มีแฟนทีมอื่นหลายๆคนสงสัยว่า ทำไมปีนี้เสื้อเอฟฯ ไม่ใช่ช้างแล้วรึ ??? ก็เลยเอาบทความนี้มาให้อ่านครับ

เมื่อโมชิรี่มา ช้างเลยต้องไป
นอกจากความเปลี่ยนแปลงต่างๆในด้านฟุตบอลของเอฟเวอร์ตันในปีนี้แล้ว สิ่งที่เห็นได้ชัดอีกอย่างคือการตัดสินใจเปลี่ยนสปอนเซอร์หลักจากเครื่องดื่มช้างมาเป็น SportPesa บริษัทรับพนันจากทวีปแอฟริกา

ถึงโลโก้ของสปอนเซอร์รายใหม่จะดูเชยไปหน่อย ใช้แค่ตัวอักษรพื้นๆ ทำเอากลางอกเสื้อดูไร้มิติไปเลย แต่ต้องยอมรับว่าเม็ดเงินที่เข้าสโมสรนั้นเพิ่มจากเดิมเยอะทีเดียว

จากเดิมที่รับจากช้าง 5.3 ล้านปอนด์ต่อปี ซึ่งแฟนบอลที่อังกฤษด่า CEO ยับเลยว่าไปเซ็นถูกแบบนี้ได้ไงวะ แถมกลายเป็นว่าในกูดิสันต้องขายแต่เบียร์ช้าง ที่จะได้เห็นคอมเมนต์ในเพจเอฟฯเมืองนอกบ่นอยู่เรื่อยๆว่ารสชาติแม่งยังกับเยี่ยว

ตอนนี้เปลี่ยนเป็นมารับจากรับจากสปอร์ตเพซาปีละ 15 ล้าน อู้ฟู่กว่าเดิมเยอะ แถมสัญญายาว 5 ปีอีก (สัญญาฉบับสุดท้ายของช้างแค่ 3 ปี)

แล้วยังไม่หมดเท่านี้ เนื่องจากปีนี้พลพรรคท็อฟฟี่ได้ไปเล่นยูโรป้าลีก (ถ้าผ่านรอบคัดเลือกไปได้แบบไม่พลิกล็อก) ทำให้สปอนเซอร์ต้องจ่ายบวกเพิ่มให้ด้วย อย่างซีซั่น 2015/16 ที่อดไปเล่นบอลยุโรป ทำให้รายได้จากสปอนเซอร์โดยรวมเมื่อเทียบกับปีก่อนที่ได้ไป ลดลง 4.6 ล้านปอนด์

สรุปง่ายๆว่าในฤดูกาลนี้ ประมาณการณ์ว่ารายได้จากสปอนเซอร์จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนอย่างน้อยๆน่าจะเกือบ 15 ล้าน

สาเหตุการเปลี่ยนแปลงสปอนเซอร์แล้วได้เงินเพิ่มขึ้นแบบพุ่งพรวดครั้งนี้ ต้องยกความดีความชอบให้หุ้นส่วนใหญ่ ฟาร์ฮัด โมชิรี่ ซะเกินครึ่ง

จากสัญญาล่าสุดกับช้างที่ต่อเหมือนไม่ค่อยอยากต่อ แล้วซีอีโอดันไปบ้าจี้เซ็นซะอีก เสร็จปุ๊บก็มาอวดว่าเป็นรายรับสปอนเซอร์หลักที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีม (ค่าเงินเฟ้อขึ้นทุกวัน ใครมันจะบ้ารับสปอนเซอร์ที่จ่ายต่ำกว่าเดิม ไม่ได้ตกชั้นนะครับ) แถมมาแถต่อว่าไม่ใช่เรื่องตัวเงินอย่างเดียว เรากับช้างเป็นพันธมิตรที่ดีลกันมายาวนานที่สุดในพรีเมียร์ลีก

ด้วยความเคารพครับ โคตรไร้สาระ

ความเป็นนักลงทุนของเศรษฐีเชื้อสายอิหร่านผู้นี้ทำให้ทีมงานที่ดูแลด้านการหาเงินเข้าสโมสรจากเดิมที่ทำงานกันแบบ... (ไม่อยากใส่ข้อความต่อ เดี๋ยวจะแรงไป) ต้องปรับโหมดการทำงานกันจ้าละหวั่น มาไร้สาระบ้าบอกันแบบเดิมไม่ได้ละ

โมชิรี่เข้ามาซื้อหุ้นเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว แอดมินได้ยินข่าวเรื่องช้างจะไม่ต่อสัญญาจากวงในเมื่อสิงหาคม เลยคาดว่าน่าจะมีการจบสิ้นกันก่อนหน้านั้นพอสมควร อย่างน้อยๆก็ 1-2 เดือน

คหสต. โมชิรี่นั่นแหละเป็นคนที่เร่งให้ทีมงานไปเจรจากับช้างตั้งแต่เนิ่นๆว่าจะต่อมั้ย แต่ถ้าจะต่อต้องเพิ่มอีกเยอะเลยนะ

จากนั้นบทสรุปเป็นอย่างไรทุกคนก็คงได้เห็นกันแล้ว

Cr. https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1062338893896223&id=348099738653479

คือสัญญามันไม่ได้เพิ่มเงินตามปี ในยุคนั้นตอนที่เซ็น 5 ล้านต่อปีมันอาจจะเยอะสำหรับเอฟแล้ว พอมาถึงยุคซื้อตัวกัน50 ล้านปอนเงินที่ได้มันเลยดูน้อยมาก

ยุคเคนไรท์ เอฟฯ ไม่ได้คิดอะไรแบบธุรกิจจ๋า แบบที่ควรจะเป็น สัญญากับช้างมันก็เลยเป็นแบบนั้น คือ ใช้ความสัมพันธ์ที่ดี มากกว่าตัวเลขตามความเติบโตของธุรกิจ

แต่พอโมชิรี่เข้ามา เค้าคือนักธุรกิจ เคยช่วยอุสมานอฟบริหารอาร์เซน่อล เป็นส่วนสำคัญในการวางแผนสร้างอิมิเเรสต์สเตเดี้ยมจนสำเร็จ เค้ารู้โมเดลในการบริหารทีมใน EPL ก็เลยปรับทุกอย่างให้ธุรกิจมากขึ้น

อะไรที่เคยเช้าชามเย็นชาม ทำแบบครอบครัว เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ยังงัยก็ได้ เขี่ยทิ้งหมด .. ธุรกิจ คือ ธุรกิจ เต็มตัว

ข้อสังเกตเล็ก ๆ

ตอนช้างเซ็นสัญญาสปอนเซอร์กับเอฟเวอร์ตันครั้งแรก ใช้รูนี่ย์ที่เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงในตอนนั้น เป็นตัวโปรโมตในพิธีเซ็นสัญญา แต่พอฤดูกาลถัดมา ตอนเอฟฯเริ่มใช้เสื้อช้าง รูนี่ย์ก็ย้ายไปแมนยู หลังจากผ่านไป 13 ปี รูนี่ย์ย้ายกลับเอฟฯ ช้างก็หมดสัญญาพอดี

มันเป็นเรื่องบังเอิญมากกว่าครับ รูนี่ย์ย้ายไปแมนยู เพราะ โชว์ฟอร์มดีใน ยูโร2004 ที่โปรตุเกส ไม่เกี่ยวกับช้างโดยตรง ช้างคงอยากให้อยู่ต่อมากกว่า ถ้ารู้ล่วงหน้าว่ารูนีย์จะย้าย อาจจะไม่เซ็นก็ได้ 555

รูนีย์ กลับมาปีนี้เพราะไม่มีอนาคตกับแมนยู และช้างก็หมดสัญญาพอดี มูลค่าในการต่อสัญญาใหม่ สูงมากเกินรับได้

ผมว่ามันไม่เคยมีใครมายื่นราคาแข่งหรือเปล่าครับ เลยได้แค่ 5.3 ล้านกับช้าง

คือถ้าแบบพอสัญญาจะหมด สมมุติว่ามีเจ้าอื่นจะให้ 10 ล้าน

มันจะเป็นไปได้หรอว่าเอฟเวอร์ตันจะเลือกปัด 10 ล้าน แล้วเอาแค่ 5.3 ล้านจากช้าง

ถ้าเป็นแบบนี้มันก็จะแปลกเกินไปนะครับ

ผมเลยเชื่อว่ามันไม่น่ามีคนมาเสนอราคามากกว่า

5.3 ล้าน อาจเป็นตัวเลขสูงสุดในขณะนั้นแล้ว

แล้วยิ่งถ้าดูทีมอื่นเปรียบเทียบกัน ทีมส่วนใหญ่ก็ได้ราวๆนี้ครับ 4-6 ล้าน เวสต์แฮม เซาท์แธมตัน ก็ได้ไม่ต่างกัน

จะมีก็แค่พวกทีมลุ้นแชมป์ที่ได้กันปีละเป็นสิบๆล้าน

เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ทีมงานที่ดูแลเรื่องผลประโยชน์เลยครับ
ถ้าเช้าชามเย็นชาม พอช้างหมดสัญญา ตามมารยาทก็ต้องคุยกับช้างก่อน
คุยกับช้างเจ้าเดียวแล้ว Ok มันก็เลยได้เท่านี้ ไม่ได้เปิดโอกาสให้เจ้าอื่นมาแข่ง
เมื่อก่อนเอฟฯ ทำธุรกิจแบบนี้จริงๆ ถูกใจใครก็ทำงานกับคนนั้น ไม่ได้เขี้ยวอะไรเหมือนเอ็ด
แต่ตอนนี ยุคโมชิรี่ ธุรกิจ = ผลประโยชน์สูงสุด ช้างก็เลยต้องไป

เอฟใช้ไปกี่ล้านแล้วครับ ซื้อตัวฤดูกาลนี้

เทียบกันตรงๆก็คงลำบาก เมื่อก่อนเอฟไม่ใช่ทีมที่ลงทุนเยอะ
มาปีนี้ลงทุนไปเยอะ ที่จ่ายเยอะๆเวอร์บางทีก็การตลาดชิงพื้นที่ข่าว

สปอนเซอร์เห็นว่าเอาจริง ก็กล้าเอาเงินมาลง
ผมว่าทางสโมวรเค้าคงมาแผนพัฒนาหรือโมเดลอะไรไปโชว์แหล่ะว่าสโมสรนี้จะโตไปเรื่อยๆ

ลองย้อนไป 2-3 ปีก่อนใครจะจ่าย 15 ล้าน ก็ยากนะ