แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Aug 2009
ตอบ: 34827
ที่อยู่: Architecture l KMITL
โพสเมื่อ: Fri Oct 23, 2015 22:48
กอสเซียลนี่ : ผมต้องการมีเกมเทสติโมเนียลแมตช์ที่เอมิเรสต์
มากกว่าห้าปีแล้วที่โลร็องค์ กอสเซียลนี่ได้เริ่มต้นค้าแข้งในนามของนักเตะอาร์เซนอล จากนักเตะโนเนมแห่งลีกเอิงที่เริ่มต้นด้วยการถูกไล่ออกในนัดที่เสมอกับลิเวอร์พูล 1-1 ในแอนฟิลด์ โชคดีที่ใบแดงที่ได้ไม่ได้เป็นลางต่อฟอร์มการเล่นของกอสในนัดต่อๆไปว่าจะเป็นแบบนั้น แต่เป็นการพัฒนาจากปีต่อปีนับตั้งแต่นั้นต่างหากที่แสดงให้เห็นว่ากอสเซียลนี่มีการพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ
กอสเซียลนี่ปัจจุบันได้พัฒนาเป็นกองหลังที่เก่งที่สุดคนหนึ่งของยุโรป ซึ่งตัวเขาและสโมสรได้มีการเปลี่ยนแปลงนับตั้งแต่ 2010 เป็นต้นมาซึ่งรวมถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของทั้งตัวเขาเองและสโมสรไปเรื่อยๆอีกด้วย
Q: คุณรู้สึกอย่างไรที่เป็นนักเตะอาร์เซนอลมา5 ปีแล้ว
ด้วยความสัตย์จริง, เวลามันผ่านไปเร็วมาก ผมพึ่งรู้สึกจริงๆในปีนี้ ผมพึ่งอายุครบ 30 ปีและตระหนักว่าใกล้ถึงเวลาปิดฉากอาชีพนักฟุตบอลแล้ว ลูกๆของผมกำลังอายุห้าและสามขวบ มันก็เหมือนนักเตะทุกคนนั่นแหละ ฤดูกาลแต่ละฤดูกาลผ่านไปเร็วมาก ทุกอย่างผ่านไปเร็วมาก เราพึ่งมีความสุขกับฤดูกาลที่แล้วนี่เองซึ่งมันก็ผ่านมาถึงฤดูกาลนี้แล้ว (พูดถึง fa cup 2015 )
Q: คุณจำวันแรกที่มาที่นี่ได้มั้ย ?
มันเป็นช่วง กรกฎาคม 2010 ผมมาที่นี่เพื่อเซ็นสัญญา ตอนนั้นผมค่อนข้างตื่นเต้นและหวั่นๆเหมือนกันเพราะผมมาจากลอริยงต์ สโมสรเล็กๆจากลีกเอิงและผมเพิ่งผ่านการเล่นในลีกสูงสุดฝรั่งเศสมาแค่ 35 เกมเอง ผมรู้สึกทุกอย่างดูยิ่งใหญ่มาก ตอนนั้นผมอายุ 24 ผมไม่เคยเห็นสนามซ้อมแบบที่นี่มาก่อน หรือ สนามกีฬาเหมือนเอมิเรสต์สเตเดี้ยมด้วยซึ่งผมมีความสุขมาก
Q: คุณจำนักเตะที่เล่นในเกมแรกกับคุณได้มั้ย เกมที่อาร์เซนอลไปเยือนลิเวอร์พูลน่ะ ในวันที่ 15 กันยายน ?
โอ้ !!! กอสเซียลนี่ยิ้ม ^^ เอาล่ะผมว่า มี อัลมูเนียเป็นโกล์ กองหลังผมคิดว่ามี แฟร์มาเล่น คู่กับผมนะ มี ซานญ่า และก็ กลิชี่ เป็นแบ็คทั้งสองข้าง มิดฟิลล์ มีดิยาบี้ กอสเซียลนี่คิดสักพักแล้วต่อด้วย เดนิลสัน ? ชูรู ? (อันนี้เริ่มมั่วละ) อ่าถ้าไม่ใช่พวกเขาก็ต้องเป็นเอบูเอ้นะ นาสรี่ แจ็ค อาร์ชาวินและชามัคเป็นกองหน้า
Q: เป็นความความทรงจำที่ดีหรือไม่ ?
ผมไม่ได้คิดถึงมันนักนะแต่มันก็เป็นความทรงจำที่ดี ได้เล่นเกมแรกในนามนักเตะอาร์เซนอลในพรีเมียร์ลีกที่แอนฟิลด์นั่นค่อนข้างพิเศษมากนะครับ เราเสมอในช่วทดเวลาและผมถูกไล่ออก ซึ่งก่อนหน้านั้นตลอดการเล่นฟุตบอลอาชีพของผม ผมได้ใบแดงแค่สองครั้งเอง ผมคิดว่าโชคไม่ดีนิดหน่อยในใบเหลืองที่สองของผม
Q: คุณแข็งแกร่งขึ้นมั้ยถ้ามองกลับไปนับตั้งแต่ 2010 ?
ผมคิดว่าผมพัฒนาขึ้นในทุกๆด้านนะ ทั้งสภาพร่างกาย การเล่น จิตใจและทางด้านเทคนิค ผมไม่ค่อยเครียดตอนก่อนเกมแล้วเพราะมีประสบการณ์มากขึ้น ผมรู้ว่าจะเตรียมตัวอย่างไรในแต่ละเกมและชัดเจนว่าพรีเมียร์ลีกก็ยากขึ้นเรื่อยๆ ผมทำงานหนักมากตั้งแต่มาที่นี่
Q: แล้วคุณคิดว่าคุณพัฒนาจนถึงขีดที่คุณต้องการแล้วหรือยัง ?
ใช่ , คิดว่านะ การพัฒนาของผมยังไปต่อเรื่อยๆ เพราะผมทำงานหนักมาก ฝึกฝนหนักมาก ในแต่ละปีผมคิดว่าผมพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ เพราะผมต้องการรักษาระดับการเล่นให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ดังนั้นผมเลยทำงานหนักมากตั้งแต่เข้ามาอยู่สโมสรนี้
Q: คุณต้องทำงานอะไรมากที่สุดเมื่อคุณก้าวมาอยู่ที่นี่ ?
ผมรู้อย่างแรกเลยคือ สภาพร่างกายที่ต้องฝึกหนักมาก ฝีเท้าที่ดีพอ เทคนิค แต่สิ่งที่แตกต่างที่สุดจากฝรั่งเศสคือ บรรยากาศการเชียร์ของที่นี่ ผมต้องสนใจในเกมตั้งแต่ก่อนเกมเลย ผมเรียนรู้ที่จะไม่ถูกข่มขวัญโดยบรรยากาศ แฟนบอล สนาม อย่ากดดันกับมันมากนัก
Q: แล้วคุณตอนนี้กับตอน 2010 แตกต่างกันอย่างไร ?
อย่างแรกเลยผมกลายเป็นพ่อคน ผมเคยถูกตำหนิอย่างรุนแรงในฟอร์มการเล่น ผมเก็บตัวและติดบ้าน แต่การมีลูกช่วยผมให้มีทัศนคติที่ดีขึ้นเรื่อยๆ มีเหตุผลและไม่คิดแต่เรื่องของตัวเอง ตอนนี้ผมอยู่กับลูกๆและเตรียมตัวสำหรับอนาคตซึ่งมันสำคัญกับผมมาก
Q:คุณแตกต่างขึ้นอย่างไรในฐานะนักเตะอาร์เซนอล ?
ผมสามารถรับรู้ถึงการเคารพซึ่งกันและกันในห้องแต่งตัว ที่นี่แตกต่างจากที่ผมจากมา ตอนนี้ทุกคนรู้ว่าผมอยู่ที่นี่ พวกเขารู้ว่าสามารถเชื่อใจผมได้ในเกมส์ผมจะไม่ยอมแพ้ และไม่ยอมหยุดสู้เพื่อทีม
Q : มันสำคัญกับคุณมั้ยในเรื่องความเคารพน่ะ ?
แม้ว่าผมไม่คิดตัวเองสำคัญนะ แต่การที่รู้ว่าเพื่อนร่วมทีมเชื่อในตัวคุณ มั่นใจในตัวคุณ และมีการเคารพซึ่งกันและกัน มันสำคัญมากสำหรับผม เราจะรู้สึกดีๆต่อกันน่ะ
Q: อาร์เซนอลเปลี่ยนไปอย่างไรนับตั้งแต่ปี 2010 ?
สปิริตของทีมแตกต่างจากเดิม นักเตะหลายคนเปลี่ยนแปลงไปจากทีมเดิม ที่นี่(สโมสร)ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนักจากเดิม โลกฟุตบอลก็เป็นแบบนี้แหละ นักเตะเปลี่ยน ผจกการเปลี่ยน มีเพียงสโมสรเท่านั้นแหละที่ยังอยู่ บรรยากาศในทีมที่เปลี่ยนไป เราเซ็นสัญญากับนักเตะจอมเทคนิคหลายคนจากสเปนหรือชาติที่พูดสเปนอย่างนาโช่ สันติ อเล็กซิส เฮคเตอร์ นั่นแหละคือจุดเปลี่ยน ต่อมาก็มีแก็งเยอรมันตามมา และบอสสามารถจัดการให้ทุกคนเข้ากันได้ เราเล่นด้วยกันมาซักพักแล้วจนถึงตอนนี้ (อันนี้ขอเสริมถึงสปิริตทีม เรารู้สึกว่าชุดนี้สนิทกันมากไม่ได้แยกใครอยู่ก๊กไหน ฝรั่งเศสอย่างฟลามินี่ไปสนิทกับโอซิลเยอรมันเฉย แพร์กอสที่สนิทกันมาก ชิรูด์เคมีสาธารณะ พี่สันติก็อารมณ์ดีตลอด แก็งบริทิชคอร์อย่างแจ็คเราจำได้ตอนฟุตบอลโลก แจ็คขึ้นตอนชาโก้เป็นตัวจริงในนัดฝรั่งเศสกับเยอรมันแล้วทวิตว่าแปลกมากทำไมกอสไม่ได้ลง คือดูเหมือน together จริงๆ )
Q: กับการเข้าถึงปัญหาที่ผ่านมาล่ะ คุณจะสรุปมันอย่างไรจากห้าปีที่ผ่านมา ?
ผมค่อนข้างพอใจนะกับเวลาที่ผ่านมา ผมลงเล่นให้อาร์เซนอลมามากกว่า 200 เกมส์ในห้าฤดูกาล ผมโชคดีที่ไม่ได้บาดเจ็บมากนักในปีที่ผ่านๆมา
ร่างกายผมสมบูรณ์มากขึ้นและหวังว่าจะได้รับการพิจารณาเป็นกองหลังที่ดีในพรีเมียร์ลีกต่อไป (I’m hoping that I’m now considered as a good centre half in the Premier League too ถ้ากอสคิดงี้จริงๆแสดงว่าเป็นคนอยากจะพัฒนาตัวเองตลอดและไม่คิดว่าตัวเองเก่งเลย ^^ )
Q: ห้าปีที่แล้ว คุณมีประสบการณ์กับนัดชิงคาร์ลิ้งคัพที่แพ้ให้กับเบอมิ่งแฮมและสองถ้วยในเอฟเอคัพที่ผ่านมาคุณคิดอย่างไร ?
ผมไม่ได้คิดถึงเกมส์กับเบอมิ่งแฮมอีกแล้วแต่มันเป็นความทรงจำที่แย่มาก มันไม่เคยจะสวยงามได้หรอก การที่คุณสูญเสียแชมป์ถ้วยแรกกับสโมสรใหม่ของคุณน่ะ แต่ผมได้เรียนรู้นะ มันช่วยได้มากในการพัฒนาความนิ่งขึ้นในอาชีพ หลังจากพ่ายแพ้ในนัดชิงจากความผิดพลาดของผมทำให้ผมพัฒนาอย่างหนักมากเพื่อชดเชยให้กับสิ่งนั้น แต่ถ้วยเอฟเอคัพมันคนละเรื่องกันเลย ผมโคตรมีความสุข (แพ้โดนตบหัวนั่งเฉย จบเกมส์นั่งร้องไห้แล้วพัฒนามาถึงจุดนี้ สุดยอดละเนาะ เราให้อภัยตั้งแต่พี่ยิงเวสบอมกับนิวจนทีมได้ไป UCL ละ 555 )
Q:มันจะเป็นไปได้มั้ยที่ปีนี้จะเป็นปีของอาร์เซนอล ?
เป็นไปได้ครับ ถ้าเราเล่นเหมือนยี่สิบนาทีแรกในเกมส์ที่ชนะแมนยูน่ะ และแน่นอนเรามีความทะเยอทะยานที่จะเป็นแชมป์ แต่ถ้าเราเล่นเหมือนเกมส์กับโอลิมเปียกอส เราจะไม่ได้จบแม้ที่สี่ในพรีเมียร์ลีกหรอก เรามีทีมที่ดี เต็มไปด้วยความความสามารถของนักเตะ เราต้องมีฟอร์มสม่ำเสมอ
ถึงแม้ว่าการชนะแชมป์ลีกมันยังอีกนาน มันคือการวิ่งมาราธอนน่ะ ทุกสัปดาห์ เรามีแต่เกมส์ที่หนัก เราต้องมีความปราถนาและทะยานอยากอย่างเดียวกัน เรารู้ครับเราไม่สามารถอยู่ในฟอร์มที่จะดีไปตลอด แต่เราต้องแข็งแกร่งในเกมส์รับและชนะอย่างไม่สวยงามบ้าง แบบ 1-0 เมื่อเราไม่ได้อยู่ในฟอร์มการเล่นที่ดีนัก
Q:ตอนนี้คุณเป็นผู้นำในห้องแต่งตัวบ้างมั้ย ?
ผมคิดว่าผมเป็นนะ อย่างเช่น ในสนามพวกเขารู้กันหมดถ้าผมไม่พอใจในการเล่นของพวกเขา ผมจะออกไปกลางสนามแล้วแทคเกิลหนักๆซะครั้ง พวกเขารู้ผมสมควรทำแบบนั้น แต่นั่นแหละผมก็มีอารณ์เหมือนกัน ถ้ายังเล่นไม่ดีเหมือนเดิมผมจะตะโกนออกไป ผมจำได้ว่าผมเคยพูดครั้งใหญ่ มันประมาณสองปีที่แล้วตอนเอฟเอคัพรอบก่อนชิงชนะเลิศกับวีแกน ผมบาดเจ็บเลยไม่ได้เล่น ผมบอกกับเพื่อนร่วมทีมว่าคิดอย่างไร ผมต้องการปลุก
ระดมทุกๆคน ผมพูดถึงการผ่านเกมส์นี้ไปให้ได้ มันมาจากใจ บางสิ่งมันไม่จำเป็นต้องพูดมากหรอก ขึ้นอยู่กับว่ามันถูกเวลา ถูกสถานการณ์และ ถูกทางรึเปล่าแค่นั้น บางอย่างมันไม่ต้องพูดเลยก็ได้ถ้าเราแสดงท่าทางให้รับรู้เพียงพอ
Q: คุณมาที่นี่ตอนอายุ 24 ตอนนี้คุณรู้สึกความเป็นอังกฤษในตัวคุณบ้างมั้ย ?Y
บางอย่างนะครับ โดยเฉพาะเรามีชาวอังกฤษตัวน้อยสองคนในบ้านอย่างลูกสองคนของผม ซึ่งเกิดที่นี่ หนึ่งในนักกายภาพบำบัดชอบสอนผมพูดว่า คุณไม่ใช่คนฝรั่งเศส คุณเป็นคนอังกฤษ คุณแทดเกิลและเตะคนอื่น “you’re not French, you’re English - you tackle and kick people.มันทำให้ผมหัวเราะออกมา ผมยังเป็นฝรั่งเศสอยู่นะแต่เมื่ออยู่ในสนามผมรู้สึกถึงความเป็นอังกฤษอยู่บ้าง
Q: คุณรู้สึกอย่างไรที่คุณได้รับการนับถือจากคู่แข่งในสนาม ?
ผมไม่ได้ให้ความสนใจมากนักนะครับ ผมสนใจแต่เกมส์ของผมและการต่อสู้กับกองหน้าของทีมตรงข้าม ผมคิดแค่ว่าจะทีมชนะจะสามารถเอาชนะกองหน้าได้ มันท้าทาย แต่ก็มีตัวอย่างนะแบบ ผมเคยเจอกับหลุยส์ ซัวเรส เขาเตะผม และผมก็เตะเขา แต่เมื่อจบเกมส์เราจบด้วยการเคารพซึ่งกันและกันและจับมือกัน
Q: ซัวเรสเป็นกองหน้าที่ยากที่สุดของคุณรึเปล่า ?
ใช่ เขาเป็นหนึ่งในนั้น เหมือน กุน เหมือนดรอกบา นี่คือสิ่งที่ดีของพรีเมียร์ลีก คุณมีกองหน้าหลากหลายรูปแบบทุกสัปดาหืที่ต้องรับมือ และป้องกันต่างรูปแบบกัน หลังเกมส์ผมจะดูฟอร์มของผม ดูสถิติ ว่าผมเล่นเป็นอย่างไร ว่ามันดีรึเปล่า
Q: คุณมีความสัมพันธ์กัยอาร์เซนอลแฟนอย่างไร คุณรู้สึกว่าพวกเขารู้จักคุณดีพอรึเปล่า ?
ผมรักพวกเขา และอยากขอบคุณกับเพลงประจำตัวเพลงใหม่ของผม มันสุดยอดมาก !! ผมคิดว่าเราเคารพกันนะ ระหว่างนักเตะกับแฟนบอล บางครั้งที่เขาอาจรู้สึกไม่ได้ใกล้ชิดหรือรู้จักผมดีพอ เพราะว่าผมไม่ได้เล่นโชเซียลมีเดียเลย ผมพึ่งสมัครเล่นทวิตเตอร์เองแต่ก็ไม่ทวีตบ่อยเลยครับ และผมไม่ได้อยู่กับโทรศัพท์ทั้งวัน ก่อนหน้านี้ที่ค่อนข้างไม่เปิดเผยมากนักเพราะผมต้องการปกป้องครอบครัวและลูกๆน่ะ แต่ตอนนี้ก็เปิดมากขึ้นแล้ว
Q:ฤดูกาลที่ผ่านมา, วิดิโอพากย์บอลระหว่างแพร์กับคุณ ทำให้คนอื่นๆรู้จักด้านที่ไม่เคยเห็นของคุณใช่มั้ย ?
จริงครับ ผมไม่ได้นิสัยเหมือนที่เห็นในสนามนั่นหรอกพอจบเกมส์ ผมก็จะเริ่มหัวเราะและพูดตลกโปกฮากับคนอื่นๆ อาจจะดูซุกซนไปหน่อยก็ได้ แต่ผมไม่ใช่คนเชื่อใจใครง่ายๆและอย่างบอกไปแล้วน่ะครับ ผมเป็นคนเงียบๆอยุ่แล้ว (พี่แกเป็นคนบ็องๆนะบางทีถ้าดูพวกคลิปนอกเวลาเตะฟุตบอล แบบโฟโต้บอม )
Q: คุณคิดเห็นอย่างไรกับโลกฟุตบอลตอนนี้
ผมรู้ว่าคนอื่นๆมักพูดถึงการซื้อขายนักเตะอยู่บ่อยๆ รายได้ หรืออะไรทั้งหมดนั่นแหละ ผมเข้าใจนะในโลกฟุตบอลคุณต้องจ่ายในราคาที่หนัก เพราะ สปอนเซอร์ลงทุนไปมากเพราะฟุตบอลทำรายได้ให้กับพวกเขาเยอะ แต่เราไม่ควรจ่ายในราคาที่สูงเกินไป ถ้าฟุตบอลไม่ใช่เรื่องกำไรล่ะก็ ฟุตบอลคือการแสดง เป็นการแสดงที่เป็นความฝันของเด็กอีกนับล้านคน ทำให้คนเป็นล้านมีความสุขทุกๆสัปดาห์ นี่เป็นการแสดงที่ดีที่สุดในโลกใบนี้ แต่โลกความจริงมันไม่ใช่ ผมไม่ได้ไร้เดียงสาที่เข้าใจว่าทุกอย่างจะสมบูรณ์แบบและสวยงามเป็นสีชมพูหรอก และทุกๆคนก็พูดถึงเกี่ยวกับมันมีคน65ล้านคนล้วนแล้วแต่เป็นผู้จัดการทีมเลยนะในประเทศของผม ผมไม่ได้ให้ความสนใจมากนักกับสิ่งที่เขาพูดกันเท่าไหร่
Q:ถ้าลูกๆของคุณ โนอาหฺ์และไมน่า ต้องการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ คุณจะส่งเสริมเขามั้ย ?
เขาสามารถทำอะไรก็ได้ที่เขาต้องการ ผมจะผลักดันให้เขาเรียนและทำให้สำเร็จ นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าพวกเขาอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ หรือ กีฬาอื่น นักกฎหมาย หรือ คนจัดสวน อะไรที่เขาทำแล้วมีความสุขผมก็มีความสุข
Q: ลูกๆของคุณชอบเล่นฟุตบอลมั้ย ?
ชอบครับ ลูกชายผมโนอาห์ ชอบเล่นและเตะฟุตบอล พวกเขาทั้งคู่ไปดูผมแข่งทุกเกมส์ที่เอมิเรสต์ ลูกชายผมกับลูกสาวชอบร้องเพลงเชียร์ฟุตบอล พวกเขามีความสุขกับฟุตบอลนะครับ พวกเขาเป็นสองกันเนอร์รุ่นจิ๋ว
Q: คุณเริ่มคิดถึงสิ่งที่คุณจะทำหลังแขวนสตั๊ดหรือยัง ?
ผมคิดอยู่บ่อยๆแต่ยังไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ ผมไม่รู้จะอาศัยอยู่ที่นีต่อหรือกลับผรั่งเศส เดี๋ยวก็รู้ครับว่าผมจะทำอะไรต่อ ในวงการโทรทัศน์ โค้ช หรือทำธุรกิจ ยังมีเวลาอีกเยอะให้คิด (กอสเซียลนี่ร่วมทำธุรกิจบางส่วนคือโรงงานแอคคอเดี้ยนในบ้านเกิดตอนใกล้จะเจ็ง)
Q: คุณคิดว่าคุณจะเล่นได้อีกกี่ปี ?
ผมไม่รู้ ผมจะเล่นจนกว่าจะไม่ไหวแหละครับ ผมยังเหลือสัญญาอีกสี่ปีตอนนั้นก็ 34 แล้วเรามาดูกันว่าร่างกายผมยังไหวมั้ย แต่ถ้ายังไหวมันก็อาจจะถึงจุดที่ต้องหยุดเล่นนะครับ คุณไม่สามารถเหมือนปิแรสนะที่จะหยุดเล่นตอนอายุ 42 น่ะ หัวเราะ ผมมีความสุขกับทุกสิ่งทุกอย่างกับที่นี่ ถ้าผมหมดสัญญา ถึงเวลานั้นก็เหลือแค่ปีเดียวเท่านั้น ผมก็จะได้เทสติโมเนียสแมท์ จินตนาการดูสิ ผมมีเทสติโมเนียสแมท์ที่เอมิเรสต์ คงเป็นเรื่องที่สุด
ยอดมากๆเลยล่ะครับ
Q: คุณมีเลือดนักสู้ในตัวคุณและคุณมักเล่นท่ามกลางความเจ็บปวด และบอกเราหน่อยเกี่ยวกับการติดทีมชาติฝรั่งเศสของคุณ ?
เราแข่งกับสหรัฐอเมริกาที่Stade de France ตอนพ.ย 2011 ผมปะทะกับเบรค เชียหลังเกมส์ผ่านไปแค่ 10 นาที เป็นเกมแรกของผมด้วยกับฝรั่งเศสผมเลยไม่อยากออกจากสนาม ช่วงพักครึ่ง บล็องอนุญาตให้ผมเล่นต่อได้ ผมรู้คงไม่ได้น่ากังวลนัก ผมไม่ได้สั่นสะเทือนหรืออะไรนะในเกมที่เราเล่น พอจบเกมผมคิดว่าเมื้อกี้ตอนปะทะมันน่ากลัวมาก นั่นแหละนิสัยผม
Q:คุณอยู่ในสถิติที่ดีในหลายด้าน คุณรู้มั้ยคุณสูงสุดในด้านไหน ?
การสกัดบอล Interceptions! เป็นหนึ่งในความสามารถที่ผมมี ผมพยายามที่จะไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อทีมของผมนะ ผมสามารถอ่านเกมและส่งบอลได้ ผมคิดว่าส่วนนี้ก็ช่วยทีมได้เหมือนกัน มันเป็นการท้าทายที่ยิ่งใหญ่มาก ผมพยายามหาช่องที่จะส่งบอลไปให้ถึง ทำอย่างไรให้เล่นได้ต่อ ผมพยายามทำมาตลอด ส่วนหนึ่งมันเป็นสัญชาตญาณด้วย ประสบการณ์และความเข้าใจเกมส์
Q:ช่วงต้นฤดูกาล มีวิดิโอที่คุณทำราโบน่า (คือการเตะฟุตบอลแบบไข้วไปด้านหลังโดยใช้เท้าที่ไม่ถนัดเตะบอลให้เข้าประตู ) คุณทำได้ดีได้อย่างไร
ผมสามารถทำได้กับเท้าข้างซ้าย มันบ้ามาก ทั้งๆทีผมถนัดเท้าขวาแต่ผมทำมันไม่ได้กับเท่าข้างถนัด ผมผึกบางครั้งก่อนช่วงเทรนนิ่ง แต่ไม่เคยทำในเกมส์นะครับ แต่ถ้าเราชนะได้แชมป์พรีเมียร์ลีกแล้วก่อนเกมส์สุดท้ายของเรา ผมจะทำให้ดูตอนแข่งกับแอสตันวิลล่าที่เอมิเรสต์ ผมสัญญา
แปลโดย
สมาชิกหมายเลข 1386774
http://pantip.com/topic/34350462/
แก้ไขล่าสุดโดย Pablo Honey เมื่อ Fri Oct 23, 2015 22:49, ทั้งหมด 1 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ