เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของภาพยนต์
"หากย้อนเวลาไปได้หรอ"
"ฉันขออายุซัก 20 ละกัน สมัยที่ฉันยังสาวยังเซี๊ยะ"
"ฉันจะชอปปิ้งทุกวัน เที่ยว สนุกให้ลืมอายุไปเลย.."
นี่คงเป็นความคิดของผู้หญิงหลาย ๆ คน แต่ไม่ใช่กับย่าป่าน สาวยุคสงครามผู้เสียสละทุกอย่างเพื่อลูกชายตัวเองตั้งแต่วัยสาว
เรื่องราวกล่าวถึงผู้หญิงคนนึง แก่ ปากหมา ขี้งก เกลียดทุกคนที่ไม่ใช่ลูกชาย และหลานชายตัวเอง
ตัวหนังจะพาเราค่อย ๆ รู้จักกันย่าป่านในช่วงแรก ๆ ตัวละครนี้ค่อนข้างอาภัพ เกิดในยุคที่ศิลปินคืออาชีพเต้นกินรำกิน และการที่สูญเสียสามีจากสงครามในช่วงที่ตัวเธอตั้งท้อง เธอจึงไม่มีทางเลือกมากนักใครการเป็นตัวเอง นอกเสียจากหน้าที่แม่ และภรรยาที่ดีเท่านั้น
conflict ที่ปรากฏในช่วงนี้คือ ลูกสะใภ้เครียดจัดจากการโดนดุ โดนด่าทั้งวัน ขนานไปกับเรื่องราวความรักระหว่างคนสูงอายุอย่างย่าป่าน และความรักบริสุทธิ์ที่มีแต่ให้ของปู่เชียร
เมื่อลูกสะใภ้เครียดจัดจนต้องเข้าโรงพยาบาล ที่บ้านซึ่งประกอบด้วยย่าป่าน ลูกชาย ลูกสะใภ้ หลานสาว และหลานชาย ซึ่งมีความเห็นร่วมกันว่าย่าป่านควรไปอยู่บ้านพักคนชราได้แล้ว ก่อนที่ลูกสะใภ้จะบ้าตายไปเสียก่อน
ย่าป่านผู้ซึ่งแอบมาได้ยินพอดี จึงเศร้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเตรียมตัวย้ายข้าวของออกไป
แต่ฟ้าก็ได้ประทานพรให้กับเธอ เพื่อจะได้กลับมาเป็นสาวอีกครั้ง เมื่อเธอตัดสินใจที่จะชักภาพสวย ๆ ไว้ใช้ปิดหน้าโลงศพของเธอ
ในช่วงแรก ๆ ของใหม่ดาวิกานั้น ยังดูงก ๆ งัน ๆ ระหว่างร่างกายวัย 20 และจริตจะก้านของวัย 74 ปี
ในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นเอง ตัวหนัง Introduce ตัวละครสำคัญในเรื่องอย่างโปรดิวเซอร์เพลงคนนึง ที่มองหาศิลปินแท้จริง ไม่ใช่พวกโย่ว ๆ เย่ว ๆ ตามยุคสมัยนี้
พี่ก้องได้ชวนย่าป่านมาเพื่อร่วมรายการแข่งขันเพลงที่แกดูแล ซึ่งย่าป่านก็ได้ร่วมวงของหลานชายตัวเอง ในฐานะนักร้องนำ เพื่อช่วยสานฝันของหลายชายที่รักอาชีพนักร้อง (และสนองความต้องการตัวเองเมื่อวัยสาวอย่างการเป็นศิลปินเช่นเดียวกัน)
ความสามารถของเด็ก ๆ เมื่อรวมกับเสียงร้องที่แสนไพเราะที่ออกมาจากหัวใจของย่าป่าน หรือคุณปาน สร้างความนิยมได้อย่างรวดเร็ว
เรื่องราวความรักของย่าป่าน และโค้ชก้องก็เกิดขึ้นไปพร้อม ๆ กัน โดยโค้ชก้องอยากศึกษาดูใจกับคุณปาน โดยที่คุณปานยังคงไม่แน่ใจกับสถานการณ์ของตัวเองเท่าใดนัก จึงยังไม่ให้คำตอบอะไรตอนนี้
ในขณะเดียวกันคุณปาน ก็ปลอมตัวมาเช่าบ้านพักของปู่เชียร เป็นเหมือนจุดใต้ตำตอ เพราะทั้งลูกชาย และปู่เชียรพยายามอย่างมากในการตามตาย่าป่าน
คุณปานดีใจมากที่ทำให้หลานตัวเองมีความสุข และการดำเนินการก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว วงห้วยขวางของหลาน และเพื่อน ๆ ประสบความสำเร็จอย่างมาก จนกระทั่งวันนึง ซึ่งเป็นการแข่งขันที่สำคัญก็มาถึง
โค้ชก้องได้ให้กิ๊บติดผมเป็นของขวัญ คุณปานสวมมันไว้ และเตรียมตัวแสดงโชว์
แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น หลานชายยอดรักของย่าป่าน ประสบอุบัติเหตุอย่างรุนแรงจนไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขัน ก่อนเวลาแข่งขันไม่กี่นาที
ในห้องแต่งตัวนั้น ทุกฝ่ายเห็นพ้องกันว่าควรยกเลิกการแสดงดังกล่าวไปก่อน แต่เป็นตัวคุณปานเองที่ยืนยันจะทำโชว์ต่อไป เพื่อวันนึงหลายชายตื่นมา จะได้รู้ว่าเพลงของเขาทำให้คนฟังมีความสุขมากแค่ไหน
ขนานไปกับเนื้อเรื่องของปู่เชียรซึ่งรู้ความจริงแล้วว่าย่าป่านและคุณปานคือคนเดียวกัน และรับรู้ว่าเวทมนต์สามารถเสื่อมพลังได้ หากตัวของเธอเสียเลือดจากร่างกาย
ดังนั้น เมื่อปู่เชียรทราบความจริง ก็นำเรื่องไปเล่าให้ลูกชายฟัง แต่ในทีแรกลูกชายของย่าป่านยังคงแบ่งรับแบ่งสู้กับความจริงนั้น
ตัดกลับมาและเมื่อจบโชว์ ย่าป่านก็ตามไปโรงพยาบาลเพื่อพบว่าหลานชายต้องการเลือดด่วน และมีแค่ตนเองเท่านั้นที่มีเลือดหมู่เดียวกัน (Symbolic เล็ก ๆ ว่าชั้นเนี่ย มีสายเลือดเดียวกับพวกแก - ลูกชายแกก็ไม่ได้มีท่าทีแปลกใจแต่อย่างใด)
ปู่เชียรแอบพาคุณปานมาหลบมุม และได้เข้ามาขอร้องว่าอย่า อย่าเลือกทำแบบนี้ หากเธอทำ เธอจะกลับไปเป็นคนแก่หนังเหี่ยว ปวดหลัง ขี้หลงขี้ลืมคนเดิม แต่ย่าป่านยืนยันว่า แกยินดีทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวของตน
เมื่อคุณปานเตรียมตัวจะบริจาคเลือดเพื่อหลานชาย ลูกชายของแกก็เดินมาบอกว่า อย่าทำแบบนี้ อย่าทำเพื่อครอบครัวของเขาอีกเลย ย่าจงกลับไปมีชีวิตของตัวเอง อย่าเสียสละตัวเองเพื่อลูกชายที่เห็นแก่ตัวอีกเลย ย่าป่านจึงบอกว่านี่แกจะไล่ฉันอีกแล้วหรอ คราวที่แล้วก็ไล่ (บ้านพักคนชรา) มาวันนี้ก็ยังไล่ ซีนนี้เป็นซีนดรามาติคที่ดีที่สุดของเรื่องสำหรับผม ชอบมาก ๆ (ใหม่ซึ่งเด็กกว่า สามารถเล่นเป็นแม่ได้อย่างยอดเยี่ยม)
จากนั้นคุณปานก็กลับมาเป็นย่าป่านคนเดิม ขณะนั้นเองโค้ชก้องเดินผ่านย่าป่าน แน่นอนว่าย่าป่านยังคงใจเต้นแรงเหมือนสาวแรกแย้ม ส่วนโค้ชก้องมีอาการเหมือนได้พบคนที่คุ้นเคย และเหลือบไปเห็นกิ๊บที่ผมที่เขาได้ให้ไว้ก่อนหน้านี้ แต่ก็ไม่มีรีแอคที่ส่งสารอะไรชัดเจน
จุดจบของเรื่อง วงห้วยขวางของหลานชายยังคงดำเนินต่อไป โดยได้หลานสาว (ที่บทน้อยมว๊ากกก) มาเป็นนักร้องนำแทน
ปมของย่าป่าน และลูกสะใภ้ก็ดูคลายตัวลง เมื่อทั้งสองดูจะปรับตัวเข้าหากันได้ดีขึ้น
และทุกอย่างก็ลุล่วงไปได้ด้วยดี
--------------------------------------------------------------------------------------------
จากนี้ไปจะเป็นความเห็นส่วนตัวของผม
หนังเรื่องนี้เป็นหนังค่อนข้างจะ Dramatic ที่สอดแทรกอารมณ์ขันได้ดี มีบ้างที่สะดุด แต่โดยรวมมูดค่อนข้างจะไหลลื่น หากเทียบกับหมอแปลกที่พยายามตลกจนน่ารำคาญ เรื่องนี้บทค่อนข้างจะสอดรับกันได้เนียนตา และไม่ขัดเขินแต่อย่างใด
มีเพลงประกอบไพเราะ แม้จะไม่เข้ากับเนื้อหาของหนังอย่างลงตัว แต่ช่วยดำเนินเรื่องให้มีมิติมากยิ่งขึ้น
แต่ที่ต้องติคือทีม Marketing คุณโปรโมตหนังได้ห่วยแตก หน้าหนังเป็นหนังตลกเกรดต่ำ ซึ่งแทบจะเป็นคนละเรื่องกับเนื้อหาสาระจริง ๆ ซึ่งน่าเสียดายมาก คนหลายคนกาหนังเรื่องนี้ทิ้งตั้งแต่ตัวอย่าง
ข้อดี
1.นักแสดงเรื่องนี้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี บทจะตลกก็โคตรตลก บทจะดราม่าก็ทำได้สะเทือนอารมณ์ โดยเฉพาะใหม่ ดาวิกา ที่สามารถเป็นย่าป่าน และคุณปานได้ในคนเดียวกัน นี่อาจจะเป็นนักแสดงหญิงที่ดีที่สุดของยุคนี้แล้วสำหรับผม แบกหนังเรื่องนี้ไปได้ตลอดลอดฝั่ง
1.1 ใหม่ ดาวิกา สวยมาก สวยเหมือนเป็นมาตลอด ทั้งหน้าตา และจริตตัวละคร
2.บทดีมาก ตัวละครในเรื่องนี้แทบจะไม่มีความเป็นตัวละครสมมติเลย ทุกคนเป็น 'คน' หมด เราสามารถเดารีแอคของตัวละครพวกนี้ได้เลยว่า ถ้าเป็นคนจริง ๆ จะแสดงออกแบบไหน คิดแบบไหน มันไม่ขัดขืนอารมณ์หรือสามัญสำนึกของเราแม้แต่น้อย (หากคุณรำคาญวิธีการคิดของละครไทยดาด ๆ เช่นพระเอกชอบคิดโง่ ๆ ตัวร้ายที่น่ารำคาญ นางเอกที่ชอบทำตัวน่าสงสารให้ถูกรังแก - เรื่องนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง)
3.มุกตลกค่อนข้างไหลลื่น ผมคงถูกจริตกับมุกสไตล์นี้ด้วย มันไหลเหมือนเดดพูลเป๊ะ ไม่รอให้ขำ ตบแล้วผ่าน ๆ ไม่ขยี้ ด้วยเหตุผลเดียวกับข้อ 2 ผมโคตรขำเลยจริง ๆ
4.หากคิดว่าหนังจะดราม่าร้องห่มร้องไห้ทั้งเรื่อง ผมบอกเลยว่าใช่ 555 แต่อย่าคิดว่าหนังเรื่องนี้จะมีแต่ซีนขยี้ ๆๆ ผิดครับ แม้จะมีน้ำตารื้น ๆ แต่ก็เพราะความเศร้า ความสุข ความตื้นตันใจ ความสุขประกอบกัน แม้หนังมีหลายมิติมาก แต่ด้วยการตัดต่อที่ลงตัว มันไม่ทำให้หนังดังกล่าวเสียอรรถรถ กลับกันมันเป็นจุดเด่นของหนังเรื่องนี้ด้วยซ้ำว่า มันสนุก และมีอารมณ์ที่หลายหลายมากเหลือเกิน
5.เพลงประกอบที่ออกมาบ่อยในภาพยนต์เรื่องนี้ เพราะมาก ย้อนยุคเล็ก ๆ แต่ไม่ขัดแย้งกับหนังที่พรีเซนต์ความเป็นปัจจุบัน
6.ไม่รู้จะเรียกว่าไร แต่ผมชอบคำว่า 'ครูเพลง' ที่ย่าป่านเมมไว้ในโทรศัพท์มากเลย มันเป็นดีเทลเล็ก ๆ ที่ได้ใจมั่ก ๆ
ข้อเสีย
ภาพยนต์เรื่องนี้ไม่มี Major Disadvantage สำหรับผม มันมีแค่ดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ
1.หนังเรื่องนี้มีฟิลเตอร์ มุมกล้อง และอารมณ์ที่บีบคั้นเหมือนดูโฆษณาไทยประกันฉบับยาวยังไงไม่รู้ และหนังเดินตามสูตรสำเร็จเป๊ะ ๆ ไม่ค่อยได้ลุ้นเท่าไหร่
2.การพัฒนาตัวละครของย่าป่านทำผมหงุดหงิดมาก ในท้ายสุดเมื่อกลับมาเป็นย่าป่าน ย่าก็ยังคงปากหมา และทำตัวเหมือนเดิม โดยเฉพาะกับลูกสะใภ้ที่มีแน้มโน้มจะข่มเหงเหมือนเดิม (ไม่เหมือนคนที่คิดได้ว่าโดนไล่ออกจากบ้านเพราะอะไร และจะแก้ไขยังไง) กลายเป็นลูกสะใภ้ที่พัฒนาให้มีอะไรไว้ต่อล้อต่อเถียงมากขึ้น ซึ่งขัดแย้งกับหนังทั้งเรื่องมาก
3.เพลงที่ใหม่ดาวิการ้องทั้งเรื่อง แม้จะเพราะขนาดไหน แต่กลับรู้สึก 'ไม่เข้าปาก' เหมือนดูใหม่แสดง + ลิปซิงค์ทุกซีนเลย
4.โปรดักชั่นเวลาแพนออกกว้างมันดูตลกมาก ๆ ซีนร้านเหล้าคนมีอยู่หน่อย ขนาดซีนคอนเสิร์ต คนดูยังดูโหรงเหรง ๆ มันแอบจั๊กจี้นิดนึง
สุดท้ายภาพยนต์เรื่องนี้แม้จะเป็นหนังไทย ไม่ใช้ Original ของคนไทย มันคือ Miss Granny เวอร์ชั่นไทยมากกว่า ดังนั้นหากจะบอกว่าหนังไทยที่ดีที่สุด อาจจะไม่ถูกต้อง 100% เพราะโครงสร้างเรื่องมาจากเกาหลีทั้งหมด แต่พูดได้ว่าเป็นภาพยนต์ที่มีนักแสดงไทยที่ดีที่สุดของปีนี้
สุดท้ายผมให้ 9.5/10 เพราะมันดูแล้วอิ่มเอมมาก เสียดายหนังไทยดี ๆ ที่หลายคนพลาดไป
หากมีเวลาลองไปพิสูจน์กับตาตัวเองนะครับ ไม่เสียดายเงินแน่นอน
