โมนาโกปลิดขั้วอำนาจจากปารีส แซงต์-แชร์กแมงลงได้สำเร็จคว้าแชมป์ลีก เอิงฤดูกาล 2016/17 หลังเปิดบ้านเอาชนะแซงต์-เอเตียนสิ้นสุดการรอคอยมาตั้งแต่ซีซั่น 1999/2000

ก่อนฤดูกาลนี้จะเริ่ม"เปแอสเช"เป็นเจ้าแชมป์ลีก เอิงมาตลอด 4 ปีหลังสุดแต่ปีนี้มีการเปลี่ยนโค้ชจากโลรองต์ บล็องก์เป็นอูไน เอเมรี่ทำให้ฟอร์มดร็อปลงไป

กลับกันโมนาโกภายใต้การคุมทีมปีที่ 3 ของเลโอนาร์โด้ ชาร์ดิมโชว์ฟอร์มกระฉูดแตกจนมีลุ้นคว้าแชมป์ลีก เอิงหลังจากครองอันดับ 3 มา 2 ปีซ้อน

ก่อนเกมวันนี้โมนาโกนำจ่าฝูงเหนือปารีสฯ 3 แต้มแต่แข่งน้อยกว่า 1 นัดซึ่งก็คือแมตช์ตกค้างเปิดบ้านรับมือแซงต์-เอเตียนโดยขอแค่เสมอจะได้แชมป์ลีก เอิงปีนี้ทันที

ผลปรากฏว่าโมนาโกไม่พลาดบดเอาชนะ"เลส์ แวร์" โดยครึ่งแรกออกนำตั้งแต่นาทีที่ 19 ราดาเมล ฟัลเกาแทงให้คีลิยัน เอ็มบ๊าปเป้หลุดเดี่ยวลากหลบผู้รักษาประตูก่อนซัดเข้าไปเป็นประตูที่ 15 ของเขาในลีกน้ำหอมปีนี้

กระนั้นโมนาโกต้องรออยู่นานกว่าจะได้ประตูย้ำชัยในครึ่งหลังช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+3 โตม่าส์ เลอมาร์ หลุดไปจ่ายให้วาแลร์ แชร์กแมงกองหน้าตัวสำรองแท็ปอินเข้าไป

จบเกมโมนาโกชนะ 2-0 นำจ่าฝูงเหนือปารีสฯ 6 แต้มแต่เหลือการแข่งขันนัดเดียวหมดสิทธิ์ไล่ทัน

นั่นทำให้โมนาโกคว้าแชมป์ลีก เอิงฤดูกาลนี้ไปครองนับเป็นสมัยที่ 8 ของสโมสรเท่ากับน็องต์เป็นรองแค่โอลิมปิก มาร์กเซย ( 9 ) กับ แซงต์-เอเตียน ( 10 ) และเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปีเลยด้วย

นี่คือแชมป์รายการเดียวของโมนาโกในซีซั่นนี้เพราะในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกเสียท่ายูเวนตุสจอดป้ายรอบตัดเชือกเช่นเดียวกับเฟรนช์ คัพที่ตกรอบรองชนะเลิศเช่นกันแพ้ปารีสฯ 0-5 ส่วนอีกถ้วยอย่างเฟรนช์ ลีพ คัพนั้นเข้าชิงแต่ปราชัยย่อยยับต่อ'เปแอสเช'มารผจญทีมเดิม 1-4

ในขุมกำลังโมนาโกชุดนี้มี 4 คนที่ช่วยกันนำทีมคว้าแชมป์ลีก เดอซ์ฤดูกาล 2012/13 เลื่อนชั้นกลับมาหลังจากร่วงลงมาเล่นในดิวิชั่น 2 ของฝรั่งเศสตั้งแต่ซีซั่น 2011/12 และเป็นการได้แชมป์ในวันที่ 17 พฤษภาคมเช่นกันคือดานิเยล ซูบาซิช, วาแลร์ แชร์กแมง, อันเดรีย ราจจี้ และนาบิล ดิราร์

สำหรับแชมป์ลีก เอิงของโมนาโกฤดูกาล 1999/2000 กุนซือคือโคล้ด ปูแอลซึ่งปัจจุบันคุมเซาแธมป์ตันโดยสมัยเป็นนักเตะก็เคยคว้าแชมป์ลีกน้ำหอมภายใต้การนำของอาร์แซน เวนเกอร์ในซีซั่น 1987/88

โมนาโกชุดนั้นอัดแน่นด้วยขุมกำลังระดับพระกาฬไม่ว่าจะเป็นดาวิด เทรเซเก้ต์, ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่, วิลลี่ ซาญอล, ลูโดวิช ชูลี่, มาร์เซโล่ กาญาร์โด้, ฟาเบียง บาร์เตซ หรือราฟาเอล มาร์เกซ


คลิปไฮไลท์ ลีกเอิง ฝรั่งเศส โมนาโก 2-0 แซงต์ เอเตียน

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

โมนาโก : ดานิเยล ซูบาซิช - ฌิบริล ซิดิเบ้ , คามิล กลิค , เชแมร์ซอน , เบนฌาแม็ง เมนดี้ - แบร์นาร์โด้ ซิลวา ( วาแลร์ แชร์กแมง น.69 ) , เจา มูตินโญ่ , ฟาบินโญ่ , โตม่าส์ เลอมาร์ - คีลิยัน เอ็มบ๊าปเป้ ( อันเดรีย ราจจี้ น.90+1 ) , ราดาเมล ฟัลเกา ( กีโด้ คาร์รีโญ่ น.88 )

สำรองไม่ได้ลงสนาม : มอร์แกน เด ซานช์ติส , ชอร์เก้ , ตีเอมูเอ้ บากาโยโก้ , อัลมามี่ ตูเร่

แซงต์-เอเตียน : สเตฟาน รุฟฟิเยร์ - เควิน เตโอฟีล กาเตอรีน , ลีโอ ลาครัวซ์ , ฟลอรองแต็ง ป็อกบา - ดิกโบ ไมก้า ( เฌเรมี่ เกลมองต์ น.21 ) , จอร์แดน แวร์ตูต์ , ฟาเบียง เลอมวน ( เคนนี่ โรช่า ซานโต๊ส น.85 ) , ปิแอร์-อีฟส์ โปโลมาต์ - อาร์กโนด์ นอร์กแด็ง , อเล็กซานเดอร์ โซเดอร์ลุนด์ ( โรแมง อามูม่า น.68 ) , อองรี เซเว่ต์

สำรองไม่ได้ใช้ : เฌสซี่ มูแล็ง , โรแนล ปิแอร์-กาเบรียล , โรเบิร์ต เบริช , มิกกาแอล นาเด้



โมนาโก ชุดแชมป์ ลีก เอิง 1999/2000 คุมทีมโดย โคล้ด ปูแอล
ผู้รักษาประตู : ฟาเบียง บาร์กเตซ , โทนี่ ซิลวา , ปาตริซ ลูซี่ , ฌอง-มารี ออบรี

กองหลัง : วิลลี่ ซาญอล , ยอห์น อาร์เน่ รีเซ่ , ฌูเลียง โรดริเกซ , ราฟาเอล มาร์เกซ , ฟิลิปป์ คริสต็องวัล , มาร์กแต็ง เฌอตู , ฟิลิปป์ เลโอนาร์ , บรูโน่ อีร์กเลส์ , * คริสตอฟ ปินญอล ( ย้ายไป ลีลล์ ระหว่างซีซั่น )

กองกลาง : ซาบรี ลามูชี่ , ลูโดวิช ชูลี่ , มาร์เซโล่ กาญาร์โด้ , ฟรานซิสโก้ คอสตินญ่า , ปอนตุส ฟาร์เนรุด , ซาลิฟ ดิเยา , มุสซ่า เอ็นดิยาย , ดาวิด ดิ ตอมมาโซ่ , เกรกอรี่ ลากมบ์ , * ซิลแวง เล็กวินสกี้ ( ย้ายไป บอร์กโดซ์ ระหว่างซีซั่น )

กองหน้า : ดาวิด เทรเซเก้ต์ ( 24 ประตูรวมทุกถ้วย ) , มาร์โก ซิโมเน่ ( ดาวซัลโวสูงสุด 28 ประตูรวมทุกถ้วย ) , ดาโด้ เปอร์โซ่ , วานโญ่ เอลัว





















โมนาโก 17 ปีที่แล้วในตำนาน

ปลดแอก!ไอ้เป้ยิงอีก'โมนาโก'เฮ 2-0 ซิวลีก เอิงปีนี้

โหดจริง เดี๋ยวนี้เป้นี่หมายถึงเอมบัมเป้ละ ตอนก่อนมีแต่เปเป้

ทำไมมันต้องดีใจท่าจับหัวนมตลอด

ไม่เหมือนใครมั้ง

เคยเห็นผ่านๆในเพจบอล เหมือนจะเป็นท่าเยาะเย้ยของน้องชายของเป้เวลาเล่นเกมfifaด้วยกันครับ
มีพี่ชายที่นั่งเล่นเกมบอลด้วยกัน แต่ยิงประตูในยูฟ่าไป 6 ลูกเนี่ยมันจะรู้สึกยังไงหนอ

กลับมาโหดเลย

ก่อนหน้าที่เศรษฐีเข้ามาเทค เหมือนจะดี พอปีถัดมาทยอยขายตัวหลักไปหลายตัว

ตอนนี้กลับมาจนได้ สุดยอดด

ยินดีด้วยครับน้องเป้ สุดยอดจริง ๆ ครัล

ชูลี่ทรงผมตอนนั้นเท่ห์มาก เทชิโกล์ยังเด็กอยู่เลย

แบบนี้ อเมรี่จะรอดมั้ยเนี่ย UCL ตกรอบแบบสุดช็อค แถมเสียแชมป์ประจำที่ผูกปีมาตลอดไปอีก

ซายอล ลามูชี่ ชูลี่ รีเซ่ เทรเซเก้ ตัวอื่นแม่มใครแวะ จำไม่ได้เลย

ทีมอื่นเค้าปลดล็อคกันหมดแล้ว แล้วเมื่อไหร่ลิเวอร์พูลจะปลดล็อคบ้าง

คงต้องว่ากันใหม่ฤดูกาลหน้าแล้วล่ะครับผม

ฟอร์มทีมไม่ได้เข้าใกล้แชมป์เลย สเปอร์สช่วงหลังๆยังดูมีแววจะได้แชมป์ลีคก่อนลิเวอร์พูลอีก

สงสัยอาจได้รอเกิน30ปีแหงๆ

นีซนี่ทำแต้มหล่นหายไปเยอะจนน่าใจหาย จากที่ครึ่งฤดูกาลแรกลลุ้นแชมป์อยู่ดีๆ [/instagram]

- ยินดีกับโมนาโกด้วยครับ
ปีนี้ Monaco ก้าวข้าม Paris ไปแล้ว ทั้งลีกและยุโรป ด้านความสำเร็จ ผมไม่ได้มองว่าทีม Paris อ่อนลงไป อูไน เอเมรี่ ก็ทำมาตรฐานสูงทีเดียว แพ้ผลงานโลรองต์ บล็องก์ แค่ปีเดียว กับเพื่อนร่วมลีกที่แข็งแกร่งขึ้นมา เก็บแต้ม จากที่ 2 กับ ทีม 3 แค่ 2 แต้ม มาตรฐาน ในยุโรปก็สูงขึ้น ถ้าชนะนัดสุดท้าย ก็ถือว่ามากแล้ว
Paris Saint-Germain
2012–13 >> 83 รองแชมป์ 71
2013–14 >> 89 รองแชมป์ 80 (Monaco)
2014–15 >> 83 รองแชมป์ 75
2015–16 >> 96 รองแชมป์ 65
2016–17 >> 89 ถ้าชนะนัดสุดท้าย (แชมป์ Monaco ถ้าชนะนัดสุดท้าย 95 แต้ม) ที่ 3 Nice ถ้าชนะนัดสุดท้าย 80 แต้ม
ปีนี้มาตรฐาน ลีกสูงขึ้น มีนีสที่แข็งแกร่งขึ้นมา
Monaco 3-1 Paris
Paris 1-1 Monaco
Paris 2-2 Nice
Nice 3-1 Paris
บอลถ้วย
Paris 4-1 Monaco
Paris 5-0 Monaco
บอลยุโรป ถือว่าฝันร้าย

โมนาโกชุดแชมป์ปี 99 นี่มีแต่ตัวดังๆ เล่นบอลบุกมันส์ด้วย

เห็นลูกยิงของเอ็มบัปเป้เข้าไปนี่
ภาพอองรีในไฮบิวรี่ลอยมาเลยอะ

แบบนี้ PSG จะคิดว่าตัวเองตัดสินใจผิดพลาดมั้ยที่ปลดบล็องค์ นอกจากจะไม่ได้แชมป์UCL ที่ต้องการแล้ว แชมป์ลีกเอิงที่ได้มาตลอดก็ยังอดอีก

เทเซเก้ Acc 95 Head 91 พ่อยิงคมโหม่งดี ของโผมมมมมม

ลูกยิงนั่นมันออกจะล้ำหน้าหน่อยๆรึปล่าว

ยินดีด้วยครับ แต่ปีหน้า psg จัดหนักแน่ๆ

สุดยอดครับ