2จุดโทษงงๆ?!ซาอุฯแสบซัดทดเจ็บ2ครึ่งเบียด'มัมมี่'กินบ๊วย 2-1
ซาอุดิ อาระเบีย เล่นดีกว่าทำ 2 ประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บทั้งสองครึ่งเวลา นาที 45+7 และ 90+5 แซงชนะอียิปต์ สุดแสบ 2-1 โดยเกมนี้ทีมมัมมี่ได้ประตูขึ้นนำจากโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกตัวเก่งตั้งแต่นาที 22 พร้อมประเด็นแจก 2 จุดโทษให้ซาอุฯที่ค้านสายตาแฟนบอลโดยหนึ่งในนั้นได้ เอสซัม เอล ฮาดารี่ ผู้รักษาประตูวัย 45 ปี 161 วันของอียิปต์ช่วยเซฟ 1 จุดโทษฉลองสถิติผู้เล่นอายุเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลกได้อย่างงดงาม
ซาอุดิ อาระเบีย
Starting Formation: 4-2-3-1
21.
ยาเซอร์ อัล โมไซเล็ม (GK)
6
9.
ฮัตตาน ซูลตาน บาเฮบรี้
65'
6
19.
ฟาฮัด อัล มูวัลลัด
79'
6
ตัวสำรอง
8.
ยาเฮีย อัล เชห์รี่
79'
6
20.
โมฮันนัด อาบู อาเซรี่
65'
6.5
ฟุตบอลโลก 2018 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เอ
สนาม โวลโกกราด อารีน่า
วันที่ 25 มิถุนายน 2561
กรรมการ วิลมาร์ โรลแดน
ซาอุดิ อาระเบีย
2
1
อียิปต์
ซัลมาน อัล ฟาราจ 45+6' (Pen.)
ซาเล็ม อัล ดาวซารี่ 90+5'
ซาอุดิ อาระเบีย ตกรอบปแล้วหลังแพ้มา 2 นัดติด เกมนี้ทีมปรับทีมหลายตำแหน่งจากนัดแพ้อุรุกวัย 0-1 และเลือกใช้ระบบ 4-2-3-1 ลงสนาม ในเกมรับใช้คู่เซ็นเตอร์แบ็ก ฮาวซาวี่ ขณะที่เกมรุกในการประสานงานระหว่าง อัล มูวัดลัด, อัล ฟาราจ, อัล ดาวซารี่ และซูลตาน
อียิปต์ มีโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ฟิตสมบูรณ์พร้อมนำทัพเช่นเดิม ในแดนกลางยังฝากความหวังไว้กับเอลเนนี่ ตัวความหวังในเกมทรุกยังเป็นเทรเซเกต์ มีหน้าเป้าเป็นโมห์เซน ส่วนผู้รักษาประตู เอล ฮาดารี่ ได้ลงสนามสร้างสถิติเป็นผู้รักษาประตูที่อายุเยอะที่สุดในฟุตบอลโลก ที่ 45 ปี 161 วัน
ซาอุฯทำได้ดีกว่าตั้งแต่เริ่มเกม
ก่อนออกสตาร์ตอียิปต์ถูกมองว่าเป็นต่อ แต่พอแข่งจริงกลับเป็นทางซาอุฯที่ทำได้ดี เป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่า ได้ลุ้นถึงพื้นที่สุดท้ายปะปราย
อัล ดาวซารี่ ยิงไกลข้ามคานได้ลุ้น
ซาอุฯ มีโอกาสลุ้นทำประตูอีกครั้งจากลูกยิงไกลของอัล ดาวซารี่ บอลพุ่งหลุดกรอบไปแบบได้ลุ้นเล็กๆ
ซาลาห์โชว์คลาสซัดให้อียิปต์นำ 1-0
เล่นเป็นรองมาทั้งเกม ซาลาห์คนเดียวที่เป็นความแตกต่าง เมื่อรับลูกวางยาวจากเพื่อร่วมทีมเล่นเกมโต้กลับเร็วดูดบอลลงหน้าเขตโทษแล้วกระดกบอลข้ามหัวผู้รักษาประตู กดสกอร์แรกให้อียิปต์พลิกขึ้นนำ 1-0 อย่างยอดเยี่ยม
ซาลาห์หลุดเดี่ยวคราวนี้ยิงออก
ซาลาห์ เอาชนะแนวรับหลุดเดี่ยวที่กลางสนาม แต่คราวนี้จังหวะจบสกอร์ทำได้ไม่ดีเหมือนเก่าเมื่อลูกชิพของเขาหลุดเสาไกลออกหลังไปนิดเดียว ก่อนที่ภาพช้าจะเห็นว่าเขาล้ำหน้าไปก่อนแล้ว
ซาอุยังคงทำได้ดีกว่าชัดเจน
เกมก็ยังเหมือนเดินม ซาอุฯสามารถครองเกมต่อบอลได้เยอะกว่าชัดเจน แต่ความเด็ดขาดในจังหวะสุดท้ายังไม่มี
เทรเซเก้ต์ยิงนกทำเสียของ
เทรเซเกต์ เล่นกับซาลาห์ ในแดนหน้าและก็เกือบพังสกอร์หนีห่างได้อีกครั้ง เมื่อซาลาห์วางบอลคืนให้เรเซเกต์ หลุดเดี่ยวได้ยิงทางซ้าย แต่ในร้อนเกินไปเลือกเล่นจังหวะแรกลูกยิงจึงขาดความเฉียบคมหลุดเป้าไปซะก่อน
อัล ฟาราจ ซัดเน้นๆติดบล็อค
ซาอุฯน่าได้ประตูตีเสมอสุดๆ จากลูกตั้งป้อมซัดเต็มเหนี่ยวในเขตโทษของอัล ฟาราจ แต่บอลไปติดบล็อคหน้าประตูของเฮกาซี่ อียิปต์รอดตัวไปหวุดหวิด
ซาอุฯเฮได้จุดโทษจากแฮนด์บอล
ความพยายามของซาอุฯมาประสบความสำเร็จได้จุดโทษ เมื่อลูกครอสจากทางซ้ายของชาห์รานี่ไปโดนมือ ฟาตี้ ที่พยายามเข้ามาบล็อค ผู้ตัดสินไม่รอช้ามอบราวัลให้ทีมเศรษฐีน้ำมันทันที
เอล ฮาดารี่ ฮีโร่เซฟโทษฉลองแก่สุดบอลโลก
อย่างไรก็ตาม ซาอุฯ ไม่สามารถฉกฉวยโอกาสทองนี้ได้ เมื่อ อัล มูวัลลัด เลือกสังหารจุดโทษไปทางซ้ายให้ เอล ฮาดารี่ ผู้รักษาประตูอียิปต์ที่เลือกพุ่งไปทางนั้นพอดี ปัดบอลเซฟทีมไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
ซาอุฯขยี้หนัก,อียิปต์รอดตัวเหลือเชื่อ
ในจังหวะต่อเนื่อง ซาอุฯอาศัยจังหวะปั่นป่วนในแนวรับของอียิปต์พยายามจะตีเสมอให้ได้ แต่ความเด็ดขาดมันมีไม่มากพอ ทีมมัมมี่ยังเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ได้
เชิ้ตดำเป่าโทษให้ซาอุฯอีกรอบ
เวรกรรมของอียิปต์ยังไม่หมด เมื่อถูกเป่าให้เสียจุดโทษอีกครั้ง หลังอัล มูวัลลัด ไปถูกกาเบอร์ ดึดล้มในเขตโทษ ก่อนผู้ตัดสินจะเรียก VAR ช่วยตัดสินในจังหวะนี้ซ้ำอีกที
เช็ค VAR ก่อนคอนเฟิร์มจุดโทษตามเดิม
หลังจากปรึกษาทีมงานและไปดู VAR ด้วยตัวเอง เชิ้ตดำ วิลมาร์ โรลแดน ยังยืนยันคำตัดสินเดิมเพิ่มเติมคือให้ใบเหลืองกาเบอร์อีกใบ
อัล ฟาราจ ไม่พลาดตีเสมอ 1-1
ซาอุฯเปลี่ยนมือปืนให้ อัล ฟาราจ ทำหน้าที่แทนอัล มูวัลลัด ซึ่งก็ไม่พลาด เลือกซัดไปมุมเดิมทางซ้าย แต่คราวนี้ เอล ฮาดารี่ พุ่งไปทางขวา ซาอุฯตีเสมอ 1-1 ในเกมสุดดราม่า
ซาอุฯลงสนามยังคงบุกหนักเช่นเดิม
ออกสตาร์ตครึ่งเวลาหลัง เกมของซาอุฯก็ยังทำได้ดีกว่าทางอียิปต์อยู่พอสมควร กับการครองบอลที่มากกว่า เดิเกมรุกกดดันในพื้นที่สุดได้ดีกว่า
อียิปต์ได้ลุ้นจากลูกโขกของเทรเซเกต์
โอกาสลุ้นแรกในครึ่งหลังของอียิปต์ ก็น่าจะได้ประตูสุดๆ เมื่อเทรเซเกต์ เทกตัวขึ้นโหม่งบอลหลุดเสาแรกไปนิดเดียวเท่านั้น
ซาอุฯบุกจริงแต่ได้ลุ้นยังไม่มาก
เกมยังคงดำเนินไปเหมือนเดิม คือ ซาอุฯ ครองบอลต่อเนื่องพยายามหาโอกาสเจาะเข้าทำประตู แต่ไม่ดีพอจะเจาะแนวรับที่แข็งแกร่งของทีมมัมมี่
เอล ฮาดารี่ โชว์เซฟ
ซาอุน่าได้ประตูสุดๆ จากจังหวะที่อัล ฟาราจ วางบอลแนวลึกเข้าไปในเขตโทษให้อัล โมการ์วี่ วิ่งสอดขึ้นมาโขกที่เสาสอง แต่เป็นเอล ฮาดารี่ ที่ปัดบอลข้ามคานออกหลังไปได้เฉียดฉิว
เอล ฮาดารี่ โชว์ซูเปอร์เซฟ
จังหวะต่อมา ซาอุฯได้เจะมุม อัล ฟาราจ คนเดิม คลอสบอลไปที่เสาสองและก็เป็นตัวสำรอง อาบู อาเซรี่ ที่ได้โขกเต็มๆ แต่ก็เป็นเอล ฮาดารี่ ที่โชว์ซูเปอร์เซฟช่วยทีมไว้ได้อีกครั้ง
ซาอุฯตอบโต้ได้น่ากลัว
อียิปต์ตอบโต้ได้น่ากลัว เริ่มจากจังหวะลากลุยฝ่าแนวรับซาอุฯของซาลาห์ เจ้าตัวไปไม่รอดเสียบอลที่หน้าเขตโทษ แต่ลูกไม่ตายมาเข้าทางปืนวาร์ดี้ ได้ปั่นทางซ้าย บอลไปแฉลบแนวรับซาอุฯออกหลังไปนิดเดียว
คาห์ราบาหลุดเดี่ยวยิงติดประตู
ซาอุฯกดดันเกมรุกมากขึ้น หลังเลยมีช่องว่างมากขึ้น เปิดโอกาสให้อียิปต์ได้ลุ้นหลายรอบ โดยเฉพาะตัวสำรอง คาห์ราบา หลุดเดี่ยวดวลตัว-ตัวกับประตู แต่ยิงไม่ได้เรื่องไปตรงตัวผู้รักษาประตุซะงั้น
อัล ดาวซารี่ ยิงแซงนำ 2-1
ซาอุฯไม่ย่อท้อพยายามจะทำประตูให้ได้ และพวกเขาก็ทำได้สำเร็จในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ จากลูกยิงจ่อๆในเขตโทษของอัล ดาวซารี่ ซาอุฯ แซงนำ 2-1
ไม่มีเวลาเหลือให้แก้ตัว จบเกม อียิปต์ แพ้ไป 1-2 ถือเป็นชัยชนะนัดแรกในรอบ 12 นัดในฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายของทีมซาอุฯ
อียิปต์
Starting Formation: 4-2-3-1
1.
เอสซัม เอล ฮาดารี่ (GK) (C)
8.5
13.
โมฮาเหม็ด อับเดล ชาฟี่
6.5
19.
อับดัลลาห์ เอล ซาอิด
45+6'
6.5
21.
มาห์มูด ฮัสซัน
81'
6.5
9.
มาร์วาน โมห์เซน
64'
6.5
ตัวสำรอง
11.
มาห์มูด คาห์ราบา
81'
6
14.
รามาดาน โซบี้
64'
6
15.
มาห์มูด ฮัมดี้ ฮามูดา อัตเตีย
18.
มาห์มูด อับเดล ราเซ็ค ฟาเดลอัลล่า
22.
อาเมียร์ วาร์ด้า
45+6'
6
แก้ไขล่าสุดโดย hugball เมื่อ Tue Jun 26, 2018 08:07, ทั้งหมด 29 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ