[รีวิวคุเม#9] John Wick : Chapter 2
จอห์นคนเดิม เพิ่มเติมคือหมากินเวย์
หลังจากสร้างความ geek ให้หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ไปทั่วโลก นักฆ่าและหมาน้อย John Wick กลับมาอีกครั้งกับ
John Wick : Chapter 2
คราวนี้ยังคงได้ผู้กำกับ และมือเขียนบททีมเดิมกับภาคแรก และเมื่อสเกลถูกถ่างออก ที่ว่างนั้นถูกเติมเต็มด้วยนักแสดงอย่าง
Common และ
Ruby Rose นักฆ่าที่หมายจะเอาชีวิตของจอห์น รวมถึง
Riccardo Scamarcio ในบทตัวร้ายหลักของภาคนี้
สำหรับภาค 2 นั้น ตัวจอห์นยังคงมีปณิธานที่จะเกษียนตัวเองออกจากโลกขององค์กรนักฆ่ารับจ้างที่เขาเคยสังกัด เพื่อใช้ชีวิตบั้นปลายของตนกับสุนัขเพื่อนยากตัวใหม่ และบรรเทาความเจ็บปวดแห่งความอาลัยอาวรณ์ด้วยภาพ คลิป และสิ่งของดูต่างหน้าของภรรยาที่จากไป
หากจบแบบนั้นคงง่ายไป ว่ากันว่าองค์กรสีดำเหล่านี้เข้าง่าย แต่ออกยาก เมื่อเพื่อนร่วมองค์กรของจอห์นต้องการความช่วยเหลือ โดยมีพันธสัญญาเลือดเป็นสิ่งบีบบังคับให้เขาต้องกลับไปสู่โลกนักฆ่าใบเดิมอีกครั้ง แม้จะไม่เต็มใจก็ตาม
จอห์นจะทำอย่างไรกับสิ่งที่เขาถูกขอร้องให้ทำในภารกิจที่เขาไม่เต็มใจ และผลลัพธ์ของมันกำลังจะพาโชคชะตาเขาไปในทิศทางไหน เขาจะรักษาตัวรอดในโลกที่มีแต่นักฆ่าได้อย่างไร
ติดตามกันได้กับ John Wick : Chapter 2
ภาพยนตร์เรื่องนี้ คือความแอ็คชั่นชิบหายวายวอดที่ไม่จำเป็นต้องมีเหตุผลเหมือนเคย แต่หากคุณคิดว่ามันกลวง ๆ ยิงกันให้จบ ๆ ไป ต้องบอกว่าคุณคิดผิด
วัฒนธรรมขององค์กรนักฆ่าสุดแสน Unique เป็นสิ่งที่แฟน ๆ จดจำได้ดีในภาคแรก และเมื่อมาต่อกันภาค 2 มันก็ถูกหยิบมาขยายออกได้อย่างน่าสนใจ ไม่ดูการ์ตูนหรือเวอร์วังจนเกินไป
สิ่งที่ประทับใจของผมคือฉากแอ็คชั่น ด้วยความที่ผู้กำกับนั้นเคยเป็นสตั๊นแมนมาก่อน มันจึงไม่ยากที่เขาจะถ่ายทอดความดิบเถื่อนของการต่อสู้ออกมา ไม่ว่าจะเป็นการลำดับภาพที่ลื่นไหล มุมกล้องแปลก ๆ ที่ให้อารมณ์สับสนวุ่นวาย และการออกแบบฉากแอ็คชั่นที่ดูจริงมาก ถ้าเอาคนจริง ๆ ต่อยกัน สภาพคงจะทุลักทุเลแบบนี้
แม้โครงสร้างที่ถูกออกแบบมาจะยอดเยี่ยมเพียงใด หากผู้รับบทจอห์น วิคไม่ใช่เฮีย
คีนู รีฟ มันก็คงจะสูญเปล่า ชายวัยเลขห้าสุดเท่คนนี้ ทำการบ้านสำหรับเรื่องนี้มาอย่างหนักหน่วง ไม่ว่าจะเป็นการฝึก Martial Arts แขนงต่าง ๆ ที่เหมาะกับการต่อสู้ระยะประชิด การใช้อาวุธสังหารต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นปืนสั้น ปืนกลกึ่งอัตโนมัติ หรือปืนลูกซอง เขาสามารถถ่ายทอดความเชี่ยวชาญที่ว่าออกมาได้แบบจริงจัง สวยงาม (โดยเฉพาะการเล็งปืน และการเปลี่ยนแม็กกาซีนที่โคตรเท่) และอย่าแปลกใจที่ฉากแอ็คชั่นเกือบทั้งหมด เฮียคีนูจะเล่นเองแบบไม่เกรงใจตัวแสดงแทน
ต่อมาที่หลายคนคงเห็น แต่อาจจะมองข้ามไปคืองานคอสตูมที่ดีมาก เสื้อสูท เสื้อตัวใน กางเกง รองเท้า มันซ่อนความเนี๊ยบแบบไฮเอนด์ไว้ภายในความทะมัดทะแมงอย่างลงตัว รวมถึงเหล่าตัวแสดงสมทบในเรื่องที่ทุกคนสวมชุดที่เหมาะกับธีมอิตาเลียนมั่ก ๆ
สุดท้ายที่พูดถึงคือภาพ และแสงที่ใช้ในเรื่อง มีความนีออนเล็ก ๆ ซึ่งมันถูกใช้มาต่อเนื่องจากภาคแรก และยังคงทำได้ดี เรียกว่าแคปจอมา หลายซีนทำเป็นโปสเตอร์หนังได้เลย ชอบมาก
มาส่วนที่ผมไม่ชอบกันบ้าง แม้ขึ้นชื่อว่าหนังแอ็คชั่นยิงสนั่นลั่นทุ่ง แต่เรื่องนี้กลับมีการ set up ตัวละครที่นานมากแม้จะน่าสนใจก็ตาม เข้าใจว่าต้องการขยายโลกนักฆ่าออกไป แต่การเล่าไม่พยายามกระชับเลย ทำให้ช่วงแรกนั้นผมง่วงพอสมควร
ต่อมาคือสิ่งที่สำคัญมาก ที่ผมขอเรียกว่า "
ความจอห์น วิค" ที่ภาคแรกทำไว้ แวบแรกที่ผมได้ยินเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้คือ พระเอกไล่ฆ่าพวกมาเฟียทั้งแก๊งค์ เพียงเพราะมันฆ่าหมาของเขา ถ้าคุณสามารถสร้างหนังทั้งเรื่องด้วยแรงจูงใจคือเอาคืนที่มันฆ่าหมากูได้ ผมก็อยากดูครับ มันมีความเล่นใหญ่ในความโง่เง่าแบบที่เด็กผู้ชายจินตนาการไว้ครบถ้วน มันบ้าบอ ไม่มีเหตุผล แต่มันสนุกเพราะเขาทำสิ่งที่เราคิดไว้เด็ก ๆ ออกมาได้จริง ด้วยไดอาล็อคเช่น
"I once saw him kill three men in a bar... with a pencil, with a fucking pencil."
"It's not what you did, son. It's who you did it to."
"John wasn't exactly the Boogeyman. He was the one you sent to kill the fucking Boogeyman."
"John will come for you, and you will do nothing because you can do nothing."
"I heard you struck my son. And may I ask why?"
"Yeah, well, because he stole John Wick's car, sir, and, uh, killed his dog."
มันถูกใช้ในภาคสองน้อยมาก ทั้ง ๆ ที่มันเป็นสิ่งที่ทำให้ John Wick แตกต่างจากหนังแอคชั่นอื่น ๆ ในภาคนี้เราแทบไม่เห็นใครกลัวเขาเลย ไม่มีความบ้า ความโง่ มีแต่ความอยากเอาชีวิตคู่ต่อสู้ ความบู๊สะบั้นหั่นแหลกซึ่งผมเสียดายมาก ๆ
สุดท้ายที่ไม่ชอบคือน้องหมา ในขณะที่ภาคแรกเจ้าตัวน้อยดูมีความเป็น "ตัวละคร" มากพอสมควร แต่ภาคนี้เหมือนจะเห็นเพียงอุปกรณ์ประกอบฉากเฉย ๆ เท่านั้น
ภาพรวมของหนังเรื่องนี้เป็นหนังดีระดับมาตรฐาน ดูสนุก งานภาพเยี่ยม มีเนื้อเรื่องพอให้เสพได้ ที่พิเศษคือฉากแอ็คชั่นที่ดูเรียลมาก แม้จะน่าผิดหวังสำหรับกิมมิคของภาคแรกที่ถูกใช้น้อยไปหน่อย แต่สำหรับแฟนจอห์น วิคภาคแรกไม่ควรพลาดครับ
เพจ : โตแล้วคุยอะไรก็ได้
https://www.facebook.com/TalksWithKaowPong/
