****หากใครยังไม่ได้อ่าน แผนการเล่นเบื้องต้นในยุคมู ผมแนะนำลองกลับไปอ่านกระทู้นี้ก่อนครับ
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1401238
จะบอกรายละเอียดแผนการเล่นเบื้องต้น
FIRST HALF
เกมส์นี้มูริญโญ่ยังคงเลือกใช้แผนเดิมกับที่เอาชนะ เซาธ์แธมป์ตันในเกมส์ที่แล้ว.
หลังจากเสียงนกหวีดดังขึ้น ยูไนเต็ดก็เดินหน้าเต็มกำลัง ยูไนเต็ดใช้การผ่านบอลและจังหวะที่ดี
อย่างที่เห็นกันใน2เกมส์หลังเพื่อรุกเต็มสูบเข้าใส่ ฮัลล์ซิตี้
ภาพซ้ายมือคือการเคลื่อนไหวของนักเตะยูไนเต็ดในครึ่งแรก
ส่วนตำแหน่งของอิบราฮิโมวิช เขาจะเคลื่อนที่ขวางสนามไปมา ซ้ายขวาในครึ่งแรก
ก่อนอื่นเลย เราจะต้องพูดถึง ฮัลล์ซิตี้ก่อน นั่นคือพวกเขาเล่นได้ดีอย่างมากตลอดทั้งเกมส์
เป้าหมายของ ฮัลล์ ซิตี้ ในเกมส์นี้คือ การวางแผนมาเพื่อเล่นเกมส์รับ และสร้างความยากลำบาก
ให้กับยูไนเต็ดอย่างมาก ในการจะเจาะแนวรับของ ฮัลล์ ซิตี้
แผนการเล่นของ ฮัลล์ ซิตี้ คร่าวๆจะมาในระบบ 4-4-1-1 แต่ยามที่ยูไนเต็ดขึงเกมส์รุก จะถอยมาเป็น 4-5-1
เพื่อนรอจังหวะสวนกลับ จากความผิดพลาดของยูไนเต็ดเอง หลายครั้งในครึ่งแรกเองก็เช่นกัน
ที่ฮัลล์ ซิตี้ สามารถทำให้เฟลไลนี่ผิดพลาดได้ ด้วยการตัดฟาล์วจนนำมาซึ่งใบเหลืองตั้งแต่30นาทีแรก
ซึ่งมันก็อันตรายอยู่เหมือนกัน เพราะป็อกบาถูกสั่งให้ดันขึ้นสูง จนทำเกิดข้อผิดพลาดในช่วงแรก
ช่วง20นาทีแรกของเกมส์แม้ว่ายูไนเต็ดเป็นฝ่ายครองบอลบุกเข้าใส่ แต่ฮัลล์ ซิตี้เองก็มีจังหวะสวนกลับดีๆ 2-3ครั้งเช่นกัน
นั่นทำให้ยูไนเต็ดต้องแก้เกมส์ โดยการให้ฟูลแบ็คทั้งสองฝั่ง ยืนบีบเข้ามาและใกล้เซ็นเตอร์มากขึ้น
เพื่อป้องกันการสวนกลับ ส่วนทางริมเส้นก็ถอยมาต้าและมากซิยัลลงมาต่ำ เพื่อช่วยป้องกันอีกด่านนึง
หากมองกันที่ภาพรวม แม้ว่ายูไนเต็ดจะครองเกมส์ได้ทั้งหมดและบุกเข้าใส่ ฮัลล์ ซิตี้ แทบทุกจังหวะ
แต่คงต้องมีคำถามกันหละว่า ทำไมบุกขนาดนี้ยังเจาะไม่เข้าสักที ช่วงต้นเกมส์สลาตันจะยืนสูงเพื่อกดดันแนวรับ
แต่กลายเป็นว่า เพื่อนร่วมทีมไม่สามารถส่งบอลไปให้เขาได้ ทำให้เขาทำอะไรไม่ค่อยได้นักในช่วงต้นเกมส์
ที่จริงเกมส์บุกของยูไนเต็ดก็ไม่ได้แย่นัก มีจังหวะที่ได้ลุ้นอยู่บ้าง แต่ต้องให้เครดิตกองหลังฮัลล์ ซิตี้
ที่ยังคงไม่หลุดตำแหน่งและผิดพลาด ทำให้ยังสามารถยันสกอร์เอาไว้ได้ช่วงต้นเกมส์
มาถึงการเล่นของแมนยู ในปีนี้ดูจะมีการวางแทคติคแบบแผนของผู้เล่น ได้อย่างชัดเจนมากเหมือนกัน
มาต้าหุบเข้าไปตรงกลางใกล้กับตำแหน่งรูนีย์ ป็อกบาดันขึ้นสูงเยื้องไปทางซ้าย วาเลนเซียเติมเกมส์ทุกครั้งที่มีโอกาส
มาเที่ยวเองก็ดูเหมือนจะชอบตัดเข้าใน และจังหวะนั้น ชอว์จะเติมเกมส์ขึ้นมาเพื่อสร้างทางเลือกการเข้าทำ
แต่มันก็มีจุดขัดเล็กๆน้อยสำหรับชอว์ เมื่อป็อกบาดันขึ้นมา ทำให้พื้นที่ของชอว์มีไม่มากเท่าที่วควร
ส่วนเฟลไลนี่จะยืนต่ำเยื้องไปทางขวาเล็กน้อย โดยมีป็อกบาช่วยคุมตรงกลางและฝั่งซ้าย
นั่นเพื่อเปิดพื้นที่ทางขวาโล่งๆให้วาเลนเซียเติมขึ้นเติมลง
แต่ถึงงั้นมันก็ไม่เวิร์คเท่าที่ควร อันดับแรกเลยรูนีย์ดูช้าจนเกินไป และชอบลงมาต่ำเพื่อให้ทีมครองบอลได้
แต่หลังจากนั้นก็ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันเท่าที่ควร แถมยังดูเทอะทะกว่าคนอื่นอีกต่างหาก
ต่อมาหลังจากผ่านช่วงแรกของครึ่งแรก อิบราที่ทำอะไรไม่ค่อยได้ ก็ลงมาต่ำเพื่อมารับบอลและหาจังหวะ
นั่นแหละทำให้เกิดปัญหาต่อมา เพราะเมื่ออิบราลงมาต่ำ ทำให้เกมส์บริเวณกรอบเขตโทษแออัดจนเกินไป
เพราะเต็มไปด้วยผู้เล่นของทั้งแมนยูและฮัลล์ อัดกันอยู่แถวบริเวณหัวกะโหลก ทำให้สร้างโอกาสได้ยาก
ทำให้ครึ่งแรกไม่สามารถทำอะไรได้นักจึงจบที่สกอร์ 0-0
สังเกตุได้จากการเล่นของสลาตัน มีการเคลื่อนที่ไปทั่วสนาม รวมถึงการลงมาต่ำเพื่อพยายามสร้างจังหวะ
SECOND HALF
เริ่มครึ่งหลังมามูก็ยังไม่ได้ปรับอะไรมาก สลาตันพยายามยืนสูงและอยู่ในกรอบเขตโทษมากขึ้น
นั่นเป็นสิ่งที่เพราะทำให้กองหลังฮัลล์ต้องประกบสลาตัน และแมนยูจะมีพื้นที่บริเวณนอกเขตโทษมากขึ้น
และเหมือนเมื่อเครื่องติดก็เริ่มมีการพัฒนา เพราะแมนยูเร่งจังหวะการส่งบอลและเข้าทำมากขึ้น
จากรูปเป็นการเล่นของสลาตันเวลาอยู่นอกรอบเขตโทษ มันแตกต่างกับครึ่งแรกอยู่
หลังเกมส์มูให้สัมภาษณ์ว่า พักครึ่งแกสั่งลูกทีมให้กดดันบุกใส่ฮัลล์ต่อเนื่อง ถ้าเสียบอลต้องวิ่งไล่เอากลับมาให้ไวที่สุด
และแน่นอนว่ามันเป็นข้อดีที่เกิดขึ้นในครึ่งหลัง เริ่มจากคู่เซ็นเตอร์แมนยูดันขึ้นสูง เพื่อมาสนับสนุนเฟลไลนี่
ป็อกบายังคงขับเคลื่อนทีมอยู่ในตำแหน่งเดิม หาทางเปิดบอลและโจมตีอย่างรวดเร็ว
แต่แกเองก็มีช็อตผิดพลาดที่น่าด่าเหมือนกัน เพราะยิงทิ้งยิงขว้างไปสองสามที ทั้งๆที่บางลูกการส่งก็น่าจะดีกว่า
บางทีอาจเพราะกดดันจากค่าตัวหรือเปล่า แลดูป็อกบาจะอยากยิงประตูแรกในการกลับมาแมนยูครั้งนี้เหลือเกิน
นอกจากนี้ ฟูลแบ็คทั้งเอวีและชอว์ ถ่างออกข้างและดันสูงมากขึ้นเช่นกัน
รูปนี้คือ การยิงของป็อกบา บางช็อต
แต่กระนั้นเองแม้จะเร่งจังหวะเกมส์แล้ว แต่ก็ยังเจาะฮัลล์ไม่เข้าอยู่ดี
ทำให้มูต้องเปลี่ยนตัวในนาทีที่59 มูจัดเอ็มเคลงมาแทนมาเที่ยวแต่ยังคงใช้แผนเดิมบุกเข้าใส่ฮัลล์ ซิตี้
และตำแหน่งของเอ็มเคที่ลงมาคล้ายๆกับมาต้าในครึ่งแรกที่หุบเข้ากลางบ้าง ออกข้างบ้าง
หลังจากเอ็มเคลงมา มาต้าก็หุบเข้าไปอยู่ในตำแหน่งเบอร์10ของรูนีย์ ส่วนเสี่ยก็ถ่างออกซ้ายมากขึ้น
การยืนของทั้งสามคนในแนวรุก จะไม่ยืนห่างกันมาก เพื่อให้ฟูลแบ็คบุกได้เต็มสูบ
แต่ถึงเปลี่ยนตัวก็แล้ว ก็ยังเจาะไม่เข้าอยู่ดี
การเคลื่อนไหวของเอ็มเคในครึ่งหลัง เปอร์เซ็นต์ส่งบอลในพื้นที่สุดท้ายสำเร็จสูงถึง 92%
แถมยังพยายามยิงไป4ครั้ง และกระชากเลี้ยงหลบไปอีก4ครั้ง
ถึงแม้จะส่งเอ็มเคลงมาแต่ก็ยังเจาะไม่เข้า นาทีที่70มูเลยจัดการถอดมาต้าออกไปและส่งแรชฟอร์ดมาแทน
เมื่อแรชฟอร์ดลงมารูปแบบการเล่นของทีมเลยเปลี่ยนไป ฝั่งซ้ายมี รูนีย์และชอว์ที่ดันสูง รวมถึงแรชฟอร์ด
ฝั่งขวามีเอ็มเครวมถึงวาเลนเซียที่เติมช่วยเกมส์บุกด้วย ส่วนป็อกบาจะอยู่ตรงกลางสนับสนุนสองฝั่ง
เพื่อจะมาใช้ความคล่องตัว ของฟูลแบ็คและปีก มาเจาะเกมส์รับด้านข้างมากขึ้น
และดันแรชฟอร์ดไปเล่นหน้าเพื่อสนับสนุนสลาตันอีกแรง แต่แรชฟอร์ดเหมือนจะเป็นตัวฟรีในแดนหน้า
เพราะทั้งลงมาต่ำ และถ่างออกปีก เพื่อสนับสนุนทั้งสองฝั่ง และเจาะทางด้านข้างมากขึ้นด้วยความสามารถเฉพาะตัว
อย่างที่เราเห็นในเกมส์แรชฟอร์ดลงมาสนับสนุนฝั่งซ้าย และพยายามกระชากบอลฝ่าเข้าไปหลายครั้ง
ทางฝั่งขวาเอ็มเคก็ทำแบบเดียวกับที่แรชฟอร์ดทำนั่นเอง
รูปแบบแผนการเล่นเมื่อเอ็มเคและแรชฟอร์ดลงมาแล้ว
กลายเป็นว่าการบุกของแมนยูไหลลื่นขึ้นด้วยผู้เล่นที่มีความสามารถเฉพาะตัวสองฝั่งลงมา
การเคลื่อนที่ของแนวรุกที่ลงมาใหม่ ทำให้เกมส์รับของฮัลล์เริ่มรวน จากจังหวะที่ได้ลองยิงไกล
รวมไปถึงการเปิดบอลเข้าเขตโทษมากขึ้น ส่วนในแง่เกมส์รับที่พูดไป บลินด์และไบญี่ดันสูงขึ้น
ถ้าแมนยูเสียบอล การประสานงานของสามคน รวมไปถึงป็อกบา ทำให้บีบและเอาบอลกลับมาได้ไวกว่าเดิม
ซึ่งทำให้แมนยูได้บุกต่อเนื่อง อย่างที่เห็นในเกมส์
หลังจากแมนยูขึงอยู่นาน และสร้างความปั่นป่วนให้ฮัลล์ มันก็เฉียดไปเฉียดมา จวนจะได้อยู่หลายครั้ง
แต่หลังจากเวลา90นาทีหมดลง เกมส์ก็ทำท่าว่าจะเสมอที่สกอร์ 0-0 แต่กลายเป็นว่าช่วงทดเจ็บ
เหมือนกองหลังฮัลล์จะพลาดซะอย่างงั้น แมนยูเปิดเกมส์มา ลุคชอว์ส่งออกไปให้รูนีย์ที่ฝั่งซ้าย
และกระชากผ่านกองหลังนั่นไปอย่างง่ายดาย และส่งบอลเข้าไปในเขตโทษ จากนั้นก็ ตู้ม!!!
เรียบร้อย แรชฟอร์ดเข้าชาร์จจ่อๆ พาแมนยูขึ้นนำไปอย่างซะใจ!! และจบเกมส์ที่สกอร์ 1-0!!
CONCLUSION
จากภาพ แมนยูยิงไป29ครั้ง แต่เข้ากรอบแค่ 9 ครั้งเท่านั้น
เกมส์นี้มูไม่ได้เปลี่ยนเกมส์มากนัก ถึงจะมีการเปลี่ยนรูปแบบการเล่นนิดๆหน่อยๆ แต่สิ่งที่แตกต่างชัดเจนเลย
คือการเล่นที่ดูมีพลัง การเล่นที่ทัศนคติคือการบุกเอาประตู ตัวอย่างง่ายๆเลยคือ การเล่นที่ดูยืดหยุ่มากขึ้น
การสนับสนุนกันของผู้เล่นจากคนนึงสู่อีกคนนึง และความเข้าใจเกมส์ของแต่ละคน และเมื่อแฟนบอลดูเกมส์นี้
จะรู้สึกว่าแมนยูที่เรารู้จักกำลังจะกลับมา
สถิติเกมส์เล็กๆน้อยๆ
และจริงๆถ้าจบเกมส์เสมอ 0-0 มันก็แฟร์เหมือนกันเพราะฮัลลื เองก็มาเล่นได้ดีมาก
ยิ่งถ้าเป็นปีที่แล้วรูปแบบการเล่นแบบนั้นคงจบที่สกอร์ 0-0 แน่นอน
แต่ปีนี้หลายอย่าเงปลี่ยนไป และน่าจะทำให้หลายสิ่งพัฒนาขึ้นมามากแน่นอน
ปล.ใครไม่เห็นด้วยอย่าว่าผมนะ ผมแปลมาจากเว็ปนอกอีกทีครับ
จาก : http://manutdtactics.com/?p=6765