หญิงมะกันคลั่ง! ฆ่าลูกทารก ผ่ากะโหลกควักกินสมอง บอกทำตามคำสั่งปีศาจ
ตำรวจสหรัฐในเมืองซานอันโตนิโอ รัฐเท็กซัส เข้าตรวจสอบบ้านนางออตตี้ ซานเชซ วัย 33 ปี ที่ก่อเหตุสยองตัดคอหนูน้อยสก๊อตตี้ ลูกชายวัย 3 สัปดาห์ จากนั้นกินสมองและนิ้วเท้าของลูก โดยให้การตำรวจว่า
ปีศาจสั่งให้ทำ เมื่อ 28 ก.ค.
สาวมะกันก่อคดีสยองโลก ฆ่าลูกน้อยทารกวัย 3 สัปดาห์ จัดการตัดหัว แล้วเปิดกะโหลกควักกินสมองสดๆ รวมทั้งตัดนิ้วเท้า 3 นิ้วมากินด้วย ก่อนใช้มีดแทงอก-ปาดคอตัวเอง แต่ไม่ตาย ตร.โผล่ไปในบ้านเจอเข้าถึงตะลึงกับสยองที่เห็น คุมตัวแม่โหดส่งร.พ. ตั้งวงเงินประกันตัวสูงถึง 1 ล้านเหรียญ เบื้องต้นแม่เหี้ยมสารภาพแล้วลงมือฆ่ากินลูกตัวเองจริง อ้างว่าโดนปีศาจสั่งให้ทำ สันนิษฐานสาเหตุจากเครียดที่สามีเพิ่งเก็บของตีจากไป บวกอาการซึมเศร้าหลังคลอด
เมื่อวันที่ 28 ก.ค. สำนักข่าวเอพีรายงานข่าวฆาตกรรมเขย่าขวัญชาวอเมริกันทั้งประเทศจากเมืองซาน อันโตนิโอ รัฐเท็กซัส ว่า ตำรวจจับกุมตัวนางออตตี้ ซานเชส วัย 33 ปี ฐานฆ่าหั่นศพและกินชิ้นส่วนอวัยวะ รวมถึงสมองของลูกชายอายุเพียงแค่ 3 สัปดาห์ ถือเป็นคดีฆาตกรรมเด็กที่โหดร้ายสยดสยองที่สุดคดีหนึ่งในประวัติศาสตร์สหรัฐ อเมริกา
พ.ต.อ.วิลเลียม แมคมานัส ผู้กำกับการสถานีตำรวจเมืองซานอันโตนิโอ แถลงว่า ช่วงเช้ามืดวันอาทิตย์ได้รับโทรศัพท์แจ้งเหตุคดีฆาตกรรมในบ้านย่านเวย์ไซ ด์ไดรฟ์ เมื่อไปถึงตำรวจทุกคนต้องช็อกสุดขีด เนื่องจากพบเลือดสดๆ เปรอะเปื้อนทั่วบ้าน มีผู้หญิงนั่งกรีดร้องอยู่บนโซฟา บนร่างกายเต็มไปด้วยเลือดและบาดแผลเหวอะหวะ ร้องตะโกนซ้ำๆ ว่าเพิ่งฆ่าลูกตัวเองตายและอยากตาย ส่วนบนเตียงพบศพทารกถูกหั่นเละไม่มีชิ้นดี ใบหน้าฉีกขาด ศีรษะโดนตัดออกจากลำตัว และมีคนเปิดกะโหลกเอาสมองออกไปด้วย
"สิ่งที่พบมันเลวร้ายเกินกว่าที่ผมจะเล่าต่อไป ทุกคนเงียบกันหมด เพราะไม่เคยเจอคดีแบบนี้มาก่อน" พ.ต.อ.วิลเลียม กล่าว
มีคนนำรูปเธอไปตัดต่อเป็น ปีศาจกินมนุษย์ อีกด้วย
จากการสอบสวนพบว่า ผู้หญิงที่นั่งคลุ้ม คลั่งกรีดร้องบนโซฟามีชื่อว่านางออตตี้ ซานเชส วัย 33 ปี มารดาด.ช.สก็อตตี้ เวสลีย์ บุคโชลซ์ ทารกวัย 3 สัปดาห์ครึ่ง ซึ่งเพิ่งลืมตาดูโลกเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ในที่เกิดเหตุพบมีด 1 เล่ม และดาบอีก 2 เล่ม ล่าสุด นางออตตี้รับสารภาพว่าเป็นคนสังหารโหดลูกน้อยจริง ทั้งยังควักสมองและตัดนิ้วเท้า 3 นิ้วของลูกมากินสดๆ อ้างว่าได้ยินเสียงปีศาจสั่งให้ทำ และยังใช้มีดแทงหน้าอกและปาดคอตัวเองแต่ไม่ตาย ขณะนี้ตำรวจนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลยูนิเวอร์ซิตี้ และตั้งวงเงินประกันตัวสูง 1 ล้านดอลลาร์ หรือ 35 ล้านบาท เพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์
ขณะ เกิดเหตุมีคนอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว 4 คน ประกอบด้วย มารดา พี่สาว และหลานนางออตตี้อีก 2 คน หลังจากฆ่าด.ช.สก็อตตี้ นางออตตี้ได้เดินไปเรียกมารดาด้วยอาการตื่นตระหนก สติไม่อยู่กับร่องกับรอย และมารดาเป็นคนโทรศัพท์แจ้งความเมื่อเวลาประมาณ 05.00 น. วันอาทิตย์ที่ 26 ก.ค. นอกจากนั้น ตำรวจยังพบว่า ก่อนเกิดเหตุ 1 สัปดาห์ นายสก็อตต์ เวสลีย์ บุคโชลซ์ สามีนางออตตี้และพ่อด.ช.สก็อตตี้ ได้มีปากเสียงกับนางออตตี้อย่างรุนแรงก่อนเก็บข้าวของออกจากบ้านไป เบื้องต้นมีความเป็นไปได้ว่าความเครียดจากการทะเลาะกับสามี บวกอาการของโรคซึมเศร้าหลังคลอดบุตร อาจมีส่วนทำให้นางออตตี้ก่อเหตุสุดสะเทือนขวัญ
นางกลอเรีย ซานเชส ป้านางออตตี้ ให้สัมภาษณ์เปิดเผยว่า หลานสาวคนนี้เคยมีประวัติเข้ารับบำบัดทางจิตหลายครั้ง เมื่อ 2-3 เดือนก่อน เพิ่งมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลโทรศัพท์มา สอบถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง
ด้านนางเอเลน โคลชิน เพื่อนบ้านกล่าวว่า แทบไม่อยากเชื่อว่านางออตตี้จะฆ่าลูกแท้ๆ ในไส้ เพราะเท่าที่เห็นก็เรียบร้อยน่ารักดี
ไม่เคยแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว แต่บางเวลาดูเหมือนคนชอบอยู่ในโลกส่วนตัว
รายงานเอพีระบุด้วยว่า ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในรัฐเท็กซัสเคยเกิดคดีแม่มีอาการซึมเศร้าหลัง คลอด และมีประวัติเจ็บป่วยทางจิตก่อเหตุฆาตกรรมลูกเช่นกัน อาทิ เมื่อปี 2549 นางแอน เดรีย เยตส์ จับลูก 5 คนกดน้ำตายเพราะเชื่อว่าจะช่วยให้ลูกไม่ต้องตกนรก ต่อมาคณะลูกขุนตัดสินว่าไม่มีความผิดเพราะวิกลจริต รวมถึงคดีนางเดนา ชาลอสเซอร์ ฆ่าลูกอายุ 10 เดือน และตัดแขนเด็กออก เพื่อให้ลูกได้ไปอยู่กับพระเจ้าเร็วๆ ซึ่งลูกขุนตัดสินว่าเป็นคนวิกลจริต ไม่ต้องรับโทษจำคุกเช่นกัน
ปล. ส่วน 2 คดีนี้ เดี๋ยวจะหามาให้ได้อ่าน ในกระทู้ถัดไป โหดสัสเท็กซัส มากๆ !!
.................................
Spoil
news.asiantown.net/sahavicha.com/