ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 7850
ที่อยู่: กทม
โพสเมื่อ: Sun Dec 04, 2016 1:40 pm
องค์กรลับ !? ที่ว่ากันว่า ... " คือผู้อยู่เบื้องหลังของโลกใบนี้ " !!??
ว่ากันว่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์โลกนั้น
ล้วนเกี่ยวเนื่องและมีที่มาจากจุดๆ เดียวกัน
เกิดจากการชักใยอยู่เบื้องหลังขององค์กรใดองค์กรหนึ่ง

ซึ่งรวมตัวกันอย่างแน่นแฟ้นของกลุ่มคนสำคัญ
กำหนดนโยบายต่างๆ เพื่อควบคุม ออกแบบนโยบายสำคัญๆ
ที่ล้วนแล้วแต่มีผลต่อมนุษยชาติทั้งสิ้น

และชื่อขององค์กรที่มักได้ยินกันบ่อยที่สุด
ก็คือ Illuminati และ Freemason นี่แหละ!!


ก่อนอื่นเรามาเริ่มด้วยกลุ่ม Illuminati กันก่อนเลย



คำว่า Illuminati นั้น ถ้าแปลกันแบบตรงตัวแล้วก็จะหมายถึง
‘ผู้ที่มีสติปัญญาอันล้ำเลิศ’ ซึ่งบางที่ก็กล่าวว่าแรกเริ่มเดิมทีนั้น
ก่อตั้งมาอย่างลับๆ โดยการรวมตัวกัน
ของเหล่านักวิทยาศาสตร์ในยุคเรืองอำนาจของศาสนจักร

ไม่ว่าจะในนวนิยายสืบสวนสอบสวน
หรือแม้กระทั่งทฤษฎีสมคบคิดต่างๆ นั้น
ก็มักจะเกี่ยวโยงกับชื่อของกลุ่มอิลลูมินาติอยู่เสมอ
และมีความเชื่อกันว่ากลุ่มนี้มีความเกี่ยวข้อง
ของการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เศรษฐกิจ
และเหตุการณ์ใหญ่ๆ ของโลกแทบจะทุกครั้ง

สมาคมนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 1776
(ปีเดียวกันกับที่สหรัฐฯ ประกาศอิสรภาพจากอังกฤษ)
ในเมือง Ingolstadt แห่วงแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี
โดย Adam Weishaupt ผู้เลื่อมใสในคณะเยซูอิต
และ เป็นศาสตราจารย์ด้านประมวลกฎหมายโรมันแห่งมหาวิทยาลัย Ingolstadt

กลุ่มนี้มีเป้าหมายก็เพื่อต่อต้านความเชื่ออย่างงมงาย
และที่สำคัญที่สุดก็คือต่อต้านอิทธิพลของศาสนจักร
ที่มีอยู่เหนือประชาชนในยุคนั้น

ในยุคที่คริสจักรเรืองอำนาจ



จนต่อมาในปี 1784 ผู้ปกครองรัฐบาวาเรียในยุคนั้น
Karl Theodor ออกกฎหมายห้ามการก่อตั้งสมาคมลับ
มีการตรวจค้นบ้านและจับกุมสมาชิกอิลลูมิเนติได้หลายคน
ทำให้สมาคมลับแห่งนี้สูญสิ้นไปตั้งแต่ตอนนั้นตามที่หลายๆ คนเชื่อกัน
(แต่จนแล้วจนรอดสิ่งที่สืบต่อมาจากรุ่นสู่รุ่นกลับเป็นแนวคิดของกลุ่มนี้ต่างหาก)

ด้วยแนวคิดที่คิดแบ่งแยกและเป็นภัยต่อศาสนจักรนั้น
ทำให้อิลลูมินาติถูกตามล่าอย่างหนักจากเหล่าคริสจักร
และถูกกล่าวหาว่าเป็นลัทธิซาตาน โดยเฉพาะความเชื่อที่ว่า
โลกไม่ได้เป็นศูนย์กลางของจักรวาล และโดยเฉพาะ ‘ทฤษฎี บิกแบง’
ที่ขัดกับความเชื่อในเรื่องพระเจ้าสร้างโลกมากที่สุด

โดยแรกเริ่มเดิมทีนั้น คริสตจักรเชื่อว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างทุกสิ่ง
แต่นักวิทยาศาสตร์ก็เชื่อว่าสสารไม่มีวัน เกิดขึ้นมาจากความว่างเปล่าได้
และว่ากันว่ากาลิเลโอ ผู้ค้นพบว่าโลกไม่ได้เป็นศูนย์กลางของจักรวาล
และหมุนรอบดวงอาทิตย์นั้น คือหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มอิลลูมินาติอีกด้วย

นั่นหมายความว่าสมาคมนี้เป็นหนึ่งในสมาคมที่รวบรวม
และเป็นที่พบปะของเหล่าหัวกะทิในยุคนั้นๆ ที่มีแนวความคิด
ผิดแปลกจากศาสนจักร และด้วยการที่มีปีก่อตั้ง (ค.ศ. 1776)
ปีเดียวกันกับที่มีการประกาศอิสรภาพของสหรัฐฯ นั้น
ทำให้มีผู้เชื่อมโยงไปว่ามีความเกี่ยวข้องกับการปฏิวัติครั้งนี้


การประกาศอิรสภาพของสหรัฐอเมริกา



ด้วยการที่ Adam Weishaupt ผู้ก่อตั้งกลุ่ม Illuminati นั้น
เป็นผู้ยึดถือปรัชญาความคิดอิสระ ไม่ยึดติดกับความเชื่อเก่าๆ
ซึ่งรวมไปถึงทั้งระบอบการปกครอง การเมือง และศาสนา
เพื่อการก้าวเข้าสู่ยุคการปกครองแบบใหม่ หรือ New World Order
ซึ่งถือว่าเป็นแนวคิดที่ค่อนข้างหายากและผิดแปลกจากยุคนั้น
ที่สำคัญที่สุดคืออันตรายต่อกลุ่มอำนาจเก่าอย่างมาก

และทุกๆ ครั้งที่เกิดการปฏิวัติ หรือการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง
เกิดขึ้นนั้น เหล่านักประวัติศาสตร์ก็มักจะสืบค้นหาต้นตอของเหตุการณ์
และเกือบทุกๆ ครั้งมักมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอิลลูมินาติทั้งสิ้น

และแม้กลุ่มนี้จะถูกสลายตัวโดยผู้ปกครองแคว้นบาวาเรียในปี 1784
แต่แนวคิดของพวกเขากลับไม่สูญสลายไป
โดยเฉพาะเหตุการณ์สำคัญๆ ทางประวัติศาสตร์หลายๆ ครั้ง
ทั้งโดยมีความเชื่อว่าการปฏิวัติฝรั่งเศสปี 1789
การปฏิวัติในรัสเซียปี 1905 และ 1917 ล้วนเป็นผลงานของกลุ่มนี้!!



ภาพในธนบัตร 1 ดอลล่าร์ ที่ว่ากันว่าคือหนึ่งในตัวแทนสัญลักษณ์ของกลุ่มนี้

ในปี 1782 ตราแผ่นดินของประเทศสหรัฐฯ
ได้รับการออกแบบให้เป็นภาพพีระมิด
มีดวงตาอยู่บนยอด ล้อมด้วยภาษาละติน
‘Novus Ordo Seclorum’ ที่แปลว่า New Order Of The Ages
หรือการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการสร้างระบอบปกครองให้กับโลก
ทำให้มีหลายๆ ทฤษฎีชี้ไปว่า ดวงตาบนยอดนั้น
หมายถึงกลุ่มอิลลูมินาติที่กำลังจับตามองโลกใบนี้อยู่

และในปี 1935 นั้น ภาพนี้ก็ถูกนำไปตีพิมพ์
ลงในธนบัตร 1 ดอลลาร์ของสหรัฐฯ และจวบจนทุกวันนี้
เราก็สามารถเห็นภาพนี้อยู่ในธนบัตรชนิดดังกล่าวอยู่
ส่วน ตัวเลขโรมัน MDCCLXXVI ตรงฐานของพีระมิดนั้น
คือเลข 1776 ปีที่ประกาศอิสรภาพของประเทศ

แต่ถึงจะมีทฤษฎีต่างๆ เชื่อมโยงไปหายังกลุ่มนี้
แต่ก็ไม่ได้มีการเปิดเผยรายชื่อของสมาชิกอย่างออกนอกหน้า
ทำให้คงสถานะการเป็นหนึ่งในองค์กรที่ ‘ลึกลับ’
ที่สุดในโลก แม้ในยุคปัจจุบันก็ตาม!!


และถ้ากล่าวถึงกลุ่มอิลลูมินาติแล้ว
ไม่เชื่อมโยงไปถึงกลุ่มฟรีเมสันส์นั้นก็คงจะเป็นไปไม่ได้



หลายๆ คนคงจะเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับกลุ่ม Freemasons นี้
จากเรื่อง National Treasure ที่แสดงโดยนิโคลัสเคจกันอยู่บ้าง
และว่ากันว่าสมาคมนี้ก็เป็นอีกหนึ่งสมาคมลับขนาดใหญ่
ที่ทำงานร่วมกับอิลลูมินาติ และมีส่วนร่วมในเกือบๆ ทุกการเคลื่อนไหวเช่นกัน

จากบทความเกี่ยวกับกลุ่มฟรีเมสันส์ของ ดร.นิติภูมิ นวรัตน์ นั้น
ได้ระบุว่า สมาคมลับนี้ถูกก่อตั้งขึ้นก็เพื่อป้องกันการมีผู้นำของประเทศ
ที่จะนำพาไปอย่างไร้ทิศทาง และไร้ความสามารถ
ทำให้ต้องมีการคัดสรรผู้เหมาะสม และกลุ่มนี้ก็คือ
ผู้ที่กุมอำนาจ ควบคุมเรื่องราวนี้อยู่แบบลับๆ มาหลายร้อยปี
และแม้กระทั่งในตอนนี้ พวกเขาก็ยังกุมอำนาจนั้นอยู่!!

ในอดีตการเริ่มต้นตั้งกลุ่มของสมาชิกองค์กรนี้นั้น
มาจากการรวมตัวกันของช่างหิน (Masons)
ที่มีความสำคัญในการสร้างโบสถ์และวิหารให้กับคริสจักร
ทำให้พวกเขาได้รับการงดเว้นในการเก็บภาษีอากร
จนทำให้กลุ่มของพวกเขาเข้มแข็ง ร่ำรวย มั่งคั่ง
และในที่สุดก็กลายมาเป็นกลุ่มที่มีอำนาจเหนือประชาชนทั่วไป
และมีบทบาทในชนชั้นปกครอง

โดยคำว่า Freemasons นั้น มีความหมายได้สองแง่มุมเลยล่ะ
ทั้งจากการที่ไม่ต้องเสียภาษีเพราะงานที่พวกเขารับส่วนมากนั้นทำให้กับโบสถ์
หรืออาจสื่อถึงแนวคิดของพวกเขา ที่มีความอิสระ ไม่อยู่ในกรอบขอบผู้คนในยุคนั้น

กลุ่มฟรีเมสันส์



เพราะถึงจะทำงานให้กับคริสตจักรซะส่วนมาก
แต่พวกเขาก็มีความเชื่อที่แตกต่างออกไป
เพราะแนวคิดที่พิสูจน์ไม่ได้หลายๆ แนวคิดของโบสถ์
จนมีหลักธรรมของตัวเองขึ้นมา นั่นก็คือการ
‘มอบความรักและเอื้ออาทรต่อกัน’
ตามหลักศาสนาคริสต์ แต่ไม่ได้จะเชื่อทุกๆ สิ่งทุกๆ อย่าง
ที่ทางคริสจักรบอก (เช่น พระเจ้าสร้างโลกเป็นต้น เพราะพิสูจน์ไม่ได้)
ทำให้พวกเขาถูกมองเป็นพวกที่ค่อนข้างหัวขบถในยุคนั้น

ถ้ากล่าวถึงเหล่านักปกครองชื่อดัง
หรือผู้ที่มีชื่อเสียงระดับโลกนั้น
จะว่าไปแล้วก็ล้วนแต่มีความเกี่ยวข้องกับทั้งองค์กร
อิลลูมินาติ ฟรีเมสันส์ หรือแม้จะเป็น สกัลล์ แอนด์ โบนส์
ที่เคยได้นำเสนอไปเกือบทั้งสิ้น

จากการเชื่อมโยงของทฤษฎีต่างๆ นี่อาจเป็นแผนผังขององค์กรทั้งหมด



แต่เรื่องราวของกลุ่มที่ถูกเปิดเผยมากที่สุด
เห็นจะเป็นฟรีเมสันส์และสกัลล์ แอนด์ โบนส์ นี่แหละ
โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีประธานาธิบดี
(เริ่มตั้งแต่จอร์จ วอชิงตัน) มาจนถึงปัจจุบันก็มีสมาชิกฟรีเมสันส์
ขึ้นเป็นประธานาธิบดีกว่า 15 คน และรองประธานาธิบดีกว่า 19 คนเลยล่ะ!!

แถมองค์กรฟรีเมสันส์นี้ได้เข้าไปมีบทบาท
ในประเทศสหรัฐอเมริกามาตั้งแต่ราวๆ ปี 1733
โดยมีศูนย์ใหญ่อยู่ที่ Boston ซึ่งในตอนนั้นเป็นฟรีเมสันส์ของอังกฤษ
แต่ฟรีเมสันส์ที่แท้จริงของสหรัฐฯ นั้นก่อตั้งขึ้นที่รัฐจอร์เจียในภายหลัง ราวๆ ปี 1734

และว่ากันว่าในตอนนี้มีสมาชิกของกลุ่มฟรีเมสันส์
กระจัดกระจายในประเทศสหรัฐฯ กว่า 3 ล้านคน
แถมยังมีสมาชิกเป็นบุคลสำคัญในประเทศต่างๆ อีกทั่วโลก

พีระมิด หนึ่งในสัญลักษณ์ที่สำคัญของกลุ่มฟรีเมสันส์มาช้านาน



การตีความหมายของสัญลักษณ์เบื้องต้น
(ทั้งสองถูกตีพิมพ์ลงในธนบัตร 1 ดอลลาร์ของสหรัฐฯ )
Franklin Roosevelt ประธานาธิบดีคนที่ 32 ของสหรัฐฯ
ที่เป็นสมาชิกของฟรีเมสันส์ได้ประกาศให้ตีพิมพ์ลงในธนบัตรในปี 1935

โดยผู้ออกแบบสัญลักษณืนี้ก็คือ
Thomas Jefferson, Benjamin Franklin และ John Adams
ผู้ที่เป็นฟรีเมสันส์ทั้งสิ้น โดยใช้ระยะเวลากว่า 6 ปีเต็ม
และคณะกรรมการกว่า 3 ชุด จนในปี 1789
สภาครองเกรสก็ได้อนุมัติให้ใช้สัญลักษณ์นี้ในการเป็นตราแผ่นดินของประเทศ




– ในรูปของพีระมิดที่ตรงส่วนยอดขาดลอยอยู่นั้น
มีการตีความว่าสาเหตุที่ยังไม่มาประกบกับพีระมิด
หมายถึงภารกิจที่ยังไม่สำเร็จของกลุ่ม

– ขนปลายปีกของเหยี่ยว 32 เส้น
คือชั้นธรรมดาของกลุ่ม Scottish Rite
Freemasonry แซมด้วยขนชั้นใน 33 และ 34 เส้น
หมายถึงตำแหน่งชั้นสูงที่ควบคุมกลุ่มนี้อยู่

– และสุดท้ายขนหางจำนวน 9 เส้นหมายถึงสภาผู้บัญชาการของกลุ่ม



ถึงแม้กลุ่ม Illuminati จะถูกถือว่าเป็นองค์กรลับ
แต่กลุ่ม Freemasons นั้นกลับไม่ถือว่าตัวเอง
เป็นองค์กรลึกลับ แต่เป็นองค์กรที่ ‘กุมความลับ’
มากกว่า ซึ่งในหสรัฐฯ ตอนนี้ก็มีสำนักงาน
ขององค์กรอยู่ครบเกือบแทบทุกรัฐ



การเผยตัวของสมาชิกในกลุ่มในปัจจุบัน




ส่วนมากผู้ที่เป็นสมาชิกขององค์กรลับต่างๆ นั้น
ก็เรียกได้ว่ามีชะตากรรมที่จะต้องประสบความสำเร็จ
หรือขยับเขยื้อนเป็นคนสำคัญในสังคม
ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนหรือทำกิจการอะไรก็แล้วแต่
มักจะมีมือที่มองไม่เห็นคอยอำนวยความสะดวกให้เสมอ

โดยการรับเลือกสมาชิกของฟรีเมสันส์นั้น
องค์กรจะทำการคัดเลือกผู้ที่มีอายุมากกว่า 18 ปี
ที่มีจิตใจดีงาม มีคุณธรรม จะเป็นชาวคริสต์หรือไม่ใช่ก็ได้
และเข้าพิธีกรรมต่างๆ รวมถึงต้องปฏิญาณต่อกลุ่ม
โดยเฉพาะในเรื่องที่ต้อง ‘รักษาความลับของกลุ่มคณะเท่าชีวิต’
จนทำให้แม้ในปัจจุบันนี้ก็ไม่มีความลับของกลุ่ม
แพร่งพรายออกมาให้ผู้คนภายนอกได้รู้เลย

และมีความเชื่อที่ว่า เมื่อสมาชิกของกลุ่ม
ที่คิดจะตีจากหรือคิดจะนำข้อมูลของกลุ่มไปเผยแพร่นั้น
มักนำไปสู่จุดจบของพวกเขาทุกราย!!



สมาชิกของกลุ่มฟรีเมสันส์ที่กลายเป็นผู้มีอิทธิพล…
– Benjamin Franklin
นักวิทยาศาสตร์และนักการเมือง
ที่มีความสำคัญในประเทศสหรัฐฯ ยุคแสงสว่างของประเทศ

– Voltaire นักเขียนและนักสังคมผู้มีอิทธิพลต่อการปฏิวัติในประเทศต่างๆ

– George Washington ประธานาธิบดีคนแรกของประเทศสหรัฐอเมริกา
(ไม่ใช่อับราฮัม ลินคอล์นเหมือนที่มีคนเข้าใจนะครับ )

– Andrew Jackson ประธานาธิบดีคนที่ 7 ของสหรัฐฯ

– Wolfgang Amadeus Mozart นักประพันธ์เพลงชื่อดัง
(จากการที่พ่อเขาเป็นสมาชิกของ Freemasons เช่นกัน)

– Harry Houdini นักมายากลชื่อดังของโลก

– Simón Bolívar นักต่อสู้เพื่อประกาศอิสรภาพจากสเปนในอเมริกาใต้

– Mark Twain นักเขียนผู้มีชื่อเสียงของสหรัฐอเมริกา และโด่งดังที่สุดในยุคของเขา

– Winston Churchill
นายกรัฐมนตรีแห่งสหราชอาณาจักร
ผู้นำกองทัพเข้าสู่สงครามในสงครามโลกครั้งที่สอง

– Mustafa Kemal Atatürk
ผู้บังคับบัญชากองทัพเติร์กที่ไม่เคยพ่ายแพ้เลย
ในสงครามโลกครั้งที่ 1 และผู้นำขบวนการแห่งชาติ
ในการประกาศเอกราชตุรกีจนนำไปสู่การสร้างประเทศในที่สุด

– Franklin D. Roosevelt
ผู้ว่าการนิวยอร์ก และประธานาธิบดีคนที่ 32

– J. Edgar Hoover
ผู้ก่อตั้งองค์กร FBI

– Oscar Wilde
นักเขียนชาวไอร์แลนด์

– Earl Warren
ผู้มีอำนาจในแวดวงกฎหมายของประเทศ

– Silvio Berlusconi
นักการเมืองและนักธุรกิจชาวอิตาลีผู้มีชื่อเสียง

– Jesse Jackson
นักสิทธิมนุษยชนชาวผิวสีแห่งสหรัฐอเมริกา

– John Elway
หนึ่งในนักอเมริกันฟุตบอลผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล

– Bill Gates
นักธุรกิจผู้ร่ำรวยระดับโลก

และอีกมายมายหลายคนเลยล่ะ นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น…

.....


ไม่แน่นะ แท้จริงแล้วชีวิตของเรา
อาจจะถูกควบคุมแบบลับๆ อยู่ตลอดเวลา
และเราก็ไม่เคยมีอิสรภาพที่แท้จริงเลย…ก็เป็นได้ !!

...
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 6401
ที่อยู่: ที่หน้ามึงอะ
โพสเมื่อ: Sun Dec 04, 2016 1:45 pm
[RE: องค์กรลับ !? ที่ว่ากันว่า ... " คือผู้อยู่เบื้องหลังของโลกใบนี้ " !!??]
รู้สึกเหมือนกันเลยนะ

ผมว่าต้องมีกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องแบบนี้แน่นอน


และต้องมีพวกสิ่งมีชีวิตอันทรงภูมิปัญญาจากโลกอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแน่นอน เช่นกัน


เพียงแต่ความจริงบางอย่าง มันยังไม่ถูกเปิดเผยออกมาเท่านั้นเอง
0
0
เข้าร่วม: 28 Feb 2015
ตอบ: 1944
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Dec 04, 2016 1:49 pm
[RE: องค์กรลับ !? ที่ว่ากันว่า ... " คือผู้อยู่เบื้องหลังของโลกใบนี้ " !!??]
มันจะมีองค์กรนึงครับ ที่อยู่เบื้องหลังทุกๆกิจการทุจริตบนโลก
องค์กรที่เข้าถึงทุกอย่างได้บนโลก มีตาอยู่ทุกที่

หัวหน้าองค์กรพวกนี้ส่วนใหญ่ จะเป็นมีอารมณ์ศิลป์
โหดเหี้ยมกับคน แต่น่ารักกับสัตว์
เราเรียกกันในหมู่คนที่รู้จักองค์กรว่า

Spoil

S P E C T R E
 
0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 6401
ที่อยู่: ที่หน้ามึงอะ
โพสเมื่อ: Sun Dec 04, 2016 1:52 pm
[RE: องค์กรลับ !? ที่ว่ากันว่า ... " คือผู้อยู่เบื้องหลังของโลกใบนี้ " !!??]
nadthaw พิมพ์ว่า:
มันจะมีองค์กรนึงครับ ที่อยู่เบื้องหลังทุกๆกิจการทุจริตบนโลก
องค์กรที่เข้าถึงทุกอย่างได้บนโลก มีตาอยู่ทุกที่

หัวหน้าองค์กรพวกนี้ส่วนใหญ่ จะเป็นมีอารมณ์ศิลป์
โหดเหี้ยมกับคน แต่น่ารักกับสัตว์
เราเรียกกันในหมู่คนที่รู้จักองค์กรว่า

Spoil

S P E C T R E
 
 


เข้าร่วม: 25 Jun 2007
ตอบ: 5218
ที่อยู่: ชายละเบื่อไม่อยากจะพูด
โพสเมื่อ: Sun Dec 04, 2016 1:55 pm
[RE: องค์กรลับ !? ที่ว่ากันว่า ... " คือผู้อยู่เบื้องหลังของโลกใบนี้ " !!??]
MORRISON_HOTEL พิมพ์ว่า:
nadthaw พิมพ์ว่า:
มันจะมีองค์กรนึงครับ ที่อยู่เบื้องหลังทุกๆกิจการทุจริตบนโลก
องค์กรที่เข้าถึงทุกอย่างได้บนโลก มีตาอยู่ทุกที่

หัวหน้าองค์กรพวกนี้ส่วนใหญ่ จะเป็นมีอารมณ์ศิลป์
โหดเหี้ยมกับคน แต่น่ารักกับสัตว์
เราเรียกกันในหมู่คนที่รู้จักองค์กรว่า

Spoil

S P E C T R E
 
 


 



ถ้าองกรณ์นี้ออก radiance ได้ล่ะก็ ฉิบหายแน่นอน
เข้าร่วม: 31 Oct 2014
ตอบ: 17299
ที่อยู่: แถวๆนี้แหละครับ
โพสเมื่อ: Sun Dec 04, 2016 2:41 pm
[RE: องค์กรลับ !? ที่ว่ากันว่า ... " คือผู้อยู่เบื้องหลังของโลกใบนี้ " !!??]
อ้างอิงจาก:
ด้วยแนวคิดที่คิดแบ่งแยกและเป็นภัยต่อศาสนจักรนั้น
ทำให้อิลลูมินาติถูกตามล่าอย่างหนักจากเหล่าคริสจักร
และถูกกล่าวหาว่าเป็นลัทธิซาตาน โดยเฉพาะความเชื่อที่ว่า
โลกไม่ได้เป็นศูนย์กลางของจักรวาล และโดยเฉพาะ ‘ทฤษฎี บิกแบง’
ที่ขัดกับความเชื่อในเรื่องพระเจ้าสร้างโลกมากที่สุด

 


เพราะความเชื่อที่ถูกคือ ประเทศหนึ่งในโลกต่างหากคือศูนย์กลางจักรวาล

0
0
เข้าร่วม: 03 Nov 2010
ตอบ: 1840
ที่อยู่: Goodison Park ,,,ตึกเอชี่ยนเกมส์โซนบี
โพสเมื่อ: Sun Dec 04, 2016 2:53 pm
องค์กรลับ !? ที่ว่ากันว่า ... " คือผู้อยู่เบื้องหลังของโลกใบนี้ " !!??
NSA ครับ
0
0
เข้าร่วม: 20 Apr 2007
ตอบ: 7105
ที่อยู่: soccersuck.com
โพสเมื่อ: Sun Dec 04, 2016 4:01 pm
[RE: องค์กรลับ !? ที่ว่ากันว่า ... " คือผู้อยู่เบื้องหลังของโลกใบนี้ " !!??]
ถ้ามีองค์กรลับที่ว่าอยู่จริง อยากรู้มากๆ ว่ามันลับตรงไหน
เขียนได้เป็นคุ้งเป้นเเควขนาดนี้
เข้าร่วม: 13 Apr 2016
ตอบ: 545
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Dec 04, 2016 4:32 pm
[RE: องค์กรลับ !? ที่ว่ากันว่า ... " คือผู้อยู่เบื้องหลังของโลกใบนี้ " !!??]
JatukamRamaInW พิมพ์ว่า:
MORRISON_HOTEL พิมพ์ว่า:
nadthaw พิมพ์ว่า:
มันจะมีองค์กรนึงครับ ที่อยู่เบื้องหลังทุกๆกิจการทุจริตบนโลก
องค์กรที่เข้าถึงทุกอย่างได้บนโลก มีตาอยู่ทุกที่

หัวหน้าองค์กรพวกนี้ส่วนใหญ่ จะเป็นมีอารมณ์ศิลป์
โหดเหี้ยมกับคน แต่น่ารักกับสัตว์
เราเรียกกันในหมู่คนที่รู้จักองค์กรว่า

Spoil

S P E C T R E
 
 


 



ถ้าองกรณ์นี้ออก radiance ได้ล่ะก็ ฉิบหายแน่นอน  



ลั่นเลย
0
0
เข้าร่วม: 11 Jan 2006
ตอบ: 12823
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Dec 04, 2016 4:33 pm
[RE: องค์กรลับ !? ที่ว่ากันว่า ... " คือผู้อยู่เบื้องหลังของโลกใบนี้ " !!??]
เขียนได้ขนาดนี้ มันคงจะไม่ลับแล้วครับ
เข้าร่วม: 20 Apr 2008
ตอบ: 1722
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Dec 04, 2016 7:20 pm
[RE]องค์กรลับ !? ที่ว่ากันว่า ... " คือผู้อยู่เบื้องหลังของโลกใบนี้ " !!??
พ่อมดทางการเงิน ไซรอส ผู้ที่สามารถควบคุมเงินหลายแสนล้านดอลล่า เพื่อกอบโกยเงินทอง หรือถล่มค่าเงินทุกสกุลบนโลกใบนี้ได้
0
0
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 11695
ที่อยู่: อุอุฟุฟุฟุคุคุคิคิฟุคุ
โพสเมื่อ: Wed Dec 07, 2016 3:32 pm
[RE: องค์กรลับ !? ที่ว่ากันว่า ... " คือผู้อยู่เบื้องหลังของโลกใบนี้ " !!??]
ลับแค่ไหน ก็ไม่เท่า area51
0
0

chelsea til i die