มีหลายคนที่เจอเอาที่หนักๆเลยคงหนีไม่พ้นเรื่องเล่าของ คุณหนุ่ม เกี่ยวกับ สาวชุดดำ วัดเสมียนนารี
เรื่องเกิดขึ้น ณ ค่ำคืนวันหนึ่ง ขณะที่คุณหนุ่มกำลังจะเดินทางกลับบ้าน
หลังจากไปเที่ยวกับเพื่อนแถวๆ ย่าน RCA 2 รัชดา ระหว่างที่ขับรถกลับมา
(เวลาประมาณตี 2-3 ได้) ก็พบหญิงสาว 2 คน สวมชุดดำทั้งชุดยืนโบกรถอยู่
ตัวคุณหนุ่มเอง มองกระจกหลัง ก็ไม่เห็นมีแท็กซี่ตามมา จึงเข้าใจว่า หญิงสาวทั้ง 2
คงโบกเรียกรถของตัว ประกอบกับ เวลานั้นดึกมาก แท็กซี่หายาก และสองสาวนั้น
หน้าตาดี จึงจอดรับ ซึ่งทั้งสองสาวชุดดำนั้น ได้บอกจุดหมายปลายทางว่า
ให้ไปส่งที่วัดเสมียนนารี

เมื่อเธอทั้ง 2 ขึ้นมาบนรถ (คนหนึ่งนั่งหน้า คนหนึ่งนั่งหลัง) คุณหนุ่มรู้สึกแปลกใจว่า
ทำไมเธอทั้งคู่ ถึงไม่คุยกันเลย อีกทั้งหน้าตาดูหมองหม่น ซึ่งคุณหนุ่มก็คิดว่า
สงสัยจะมีญาติเสียอยู่ที่วัด เวลาที่ชวนคุย ก็เป็นลักษณะถามคำตอบคำ
ทำให้คุณหนุ่ม ที่ตอนแรกตั้งใจจะขอเบอร์ ต้องหยุดความตั้งใจนั้น

เมื่อขับผ่านถนนสายวิภาวดีมาเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าวัดเสมียนฯ ระหว่างที่รถกำลังข้ามทางรถไฟ
และเลี้ยวขวา คุณหนุ่มซึ่งมองขวาชั่วประเดี๋ยวเดียว (เป็นปกติของคนขับรถ)
แล้วจะหันไปถามว่า ทั้งคู่จะลง ณ จุดตำแหน่งไหน ปรากฏว่า

เธอทั้งคู่ หายไปแล้ว!!!!

ระหว่างที่เลี้ยว ก็ไม่ได้มีเสียงเปิดปิดประตูแต่อย่างใด
แล้วทั้งสอง ลงไปตอนไหน


ในช่วงเวลาที่คุณหนุ่มกำลังสับสน สายตาก็พลันเหลือบไปมองทางด้านขวา
ซึ่งเป็นรางรถไฟ ภาพที่คุณหนุ่มเห็นคือ

มีหญิงสาวสองคน อยู่บนรางรถไฟ ร่างกายขาดครึ่ง เหลือแต่ท่อนบน
และเธอทั้งสอง กำลังคลานเข้ามาหากัน

ทันทีที่เห็นภาพนั้น คุณหนุ่มก็หมดสติสัมปชัญญะไป
มาฟื้นอีกที อยู่ที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ซึ่งเรื่องนี้
เล่าให้ตำรวจฟัง ตำรวจก็หาว่า เมายา ส่วนหมอก็ฟันธงว่า
คุณหนุ่มดื่มสุราเกินขนาด

แต่เหตุการณ์นี้ ทำให้คุณหนุ่มเป็นโรคหัวใจ มาจนถึงทุกวันนี้

หลายคนอาจจะคิดว่า เพราะฤทธิ์สุรา ทำให้คุณหนุ่มเห็นภาพหลอน คิดไปเอง
แต่จะบอกว่า ไม่ได้มีแค่คุณหนุ่มเท่านั้น ที่เจอสาวชุดดำ วัดเสมียน
แต่มีแท็กซี่ จำนวนมาก ที่เคยได้รับเธอไปส่งที่วัดเสมียนฯ และเจอเหตุการณ์
ทำนองเดียวกัน นั่นก็คือ จู่ๆ ก็หายไปจากรถ!!!

รูปหญิงสาวทั้ง 2 ที่ถูกสเกตออกมาจากผู้พบเห็นคนละคน คนละเวลา คนละวัน
แต่รูปที่ออกมากลับเหมือนกันโดยน่าประหลาดใจ.


ด้วยความสงสัยของทีมงานเดอะช็อค พี่ป๋อง กพล จึงได้ส่ง พี่แจ๊ค สายสิญจ์
ไปสังเกตุการณ์ที่วัดเสมียน หลังจากได้ข้อความ SMS จากพระรูปนึง (พระไฮเทค)
ว่า ดวงวิญญาณทั้งสอง มีตัวตน ชื่อ ชุลี และ สุลี เป็นพี่น้องกัน

โดยมีเรื่องเล่าว่า เธอทั้งคู่ กำลังเดินทางมางานศพที่วัดเสมียนฯ ด้วยรถมอเตอร์ไซค์
และเกิดอุบัติเหตุขณะที่กำลังจะข้ามทางรถไฟ เป็นเหตุให้รถไฟทับเธอทั้งสอง
ร่างกายขาดเป็นสองท่อน สยองยิ่งนัก

และหลังจากนั้น เรื่องของผีสาวชุดดำ ก็เกิดขึ้น
โดย เธอทั้งคู่ มักจะโบกรถในย่านที่จะเดินทางมุ่งหน้าไปยังวัดเสมียน ฯ
ซึ่งที่ๆ เธอเคยปรากฏตัวเรียกรถ มีประมาณนี้
ฟอร์จูน รัชดา, หน้า SCG Park, แยกสุทธิสาร, ถนนตก, หน้าโรงแรมเจ้าพระยา
และแถวริมถนนรัชดาฯ เกือบทั้งเส้น (ที่มีความเป็นไปได้สูง)
ทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่า แอเรียเกือบทั้งหมด จะอยู่บนเส้นรัชดาฯ (ยกเว้นถนนตก)
จึงมีเรื่องเล่า เพิ่มว่า จริงๆ แล้ว เธอทั้งคู่ เพิ่งกลับมาจากที่เที่ยว
แต่ต้องมาตายก่อนถึงวัด!!!

จนกระทั่ง มีผู้นำข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ข่าวสด
ที่พาดหัวหน้า 1 ว่า "ตายขาดสยอง"
นางสาวชุลี และ สุลี ทิพย์สุขศรี
ขับรถสวนรถไฟ โดยศพสาวทั้ง2ได้ถูกรถไฟทับขาดครึ่งสยอง
ใกล้วัด เสมียนนารี โดยในภาพข่าวได้ลงรูปหน้าหญิง 2 คนนั้นชัดมาก
และเป็นภาพขณะที่ มูลนิธิ กำลังเก็บศพไป



แต่หลังจากที่กระแสแรงมากช่วงนั้น ทีมงานเดอะช๊อคจึงได้นำทีมงานไปอีกรอบ ไปสอบถามกับทางวัดว่าอยากจะขอดูรูปเธอทั้ง 2 คน รูปใบหน้าจริงๆของทั้ง 2
และก็ได้คำตอบว่า มีบ้าง ไม่มีบ้าง หาคำตอบที่แน่นอนไม่ได้ชัดเจน จนทีมงานกำลังจะกลับ ก็ได้มี คณะลูกวัดท่านนึงน่าจะจำพรรษามานานแล้ว ผ่านมาได้ยินเรื่องที่ทีมงานคุยกัน ก็เลยเอ่ยถามขึ้นมาว่า "ใช่หญิงสาว 2 คนใช่มั้ย" มีสิและก็มีรูปเธอทั้ง 2 ด้วย
ไม่กี่วันที่ผ่านมาก็ยังเห็นอยู่เลย ทำให้ทีมงานประหลาดใจมาก และพระรูปนั้น ก็พาทีมงานไปดูรูปนั้นแต่เชื่อมั้ยครับว่า พระรูปนั้นพาเราไปที่เก็บรูปนั้น แต่น่าประหลาดใจว่า หายังไงก็หารูปนั้นไม่เจอ จนทุกวันนี้ ทั้งๆที่พระรูปนั้นยืนยันกับตาตัวเองเลยว่า เห็นอยู่ตรงตำแหน่งเดิมไม่มีใครมาเคลื่อนย้ายได้แน่นอน แต่น่าแปลกที่หายังไงก็หาไม่เจอจนทุกวันนี้ และทางทีมงานก็เลยได้เชิญ พี่ๆ แท๊กซี่คนที่เคยรับ 2 สาวคนนี้มาสเกตรูป ซึ่งเชื่อมั้ยครับว่ารูปที่ออกมา ทั้ง 4 รูปเหมือนกันโดยน่าประหลาดใจ เป็นดังคลิปด้านล่างนี่



ช่วงนั้นหลอนกันไปทั่วในหมู่คนที่อยู่ระแวกนั้นนักเที่ยวกลางคืนแท๊กซี่ที่ถูกเรียกไปวัดเสมียนนารี มักจะปฎิเสธ หากมีผู้หญิง 2 คนที่ใส่ชุดดำมาเรียกแม้จะไม่ใช่ผีก็ตาม จนต้องมีการติดป้ายและรูป หญิงสาวทั้ง 2 คนตามจุดต่างๆ ว่าให้ระวังหญิงสาว 2 คนนี้ในช่วงเวลานั้น
และทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเธอทั้ง 2 ยังอยู่รึเปล่า..และยังมีคนเจอเธออยู่รึเปล่า..แต่ถึงยังไรก็เถอะ ก็ยังมีคนพูดถึงและขนลุกทุกครั้งที่ได้อ่านได้ฟังเรื่องของเธอทั้ง 2 จนทุกวันนี้

เคยมีอีกเครสแต่ผมหาคลิปเสียงไม่เจอ ฟังจากเดอะชีอคย้อนยุค คนโทรมาเล่าชื่อ ดนัย มั้ง เป็นคนขับแท๊กซี่โดยสาร ถูกเรียกจากเหม่งจ๋าย ให้ไปส่งที่วัด แต่อันนี้มาส่งภายในวัดเลยจ่ายเงินเรียบร้อย พอหันไปหญิงสาวหายไปแล้ว
โดยไม่มีเสียงปิดประตูด้วยซ้ำ และพอออกจากวัดมาดูเงินกลายเป็นใบไม้แห้ง

ส่วนนี่
คลิปเสียงของคุณหนุ่มที่โทรมาเล่า ในวัน เวลา นั้น เป็นที่ฮือฮามากๆ


..

หลอนนน

เหมือนเมื่อต้นปี ยังมีคนโทรมาเล่าอยุ่เลยว่ายังเจออยุ่

แต่มันก็ไม่หลอนเหมือนที่คนแรกๆเล่าแล้ว

สมมติ ผมไม่เคยเจอ ผมก็อาจโทรไปโม้ว่าผมยังเจออยุ่ก็ได้เหมือนกัน

แต่ผมเชื่อนะ เพราะ เห็นโทรมาเล่าหลายคนมาก คือ ห่างๆไปทีนึง ก็จะโทรมาสักคนนึง เรื่องสาวชุดดำ เจอเป็นระยะๆ แบบไม่ติดต่อกัน


คือ พูดง่ายๆว่า ยังมีคนเจออยุ่อ่ะ

ตำนานที่ยังคงเล่าอยุ่จนถึงทุกวันนี้

บรื๊อ

วัดอะไรชอบทักทาย

อย่างงี้แทกซี่ต้องเจอบ่อยแน่นอน

เรื่องผีระดับตำนาน

ผมอยุ่ประชานิเวศน์ 1 มาตั้งแต่เกิด ไม่เคยเจอจริงๆครับ
ส่วนตัวเท่าที่จำได้ ก็มาเริ่มเล่าๆในรายการของ ป๋อง กพลเนี่ยล่ะครับ

รายการนี้เคยฟังอยู่คืนนึง เล่าเรื่องผีที่โรงเรียนผมด้วย เล่าว่าเจอในลิฟท์ที่ขึ้นไปโรงยิม
แต่โรงเรียนผมไม่ีลิฟท์ขึ้นโรงยิม เงิบเลย 5555

ปล.ผมก็ฟัง Mp.3 แกนะ ติดตามอยุ่เรื่อยๆ เน้นคิดว่าเอาไว้เสพเพื่อบันเทิง

เคยขึ้นแท้กซีแถวนั้นดึกๆ ลุงแท้กแกก็เล่าให้ฟังว่าเจอมาเหมื่อนกันแต่ไม่ได้รับขึ้นรถ

น่ากลัวโคตรๆ เรื่องนี้เป็นตำนานเรื่องนึง

ปล.ถ้า จขกท หาเรื่องที่เด็กหลงภูกระดึงได้ เอามาแชร์หน่อยนะครับ ผมก็อยากฟังอีก จำได้ว่าเคยออกตีสิบ แต่จำเรื่องราวเต็มๆไม่ได้ละ

อู่สยามเฟิร์สกูอยู่แถวนั้นซะด้วย เวรกรรมซะแล้ว

ปักใว้รอกลางคืนมาอ่าน

จำได้ว่าพี่เคยเปิดดูตอนนั้นเด็กๆแต่แม่งจำขึ้นใจเลยว่าเรื่องนี้ พอได้ยินชื่อวัดเสมียนนารีทีไรเรื่องนี้ต้องเด้งมาในหัวทุกทีแต่ดีนะไม่ได้อยู่กรุงเทพ

ผมก็อยู่แถวนี้มาเเต่เด็กๆๆ ไม่เคยเจอเหมือนกันครับ.
เคยได้ยินจากรายการ ก่อนจากปากคนแถวนี้ด้วยซ้ำ

ประเด็นคือมาโบกอะไรตรงบ้านโผม คนละเส้นเลย

เออไม่ได้อะไรนะแต่รูปเสก็ตไม่เห็นจะเหมือนกันเลย

ทิ้งไว้กลางทาง

เรื่องในตำนาน

รอ เรื่อง ภูกระดึง