คือมีอยู่ว่าผมทำงานกับบริษัทแล้วผมได้ลาออกมาและได้นำเงินที่ไปเก็บจากลูกค้ามาด้วย 50000 บาท เลยโดนแจ้งยักยอกทรัพย์ ผมก็รับสารภาพ ร้อยเวรส่งฟ้องศาลแล้วศาลสั่งให้ไปหาเงินมาคืนบริษัท โดยผมวางเงินประกันตัวเองไว้ 20000 บาท ศาลนัดฟังคำตัดสินวันที่ 25 ก.พ. แต่ผมยังไม่ได้คืนเงินให้ บริษัทเลย ทำไงดีครับ มีเงินไม่ครบบริษัทอยากได้เป็นก้อนเดียวทั้งหมด

1.ไปฟังคำตัดสินปกติ(ศษลจะตัดสินยังไง)
2.ไม่ไปฟังศาลตัดสิน

ขอคำปรึกษาด้วยครับ

แล้วท่านไปเอาเงินบริษัทมาทำไมอะะ

ก็รีบไปคืนสิครับคดีมันยอมความได้ ถ้าบริษัทพอใจละถอนแจ้งความให้ก่อนศาลพิพากษา ก็รอดอ่ะ มีไม่ครบไปยืมเอาทำไงก็ได้ให้เขายอมความ

ศาลคงตัดสินให้คืนเงินทั้งหมด+ดอกเบี้ย

ปรกติศาลก็ตัดสินให้ชดใช้แหละมั้งครับ

น่าจะเป็นต้น + ดอก ขึ้นอยู่กับระยะเวลา

ส่วนถ้าไม่ไป ก็อาจจะโดนข้อหาหนีศาล ถ้าหนีก็หนีให้รอดละกันครับ

แล้วก็ไม่ได้ทำให้ความผิดหายไปไหน

จะตัดสินยังไงคุณยังจะลุ้นอีกหรือครับ??

ถ้าถามผมนะคุณไปยืมเงินเพื่อนพ่อแม่ใครก็ได้มาคืนครับ คดียักยอกทรัพย์เป็นอาญาซึ่งยอมความได้ ถ้าผมเป็นบริษัทผมได้เงินคืนครบก็จบไมสาวความยาวหรอกมันเสียเวลาครับ ยกเว้นข้อเดียวเลยคือกวนตีนดึงเช็งครับ กรณีแบบนั้นแล้วผมเป็นบริษัทจะให้ฝ่ายกฎหมายบริษัทจัดหนักคุณแน่นอนครับ (ถ้ามีนะ)

ประนีประนอมเอาครับ

จ่ายเป็นรายเดือนเอา เดือนละกี่พันก็ว่าไป

อ้าว แล้วไม่คืนแต่แรกอะครับ คืนเสร็จ เคลียร์ก่อนที่จะมีการส่งฟ้อง ก็จบสวยๆแล้ว

นั้นและครับคือ ปัญหา ไกล่เกลี่ยก็จะเอาเงินก้อนอย่างเดียวเลย

ไปฟังตามที่ศาลนัดเถอะครับ..

เพราะถ้าท่านไม่ไปฟัง (หนีศาล) นอกจากหนี้ก้อนโตก้อนเดิมแล้ว..เงินประกันตัวก็จะถูกยึดไปฟรีๆอีก

ศาลจะสั่งจำคุกไหมครับ กรณีจะขอผลัดไปสัก 10 วัน แล้วคืนหมด

เอาเท่าที่รู้มา,อ่านมา นะครับ..

กรณีท่านไม่ไปฟังตามที่ศาลนัด ก็น่าจะถือว่าท่านสละสิทธิ์ในการสู้คดีของท่านเอง..ยังไม่ถือเป็นโทษอาญา

และศาลก็จะนำสืบเฉพาะหลักฐาน,พยานฝ่ายโจทก์ (บ.เก่าท่าน) และตัดสินคดีความ..

แต่ท่านน่าจะเสียเงินที่วางประกันตัวไว้แน่ๆ เพราะไม่ยอมทำตามเงื่อนไข..

คือผมยังไม่เห็นจุดที่ท่านควรจะหลบหนีนะครับ..ไม่ใชว่าท่านไปแล้วต้องจ่ายให้ทันที

ศาลจะเป็นคนไกล่เกลี่ยให้ยอมความกันครับ (ซึ่งในตอนนั้นแหละท่านอาจจะขอผ่อนชำระเป็นงวดๆ)

แน่นอนว่าโจทก์คงไม่ยอม แต่ศาลมีวิธีไซโค ให้ทั้ง 2 ฝ่ายประนีประนอมกันให้ได้แหละคับ..

มันไม่คุ้มกันหรอกที่จะต้องขึ้นโรงขึ้นศาลหลายๆรอบ เพื่อเอาเงินก้อนไม่กี่หมื่น..

ไม่รู้ถึงจำคุกมั้ย แต่ผมก็คิดเหมือนเม้นบน ประนอมหนี้

จ่ายเป็นงวดๆ +ดอกเบี้ยแบบหนี้ทั่วไปละมั้ง

ยักยอกเป็นคดีอาญา แต่ยอมความได้ ก็ไปศาลเหอะครับ

ขอบคุณครับ

ประเด็นที่ 1.ให้ข้อมูลรายละเอียดน้อยไปหน่อยนะคับเลยไม่รู้ว่า คดีอยู่ในชั้นฟังคำพิพากษา หรือในชั้นใกล่เกลี่ยในชั้นศาล
- หากอยู่ในชั้นใกล่เกลี่ยโดยปกติจะประมาณ 2 ครั้ง เดาว่าครั้งแรกคงคุยกันแล้วรอบนึง แล้วศาลให้คุณหาเงินมาใช้คืนบริษัท
1. ถ้าคุณหาเงินมาครบ คดียักยอกเป็นคดียอมความได้ คดีคุณก็จะจบ
2. ถ้าหามาไม่ครบ คงต้องฟังบริษัทผู้ัเสียหายว่ายอมรึป่าว ถ้าไม่ยอมเค้าอาจให้นำคดีสู้ศาลพิจารณาพิพากษาตามกระบวนการ กรณีบริษัทยินยอมอาจจะทำสัญญาประนีประนอมให้คุณผ่อนชำระเป็นรายเดือนในส่วนที่ยังขาดได้
- หากอยู่ในชั้นฟังคำพิพากษา คงทำอะไรไปไม่ได้มากไปแล้วคับ เพราะศาลคงนำผลการไกล่เกลี่ยและพฤติกรรมแห่งคดีต่างๆมาพิจารณาตัดสินคดีด้วย ซึ่งโทษยักยอบมีโทษจำคุกด้วย

ประเด็นที่ 2 หากไม่ไปฟังศาล แบ่งเป็น 2 กรณี เพราะไม่รู้ว่าคดีคุณอยู่ชั้นไหนนะ คือ
- หากอยู่ในชั้นใกล่เกลี่ย คุณไม่ไปก็คดีเดินหน้าต่อ ศาลจะมีคำพิพากษาเอง ซึ่งคุญอาจติดคุกโดยไม่รอลงอาญา
- หากอยู่ในชั้นฟังคำพิพากษา ถ้าคุณไม่ไปศาล ศาลจะไม่อ่านคำพิพากษา แล้วจะให้เจ้าหน้าที่ไปติดตามตัวคุณมา ตอนนี้คุณจะถูกออกหมายจับแล้ว แถมโดยริบเงินประกัน 20000 ด้วย หากจับตัวคุณได้ คุณจะไม่สามารถยื่นขอประกันตัว แถมศาลจะพิพากษาลงโทษจำคุกคุณหนักด้วย (ไม่รอลงอาญา) ปรับเงิน+ให้ชดใช้เงินแก่บริษัท