัดคนจีนและเชลยทุกคนที่จับได้ และจากที่ประชุมตกลงว่า จะทำการแบ่งเชลยออกเป็นจำนวนเท่าๆกัน และจะถูกนำออกมาจากที่คุมขังเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 50 คน เพื่อนำไปประหาร คำสั่งนั้นเป็นไปอย่างเป็นเหตุเป็นผลและเหี้ยมโหดโดยปราศจากเมตตาเพราะไม่สามารถหาอาหารให้เชลยทั้งหมดได้ โดยสามารถช่วยขจัดปัญหาเรื่องอาหาร และลดการตอบโต้ได้ ญี่ปุ่นใช้วิธีการหลอกลวงเชลยเพื่อนำไปประหารหลายวิธีด้วยกัน เช่น ให้สัญญาว่าจะปฏิบัติอย่างดีหากไม่ต่อต้าน หลอกให้เข้ามอบตัว แบ่งผู้ชายออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละร้อยหรือสองร้อย แล้วหลอกไปยังจุดต่างๆที่นอกตัวเมืองเพื่อฆ่าทิ้ง ทั้งหมดนี้ได้รับการปฏิบัติอย่างง่ายดายกว่าที่ฝ่ายญี่ปุ่นคาด การต่อต้านมีเพียงบางจุด เพราะทหารจีนส่วนใหญ่ทิ้งอาวุธและทิ้งเมืองไปก่อนแล้ว ทหารญี่ปุ่นทำการทารุณกับชาวนานกิงเกินกว่าที่มนุษย์จะเข้าใจได้ หญิงชาวจีนถูกข่มขืนเป็นจำนวนไม่ต่ำกว่า 20,000 คน ไม่ว่าจะเป็นสาว คนท้อง หรือคนแก่ ทหารญี่ปุ่นข่มขืนชนิดไม่เลือกหน้า ไม่ว่าใครต่างก็เลี่ยงไม่พ้นการถูกข่มขืนทั้งสิ้น โดยผู้หญิงคนหนึ่งจะตกไปอยู่ในมือของทหารประมาณ 15 ถึง 20 คน บางคนในจำนวนนี้ถูกเรียงคิวจนถึงแก่ความตาย แต่กฎของกองทัพที่ว่าห้ามข่มขืนผู้หญิงของฝ่ายตรงกันข้ามนั้น ทำให้ทหารสังหารเหยื่อเสียเมื่อเสร็จธุระ พฤติกรรมเช่นนี้ไม่ได้กระทำกันเฉพาะในหมู่พลทหาร แม้ระดับนายทหารก็ไม่เว้น บางคนไม่เพียงสนับสนุนการข่มเหง แต่ยังเตือนให้พลทหารจัดการเหยื่อเมื่อเสร็จธุระเพื่อกำจัดหลักฐาน
ทางการจีนประเมินว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้มากกว่า 300,000 คน การกระทำครั้งนั้นทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ญี่ปุ่นตกต่ำอย่างถาวรไม่อาจฟื้นฟูขึ้นมาได้เลย
ค่ายกักกันเอาชวิทซ์ (Auschwitz-Birkenau)
เอาชวิทซ์เป็นค่ายกักกันและค่ายมรณะที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาค่ายกักกันของนาซีของนาซีเยอรมนีที่ทำการระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ค่ายเอาชวิตซ์ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 1940 หลังจากกองทัพนาซีได้บุกยึดประเทศโปแลนด์ ช่วงแรกกองทัพนาซีได้ใช้สถานที่แห่งนี้เป็นคุกสำหรับขังนักโทษทางการเมืองเท่านั้น แต่ภายหลังก็ได้เปลี่ยนเป็นห้องทดลองและสถานที่สังหารหมู่ชาวยิว ค่ายกักกันเอาชวิทซ์-เบียร์เคเน เป็นค่ายกักกันที่ใหญ่ที่สุดของนาซี ตั้งอยู่ในโปแลนด์ "ฮิตเลอร์" สั่งกวาดต้อนชาวยิวในประเทศต่างๆ ทั่วยุโรป จํานวน 22 ล้านคน ไปยังค่ายแห่งนี้ เมื่อมาถึงทุกคนจะถูกยึดทรัพย์สินทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่แขนเทียม ขาเทียม แล้วถูกแบ่งกลุ่มออกเป็น 2 พวก คือชุดแรกจะถูกต้อนไว้ใช้แรงงาน ส่วนชุดที่สองจะถูกประหารโดยทันที ซึ่งส่วนมากจะเป็นเด็กและคนชรา เนื่องจากการประหารด้วยใช้ปืนเป็นการสิ้นเปลืองกระสุนจึงได้เกิดอุตสาหกรรมการฆ่าโดยใช้การรมแก๊ส เหล่านักโทษในสภาพเปลือยเปล่าจะถูกต้อนให้ไปอาบน้ำ ซึ่งหมายถึงการเข้าสู่แดนประหาร เมื่อสิ้นเสียงสุดท้ายผู้คุมจะเปิดประตูเข้าเก็บทรัพย์สินมีค่าที่เหลืออยู่ เช่น ฟันเลี่ยมทอง โกนผมแล้วตัดชิ้นส่วนร่างกายที่แพทย์ต้องการ ก่อนส่งร่างเข้าเตาเผาต่อไป ส่วนชีวิตในค่ายกักกัน ลําบากยากแค้นและทารุณเป็นอย่างมาก เพราะการมีชีวิตรอดนั้นน่ากลัวกว่าและทุกข์ทรมานยิ่งกว่าการตายหลายเท่า ทั้งการถูกทรมาน การใช้แรงงาน ถูกตัวนำไปทดลอง รวมไปถึงความเป็นอยู่ที่ไม่ต่างอะไรกับสัตว์
ผู้บังคับบัญชาการของค่ายรูดอล์ฟ เฮิสส์ให้การในการพิจารณาคดีว่าประชากรชาวยิว 3 ล้านคนเสียชีวิตที่ค่ายกักกันแห่งนี้