[บทความแปล]... ชำแหละปรัชญาของ LVG ...
จาก
http://pantip.com/topic/34083664
บทความนี้ถอดความจาก
REVISITING VAN GAAL’S PRINCIPLES OF PLAY
http://livelifeunited.com/revisiting-van-gaals-principles-of-play/
เจตนาเพื่อพูดคุยและวิจารณ์อย่างเสรีในกลุ่มผู้ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลเท่านั้น
ผู้แปลไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์แต่อย่างใด
อนุญาตให้คัดลอกเผยแพร่เพื่อวัตถุประสงค์พูดคุยและวิจารณ์ โดยต้องใส่เครดิตย้อนกลับไปถึงบทความต้นฉบับภาษาอังกฤษ แต่ไม่อนุญาตให้คัดลอกเผยแพร่เพื่อใช้ในเชิงพาณิชย์โดยสิ้นเชิง
บทความต้นฉบับนั้นเขียนเป็นบทความยาวแต่ผมจะถอดความและจัดแบ่งเป็น 5 หัวข้อ ตามใจความสำคัญของบทความ 5 อย่างครับ
Part 1 - Introduction
แม้ยูไนเต็ดจะทำได้ดีขึ้นในเกมแชมเปียนส์ลีกกับคลับบรูซ แต่ก็เริ่มมีคำถามจากนักวิเคราะห์และแฟนบอลต่อปรัชญาของฟานกัลมากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน เพราะแทคติคของเขานั้นดูขัดกับธรรมชาติ.
แกรี่ เนวิลล์เคยวิจารณ์ไว้ว่า มันเป็นเรื่องปกติที่การป้องกันนั้นจะถูกวางแผนไว้เป็นอย่างดี แต่การบุกแบบชาญฉลาดจะต้องมีมากกว่าแค่การอาศัยจินตนาการของผู้เล่น มันเป็นเรื่องยากสำหรับผู้จัดการทีมที่จะใส่แทคติคละเอียดยิบลงไปในแผนการบุก
แต่สำหรับฟานกัลนั้นการบุกของเขาถูกคำนวณและชี้วัดในแบบเดียวกันกับการป้องกัน
ทุกอย่างเป็นมากกว่าแทคติค
เราจะวิ่งไปตรงไหนและเพื่ออะไร? "คิดสิ... คิด"
เขา (ฟานกัล) มักจะบอกเสมอว่า "คิดถึงทุกย่างก้าวของคุณ"
คุณจะต้องระลึกไว้เสมอว่าทุกสิ่งที่คุณทำในสนามต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน
เดนิส เบิร์กแคมป์พูดถึงปรัชญาของฟานกัลในหนังสืออัตชีวประวัติ
เขาจะบอกว่า "คุณต้องใช้พื้นที่แค่ 5 หลาเพื่อไปอยู่ในที่ที่ถูกต้อง นี่เป็นสิ่งที่คุณต้องทำในสนาม และทั้งทีมก็ต้องคิด
ในแบบเดียวกันว่า 'ตูอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องรึยัง ??' "
จอห์นนี่ อีแวนส์
ในฟุตบอลที่เน้นการครองบอล เราต้องคาดหวังว่าผู้เล่นจะอยู่ชิดกันเพื่อส่งบอลไปมาสั้นๆในระยะ 5 หลา และผู้เล่นต่างคนต่างเคลื่อนที่ตลอดเพื่อเปลี่ยนตำแหน่งและสร้างพื้นที่
ซึ่งทั้งหมดนั้นไม่ใช่สำหรับฟานกัล แต่ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ รูปแบบทีมของฟานกัลจะขึงออกกว้างมากกว่า โดยเฉพาะช่องว่างตรงกลางระหว่างมิดฟิลด์ ตัวกลาง 2 คนกับผู้เล่นในแดนหน้า
Part 2 - การขึ้นเกมบุกจากแดนหลัง
จะเห็นว่าผู้เล่นริมเส้นจะปักหลักอยู่ที่เส้น ในขณะที่เบอร์ 10 (ตำแหน่ง ไม่ใช่เบอร์เสื้อ) จะยืนสูงคู่กับกองหน้า ส่วนมิดฟิลด์ตัวกลาง 2 คนนั้นจะยืนต่ำลงมามาก
ดูแล้วค่อนข้างขัดสามัญสำนึกกับการที่ฟานกัลให้ทีมยืนขึงออกกว้าง แล้วก็ยังให้รักษาตำแหน่งอย่างเคร่งครัดอีกต่างหาก
ซึ่งการจะเข้าใจเหตุผลเหล่านี้ได้ เราต้องย้อนกลับไปถึงปรัชญาของฟานกัลกันอีกครั้งหนึ่ง
โค้ชหลายคนทุ่มเวลาให้กับการคิดหาวิธีทำให้นักเตะของเขาวิ่งให้มากที่สุดในการแข่ง
ส่วนที่อาแจ๊กซ์จะสอนให้นักเตะวิ่งให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ นี่เป็นสาเหตุที่การฝึกที่อาแจ๊กซ์เน้นการเล่นแบบยืนตำแหน่ง
ฟานกัล จากหนังสือ The Coaching Philosophies of Louis Van Gaal and the Ajax Coaches
แทนที่นักเตะจะเคลื่อนที่แบบไม่หยุดยั้งซึ่งใช้พลังงานสูงมาก ฟานกัลกลับต้องการให้นักเตะที่ขึ้นเกมรุกเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เคลื่อนที่มากเป็นพิเศษ ซึ่งจะเห็นได้จากตัวอย่างข้างล่าง
เซนเตอร์แบ๊ค 2 คนส่งบอลสั้นไปมาเพื่อสร้างช่องว่าง โดยดึงผู้เล่นฝั่งตรงข้ามขึ้นมาไล่บอล
บอลถูกส่งมาให้ชไนเดอร์ลิน พื้นที่เปิดแล้ว...
บอลถูกส่งไกลขึ้นหน้าไปที่รูนีย์
รูนีย์ลงต่ำมาอยู่ข้างหลังมิดฟิลด์ฝั่งตรงข้ามเพื่อรับและถ่ายบอล
แต่มิดฟิลด์ฝั่งตรงข้ามยังไม่รู้ตัวว่ารูนีย์ลงมาอยู่ใกล้ๆแล้ว เซนเตอร์แบ๊คจึงต้องตามขึ้นมาประกบด้วย
การเคลื่อนไหวนี้ของรูนีย์ทำให้เกิดช่องขนาดใหญ่ขึ้นในแผงหลัง 4 คน (ซึ่งตอนนี้เหลือ 3)
และเป็นช่องให้ยานาไซจ์สอดเข้าไป
ขณะเดียวกัน ดาเมี่ยนก็วิ่งเติมขึ้นมาทางริมเส้น
(ทำให้แบ๊คซ้ายฝั่งตรงข้ามลังเลที่จะเข้าบีบมาต้า เพราะต้องยืนคุมเชิงและรอตามดาเมี่ยน มาต้ามีพื้นที่ในการจ่ายบอลเหลือเฟือ)
มาต้าเบิ้ลเร็วเข้าช่องไปให้ยานาไซจ์
ยานาไซจ์โล่ง แต่ลูกนี้ไม่เป็นประตูเพราะยานาไซจ์ปิดไม่ลง (ฮา........)
ตัวอย่างนี้เป็นตัวอย่างคลาสสิคของปรัชญาการบุกของฟานกัล
เมื่อนักเตะกระจายออกขึงทั้งทางกว้างและทางลึก จะเกิดช่องมากมายทั่วทั้งสนามให้นักเตะวิ่งเข้าใส่ในจังหวะที่เหมาะสมได้
ฟานกัลเคยบอกว่าช่องว่างจะอยู่ระหว่างไลน์ (กองหน้า - มิดฟิลด์ - กองหลัง) เสมอ
และเพื่อสร้างช่องว่างนั้นขึ้นมา มิดฟิลด์ตัวกลาง 2 คนจะต้องยืนลึกต่ำลงมา ส่วนกองหน้าเละผู้เล่นเบอร์ 10 จะต้องอยู่สูง
ผู้เล่นแถวหน้าทั้ง 2 คนจะคอยหาจังหวะวิ่งเข้าช่อง หรือวิ่งลงมาอยู่หลังกองกลางผู้ต่อสู้
ซึ่งนั่นเป็นคำตอบว่าทำไมฟานกัลถึงต้องการกองหน้าคนที่สองมากกว่ามิดฟิลด์ในการเล่นตำแหน่งเบอร์ 10
(อรรถาธิบาย : เรื่องการวิ่งลงมาหลังกองกลางฝั่งตรงข้ามจะเหมือนตัวอย่างข้างบน คือวิ่งลงมาแต่ไม่ล้ำไปอยู่หน้ากองกลางเพื่อไม่ให้กองกลางรู้ตัว ถ้าเซ็นเตอร์ไม่ตามมา ตัวเองก็จะมีที่เล่น ถ้าเซ็นเตอร์ตามขึ้นมา ก็ป้ายต่อให้ผู้เล่นคนอื่นสอดเข้าช่องของเซ็นเตอร์คนนั้น)
ไม่รู้ซ้ำไหม ตามไปอ่านต่อกันนะครับ ฮาาาา