รีวิวคร่าวๆ หูฟังเทพยาจก VE monk plus VS Oker ds300
ราคาปลีก VE monk plus 200 บาท vs Oker ds300 150 บาท

ไม่ใช่รูปของผมนะ
- หีบห่อ Oker ดูดีกว่าประมาณ 10 เท่า ใส่กล่องพลาสติกซีลมาอย่างดี ส่วนของ VE เป็นห่อคล้ายๆขนม
- Oker ข้างในแถมฟองน้ำสีดำ 1 คู่ ของ VE แถม 4 คู่เป็นสีน้ำเงินกับสีแดง คุณภาพ Oker ดีกว่าไม่มีขุย ซองบรรจุฟองน้ำ Oker ทำดีกว่า
- การออกแบบตัวหูฟัง Oker ทำสวยกว่าในด้านโลโก้ และตัวพลาสติกมันวาว

นอกนั้นก็ไม่ต่างกัน ตัว VE ที่ผมสั่งมาจะเป็นพลาสติกใส ด้าน เห็นการประกอบด้านใน ซึ่งก็จะเห็นหรือไม่เห็นผมว่าก็ไม่ต่างกัน ไม่มีอะไรน่าโชว์ ก็แผงวงจรธรรมดา
- คุณภาพสาย ส่วนนี้น่าสนใจตรงที่ว่า VE ทำได้ดี สายหนากว่า ดูแข็งแรงกว่า จะว่าผมชอบนะเพราะหูฟังที่แถมมากับโทรศัพท์บางเจ้าก็สายบาง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเวลาใช้งานจริงโดนกระชากบ่อยๆตามสไตล์คนทำงาน ออกกำลังกาย แล้วสายมันจะขาดในใหม ส่วน Oker ก็เหมือนหูฟังราคาต่ำกว่า 300 ทั่วไป
คุณภาพเสียง
เนื่องจากเป็นเทพยาจกผมก็เลยเอาโทรศัทพ์ผม Lenovo A7000 plus ปิด Dolby Mode(จริงผมว่าโหมดนี้มันมาเสริมความดังลำโพงแค่นั้นนะ คุณภาพเสียงแย่ลงด้วยซ้ำ) มาลองฟังละกัน โซนี่พกพาหายไปนานแล้ว
ยังไม่ burn นะ
- เสียง earbud ดูมี room มากกว่า in ear ของแถมจาก SS Galaxy S7 edge แบบที่ผมใช้ประจำ และไม่รำคาญหูมากตรงนี้ประทับใจ แต่เรื่องการฟังรายละเอียดของเครื่องดนตรี อารมณ์ของเบสก็จะลดลง
ผมยังทดสอบไม่กี่เพลง และเลื่อนๆไปท่อนที่ชอบเพื่อฟังรายละเอียด
app - เพลงที่ใช้ทดสอบ - ประเภทไฟล์
Black player - Daft Punk _ Discovery เพลงที่ 1 ถึง 4 - mp3 320
Black player - Sam Cooke _ Cupid กับ You send Me - mp3 320
Black player - Slipknot _ Duality กับ Wait and Bleed - mp3 320
Joox - Twenty Pilot _ Cancer - คุณภาพเสียงปานกลาง
Joox - Enya _ หลายเพลง - คุณภาพเสียงปานกลาง
แล้วก็นั่งสุ่มเพลงจาก Joox ไปเรื่อยๆ
จากที่ฟังนะครับ
- Oker ดูสมดุลย์กว่าในแง่ EQ ของเสียง คือเสียงต่ำ กลาง สูง ทำออกมาได้ "อร่อย" พอประมาณ เบสเด่นในจังหวะที่ควรเด่นทำให้ได้อารมณ์เพลง มี room ของเบสหลากหลาย ถ้าเอาไปวิ่งผมว่าฟังได้เรื่อยๆไม่เครียด ในขณะที่ VE เสียงกลางค่อนข้างเยอะ และ db ดังกว่า รายละเอียดเครื่องดนตรีก็ครบอยู่แต่มันกลบกัน ติดหม่นหน่อยๆ ต้องตั้งใจฟังนิด
- แต่ในแง่เพลงป๊อป เพลงที่เน้นเสียงร้องผมว่า VE มีมิติที่น่าสนใจ เอาไปฟังพวก gospel น่าจะได้
- ส่วนตัวคิดว่าหลายคนคงเอา VE ไปโม เพราะผมมองว่ามันมีพลังแฝงอยู่สำหรับเจ้าหูฟังตัวนี้ และคิดว่า source เพลงของผมอาจจะไม่มีปัญญาเอาพลังของมันออกมาเต็มที่ด้วย ถ้าไปเบรินแล้วจะกลับมารีวิวอีกที
- การตัดเสียงรบกวนทำได้ดีทั้งคู่ สมเป็นเทพยาจก แต่จะว่าไปก็ไม่มีอะไรต้องกังวลมากเพราะไฟล์เสียงสมัยนี้ค่อนข้างดีและไม่ใช่ small talk
ณ ปัจจุบันผมว่า Oker DS300 กินขาดครับ แต่ในอนาคตไม่รู้
เดี๋ยวบ่ายนี้จะลองฟังกับ Oppo และในโน๊ตบุ๊คครับ อีก อาทิตย์นึงคงได้ฟังเวอร์ชั่น burn
ป.ล. กำลังฟัง Mudvayne - Determined และ Static-X ผ่าน Oker อย่างเมามันส์
* edit ไม่ได้ทดสอบ flac นะครับ ลืมไปที่ rip ลงมือถือเป็น mp3 555