ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 05 Nov 2008
ตอบ: 9221
ที่อยู่: ได้ก็เพราะรักที่ได้จากเธอ
โพสเมื่อ: Tue Feb 14, 2017 12:05 pm
[รีวิวคุเม#8] Hacksaw Ridge
...เพราะเขาเกลียดสงคราม เขาจึงเข้าร่วมกับมัน...



หลังจากสร้างชื่อเสียงในฐานะนักแสดงมานาน วันนี้ Mel Gibson ถึงเวลาสร้างชื่อในฐานะผู้กำกับหนังคุณภาพอีกสักทีนึง เมื่อเขาได้ชักชวนนักแสดงหนุ่มสุดหล่ออย่าง Andrew Garfield มาเข้าร่วมกับภาพยนตร์สงครามโลกสุดแสนระอุ Hacksaw Ridge

ภาพยนตร์สร้างจากเรื่องจริงของ Desmond Doss พลทหารหนุ่ม ผู้ที่เข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่ 2 กับกองทัพสหรัฐ ด้วยเหตุผลแสนเรียบง่าย "เขาอยากช่วยประเทศของเขาด้วยการรักษาชีวิตของผู้คน มิใช่การพรากมันจากผู้อื่น"

เพื่อการนั้น เดสมันด์ จึงเลือก "ไม่จับอาวุธ" แม้เพียงนาทีในสงครามโลกครั้งที่สอง และลงไปมีส่วนร่วมในสมรภูมิรบในฐานะแพทย์สนาม
ในเหตุการณ์ประวัติศาตร์นั้น ดอสส์ สามารถช่วยเหลือทหารผู้บาดเจ็บได้มากถึง 75 ราย และได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติในฐานะวีรบุรุษสงครามโลก

และเมื่อมันถูกดัดแปลงมาสู่ภาพยนตร์จอเงิน เราก็ได้รับชมวีรกรรมสุดแสนกล้าหาญในสมรภูมิเดือดอย่างสุดมัน



หนังเรื่องนี้แบ่งออกเป็นสามองค์ใหญ่ ๆ ในช่วงแรกจะเป็นการพาไปแนะนำให้รู้จัก เดสมันด์ ดอสส์ (แอนดรูว์ การ์ฟิลด์) ว่าโตมาแบบไหน เป็นคนเช่นไร และแรงจูงใจที่เขาอยากเข้าร่วมสงครามนั้นคืออะไร รวมถึงชีวิตรัก และคนที่เป็นคู่แท้ของเขานั้น มีจุดเริ่มต้นมาจากไหน

ช่วงต่อมา ตัวหนังพาเราไปพบกับความยากลำบากในการยืนหยัดจะเข้าร่วมสงครามโดยไม่จับอาวุธ ทำให้เขาต้องพบเจอกับอุปสรรคมากมาย ทั้งถูกดูถูกเหยียดหยามจากเพื่อนร่วมกองทัพ และการต้องทำงานภายใต้คำสั่งของผู้บังคับบัญชาที่เขาขัดคำสั่งด้วยศรัทธาของเขา

และช่วงท้าย เมื่อกองทัพที่จบหลักสูตร เดินทางมาถึงผาแฮกซอว์ จากนาทีนี้ไปจะเป็นสงคราม สงคราม และสงคราม เราจะได้ทราบว่าเดสมันด์จะทำเช่นไร เมื่อเขาอยากเพียงช่วยเหลือผู้คน ในขณะที่ข้าศึกของเขาไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหม หมายจะเอาชีวิตทุกคนที่พบเจอ



ส่วนที่ผมชอบมากที่สุด (แต่หลายคนหลับ) คือสององค์แรกของเรื่อง ที่เล่าที่มาที่ไป ว่าเหตุผลที่ดอสส์เข้าร่วมสงครามคืออะไร แรงจูงใจที่น่าหงุดหงิดสำหรับเบื้องบนของกองทัพคืออะไร และอุปสรรคที่เขาต้องก้าวผ่านทั้งจากเพื่อนร่วมรุ่นที่คอยกลั่นแกล้ง และดูแคลน รวมถึงข้อหาร้ายแรงขั้นสุดจากกองทัพว่าด้วยการขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาที่เขาต้องรับมือจะเป็นเช่นไร เรียกว่า Set up มาดีมาก หนักหน่วงเข้มข้น ทำให้เราเอาใจช่วยตั้งแต่เขาตั้งแต่ยังไม่ไปไหน

ต่อมา แม้ Genre ของหนังจะเป็น Drama หนัก ๆ แต่ในส่วนของ Action นั้นคือจุดเด่นอีกอย่างของหนังเรื่องนี้ครับ ทันทีที่พวก Jap (ศัพท์ที่ฝ่ายกองทัพเรียก) ร้องให้สัญญาณยิงนัดแรก ทันใดนั้นห่ากระสุน และห่าระเบิดก็เสิร์ฟให้เราแบบไม่หยุดหย่อน แปบ ๆ ยิง แปบ ๆ ระเบิด สักพักยิง สักพักเขวี้ยงระเบิด เป็นซีนแอคชั่นที่โคตรมันอันดับต้น ๆ ของหนังสงครามยุคหลัง

และต้องชื่นชมผู้กำกับเมล กิบสันเลยว่า ทำออกมาได้บรรยากาศสงครามจริง ๆ เรารู้สึกถึงความสิ้นหวัง หวาดกลัว และมันต้อกย้ำเราว่าทุกคนที่เข้าร่วมกับมันจะพบกับความสูญเสียไม่ว่าทางใดทางนึงเสมอ

สำหรับคนที่กลัวดูไม่รู้เรื่อง บอกเลยว่าเรื่องนี้ตัดต่อ และลำดับซีนแอคชั่นดีมาก ลื่นไหลไปเรื่อย ๆ กล้องที่ไม่ส่ายไปมาชวนปวดหัวก็เป็นสิ่งดีงามอีกอย่างนึง เมื่อผนวกกับระบบเสียงจากโรงภาพยนตร์ คุณจะรู้ตัวอีกทีว่าจิกเท้า นั่งเกร็ง หยุดหายใจไปเป็นที่เรียบร้อย

ผมยกให้เป็น Mad Max : Fury Road เวอร์ชั่น WWII กันเลย (คนดูได้พักหายใจหายคอแค่ตอนกลางคืนเท่านั้น)

สุดท้ายที่ต้องชมคือพระเอกของผม แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ สามารถถ่ายทอดเรื่องราวของดอสส์ได้อย่างไม่มีที่ติ เราไม่เห็นแอนดรูวในเรื่องเลยครับ เราจะเห็นเพียงชายอ่อนแอ ผู้มีหัวใจที่แข็งแกร่งเท่านั้น และอย่าแปลกใจเมื่อเขาได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมของ Oscar ในปีนี้



ด้านสิ่งที่ผมไม่ชอบ และเป็นปัญหาหนักมากในช่วงท้าย หนัง "พยายาม" มากไปนิดกับ Heroic Scene ซึ่งผมว่ามันเกือบ ๆ จะการ์ตูนอยู่แล้ว เราเข้าใจได้ดีว่าตัวจริงของเขาเป็นคนที่น่ายกย่อง แต่อย่าลืมว่าแท้จริงแล้วทุกคนในสงครามคือฮีโร่ของอเมริกาเช่นกัน หากลดทอนอารมณ์ตรงส่วนนี้ลงสักหน่อย ตัวหนังน่าจะมีมิติมากขึ้นครับ

และต่อมาตัวละครดอสส์นั้นแบนราบมาก ตั้งแต่ต้นจนจบ เราไม่ได้เห็นการพัฒาของตัวละครเลย เขาเป็นคนดี และเสียสละทุกอย่างเพื่อคนอื่นจริง แต่มันจะดีกว่าหากได้เห็นมุมอื่น ๆ บ้าง เช่นอารมณ์ลังเล กลัวตาย หรือความยับยั้งชั่งใจในการเสียสละตัวเองของเขา กลับกันเพื่อนพระเอก (มีเด่น ๆ อยู่คนนึง) เป็นตัวละครที่ดูเป็นคนมากกว่าเยอะมาก เราได้เห็นการเติบโตของเขา เมื่อเทียบกับช่วงแรกนั้น เหมือนจะเป็นคนละคนกันเลย



ภาพรวมของเรื่องต้องบอกว่าสนุกครบรส ดราม่าข้นคลั่ก ส่วนแอคชั่นก็บิ้วหนักมาก ไม่เคยนั่งดูหนังเรื่องไหนแล้วเหนื่อยขนาดนี้มาก่อน การแสดงของการ์ฟิลด์สามารถแบกหนังทั้งเรื่องได้อย่างยอดเยี่ยม ตัวละครสมทบก็ทำหน้าที่ได้อย่างดี และมีการแทรกมุกเพื่อเบรคอารมณ์ได้ลงตัว เรียกว่ามาตรฐานสูงมากสำหรับหนังเรื่องนี้

เพราะฉะนั้นคนชอบหนังดราม่าสงคราม ระเบิดภูเขาเผากระท่อมไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง และในฐานะที่หนังถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Oscar ในหลาย ๆ สาขา น่าจะการันตีคุณภาพของมันได้เป็นอย่างดี ไม่เสียดายเงินแน่นอนครับ

และเหมือนเดิม ไม่ว่าคุณจะกะเกณฑ์คะแนนในใจไว้เท่าไหร่ จำไว้ว่าต้อง + อีก 1 คะแนนให้กับความสวยสง่า เหมาะกับยุคเรโทรของ Teresa Palmer ด้วยครับ



ท้ายสุด ฝากเพจสำหรับพูดคุย ไม่ว่าจะเป็นสังคม ความรู้ และความบันเทิงทั่วไป
อยากได้กำลังใจ และคำติชมจากทุกคนนะครับ
เพจ : โตแล้วคุยอะไรก็ได้
https://www.facebook.com/TalksWithKaowPong/

เข้าร่วม: 27 May 2010
ตอบ: 20241
ที่อยู่: ฺฺ [ stadio olimpico ]
โพสเมื่อ: Tue Feb 14, 2017 12:21 pm
[RE: [รีวิวคุเม#8] Hacksaw Ridge]



น่ารัก


เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 3045
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Feb 14, 2017 12:35 pm
[RE: [รีวิวคุเม#8] Hacksaw Ridge]
ผมว่า desmond ในเรื่องนี้ก็แสดงถึงพัฒนาการในด้านอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองออกมาได้ดีแล้วนะครับ มีบางช่วงหลุดๆ หลอนๆไปบ้าง

ผมว่าหนังต้องการแสดงถึงเรื่องศรัทธาของ desmond ด้วยหละครับว่าแก เป็นคนที่ยึดมั่นในความเชื่อ ศรัทธาของตนเอง ตัวละครเลยต้องหนักแน่นเข้าไว้

แต่ดูสีหน้าของตัวละครแล้วก็รู้เลยครับว่า ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาเหมือนกัน

รวมๆแล้วผมว่าเป็นหนังที่ดีเรื่องหนึ่งเลย


เข้าร่วม: 05 Nov 2008
ตอบ: 9221
ที่อยู่: ได้ก็เพราะรักที่ได้จากเธอ
โพสเมื่อ: Tue Feb 14, 2017 12:39 pm
[RE: [รีวิวคุเม#8] Hacksaw Ridge]
Pepsiman พิมพ์ว่า:
ผมว่า desmond ในเรื่องนี้ก็แสดงถึงพัฒนาการในด้านอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองออกมาได้ดีแล้วนะครับ มีบางช่วงหลุดๆ หลอนๆไปบ้าง

ผมว่าหนังต้องการแสดงถึงเรื่องศรัทธาของ desmond ด้วยหละครับว่าแก เป็นคนที่ยึดมั่นในความเชื่อ ศรัทธาของตนเอง ตัวละครเลยต้องหนักแน่นเข้าไว้

แต่ดูสีหน้าของตัวละครแล้วก็รู้เลยครับว่า ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาเหมือนกัน

รวมๆแล้วผมว่าเป็นหนังที่ดีเรื่องหนึ่งเลย


 


Spoil
ซีนที่ผมชอบสุดในเรื่อง คือซีนที่พระเอกกับเพื่อนนั่งคุยปรับความเข้าใจกันในหลุมอะ เล็ก ๆ และไม่กี่วิ แต่ผมโคตรชอบเลย  
เข้าร่วม: 12 Jul 2014
ตอบ: 6853
ที่อยู่: ที่นี่แหละ
โพสเมื่อ: Tue Feb 14, 2017 12:45 pm
[RE: [รีวิวคุเม#8] Hacksaw Ridge]
ทำดีมากอ่ะ ช่วงองก์2 นี่แหละ โคตรอึดอัดเลย แต่ฮาเยอะเหมือนกันนะ มีให้หัวเราะ ให้หายกดดันบ้าง


เข้าร่วม: 27 May 2010
ตอบ: 20241
ที่อยู่: ฺฺ [ stadio olimpico ]
โพสเมื่อ: Tue Feb 14, 2017 12:49 pm
[RE: [รีวิวคุเม#8] Hacksaw Ridge]


แถมๆคำคมจากหนัง


เข้าร่วม: 15 Oct 2013
ตอบ: 44365
ที่อยู่: Barca | Bayern | City
โพสเมื่อ: Tue Feb 14, 2017 1:02 pm
[RE: [รีวิวคุเม#8] Hacksaw Ridge]
ชอบมาก คือมีหลายอารมณ์อะ กดดัน ฮา ขำ ซึ้ง ชอบฉากเดียวกับจขกท.

Spoil
แต่เสียดาย เพื่อนไปไว ไปหน่อย อารมณ์แบบ เพื่อนเพิ่งบอกความลับของตัวเองให้ฟังแล้วก็ตายเลย โคตรไว

ฉากไอปอปผมนี่แบบ แม่งโคตรเท่ สรุปตูม

ฮาอีกรอบตอนสุดท้ายก่อนบุก ในตัวอย่างนึกว่ารอขึ้นตั้งแต่รอบแรก  
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 2661
ที่อยู่: Santiago bernabéu
โพสเมื่อ: Tue Feb 14, 2017 1:09 pm
[RE: [รีวิวคุเม#8] Hacksaw Ridge]
ส่วนตัวผมชอบฉากนี้สุด

Spoil
ฉากที่ดอสโดนเพื่อนๆในค่ายรุมกระทืบ แกกับยืนยันยึดมั่นในเจตน์จำนงเดิมคือควา่มเสียสละให้ประเทศ ไม่ว่าจะถูกกดดันมากน้อยเพียงใดเพราะตัวแกเป็นคนทำให้เพื่อนๆเหนื่อย(ที่ถูกสั่งออกให้ไปวิ่ง20ไมล์) ซึ่งแม่งตรงกับเรื่องจริงมาก ตอนผมไปเป็นทหารมาใครทำเพื่อนซวยนี่โดนเพ่งเล็งแน่นอน

ตัวหนังถ่ายทอดออกมาได้ตรงจุดสุดๆ เสียดายสมิทตี้ไม่น่าตายเร็วเลย ใจจริงอยากเห็นสมิทตี้เป็นคนที่ดอสลากแล้วให้สมิทตี้ยิงแทนจ่ามากกว่านะ ไหนๆก็เป็นเพื่อนรักกันและ
 
เข้าร่วม: 29 Sep 2009
ตอบ: 20594
ที่อยู่: Anfield Road. & Miyoung Heart & Korean Idol Republic
โพสเมื่อ: Tue Feb 14, 2017 1:12 pm
[RE: [รีวิวคุเม#8] Hacksaw Ridge]
ขอตอบด้วยรีวิวของผมในเฟสผมเองนะครับ

"หนังดี ไม่ต้องอวยเยอะ" #เพราะหนังมันขายตัวของมันเองอยู่แล้ว ช่วงปีที่ผ่านมาผมเห็นหนังถูกอวยจนเป็นกระแสเยอะมาก..แต่เมื่อเข้าไปดูกลับไม่เป็นอย่างที่คิด ไม่ถึงกับแย่หรือผิดหวัง..แค่มันไม่ปังอย่างที่อวยกันแค่นั้นเอง แต่มันไม่ใช่กับ #HacksawRidge ผมเข้าไปดูด้วยหัวที่โล่งโจ้งไร้ความคาดหวังใดๆ สิ่งเดียวที่ทำให้ผมเลือกเข้ามาดูเรื่องนี้คือชื่อของ #MelGibson เป็นเวลานานจริงๆที่ผมไม่ได้ดูหนังของลุงในโรงใหญ่ แต่ผมก็เป็นแฟนหนังของลุงมาตลอด..และการกลับมาครั้งนี้มันช่างตราตรึงใจเหลือเกิน หนังเล่าเรื่องได้ดีมากเรียบง่ายแต่ทรงพลัง.. "ทุกคนมีความเชื่อที่ต่างกันมันเป็นเรื่องปกติแต่สิ่งสำคัญคือคุณได้ยึดมั่นในสิ่งที่คุณเชื่อแค่ไหน" นั่นแหละคือสิ่งที่พระเอกได้แสดงให้เราเห็น..แม้แต่ในนาทีที่เป็นตายเท่ากันแต่เขาก็ยังเลือกที่จะกอดความเชื่อนั้นไว้แน่น! จนมันพาให้เราเชื่อไปกับเขา ลุ้นไปกับเขา เอาใจช่วยเขาจนเกร็งไปหมด..ถ้าจะพูดว่านี่คือการแสดงที่ดีที่สุดของ #AndrewGarfield ก็คงไม่ผิดแน่นอน ฉากสงครามถือเป็นงานถนัดของป๋าเมลจริงๆ เรียกได้ว่าทั้งมันส์และลุ้นหนักมาก อุดมส์ไปด้วยเลือดและความสมจริงอย่างที่สุด แน่นอนคนที่อ่านโพสนี้คงคิดว่า จั่วว่าไม่ต้องอวยเยอะ แต่เสือกแพล่มว่าแม่งดีทุกอย่าง แต่ผมบอกได้เลยว่า หากคุณไปดูคุณจะเข้าใจว่าทำไมผมต้องพล่ามมากขนาดนี้ คะแนนสำหรับผม 9/10 กันไปเลย.. ถือว่ากลับมาได้อย่างสมศักดิ์ศรีจริงๆ ป๋าเมล!!

ไปดูเถอะคับ รับรองไม่ผิดหวัง!
เข้าร่วม: 27 Feb 2011
ตอบ: 14881
ที่อยู่: Theater of Dreams
โพสเมื่อ: Tue Feb 14, 2017 1:16 pm
[RE: [รีวิวคุเม#8] Hacksaw Ridge]
ปกติไม่ค่อยชอบวินซ์ วอห์น แต่บทในเรื่องนี้ทำให้ชอบแกขึ้นมาทันที
Real Fan of Manchester United 2014
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 3045
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Feb 14, 2017 1:17 pm
[RE: [รีวิวคุเม#8] Hacksaw Ridge]
รีลัคคุเม พิมพ์ว่า:
Pepsiman พิมพ์ว่า:
ผมว่า desmond ในเรื่องนี้ก็แสดงถึงพัฒนาการในด้านอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองออกมาได้ดีแล้วนะครับ มีบางช่วงหลุดๆ หลอนๆไปบ้าง

ผมว่าหนังต้องการแสดงถึงเรื่องศรัทธาของ desmond ด้วยหละครับว่าแก เป็นคนที่ยึดมั่นในความเชื่อ ศรัทธาของตนเอง ตัวละครเลยต้องหนักแน่นเข้าไว้

แต่ดูสีหน้าของตัวละครแล้วก็รู้เลยครับว่า ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาเหมือนกัน

รวมๆแล้วผมว่าเป็นหนังที่ดีเรื่องหนึ่งเลย


 


Spoil
ซีนที่ผมชอบสุดในเรื่อง คือซีนที่พระเอกกับเพื่อนนั่งคุยปรับความเข้าใจกันในหลุมอะ เล็ก ๆ และไม่กี่วิ แต่ผมโคตรชอบเลย  
 


Spoil
ส่วนผมชอบซีนไคลแมกซ์ของเรื่องเลยที่ desmond ร้องขอพระเจ้าว่า ขอให้ช่วยได้อีกซักคน แล้วก็ช่วยคนได้เรื่อย ๆ พอคิดว่ามันมาจากเรื่องจริง

คนที่จะทำให้ได้แบบนั้นในสถานการณ์ที่สิ้นหวังสุด ๆ คือไม่รู้ว่าคนไหนเป็นหรือตาย แล้วก็ยังมีทหารอีกฝั่งที่ลาดตะเวนอยู่อีก นี่จิตใจต้องเข้มแข็งมากอ่ะ ศรัทธาความเชื่อต้องหนักแน่นมากๆด้วย

แต่พอตอนโดดลงมาก็มีจังหวะที่หลุดเหมือนหลอนระแวงด้วย ทำให้เข้าใจความรู้สึกของตัวละครได้ดีเลย

พวกเขาศรัทธานายที่นายมีศรัทธาที่แรงกล้า ผมโคตรชอบประโยคนี้เลย  
เข้าร่วม: 05 Nov 2008
ตอบ: 9221
ที่อยู่: ได้ก็เพราะรักที่ได้จากเธอ
โพสเมื่อ: Tue Feb 14, 2017 2:15 pm
[RE: [รีวิวคุเม#8] Hacksaw Ridge]
System of Valentine พิมพ์ว่า:
ปกติไม่ค่อยชอบวินซ์ วอห์น แต่บทในเรื่องนี้ทำให้ชอบแกขึ้นมาทันที  


ดูทีไร ชอบคิดถึงรีส วิทเธอร์สปูน
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 6990
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Feb 14, 2017 3:22 pm
[RE: [รีวิวคุเม#8] Hacksaw Ridge]
Spoil
ฉากที่เห็น สมิทตี้ตาย แล้วแม่งสิ้นหวัง แล้วพูดประมาณว่า พระเจ้า ท่านจะบอกอะไรกับผม ผมไม่ได้ยินเสียงของท่านเลย แล้ววิ่งกลับเข้าไปในทุ่งสังหารอีกรอบ แม่งโคตรเทห์  
0
0