เกือบถูกครับท่าน สายที่ผมเรียนมาไม่ใช่สายคอมโดยตรง แต่ว่าไอ้ศาสตร์ที่ผมบ่นๆอยู่เนี่ย มันเกี่ยวกับการใช้คอมครับ ในขณะที่อาจารย์รุ่นเก่าๆคงใช้ไม่เป็นกัน (ไม่ใช่การใช้คอมทั่วไปเข้าเน็ตพิมพ์งานนะ)

อาจารย์ทางสายผม มีท่านนึงได้รับรางวัลโนเบลไปแล้ว อายุก็มากแล้ว แต่แกยังขวนขวายหาความรู้ใหม่ๆเสมอ ตอนนี้บางทีแกยังไปนั่งฟังเลกเชอร์ร่วมกับเด็กนักเรียนในสาขาอื่นๆ แล้วเอาความรู้ในสาขานั้นๆมาใช้กับงานวิจัยของแกต่อเลยครับ

ถ้าเป็นอาจารย์ไทยน่ะเหรอ ไม่มีทาง

อันนี้เห็นด้วยครับ หลายคนเข้าใจผิดว่าการเรียนในมหาลัยคือการเรียนในชั้นเรียนตามปกติ ซึ่งก็ถููกแต่ไม่ทั้งหมด การเรียนในมหาลัยที่ถูกต้องผมให้สัดส่วนเป็นครู 40% ตัวเราเองค้นคว้าเพิ่มเติมเอง 60% ที่ให้ครู 40% เพราะเคยเรียนกับครูที่การสื่อสารทำได้แย่มากๆจริงๆ ต้องมีแต่คนเก่งเท่านั้นถึงจะพอตามทันทำให้ผมไม่อยากทำอะไรกับวิชานั้นเลย เลยปล่อยแค่สอบผ่าน ไม่ได้ทำคะแนนดีเท่าไร แน่นอนถ้าผมอยากได้คะแนนดีๆผมก็สามารถค้นคว้าเพิ่มเติมด้วยตัวเองได้

การศึกษาของไทย ณ ปัจจุบันมันเลวร้ายจากระดับมัธยมลามไปมหาลัยแล้ว เด็กคิดแค่ว่าตัวเองจะต้องรอความรู้วิ่งมาหา คือรอครูเคี้ยวมาป้อนใส่ปากอ่ะ ไม่มีหรอกจะค้นคว้าเพิ่มเติมอย่างเอาเป็นเอาตาย

ปัญหามันจะเลวร้ายมากขึ้น จากพวกเด็ก เจนแซด (เกิดหลัง 1996) นี่ล่ะครับ พวกนี้ โตมากับความสบาย มุ่งแต่จะหาทางลัดอย่างเดียว ไม่ทนงาน ไม่ทนคน ไม่ทนอะไรทั้งสิ้น เด็กพวกนี้น้อยคนที่จะมีความพยายามในการเรียนเหมือนพวกเจนเอ็กซ์ครับ

ครู/อาจารย์ ต่างประเทศ ตั้งใจ สอนคน
ครู/อาจารย์ไทย สอนไปวันๆ รับเงินเดือนเที่ยว

ในต่างประเทศ งานวิจัย สำคัญกว่าการสอนครับ
ถ้าทำงานวิจัยได้ดีๆ บางสถาบันเขาให้หยุดสอนมาทำวิจัยอย่างเดียวเลยด้วยซ้ำ

อ.เคยบ่นให้ฟังครับ คือภาระหนักมาก ทั้งสอน ทำวิจัย และก็งานในมหาลัยอีก พวก สกอ.อะไรพวกนี้ และ ยิ่งการเมืองในมหาลัยรุนแรงมากครับ ไม่เอื้อ ให้ตีพิมงานเลยมอย่าง ม.ป.ตรีผมเนี่ย จะตีพิมงาน ไป ตปท.ต้องใช้เงินตัวเอง แปล PAPER ไทยเป็นภาษาอังกฤษในระดับที่ยอมรับจากวารสารวิชาการนั้น แบะหน้านึงแพงมากกกกก

ปัญหาการศึกษานี่มันเชื่อมโยงหลายส่วนนะครับ ความเห็นเห็นส่วนตัวผมนะ

เริ่มตั้งแต่ครอบครัวครับ เศรษฐกิจ โรงเรียน สภาพสังคมในแต่ละสถานที่นั้นๆ เพื่อน ถ้าอธิบายนี่ยาวครับ พูดไม่จบไม่สิ้น

ระบบที่ประเมินว่าครูทำงานโอเคตามเกรดเด็ก
ก็ประเมินเด็กกันแบบเว่อๆ เพื่อให้เหมือนผลการเรียนดี แต่จริงๆแล้วขาดการพัฒนา

ส่วนเด็กแย่มากๆ บางรร. แถวๆจังหวัดที่อยู่นี่ เขาก็เชิญออกไปเลย เหอะๆ

เอาแบบง่ายๆ ตามคนเรียนน้อยแบบผมละกันนะ

แถวบ้านผมนะ ถ้าหากไม่ตั้งใจเรียน สุดท้ายก็จะเข็นให้เรียนให้ได้ แล้วบังคับทุกอย่าง

ยัดเยียดตั้งแต่เรียนพิเศษ เรียนเสริมปิดเทอม วุ่นวายไปหมด

ซึ่งสุดท้าย อยู่ที่ตัวเด็กเองทั้งนั้นว่าจะทำหรือไม่ทำ

โดยเฉพาะบ้านที่มีพ่อแม่ที่อยากให้ลูกเป็นอาชีพนั้นอาชีพนี้ โดยที่ไม่มองความเป็นจริงว่า

เด็กมันมีศักยภาพพอไหม แล้วมันชอบสิ่งที่ ผปค ยัดเยียดให้รึเปล่า

ต่อให้เรียนจบมา แต่ไม่ได้จบในสายงานที่ตัวเองสนใจ มันก็มีแต่ความน่าเบื่อในชีวิต หมดไปวันๆกับงานไม่ตรงสาย

คุณภาพงาน สะท้อนคุณภาพคนครับ และคุณภาพของคน สะท้อนคุณภาพของสังคมไปอีกทอดนึง

เหมือนที่ จขกท บอกแหละ บางทีเรื่องบางเรื่องเด็กก็เรียนรู้ไวกันเกินไป ไม่เหมือนรุ่นก่อนๆ ที่อาจาร์ยเขาสามารถจับจังหวะช่วงชีวิตวัยเรียนได้ ว่าอยู่ชั้นไหน ปีอะไร ควรสอนอะไร เด็กถึงจะสามารถคิดไปเรียนไปได้แบบไม่สักแต่จะยัดเยียดให้เรียน

อีกอย่างความเละเทะ มันอยู่ที่ครูอาจาร์ยปัจจุบันด้วย พยายามเร่งสอนเกินวัยเด็ก แล้วเอาความไม่รู้ตรงนั้นไปหากิน ก็เข้าใจว่าเงินต้องกินต้องใช้ แต่จรรยาบรรณ ผมว่าเดี๋ยวนี้ครูรุ่นใหม่ๆ เริ่มไม่มีกันแล้ว

ส่วนเรื่องในรั้ว มหาลัย เรื่องอาจาร์ยหัวโบราณก็ตามนั้นน่ะแหละครับ

อาจาร์ยในประเทศไทยส่วนมาก ถ้ามีผลงานและมีตำแหน่งอยู่ตัวแล้ว มักจะมีทิฐิที่สูงพอตัว

ตรงนี้เลยทำให้การพัฒนาคนมันด้อยกว่าที่อื่น

มีที่ไหน อาจาร์ยรับทำวิทยานิพนธ์ หรือรุ่นพี่รหัส รับทำวิทยานิพนธ์อะ

ก็พิจารณาดูเอาเองละกัน

เทียบให้ดูแบบเห็นตัวเลขชัดๆนะครับ

ภาระสอน ไทย 6 วิชา ต่อปี (จุฬา มธ ได้น้อยหน่อย 4 วิชา ต่อปี)
ตปท 0-3 วิชา ต่อปี (ในมหาวิทยาลัยดีๆนะครับ)

การตรวจข้อสอบ ตรวจการบ้าน ไทย ตรวจเอง (ซึ่งแม่งโคตรไร้สาระชิกหัย) ตปท มีนักศึกษาตรวจให้

นอกจากนี้ ก็คล้ายๆที่ท่านว่ามาครับ แต่ถ้ามหาลัยดีหน่อย ก็จะมีทุนกันไว้ให้ถ้าต้องการจะตีพิม ตปท แต่มหาลัยที่อันดับกลางๆลงมาก็ตามนั้นแหละครับ

กรณีส่งตีพิมพ์ค่าดำเนินการ อ. ออกเองถูกละครับ เพราะมันเบิกได้หลังจากตีพิมพ์เรียบร้อยแล้ว
ส่วนตรงสีแดง ปกติเป็นหน้าที่ อ.ที่ต้องแปลเองนะครับ ถ้าเลือกจ้างแปลต้อง
ออกเงินเอง ก็ถูกต้องแล้วครับ

บางมหาลัย นี่อ.มีหน้าที่ ทำแลปกับเขียนภาษาไทย อย่างเดียวครับ ทางมหาลัยจะจัดทำภาษาอังกฤษไห้เลยครับ

ได้ยินมาว่า บางมหาลัย ต้องออกเองหมด ไม่มีเงินมาหนุนให้ทีหลังนะครับ
บางมหาลัยดีหน่อย ก็มีให้ แต่ถ้าจะตีพิมพ์ ตปท เยอะ ก็หมด ต้องออกเองอยู่ดี
ส่วน ตปท อาจจะด้วยค่าเงินด้วยมั้ง งบตีพิมพ์นี่ เหมือนไม่อั้นน่ะครับ อยากส่งเท่าไหร่ส่ง

กดให้ ดีเลิศประเสริฐสุด
ประชดเฟ้ยยย

พึ่งรู้ว่ามีแบบนี้ด้วย ก็ง่ายเลย