แมคโทมิเนย์ เด็กสกิล 6.5 ตบหน้าป๊อกฉาดใหญ่
แมคโทมิเนย์ เด็ก 6.5
เห็นๆกันไปแล้วนะครับ น้องแม๊คที่ลงเต็มแมตท์
วันนี้ผมขอวิเคาระห์ความเป็นไปได้ในมุมมองผม
เป็นเรื่องปกติมากนะครับ ที่เด็กปั้นแมนยูจะดูไม่มีทรงความเก่งความคล่อง
หรือเอาง่ายๆ จําพวก early peak คือ เก่งตั้งแต่ 18-19
แบบ โอเว่น เมสซี่ ที่ดังกระฉูดตั้งแต่เด็ก
หรือ แบบ เด็กปืน ที่มาแรงมากช่วงต้นอายุ 20
นึกๆดู เบ๊ค สโคล พวกนี้ก็ ถ้าจําไม่ผิดเบ๊คนิ 22 ถึงได้ลงตัวจริงแมนยู
มีกิกซ์ ที่แรงมาแต่ต้น
หลังจากนั้น เฟรช บราว โอเชีย พวกนี้ลงชุดใหญ่นัดแรกจะดูนุ่มนิ่มมาก
เอาง่ายๆ คือ หาความเก่ง หรือ จุดเด่นไม่เจอ
ถ้าเป็นในเกมวินนิ่งพวกนิิ้ คือ พลังประมาณ 60-65 บังคับยาก จะวิ่ง หรือจับบอล
จะหมุนตัวส่งบอลแต่ละครั้ง ต้องใช้ความอดทนในการพลิกตัวให้มุมได้ก่อน ถึงจะส่งลูกออกไปตรง ถ้ากด X X เลย2ที รับรองลูกไปไหนก็ไม่รู้
ยิ่งถ้าดูหน้าตาแต่ละคน จะดูละอ่อนมากๆ สําหรับเด็กแมนยู ดูไม่มีของ
ไม่น่าจะเล่นบอลเก่งด้วยซํ้า
ผิดกับพวกเด็กเทพ แบบ ฟาเบกัส เป้ แววมันออก ว่า ไอ้เด็กนี้มีของ
มาต่อที่น้องแม๊ค เชื่อทุกท่านเวลาดูน้องได้บอลต้องคอยลุ้นว่า มันจะไปรอดมั้ย
จะส่งออกไปแบบที่ควรมั้ย
จุเด่นของแม๊คคือ ทําได้ทุกอย่าง ร่างกายสูงใหญ่ แต่ทุกอย่างอยู่ในระดับ 6.5 เต็ม 10
ถ้าสังเกตุดีๆ จังหวะของแม๊คถึงแม้ลูกที่ส่งบอลออกไปสําเร็จ หรือ ไม่โดนแย่ง
มันจวนเจียนจะเสียทุกลูก เอาง่ายๆคือ ระดับเกมยังไม่ถึง
เล่นชุดเล็ก เวลามีเยอะกว่านี้ คู่ต่อสู้ไม่แกร่งเท่านี้
แต่ทุกครั้งที่แม๊คจะเสียบอล ตรงนี้ผมก็ว่าแปลกดี เด็กแม๊คมันจะแถบัง จะได้ฟาลว์เกือบทุกลูก เราจึงเห็นน้องลงไปนอนกลิ้งอยู่บ่อยๆ
แน่นอนละ แม๊คไม่ใช้พวกโชวจนเสียบอล แต่ระดับเกมยังไม่ถึงจึงโดนเค้ารุมตอดรุมแย่ง
แต่นิละข้อดี คือ มันไม่แอ๊ค โดนเบียดหน่อย หยุดเล่น หันไปมองกกรรมการ
ได้ฟาวลก็ดีไป ไม่ได้ก็โดนสวนเพราะตัวเองหยุดแล้ว
ในอีกนัยยะนึงคือ ใจมันสู้เต็มร้อย นักเตะแบบนี้พัฒนาจะช้าหน่อย แต่จะเป็นนักเตะที่ดีในอนาคต อีก 3-4 ปี เมื่อทุกอย่างพร้อมลงตัว สกิลทักษะอัพขึ้นมา 7.0-7.5 จะอยู่ตัว
และมีฟอรมการเล่นที่คงที่ เพราะทัศนคติดีอยู่แล้ว
การที่เราได้เห็นนักตะที่เล่นกับทีมมาตั้งแต่เด็กก้าวมาสู่ชุดใหญ่นั้น มันน่าปลื้มมากกว่า
สตาร์ดังที่ย้ายเข้ามาซะอีก ในแง่ทั้งการลงทุน ความจงรักภัคดี รวมถึงการแสดงให้เห็นว่า ถ้าดีจริงคุณก็ขึ้นชุดใหญ่ได้ เด็กๆทั้งหลายจึงกล้าที่จะย้ายหรือเซ็นมาอยู่กับศโมสร
เพราะมีโอกาศเกิด
แถมให้อีกนิด
ผมว่าการที่มูเอาแม๊คมาลงทีมชุดใหญ่ เป็นเกมการเมืองนิดๆ ในการกระตุนพวกรุ่นใหญ่
ให้เร่งฟอรม
การที่เปลียนป๊ออกออก เอาแม๊คลงแทนนั้น เป็นการตบหน้าครั้งใหญ่ ที่มากกว่าการออกมาให้สัมภาษณ์วิจารณ์ว่าเล่นห่วยซะอีก
ถามว่า ผมเห็นด้วยมั้ยที่มูตั้งใจทําแบบนี้? ผมเน้นและพูดมาเสมอ ตั้งแต่ สมัยรูนี่ยครองโลก ที่แมนยู กากยังไงก้ไม่โดนเปลี่ยน ในทั้งยุคมอยส์ และกัล ว่าให้คนอื่นเล่นบ้าง
ห่วยนักก็ไปนั่ง เพื่อนคนอื่นให้โอกาศเค้าลงมา ดีหรือไม่ดีกว่าไม่รู้
แต่รู้ว่าเล่นห่วยควรโดนเปลี่ยนออก
สุดท้ายปลายทางมูก็แสดงให้เห็นว่า เค้าเอาตัวเล่นดีลง จะมาอวยว่าาเก่งอย่างนู้อย่างนี้
ถ้าวันนี้เล่นไม่ดีก็ต้องเปลี่ยน
ผมเองก็อวยป๊อกว่ามันเก่ง ถึงเก่งมากๆด้วย แต่เห็นด้วยที่เอาออก นักเตะที่ผมชอบผมรักเป็นพิเศษในแมนยูก็มี แต่ผมจะไม่ออกมาหนุนหลังมั่วๆ ถ้าเล่นไม่ดี ชอบก็ส่วนชอบ
ไม่ได้หูหนวกตาบอดอวยซะทุกอย่าง
ลองคิดเล่นๆว่าคุณแข่งบอล แล้วคุณโดนเปลี่ยนออกทั้งๆที่คุณเป็นเอสของทีม
แล้วเอาตัวเด็กมัธยมลงแทนคุณ ยํ้าว่าเป็นเด็กมัธยมที่เล่นไม่เก่งด้วย
ในขณะที่ทีมเป็นรอง
เสียหน้าเสียความรู้สึกสุดๆ แต่ๆๆๆๆ ถ้าคุณไม่ห่วยจริง จะโดนเปลี่ยนมั้ย
ข่าวว่า เจ็บ ข่าวว่าป่วย ผมขอให้จริง
เพราะถ้าไม่จริงแสดงว่ามูเล่นบทโหดกับป๊อกแล้ว ว่า ทําไมเล่นให้มันดี หรือ ไม่โชว
ให้สมํ่าเสมอไม่ได้
ที่นี้ก็อยู่ที่ป๊อกละครับ ว่า ใจแค่ไหน งอลเลย ไม่อยากอยู่แล้ว ขอย้ายทีมเพราะไม่มีที่ลง อีดอัดโดนดร๊อป 2-3นัด ก็หมดไปแล้ว
ถ้ารอบบนี้ เร่งฟอรมกลับมาได้ ต้องชื่นชมมู เพราะอย่างที่บอกรักวัวให้ผูกรักลุกให้ตี
ได้ดีทั้งนั้น นอกซะจากลูกใจไม่ถึง ก็แยกทางกันไป
ส่วนแม๊ค โอกาศมาก็รีบคว้าไว้ ซ้อมกับชุดใหญ่ทุกวัน ได้ลงบ่อยๆ จังหวะระดับเกมมา
ก็แจ้งเกิดไปยาวๆ
สุดท้ายแล้วผมเชื่อว่า ป๊อกจะกลับมาเก่งกว่าเดิมได้ รวมถึงน้องแม๊คจะเป็นอะไหล่ชั้นดี
และโฟซูเมนซ่าจะกลับมารับบทแบ๊คขวาแทนวาเลนเซียแบบค่อยเป็นค่อยไปในปีหน้านี้ครับ