"ข้าไม่ได้เล็งด้วยมือ แต่ข้าเล็งด้วยตา ผู้ที่เล็งด้วยมือลืมเลือนหน้าบิดาตนเอง
ข้าไม่ได้ยิงด้วยมือ แต่ข้ายิงด้วยใจ ผู้ที่ยิงด้วยมือลืมเลือนหน้าบิดาตนเอง
ข้าไม่ได้สังหารด้วยปืน แต่ข้าสังหารด้วยวิญญาณ ผู้ที่สังหารด้วยปืนลืมเลือนหน้าบิดาตนเอง"
ปรัชญามือปืนมหากาฬ
ยอมรับว่ารู้สึกตื่นเต้นกับการได้เป็นตัวอย่างหนัง
พระเอกคนผิวดำ ควงปืนรีวอลเวอร์ พกกระสุนเต็มตัว
ศัตรูซึ่งกำลังวิ่งหนีหิ้วตัวประกันไปด้วย เล็งปืนใส่ศัตรูโดยไม่มอง
พร้อมกับพร่ำบ่นปรัชญาของนักแม่นปืน
แล้วก็โป้ง กระสุนแหวกอากาศ แหวกกระจก แหวกผ้า แหวกกิ่งไม้
เข้าหัวศัตรูอย่างจัง
โคตรเท่ว่ะ ต้องไปดูให้ได้ ต้องไปให้ได้
แต่พอไปดูแล้วกลับไม่ใช่ นี่มันคือหนังดราม่า
คุยกัน จ้องหน้ากัน คุยกัน แล้วก็คุยกัน
มีตัวประหลาดออกมาตุ้งแช่ แล้วมันก็โดนยิงตายอย่างไว
แล้วก็กลับมานั่งคุยกันใหม่
พระเอก(โรแลนด์) คือมือปืนมหากาฬในตำนาน ที่มีความแค้นฝังใจกับตัวโกง(ชายชุดดำ)
เด็กหนุ่ม(เจค) คือเด็กผู้มีของ นิมิตเห็นพระเอกกับตัวโกง มีจิตใจบริสุทธิ์จนเป็นที่ต้องการของตัวร้าย
ชายชุดดำ(ไม่มีชื่อ) ลักพาตัวเด็กน้อย ไปกลั่นเอาพลังจิต เป็นอาวุธไปใช้ยิงเสาค้ำจักรวาล
เพื่อเปิดทางให้ความชั่วเข้าไปสู้โลกคู่ขนานทุกดวงได้
เด็กกับมือปืนเลยต้องร่วมกันหยุดยั้งภารกิจชั่วนี้ ... จบเส้นเรื่อง
หนังดำเนินเหมือนเกมส์ RPG จืด ๆ
1 ชม.แรกเป็นการเน้นเนื้อเรื่องแบบละเอียดยิบยิบยิบ
ยิบย่อยจนรู้สึกว่าเมื่อไหร่จะยิงกันสักที พอได้ยิงกันก็จบเร็วมาก ง่ายมาก
ฉากโหลดกระสุนเท่ ๆ ในตัวอย่างก็มีเท่านั้น ในหนังมีอีกเยอะแต่มันเร็วมาก
พระเอกโหลดกระสุนหลายครั้ง แต่ก็เป็นการเอาปืนไปถูสีข้างซะงั้น พร้อมยิงต่อ
การยิงก็คือการยิงตรง ๆ ไม่พลิกแพลงอะไร (ไม่เหมือนจอนวิค)
ฉากจบก็งั้น ๆ ง่ายดายจนรู้สึกว่า ..... เอางี้เลยเหรอ
ข้อดีของหนังก็คือ เค้าพยายามเอาวัฒนธรรมเอเชียไปใส่ด้วย
ตัวละครสำคัญในเรื่องเป็นคนเอเชีย ฉากสำคัญเป็นภาษาจีน ไปสังเกตเอาเอง
นอกนั้นก็ไม่มีอะไร เส้นเรื่องเดาได้ พระเอกเท่(บางฉาก) ความรัก มิตรภาพ
ธรรมมะ ชนะอธรรม จบปิ๊ง
คะแนนความน่าดู 5/10
ไปดูแอนนาเบลดีกว่า