คือผมไม่ได้เรียนหรอกครับ แต่ผมถามลูกพี่ลูกน้อง และเพื่อนน้องครับ บอกเป็นเสียงเดียวกันว่ายากมาก ถ้าคนไม่ค่อยเก่ง Eng

ผมถามว่า "เออ ไอ้อินเตอร์เนี่ย พวกอาจารย์ต้องพูดอังกฤษทุกคนไหม"

น้องผมก็ตอบว่า "มีพูดไทยบ้างแต่ส่วนใหญ่เป็นอาจารย์ฝรั่งสอน"

ผมถามต่อว่า "แล้วพวกหนังสือ เอกสารหละ อังกฤษล้วนเลยไหม"

น้องผมก็บอกว่า "ล้วนๆเลยไม่มีภาษาไทยแม้แต่นิดเดียว" น้องผมบ่นว่าต้องมานั่งแปลตลอด เหนื่อยมากๆ

ผมก็ถามอีก "เออ แล้วมีวิชาอะไรที่แบบสบายๆไหม"

น้องก็ตอบว่า "มีแค่วิชาพละ เรียนรำไทย ให้ฝรั่งมารำไทยกัน 55555"

ผมแม่มถามอีก คืออยากรู้ว่าอินเตอร์มันจะไม่มีไทยเลยเหรอ ผมถามว่า "แล้วมีวิชา ภาษาไทยพื้นฐานไหม THA106 อะไรแบบนี้"

น้องผมก็บอกว่า "ไม่มีเลย"

จริงๆในหัวผมตอนแรก Inter ที่ว่าเนี่ย คือแค่เนื้อหา เอกสารอย่างเดียว แต่อาจารย์พูดไทยปกติ สรุปอังกฤษมันหมดทุกอย่าง

สรุปสุดท้ายน้องผมเรียนไม่ไหว เลยกำลังจะย้ายไปไทย ผมว่าดีแล้วถ้าไม่ไหวอย่าฝืน รีบๆย้ายจะได้ไม่เสียเวลา ไม่เสียโอกาส นอกจากจะตั้งใจจริงๆแล้วลุยต่อ ค่อยว่ากัน

ชื่อโรงเรียนมันก็บอกอยู่แล้ว

แต่มันเข้าง่ายกว่าคณะทั่วไปใช่ป่ะ

แถมค่าเทอมแพงด้วยมั้ง

เพื่อนผมเรียนวิศวะอินเตอร์ มันเรียนเป็นภาษาอังกฤษก็จริง แต่ข้อสอบค่อนข้างง่ายกว่าแบบปกติ

ตอนนี้เรียนวิศวะอยู่ ไม่ใช่อินเตอชีทเรียนก็มีแต่อังกฤษ เจอtextอีก

เข้าง่าย จบยาก แต่จบทีงานรับรองได้มากกว่า หลากหลายกว่านะผมว่า ยิ่งเรื่องภาษานี่แทบจะเป็นตัวส่งเลยแหละ

ผมเลยเลือกไปเรียนเอซี
สบายเลย ไม่เครียดเท่า

จริง ๆ อยากให้อดทนและสู้นะครับ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สองที่คุณจำเป็นต้องใช้ให้เป็นครับ โครงสร้างถือว่าง่ายกว่าเกาหลี จีน ญี่ปุ่นมากแล้วครับ ไม่อยากให้หนีปัญหา เพราะตอนทำงานไม่ว่าจะทำงานในองค์กรหรือทำธุรกิจตัวเองมันมีโอกาสได้ใช้แน่นอน และการเรียนรู้ดีทีสุดคือประสบการณ์ตรงนี่แหละครับผ่านการสนทนา การใช้งานจริง

น้องคุณอาจหนีปัญหานี้ได้ชั่วคราวแต่สุดท้ายก็ต้องเรียนรู้อยู่ดี ทำไมจะต้องโดนบังคับหรือไปเรียนรู้แบบฉุกละหุกเวลาต้องใช้งานล่ะครับ ภาษามันไม่ใช่ของที่เรียนวันเดียวอาทิตย์เดียวได้นะครับ

เปลี่ยนจากเรียน inter เป็นเรียน A.C ได้ไหมอยู่เมืองเดียวกัน

ผมจะเล่าให้ฟังครับ ผมเป็นเด็กจบ กศน.ตอน ม.ต้น มาก่อน
ป.ปลายเรียนเอกชน เกรด 2.5 จบม.หก อังกฤษ นี่ไม่ได้สักอย่าง
ไม่ได้เลย แบบไม่เคยเรียนมาเลยอ่ะ แบบนั้นเลย

ไปเรียน AUA อยู่ 6 เลเวล ก่อนไปเข้า เอแบค

เรียน intensive ยังตกเลย ได้ไปเรียน basic english
ผมอาศัยอ่านหนังสือบ่อยๆ อ่าน textbook เป็นภาษาอังกฤษ ไม่เรียน พิเศษ
อ่านเอง

คำไหนแปลไม่ออก เปิด dictionary eng-eng เพราะว่าเปิดแล้วมันจะได้คำศัพท์ต้องไปค้นเพิ่ม
ค้นไปค้นมาได้หลายคำ เพื่อเอาไปแปลคำแรก ผมว่าถ้าเด็กเกเรแบบผมเรียน เอแบค ได้ ผมว่าทุกคนก็เรียนได้ถ้าพยายามมากพอ

เอาคติประจำ มูลนิธื เซนคาร์เบียล มาเป็นกำลังใจให้น้อง จขกท นะครับ

Labor omnia vincit

ความวิริยะ อุสาหะ นำมาซึ่งความสำเร็จ ครับ

ผมเรียนเอแบค ก็ยากนะกว่าจะจบมาได้ โคตรนาน

ตอนเอนท์ เอนท์ได้ วศ.อินเตอร์ กลัวภาษาไม่กล้าไปสัมภาษณ์ เลยไม่เอา

ทุกวันนี้ไม่รอดจ้า partner ไม่พูดไทยสักเจ้า ต้องไปนั่งเรียนตอนแก่ โคตรแย่

มหาลัยตู ขนาดไม่ใช่ inter ยังมีเซคภาษาอังกฤษ แถมเอกสาร ข้อสอบ แทบจะเป็นภาษาอังกฤษหมด
ปรับตัวแทบไม่ทัน
นึกว่าเรียนอินเตอร์

ก่อนไปเรียนหลักสูตรพวกนี้ เค้าถึงทดสอบความรู้ภาษาอังกฤษไง

ถ้ารู้แบบ พอสอบผ่าน ไม่ฝันเป็นภาษาอังกฤษ นี่ก็ยากล่ะ

ใหนจะยากเนื้อหา ใหนจะยากภาษา


ถ้า TOIEC ไม่ถึง 800 นี่อยู่ยากล่ะ

แล้วแต่ที่ป่าวครับ บางที่เค้าต้องสอบtoefl ให้ได้สูงๆนะ อังกฤษไม่ได้ก็บายเลย

เหมือนติวโทอิคไปในตัว มีแต่วิน-วิน

textbook นี้หาอ่านจากไหนหรอครับ

หลานผมเรียนโรงเรียน 2 ภาษามาตั้งแต่อนุบาลถึง ม ต้นตอนนี้สบายละภาษอังกฤษระดับสูงเห็นแล้วอยากเก่งบ้าง

textbook ของวิชาเรียนนั้นๆเลยครับ ถ้าเล่มจริงแพง ไปซื้อเล่มก้อปปี้ได้ แต่ผมแนะนำให้ซื้อเล่มจริง ที่ bookstore เลยครับ หรือถ้าไม่อยากซื้อ เข้าไปห้องสมุดของมหาวิทยาลัยก็ได้ครับ มีให้ยืมทุกวิชา อ่านฟรี

ฝากขอ ลายเซ็น candeva กับ handanovick หน่อยครับ

ตอนผมเรียนก็ยากนะตอนแรกๆอะ หลังๆมันชินก็ไปได้เรื่อยๆ

ปรับตัวให้ได้ พยายามหน่อย จะรอดเอง

กลับกันกับผมแฮะ

เรียนวิศวะถ้าไม่ใช่อังกิดผมไม่อ่านแน่นอน
อ่านตำราภาษาไทยไม่เคยรู้เรื่อง

วิชาป.โทอันนึงอจ.ให้เอกสารเปนภาษาไทย
(ป.โส่วนใหญ่มักใช้text เป็นอังกิดหมด)
ผมดรอปเลยวิชานั้น อ่านไม่ออกจริงๆ

ผมเรียนวิศวะอินเตอร์อยู่นะตอนนี้ เรียนก็ใช้เท็กซ์บุ๊คอยู่ พวกชีทที่อาจารย์เเจก,ข้อสอบหรือการบ้านก็ภาษาอังกฤษ ตอนสอนในห้องจารย์ก็จะพูดอังกฤษตลอดแต่บางอาจารย์ก็จะอธิบายส่วนที่ยากเป็นไทยให้เรา

ตอนเข้ามาปี1ก็ปรับตัวอยู่ด้วยเพราะยังไม่ชินเกี่ยวกับการต้องเขียนหรือฟังทุกอย่างเป็นอังกฤษหมด ผมว่ามันก็ฝึกได้นะเรื่องภาษามันเป็น

ทักษะอยู่เเล้ว ฟังบ่อยๆใช้งานมันบ่อยๆก็จะเข้าถึงมันมากขึ้น เเต่ประเด็นหลักคือเนื้อหาที่เรียนมันยากบวกกับความขี้เกียจของเรา ผลการเรียนเลยไม่ค่อยดีนัก

ไม่ต้องอึ้ง ยังมีอึ้งกว่านี้อีก

ผมเรียนกฎหมายภาษาไทยว่ายากแล้วนะ
คณะผมเปิดเปิดหลักสูตรอินเตอร์อีก
เอากับมันดิ เรียนไงวะ

ขนลุกเลยย ได้อ่าน คตินี้อีกรอบ ถึงจะจบไปนานละก็เหอะ

เคยผ่านมาแล้ว

Eng ผมได้ แต่เขียนโปรแกรม - อัลกอรีทึ่มผมกาก เรียน IT

สรุปซิ่ว

เอาจากประสบการณ์ตรงของผมนะครับ
อนุบาลถึง ป.6 เรียนไทยล้วนๆ จนย้าย
เรียนอินเตอร์ตั้งแต่ ม.ต้น ช่วงแรกๆยากหน่อยครับ
อยู่ที่ความมุมานะด้วยว่าจะเปิดรับภาษาเค้าแค่ไหน
ถ้ายังตั้งอคติ แบบคิดว่ายากเกินไม่ไหวหรอก ยังไงก็ยากที่จะพัฒนาครับ
ผมแพลนเลยว่า ภาษาอังกฤษ จำเป็นสำหรับอนาคต ก็มุมานะเต็มที่เลยครับ
จนตอนนี้มาเรียนมหาลัย อยู่อังกฤษปีสุดท้าย ภาษาไม่ใช่อุปสรรคละครับ
กลายเป็นความขยันมากกว่า 5555+ เพราะฝรั่งเค้าเน้นอ่าน literature มา ซัพพอทสิ่งที่คุนคิด
อ่านรัวๆ ศัพท์ยากๆทั้งนั้นจนท้อเป็นบางครั้ง แต่ก็เต็มที่ครับ
ทริคที่ผมน่าจะแนะนำได้คือ
- อย่าไปอายที่จะพูดกับฝรั่งครับ บอกเลยยิ่งกล้าพูด ยิ่งพัฒนาครับ ... อย่างผมขอโม้หน่อย เวลาคุยกับอาจารย์ไม่มีใครเชื่อผมเลยว่าผมเกิดไทยโตไทย เพราะเค้าบอกสำเนียงผมคล้ายเนทีฟสปีคเก่อ
ปล. ทำสำเนียงบริทิชยากมากกกกกก ผมเหมือนก็แค่ สำเนียงคนเอเชียที่ไปเกิดและโตเมืองนอก

- สองเน้นดูหนังฝรั่งแบบ ซาวแทรค และเอาซับอังกฤษครับ... นี่จะช่วยพัฒนาอีกระดับเลย เพราะบางครั้ง บทสนทนา ในหนังนี่เราลอกมาใช้ได้จริงเลยครับ
สุดท้ายบอกน้องท่านสู้ตายครับ ไหวอยู่แล้ว

แล้วฝึกพูดยังไงครับ

- ถ้าเป็นตำราดังๆ มุดๆหาในเวบไซต์เอาได้เลยครับ

ผมจะใช้วิธี

1. search จาก Google พิมพ์ว่า "ชื่อTextที่เราสนใจ.pdf"
ส่วนใหญ่ผมจะเห็นมันเป็นไฟล์สกุลนี้นะ
แต่ไม่แน่ บางทีอาจจะมีแบบ .rar .epub

2. ใช้เวบบิทต่างประเทศ เช่น เวบโจรสลัดอ่าว

อันนี้เป็นวิธีผิดลิขสิทธิ์นะครับ
แต่เรื่องลิขสิทธิ์ตำราพวกนี้ เหมือนเคยได้ยินว่า ถ้าใช้เพื่อการศึกษา
อาจจะได้รับการละเว้น อันนี้ไม่มั่นใจจริงๆนะครับ ถ้าผิดขออภัย

- ที่บอกว่าตำราดังๆ เพราะผมคิดว่าแต่ละสาขา มันจะมีตำรา
ที่เรียกได้ว่า เป็นฉบับ Classic คือใช้กันทั่วโลก
หรือไม่ก็ถูกอิงกับตำราพวกนี้ (แต่ก็ไม่เสมอไปหรอกครับ 5555)

เช่นถ้าสายที่ต้องเรียน Physics I ก็คงหนีไม่พ้น Young and Freedman
สายมาร์เกตติ้ง ก็คงตำราของ Philips Kotler
สาย Bio ก็คง Campbell Reece
สาย Gen Chem ก็คง Raymond Chang ประมาณนี้ครับ

แต่อย่างที่บอกนะครับ มันไม่แน่เสมอไป แต่ผมว่าส่วนใหญ่นะ
Text ที่มหาลัยใช้ มันจะดังอยู่แล้วอ่ะ ถ้าไปค้นหา น่าจะเจอ

แต่ถ้า Text พวกวิชาที่มันมีความเฉพาะทางจริงๆ
อันนี้สงสัยต้องพึ่งห้องสมุดมหาวิทยาลัยอ่ะครับ



-------------------------------------------------------------

ผมว่าเดี๋ยวนี้ หลายๆคณะ พวกตำราเรียน ก็แทบจะอังกฤษหมดแล้วหรือเปล่าครับ ?
อันนี้ผมไม่มั่นใจนะ

แต่อย่างที่ผมเรียน พวกชีททั้งหลาย เกิน 80 เปอร์เซนต์ เป็น Eng หมดเลย
คงแล้วแต่คณะด้วยแหละ ถ้าพวกสายกฎหมายคงต้องเน้นภาษาไทย
แต่สายวิทย์ๆ ผมว่าอังกฤษบาน

แต่ภาคปกติ ตอนสอบในมหาลัยคงไม่สอบเขียนภาษาอังกฤษ
แล้วตอนเรียน ผู้บรรยายก็ใช้ภาษาไทยในการบรรยาย

ขอโควทข้อความท่านไปให้ลูกชายผมอ่านหน่อยนะครับ เพราะอนาคตอันใกล้นี้
จะให้ไปศึกษาต่อที่เอแบค แต่ลูกผมกังวลมากว่าจะเรียนไม่ได้ อยากให้เค้าได้เห็น
ข้อความนี้ จะได้มีกำลังใจเรียน

ลูกท่านกำลังจะเข้ามหาลัยแล้วหรอครับ
ผมนึกว่าท่านอายุ ไม่เกิน 30

โอ่ว อาวุโสมากๆครับ

แนะนำให้เรียนเลยจริงๆครับ ตอนแรกผมไม่เรียนเพราะคิดว่าสังคมจะไม่ใช่แนวตัวเอง
แต่พอเข้าไปแล้วไม่มีปัญหาเลยครับ ส่วนใหญ่เพื่อนดีหมด ไม่ดีก็ไม่คบ
แล้วการเรียนก็ดีมากจริงๆครับ อาจารย์ค่อนข้างมีคุณภาพ
แนะนำให้ลูกตั้งใจเรียนด้วยนะฮะตั้งแต่ปีหนึ่งเลยแล้วมันจะสบายมากๆครับ

สรุปเรียนเอแบคผมว่าคุ้มทุกบาทจริงๆครับขอเพียงตั้งใจเรียน

ผมเรียนสาขา inter ครับ
ตั้งเเต่ม.1 จนจบ ม.6 วิชาภาษาอังกฤษผมซ่อมตลอด เข้าไปสอบกามั่วเเล้วนอนรอเวลาหมดตลอด
GAT ภาษาอังกฤษ ยังเข้าไปกามั่ว ได้เเค่20คะเเนน
ตอนadmission ผมเลือก4หรือ3ลำดับนี้เเหละจำไม่ได้ละ สาขาinterผมไว้สุดท้ายเลย
พอผลออกไม่ติดสักที เเต่ติดสาขาinter ตอนนั้นผมนี่เครียดจนจะไปเข้าม.เอกชนละ
เเต่พ่อเเม่บอกให้ไปลองก่อน
จนผมเข้าไปเรียน เรียนไม่รู้เรื่องเลย ผมเลยไปเรียนเสริมที่ECCเพราะมันใกล้บ้าน(เรียนพิเศษไม่ช่วยอะไรเลยครับ เพราะเขาไม่ได้สอนในเนื้อหาของมหาลัย นอกจากซื้อคอร์สสอนตัวๆ ถึงจะเอาของมหาลัยมาให้สอนได้)
จบปี1 เกรด1.70
ปี2 1.98
ปี3 1.90
ตอนนี้เรียนปี4 เพิ่งจบเทอม1ไป เกรด2.10

ช่วงปี 2เทอม2 กับ ปี3เทอม1 ผมไม่มีความรับผิดชอบในการเรียนเลย วันๆดูเเต่รุ่นน้อง
จนเกรดตก จนปี4 ผมก็พยายามมากขึ้น จนไม่มีเกรดDสักวิชา เเต่ได้F1วิชา ซึ่งการไม่ได้Dนั้นทำให้เกรดผมขึ้นอย่างมาก เพราะBหลายตัว เเต่สุดท้าย วิชาที่ได้F1ตัวนั้นก็ทำให้ผมต้องเรียน5ปี ซึ่งนิสัยผมก็แก้ไม่ได้หมดยังเกเรบ้าง วิชานั้นเลยได้Fเพราะขาดบ่อยทำไม่ได้
ผมหวังว่าจะเอาขั้นต่ำ2.30 อยากได้2.5มากกว่า เเต่คงไม่ได้เพราะวิชาเหลือน้อย

ยังไงก็พยายามเข้าครับ ผมเกรดต่ำสุดในสาขาละ เเต่บอกเลยว่าไม่ได้โง่ที่สุดเพราะคนโกงข้อสอบเยอะมาก พยายามด้วยตัวเองครับ ผมได้Fวิชานั้นมาเพราะมันยากมากๆ แต่คนโกงเยอะมาก ผมไม่โกง พยายามที่สุดละ ไม่รอดคือไม่รอด
สู้ๆครับ

เด็กเอแบคส่วนมาก ได้ skill ฟังมากที่สุด เพราะใช้เยอะสุด พูดน้อยมาก เจอเพื่อนก็พูดไทยกัน ดังนั้นการพูดผมอ่อนมาก อาศัยดูหนังแล้วพูดตาม กับอ่านนิยายภาษาอังกฤษ สมองจะจำคำศัพท์ วลี การพูดได้เองครับ

ยินดีครับ ผมเริ่มจากติดลบก็ว่าได้ เด็กที่ถูกพ่อตราหน้าว่าเป็นกุ้ยข้างถนนแบบผมทำได้ ลูกของท่านก็ทำได้เหมือนกันครับและผมเชื่อว่าทำได้ดีกว่าด้วย

ยังไม่แก่มากขนาดนั้นครับ สามสิบปลายๆเอง
ตอนนี้ลุกผมเรียนมอ. 4 อยู่ครับ กำลังจะขึ้นมอ. 5 แล้ว เลยถามเค้าว่าถ้าจบมอปลาย
แล้วอยากจะเรียนที่ไหน ลูกผมบอกอยากเรียนเอแบค แต่กลัวว่าจะเรียนไม่ไหว เพราะ
รู้ว่าตัวเองเรียนอยู่ระดับกลางๆ อยู่ตอนนี้ เลยไม่ค่อยมั่นใจตัวเองอ่ะครับ ว่าจะไปรอด
หรือเปล่า ...
ปล. ตอนนี้เรียนสองภาษาอยู่ กะว่าจะเพิ่มคอร์สให้ตอนปีหน้า จะได้แน่นขึ้น

นี่ก็เป็นอีกสิ่งนึงที่กังวลอยู่ครับ เรื่องสังคมในเอแบค โดยเฉพาะเรื่องเพื่อน

เรียนอินเตอร์อ่ะดี ผมยังอยากกลับไปเรียนวิศวะใหม่ เป็นหลักสูตรอินเตอร์ไปเลย

- ท่านทุ่มทุนมากๆเลยนะครับเนี่ย ผมเดาว่า ค่าใช้จ่ายค่าเทอม คงแพงพอตัว
สุดยอดครับ ผมว่าดีนะเรียนสองภาษา ได้เปรียบภาษาอังกฤษ
แล้วพวกวิชาอื่นๆ เลข วิทย์ ค่อยไปเรียนพิเศษเอา

- ผมอยากจะบอกว่า ใจเย็นๆนะครับ เรื่องคณะ การเรียนต่อ ค่อยๆคิด TT
ยิ่งวัยประมาณ ม 4 ม 5 อาจจะยังไม่รู้ใจตัวเอง

เรียกว่าไงดี เหมือนวัยยังเด็กนั่นแหละ ผมเองก็เป็นนะ
วันนั้นเรามองคณะนึงด้วยมุมมองแบบนึง
แต่พอเข้าไปเรียนจริงๆ มันอาจจะไม่ใช่ก็ได้ (เรื่องพวกนี้ ผมว่ามันพูดยาก)

ถึงอยากให้ค่อยๆคิดเนอะครับ อย่าเพิ่งตัดโอกาสทางเลือกอื่นๆไปซะหมด
เผื่อๆทางเลือกไว้บ้าง อุ่นใจ

เอาใจช่วยนะครับ ขอให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

ผมเรียนวิศวะฯ หนังสือเอย ชีทเอย กระทั่งข้อสอบ อิ้งหมดลเยครับ

มีแค่อาจารย์ที่สอนเป็นภาษาไทย แต่เวลาพรีเซนต์ก็อิ้งอยู่ดี

ใครกำลังเงินถึงก็ยังอยากให้ลองเรียนอยู่ดี
ถ้าเอาตัวรอดได้ ปรับตัวได้ ชีวิตจะได้เปรียบขึ้นเยอะเลย