ทำไม ห้ามดื่มเกินวันละสองขวด?!?!
ห้ามดื่มเกินวันละสองขวด
เคยสงสัยมั๊ยครับว่าทำไมที่ขวดกระทิงแดงต้องมีคำเตือนไว้ว่า
“ห้ามดื่มเกินวันละสองขวด…”
แล้วทำไมเวลาคนดื่มกระทิงแดงมักถูกนำไปเปรียบเทียบกับคนขับรถบรรทุกบ้าง ผู้ใช้แรงงานบ้าง กระทิงแดง (และเครื่องดื่มประเภทนี้ยี่ห้ออื่น) มักถูกมองว่าเป็นเครื่องดื่มอันตราย ไม่ใช่แค่ “ไม่ควรดื่มเกินวันละสองขวด” แต่ ห้าม กันเลยทีเดียว
ถ้าผมพูดว่า “ผมกินกระทิงแดงทุกเช้า วันละขวด” กับ “ผมกินกาแฟทุกเช้า วันละแก้ว” คุณมีความรู้สึกต่างกันอย่างไร
ว่าแล้วผมก็เลยหยิบกระทิงแดง (ของไทย) จากตู้เย็นออกมาดู (จำไม่ได้ว่ามีอยู่ได้ไง) ที่ฉลากเขียนส่วนประกอบไว้ว่ามี น้ำตาลซูโครส ทอรีน คาเฟอีน อินโนซิทอล วิตามิน B3 เด็กแพนธินอล วิตามิน B6 และ ซิตริก แอซิค
งั้นมาดูกันว่าอะไรที่เป็นตัวที่ทำให้ห้ามดื่มเกินวันละสองขวด ผมไม่ใช่หมอ หรือนักเคมี นักโภชนาการ เลยขอไม่กล่าวในรายละเอียดละกันครับ ดูคร่าวๆ เอาพอเห็นภาพ
น้ำตาลซูโครส คงไม่มีปัญหาอะไร
ทอรีน (Taurine) เป็นกรดอะมิโนที่พบในธรรมชาติ มีในเนื้อสัตว์ มีในน้ำนมแม่ และจากการศึกษาไม่พบอันตรายจากการรับ Taurine 1000 mg ต่อน้ำหนัก 1 kg ต่อวัน ในกระทิงแดง 1 ขวด มี Taurine 800 mg.
อินโนซิทอล (Inositol) พบในผลไม้บางชนิด ธัญพืช ถั่ว ร่างกายผลิตได้ ถ้าผู้ป่วยเบาหวานขาดจะไม่ดี อินโนซิทอลอาจช่วยลดความซึมเศร้า วิตกกังวัล
วิตามิน B3, B6 คงไม่เป็นอันตราย เห็นชอบกินกันจัง
เด็กแพนธินอล เข้าใจว่าคือ วิตามิน B5
ซิตริก แอซิค กรดน้ำส้ม พบในมะนาว ส้ม ผลไม้พวก Citrus ก็เห็นกินกันจัง
งั้นก็เหลือแต่คาเฟอีนแล้วแหละครับ (คราวจริงก็น่าจะสรุปแบบนี้ได้ตั้งแต่แรก) เพราะว่าที่ขวดมีเขียนต่อว่า
“ห้ามดื่มเกินวันละสองขวด เพราะหัวใจจะสั่น นอนไม่หลับ …”
ถ้าคนทั่วไปเห็นแบบนี้ ก็คงคิดไปก่อนล่ะครับว่ามันมีคาเฟอีนสูง เพราะอาการเหล่านี้เป็นอาการของการได้รับคาเฟอีนสูงเกินไป งั้นที่ห้ามดื่มเกินวันละสองขวด คงเพราะว่าปริมาณคาเฟอีนจะสูงเกินไปจนกว่าร่างกายมนุษย์ผู้ใหญ่คนนึงจะรับได้ในหนึ่งวันโดยไม่เป็นอันตราย
ที่ขวดเขียนว่า มีคาเฟอีน 50 mg
ผมก็เลยสงสัยว่าไอ้ 50 mg นี่มันเยอะ มันน้อยยังไง ก็เลยออกไปสำรวจตู้น้ำใน CVS กะตู้เย็นในบ้าน ดูสักหน่อย แล้วก็รวบรวมปริมาณคาเฟอีนมาดู ได้ข้อมูลตามนี้ครับ
Caffeine
อย่างที่เห็นครับ กระทิงแดงไทย มีคาเฟอีนเท่าๆ กับชาเขียวโออิชิ 1 ขวด แต่ทำไมไม่เห็น “ห้ามดื่มโออิชิเกินวันละสองขวด” เลย หนำซ้ำในโออิชิ Buffet ยังเติมได้ไม่ยั้ง โค้กก็ซัดไปซะวันละสองสามกระป๋องก็ได้ ไปพิซซ่าคอมปะนีทีก็ไม่มีองค์กรไหนมาห้ามคนสั่งโค้กแบบ unlimited
ความจริงกินกาแฟ Starbucks แก้วเล็ก (Tall) ไปแก้วนึง ก็ได้คาเฟอีนมากกว่ากระทิงแดง 5 ขวดแล้ว ถ้าเดาๆ เอาผมว่ากาแฟเย็น ชาเย็น โอเลี้ยง ทั่วไปก็คงมีคาเฟอีนสูงกว่าหรือพอๆ กับกระทิงแดง ไม่มีประเทศไหน (ที่อนุญาตให้กินกาแฟได้) ห้ามกินเกินวันละสองแก้ว แถมกระทิงแดงแบบสากล (ที่ใส่โซดา) ยังขายอยู่ในร้านของห้องสมุดมหาวิทยาลัยเลย ไม่มีติดห้ามดื่มเกินวันละสองกระป๋องด้วย
อ้าว แล้วที่เมืองไทยจะติดฉลากห้ามกระทิงแดงกันไปทำไม
ผมได้ยินมาว่ามันเป็นเรื่องการเมือง
เค้าเล่ากันว่า บริษัทกระทิงแดงไม่ยอมบริจาคเงินให้พรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นรัฐบาลในสมัยที่กระทิงแดงออกมาใหม่ๆ (ไม่ขอเอ่ยนาม ไปนับกันเอาเอง) ทางฝ่ายการเมืองก็เลยโกรธ ก็เลยออกกฎหมายให้มีข้อความ “ห้ามดื่มเกินวันละสองขวด” ติดไว้ ทีนี้ประชาชนก็เลยติดภาพว่าเป็นเครื่องดื่มอันตรายกัน รายได้จะได้ไม่สูงมาก คนจะได้ไม่ซื้อเกินวันละสองขวด
ผมว่าไม่จริงหรอกครับ ประเทศไทยเนี่ยนะ จะมีระบบอะไรแบบนี้
ไม่มีทาง, ไม่มี
นักการเมืองของเราเนี่ยนะจะใช้วิธีไร้คุณธรรมแบบนี้
แต่ในเมื่อมันไม่ใช่เหตุผลทางสุขภาพอย่างแน่นอน ถ้าจะห้ามเพราะทำให้ใจสั่นจริงๆ (งั้นก็คงต้องห้ามผมมองตาคุณเกินวันสองรอบด้วย ทำหัวใจผมสั่น นอนไม่หลับเหมือนกัน)
ผมเลยเชื่อว่าพวกเค้ามีเหตุผลอย่างอื่น ผมว่าน่าจะเป็นเหตุผลทางเศรษฐกิจสักอย่าง คงไม่ใช่เพราะว่า ที่ขวดกระทิงแดงมีกระทิงแค่สองตัว ลิโพชูแค่สองนิ้ว คาราบาวแดงมีแค่สองเขา
อาจจะเพราะว่า ดื่มเยอะมันเปลือง
หรืออาจจะเพราะว่าเนื่องจากกระทิงแดงออกมาใหม่ รัฐบาลตอนนั้นเลยกลัวว่าบริษัทกระทิงแดงจะเป็น Monopoly ในด้านเครื่องดื่มให้ความสดชื่น ก็เลยออกกฎหมายห้ามดื่มเกินวันละสองขวด ผู้บริโภคจะได้ไปซื้อกระทิงเหลือง กระทิงขาว กระทิงหลากสี ลิโพ เอ็มร้อย เอ็มร้อยห้าสิบ เอ็มร้อยห้าสิบหก เอ็มร้อยห้าสิบหกจุดเก้าห้า คาราบาวแดง บอดี้แสลมแดง อะไรก็ว่าไปมาดื่มหลังจากดื่มกระทิงแดงครบสองขวดแล้ว จะได้กระจายรายได้ไปหลายๆ บริษัท เกิดการแข่งขันแบบสมบูรณ์
หรือเป็นเหตุผลทางด้าน Labor Economics เนื่องจากคนขับรถบรรทุกต้องการเครื่องดื่มช่วยไม่ให้หลับตอนขับรถ และพวกเขาก็มักจะทำงานข้ามคืน คือออกรถเย็น ถึงตอนเช้า ก็เลยต้อง limit ปริมาณคาเฟอีนให้อยู่ประมาณ 1 ใน 4 ของกาแฟ คนขับจะได้กินสองขวดตอนห้าทุ่ม กินอีกสองตอนตีหนึ่งได้พอดี ทีนี้ก็จะ max out แล้ว วันนั้นก็ทำงานไม่ได้อีก เลยต้องนอนพักหนึ่งคืน แบบนี้ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้นายจ้างใช้งานคนขับรถบรรทุกมากเกินไป ช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้อีกด้วย
คนไทยนี่ฉลาดจริงๆ
Disclaimer : ผู้เขียนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือได้ผลประโยชน์อะไรจากบริษัทกระทิงแดง หรือบริษัทที่ถูกกล่าวอ้างทั้งสิ้น (ไม่ต้องมา Six Degrees of Separation นะ) เครื่องหมายทางการค้าทุกอย่างเป็นของบริษัทนั้นๆ บทความนี้ไม่ได้เกี่ยวกับหัวข้อที่ว่าคาเฟอีนดีหรือไม่ดีอย่างไร ไม่ได้สนับสนุนและไม่ได้ต่อต้านให้ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน อย่างไรก็ตาม โดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษา ควรจะนอนให้พอ ให้เป็นเวลา กินอาหารที่มีประโยชน์และมีสารอาหารครบถ้วน ออกกำลังกายบ้างอะไรบ้างนะครับ
ที่มา:
https://imnotobvious.wordpress.com/2011/03/25/nomorethantwoperday/