ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 16 Sep 2009
ตอบ: 4622
ที่อยู่: Taeyeon,Soyeon,Lovelyz
โพสเมื่อ: Wed Jul 08, 2015 4:09 pm
ย้อนรอย คดีดัง "ตำนานเจ้าพ่อไบคาน"
ตำนานเจ้าพ่อไบคาน

"ลำนารายณ์"
วันดี ศรีตรัง






เรื่องการตายของวันดีฯ ยังเป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้ การค้นหาข้อมูลก็ไม่ค่อยพบ แต่ที่รู้ ๆ เป็นเรื่องเกี่ยวพันกับแขกไบคาน สมัยผมยังหนุ่ม ๆ ยังได้รับข่าวบอกเล่าว่า ถูกฝังด้วยแบกโฮในไร่ไบคาน แต่ข่าวอื่น ๆ ก็พูดกันไปคนละเรื่อง เช่น ถูกวางยาพิษ ถูกบีบคอตาย ซ้อมตาย ป่วยเป็นลมตาย ฯลฯ สาเหตุการตายจึงไม่แน่ชัด หลายคนหลายปากต่างพูดกันไป แต่ผมจะพยายามค้นหาข้อมูลมานำเสนอให้ได้ใกล้เคียงที่สุด และบันทึกไว้เพื่อการศึกษา ก็คงต้องอาศัยข้อมูลจากการสอบถามของชาวลำนารายณ์ที่อยู่ในสมัยนั้น เพราะนับวันเหตุการณ์แปรเปลี่ยนไป ที่ฟาร์มบริษัทไบคาน ริมถนนสาย 21 ต.ชัยนารายณ์ อ.ชัยบาดาล จว.ลพบุรี ก่อนถึงตัวอำเภอประมาณ 4 ก.ม.(ตั้งอยู่ระหว่างหลัก กม.ที่ 67-68 ถนนสายสระบุรี-หล่มสัก ) ก็มีสภาพเงียบเหงา บางคนก็ย้ายไปอยู่ที่อื่น เคยมีพวกกันที่อยู่จังหวัดสระบุรีแจ้งว่าประกาศขายหลายสิบล้าน



จากฐานข้อมูลทางเวปไซด์ ผมได้พยายามค้นหาเรื่องราว หรือตำนานเกี่ยวกับแขกปาทาน และไบคาน ปรากฎว่าไม่พบ และมีน้อยมาก ผู้ที่ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยได้ยิน มักสอบถามเสมอว่า ไบคาน คือใคร หรือ? ไม่ใช่ว่าผมต้องการมาขุดคุ้ยประวัติศาสตร์ไบคาน หรือต้องการประจานใคร แต่นับวันเรื่องราว เหตุการณ์ของไบคานลำนารายณ์กำลังจะจางหายไป อย่างน้อยที่สุด ผมก็อยู่ลำนารายณ์มาปีที่ 10 แล้ว ก็น่าจะบันทึกเรื่องราวในอดีตไว้บ้าง เผื่อจะมีผู้ต้องการศึกษา ถูกผิดอย่างไร แจ้งมาที่ผมได้ จะทำการแก้ไขให้ครับ
มีหนังสือเล่มหนึ่ง ที่ค้นพบ ยังหาไม่ได้ ยังไม่ได้อ่าน ก็เขียนเกี่ยวกับเรื่องเจ้าพ่อไบคาน ไว้ ว่ากันว่าเข้ามาประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2473 หรือ เมื่อ 70 ปีที่ผ่านมา แต่นั่นหมายถึงระดับรุ่นพ่อของลาหยอง และลาน้อย ไบคาน



ก่อนผมจะมารับราชการที่ลำนารายณ์ ตำบลหนึ่งของอำเภอชัยบาดาล ในปี พ.ศ.2543 ในปี พ.ศ.2526 ผมเคยได้รับการเสนอชื่อให้มาเป็นพนักงานสอบสวน ที่ลำนารายณ์ ตอนนั้น อยู่พระนครศรีอยุธยา แต่ไม่อยากมา เพราะไกลมาก ไม่เจริญ เขาว่าถนนหนทางเป็นทางลูกรังแดงเถือก ลำนารายณ์เป็นแดนเถื่อน นึกไม่ถึงว่าต่อมาในปี 2543 จะได้มาที่ลำนารายณ์จริง ๆ มาแล้วติดใจ กลายเป็นคนลำนารายณ์ไปเลย ลำนารายณ์ เป็นอำเภอใหญ่มาก เนื้อที่ใหญ่กว่าจังหวัดอ่างทองทั้งจังหวัด ปัจจุบันเจริญมากครับ มีศาลจังหวัดชัยบาดาล มีเรือนจำอำเภอชัยบาดาล ได้เข้าประกวดเสนอเป็นจังหวัดกับเขา แต่ตกรอบ เพราะไปเสนอเป็นชื่อจังหวัดพระนารายณ์ ซึ่งเจ้าของลิขสิทธิ์ชื่อนี้อยู่ในเขตอำเภอเมืองลพบุรี




เมื่อปี 2543 หรือ 60 ปีอิทธิพลไบคาน
ลาน้อย ไบคาน
กระแสความดังของแขกไบคาน ยังไม่ลดน้อยลง แต่ก็ยังมีอิทธิพลเรื่องปัญหาที่ดิน มีการบุกยิงถล่มกันเหมือนหนังฮ่องกง ได้ยินชื่อ นายธงชัย พงษ์สว่าง หรือ ลาน้อย ไบคาน เป็นคนแรก ลาน้อยตายไปก่อนที่ผมจะมา 10 ปี มีภรรยาชื่อเรไร อดีตนางงาม อ.บ้านหมี่ จว.ลพบุรี ซึ่งเป็นน้องสาวของดารารูปร่างใหญ่หนวดงาม คือ ฤทธิ์ ลือชา แต่นายหยอง ไบคาน น้องชายลาน้อย ไม่ค่อยชอบฤทธิ์ ลือชา สักเท่าไหร่?
จากการศึกษาประวัติพวกไบคาน (แขกปาทาน) ที่มาจากประเทศปากีสถาน เริ่มตั้งแต่สมัยจอมพลถนอม จอมพลประพาส พันเอกณรงค์ สมัยนั้นผมยังเด็ก ๆ อยู่ เล่ากันว่าพวกปาทานจะได้โค้วต้าในการส่งวัวควายออกนอกจนครอบครองตลาดเนื้อของจังหวัดลพบุรี แรก ๆ จะแจกวัวควายให้กับชาวนาเพื่อใช้ทำนา แต่เมื่อวัวควายออกลูกมา จะต้องยกให้กับพวกไบคาน จากนั้นจะเริ่มกว้านซื้อที่ดินจากชาวบ้าน ไร่ละประมาณ 300-500 บาท และครอบครองถึง 3 พันไร่ โดยมีฝ่ายปกครอง กำนันสมัยนั้นเป็นพวก ไบคาน จะมีอิทธิพลจากสระบุรี ลพบุรี ถึงเพชรบูรณ์ มีความสนิทชิดชอบ และรู้จักกับฝ่ายปกครอง ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และเริ่มสร้างอิทธิพลเรื่อยมา ที่ดินของไบคานที่ตกมาเป็นของตำรวจใหญ่ ๆ ในปัจจุบัน ก็มีมากมายเช่นกัน ส่วนใหญ่จะทำเป็นสัญญาซื้อขายโอนให้ไว้
การตายของลาน้อย




เมื่อปี 2534 วันนั้นตรงกับวันศุกร์ ลาน้อย นั่งรถกระบะมากับคนขับ ออกจากตลาดลำนารายณ์โฉมหน้าไปทางฟาร์มไบคาน ระหว่างทาง ถูกยิงถล่มตาย ขณะลงมอถนนแซงรถบรรทุกของ ส.ส.นิยมชัยฯ เยื้องหน้าวัดเขาบัลลังก์ ใกล้โค้งที่ทำการขนส่งชัยบาดาลในปัจจุบัน บริเวณเขาหน้าตัด โดยคนร้ายชายไทยสองคนยืนดักรอยิงถล่มด้วยปืนอาร์ก้า นับร้อยนัด คนขับไม่ถูกกระสุน แต่ลาน้อยโดนเข้าเต็ม ๆ คนขับพยายามแล่นรถไปถึงตู้ยามหนองเต่าเพื่อแจ้งเหตุ มีการนำส่ง รพ.ที่ จว.สระบุรี โดยกลุ่มคนร้ายติดไปตามเพื่อยิงซ้ำ แต่ลาน้อย ถึงความตายเสียก่อน เนื่องจากเสียเลือดมาก สมัยนั้นเส้นทางสาย 21 ยังเป็นถนนสายเดี่ยว รถวิ่งสวนทางกัน ไม่ใช่ 2 ฝั่ง 4 เลน เหมือนปัจจุบัน
ลาน้อยฯ จากการสอบถามผู้คนที่อยู่ในสมัยนั้น เขาว่าเป็นผู้มีอิทธิพลคนหนึ่ง เป็นพี่ชายของนายสมชาย พงษ์สว่าง หรือ หยอง ไบคาน ประชาชนสมัยนั้นหาพบเห็นลาน้อยฯ ก็รู้สึกหนาว ๆ ไปตามกัน เช่น เวลาตัดผมจะต้องเรียกช่างตัดผมชื่อช่างเหลียวในตลาดลำนารายณ์ ให้เข้าไปตัดผมในฟาร์มไบคาน นักร้องเล่นตัว ไม่เข้ามานั่งจะถูกกรีดใบหน้าด้วยฝาเบียร์ หรือหากไม่พอใจ ก็จะย้ายร้านดนตรีให้เข้าไปเล่นกันในฟาร์มเลย สมัยนั้นบ้านเมืองลำนารายณ์เหมือนรัฐเท็กซัส ไบคานนั่งรถจี๊ปใส่หมวก เปิดประทุน ยิงปืนขึ้นฟ้าหน้าโรงภาพยนต์ ที่เป็นตลาดชาญชัย ปัจจุบัน ฯลฯ



การตายของลาน้อยฯ ก็แพ่งเล็งไปที่ความขัดแย้งระหว่างลาน้อย กับนายอากรฯ ทั้งที่ลาน้อยฯ และนายอากรฯ ต่างเคยไปเที่ยวเตร่ด้วยกัน ต่างฝ่ายต่างพกปืน ไปมีเรื่องมีราวที่อื่นด้วยกัน ทำนองนักเลงคบกับนักเลงนั่นเอง แต่คำว่าผลประโยชน์ย่อมอยู่เหนือคำว่า เพื่อน และจากการที่นายอากรฯ ถูกคนร้ายยิงด้วย 11 ม.ม.ที่ตลาดนัดโคกระบือ เมื่อปี 2533 ต่างก็เพ่งเล็งตั้งเป้าไปที่ลาน้อยฯ เป็นผู้บงการ จนต่อมาในปี 2534 ลาน้อย ก็ถูกดักถล่มยิงตายไป ก็เพ่งเล็งมาที่นายอากรฯ คดีผู้มีอิทธิพลตาย มักปิดคดีง่ายนั่นเอง




หยอง ไบคาน
อีกคนคือ นาย สมชาย พงษ์สว่าง หรือหยองไบคาน มีประวัติเป็นนักฆ่าฉุดข่มขืน เหี้ยมกว่าลาน้อยหลายร้อยเท่าสมัยหนุ่ม ๆ รูปร่างหน้าตาดี เป็นคู่ปรับคนสำคัญ คือ นายอากร นันทมานนท์ เสี่ยงัก เจ้าของที่ดิน ปั้มน้ำมัน ซึ่งเป็นคนจีน ที่อาจหาญสู้กับแขก ขณะนั้น แขกกับเจ๊ก รบกัน โดยเฉพาะนายอากรฯ ถูกแขกไบคานยิงถึง 3 ครั้ง ไม่ตาย มีครั้งหนึ่งยิงถล่มกันที่ปั้มน้ำมัน พีที ริมถนนพหลโยธิน โดยมัดคาน คนนี้เป็นบุตรเขยของนายหยองฯ กับพวกจอดรถปิกอัพในปั้ม ลงมาไล่ยิงกันเหมือนในหนังภาพยนตร์ ฝ่ายนายอากรฯ ก็ยิงต่อสู้เข้าที่กำบัง จนกระสุนหมด โทรศัพท์เรียกนายนิดฯ น้องชายและพวกมาช่วย ไล่ยิงกันกระเจิงไป หลังรับแจ้งเหตุ ผมได้ติดตามรถคนร้ายไปในเขาเขตหนองเต่า-โกรกรกฟ้า พบรถกระบะจอดทิ้งไว้เพราะถูกยิงยางแตก ส่วน คนร้ายและพวกหนีขึ้นเขาไป ตรวจค้นในรถ พบนามบัตรคนใหญ่คนโตมากมายทั้งตำรวจ และฝ่ายปกครอง ที่สำคัญมีรูปนายอากร ที่ถ่ายทำบัตรประจำตัวประชาชน หรือทะเบียนราษฎร์ ขยายใหญ่ เพื่อยิงไม่ผิดตัว ตอนนี้ทราบว่าเรื่องจบไปแล้ว มีการเคลียร์กันโดยไม่ทราบเจตนา ว่าเห็นแก่อนาคตมัดคาน หรือ เพื่อเงิน นั่นหมายถึงแค่ครั้งนั้น ครั้งเดียว เท่านั้น




ปัจจุบันก็ยังมีปัญหากระทบกระทั่งเรื่องที่ดินหลังขนส่งอำเภอชัยบาดาล จำนวน 410 ไร่ต่อไป ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ มีการปักป้ายแสดงความเป็นเจ้าของทั้งสองฝ่าย กระทบกระทั่งกันประปราย ต่างฝ่ายต่างระมัดระวังตัว ปัจจุบันผู้ที่เข้ามาดูแลกิจการของไร่ไบคาน คือ พี่สาวและน้องสาวของหยอง ไบคาน นั่นเอง



นายอากรฯ ถูกยิงครั้งแรก เมื่อวันที่ 13 เม.ย.2533 ที่ตลาดนัดโคกระบือ ช.สีชังในปัจจุบัน กระสุนขนาด 11 ม.ม.เข้าลำตัว เฉียดหัวใจไปนิดเดียว หลังถูกยิง นายอากรฯ ชักปืนยิงขึ้นฟ้าสองนัด เกรงถูกซ้ำ จะยิงตามคนร้ายก็กลัวจะโดนประชาชน ได้รับการช่วยเหลือผ่าตัดรอดชีวิต ครั้งที่ 2 ในปี 2545 บุกยิงในปั้มน้ำมันพีที มีการต่อสู้กัน ไม่ตาย และครั้งที่ 3 ปีเดียวกัน ขณะที่ขับรถข้ามเกาะกลางถนนจากฝั่งปั้มมายัง บขส.



ครั้งที่นายอากรฯ ถูกยิงล่าสุด เข้าหน้าอกสีข้างทุกนัด แต่แข็งใจขับรถมาที่ตู้ยามชัยนารายณ์ แจ้งเหตุขอให้ตำรวจขับรถไปส่ง รพ.ชัยบาดาล ปรากฎว่าตำรวจ ดันขับรถเกียร์ออโตไม่เป็นอีก ทำท่าจะตายแน่ ทางตำรวจให้รถตำรวจนำรถพยาบาลส่งตัวไป รพ.ในสระบุรี ปรากฎว่าต้องย้ายโรงพยาบาลหนีอีก เพราะสระบุรี ก็คือถิ่นใหญ่ของไบคานเช่นกัน และ ยังไม่รู้ว่านายอากรฯ จะถูกถล่มครั้งที่ 4 อีกเมื่อใด และครั้งต่อไปจะรอดหรือไม่? นายอากรฯ ไม่เคยสวมใส่พระ เครื่องรางของขลังอะไร ยังพูดเล่นกันว่า หากใครถามว่าใส่พระดีอะไร ให้บอกว่า หลวงพ่องัก ยิงเข้า แต่ไม่ตาย ต้องรอดูครั้งที่ 4 กันต่อไป
หลังจากถูกคนร้ายยิง ก็มานั่งกินข้าวเหนียว ลาบเนื้อต่อไป ภาพรถคนร้ายทิ้งไว้หลังยิงแล้ว



22 กันยายน 2555
และแล้ว การยิงนายอากรฯ ครั้งที่ 4 ก็มาถึง แต่ก็พลาดอีกจนได้ กระสุนปืน 11 ม.ม.เข้าที่ประตูรถคนขับขณะขับรถ เฉียดฉิวไป คนร้ายหนีไปได้ ทิ้งรถไว้ให้ทำการสืบสวนกันต่อไป ครับ
ขณะที่ผมเข้ามาทำธุระที่ลำนารายณ์ พรรคพวกแจ้งว่า เฮียงัก ถูกดักยิงอีกแล้ว ไม่โดน ??




ลพบุรี 21 ก.ย.- เสี่ยใหญ่ลำนารายณ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.อบจ.ลพบุรี โดนคนร้ายสาดกระสุนเข้าประตูรถปิกอัพ หวิดดับ ก่อนคนร้ายขับรถหลบหนี แล้วนำรถจอดทิ้งไว้ห่างจุดเกดเหตุ 1 กม. หลังเกิดเหตุ นายอากรฯ แจ้งเข้าศูนย์วิทยุชัยบาดาล กระจายข่าวสกัดจับรถคนร้าย คนร้ายพบสายตรวจ จยย.จอดรถวิ่งหนีเข้าป่าข้างทาง ทำการปิดล้อม และจับกุมได้ 1 คน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 กันยายน ร.ต.อ.กำพล แก่นอินตา ร้อยเวร สภ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันหน้าปั้ม ปตท. หมู่ที่ 1 ตำบลชัยนารายณ์ อำเภอชัยบาดาล จึงรุดไปตรวจสอบ (จุดเกิดเหตุที่แท้จริงอยู่บนถนนสาย 21 ขาขึ้น บริเวณก่อนถึงสนามไดรฟ์กอล์ฟ คนร้ายตามมาจากทางเข้าศูนย์ฝึกยุทธวิธีกองทัพบก)
ที่เกิดเหตุ พบนายอากร นันทมานนท์ หรือเสี่ยงั๊ก อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139/1 หมู่ 1 ตำบลชัยนารายณ์ อำเภอชัยบาดาล จ.ลพบุรี ขับรถรถปิกอัพยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทตัน สีเทาบอร์น หมายเลขทะเบียน 860 กทม. ออกจากบ้านเพื่อจะไปในตลาด เมื่อขับมาถึงบริเวณหน้าปั้ม จุดเกิดเหตุ ได้มีคนร้าย 2 คน ใช้รถปิกอัพเป็นพาหนะ ประกบแล้วใช้อาวุธปืนสั้น ยิงเข้าใส่ทางประตูด้านขวา รถปิกอัพที่นายอากรขับ แต่กระสุนไม่โดนคนร้ายจึงขับรถหนีไป




ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยบาดาล ทำการยึดรถปิกอัพ ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน บห.4164 น.ฐ.สี บอร์นเงิน จอดทิ้งห่างจุดเกิดเหตุ 1 กม. ตำบลชัยนารายณ์ ได้ ตรวจค้นภายในรถพบภาพถ่ายของ นายอากร นันทมานนท์ ที่ปริ้นมาจากทะเบียนราษฎร โดยมีการลบฉากหลังแสดงส่วนสูงออกไป การปิดล้อม จับกุมคนร้ายได้ 1 คน พร้อมอาวุธปืน ส่วนคนขับหนีไปได้ รายละเอียดจะบันทึกอีก ครั้ง
ติดตามการดักยิงครั้งที่ 5 กันต่อไป ครับ




เรื่องแขกไบคาน สมัยก่อนดังมาและน่ากลัว เพราะระดับนายห้างใหญ่ แขกจากประเทศปากีสถาน สามารถเข้าถึงนายตำรวจใหญ่ รวมทั้งมหาดไทย มีคนเล่าให้ฟังว่า แขกไปคานไปนั่งเที่ยวดื่มกินที่ร้านโอเกะริมทางรถไฟ เขตเทศบาลลำนารายณ์ พอตกดึก ร้านเลิก ไม่พอใจ ให้ย้ายเครื่องดนตรี เอาไปเล่นต่อในฟาร์มไบคาน แขก(คนเที่ยว) หรือจะสู้แขกไปคาน นอกจากนี้ยังได้ปรากฎเป็นข่าว ถึงกรณีลูกชายของ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ ตายแบบปริศนาถูกกดน้ำตาย เพราะ พล.ต.ท.ชลอฯ เป็นนายตำรวจผู้หนึ่งที่เข้ามาทำการกวาดล้างกดดันแขก สมัยเป็นผู้กำกับจังหวัดลพบุรี และเชื่อว่าการตายของบุตรชาย พล.ต.ท.ชลอฯ มาจากการเข้าไปกดดันจับกุมกลุ่มไบคานนี่เอง สมัย พล.ต.ท.ชลอฯ เป็นใหญ่ นายสมชาย หรือหยอง ไบคาน ก็อยู่ไม่ได้ ต้องกลับไปปากีสถาน มีลาน้อย บริหารจัดการไร่แทน และเข้ามาอีกครั้ง สมัยปลัด มท.ที่เป็นมุสลิม ประกอบกับ หลังจาก พล.ต.ท.ชลอฯ หมดอำนาจ ต้องคดีเพชรซาอุฯ นายสมชายฯ จึงได้กลับมาไทยอีกครั้ง และก็ตายง่าย ๆ ที่ อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี ในประเทศไทยเรา นี่เอง สาเหตุ และคนร้ายไม่ทราบ ก็ปิดคดีไปด้วยความรวดเร็วเช่นกัน






ที่มา https://th-th.facebook.com/pages/ตำนาน-คดีดัง

เข้าร่วม: 16 Feb 2009
ตอบ: 728
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jul 08, 2015 4:11 pm
[RE: ย้อนรอย คดีดัง "ตำนานเจ้าพ่อไบคาน"]
คนไทย อ่านหนังสือ ไม่เกิน 3 บรรทัด
เข้าร่วม: 02 Oct 2007
ตอบ: 182
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jul 08, 2015 4:18 pm
[RE: ย้อนรอย คดีดัง "ตำนานเจ้าพ่อไบคาน"]
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆที่นำมาให้อ่าน ชอบครับ

ถ้าเปลี่ยนสีอักษรเป็นสีอื่นที่ไม่ใช่สีแดง จะอ่านง่ายมากครับ

ผมอ่านไปได้พารากราฟเดียว ต้องก็อปปี้ข้อความทั้งหมดไปลงเวิร์ด เพื่อให้มันอ่านง่ายขึ้น

แต่ยังไงก็ขอบคุณครับ
เข้าร่วม: 18 Oct 2010
ตอบ: 10288
ที่อยู่: ใต้สพานลอย
โพสเมื่อ: Wed Jul 08, 2015 4:21 pm
[RE: ย้อนรอย คดีดัง "ตำนานเจ้าพ่อไบคาน"]
อ่านจนจบ มึนไปเลย

เข้าร่วม: 04 Jul 2009
ตอบ: 14762
ที่อยู่: On The Top Of The World
โพสเมื่อ: Wed Jul 08, 2015 4:23 pm
[RE: ย้อนรอย คดีดัง "ตำนานเจ้าพ่อไบคาน"]
นามสกุลปาทาน เกี่ยวกะนักร้อง ปราโมทย์ ปาทานมั้ยอ่ะครับ

เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 14611
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jul 08, 2015 4:24 pm
[RE: ย้อนรอย คดีดัง "ตำนานเจ้าพ่อไบคาน"]
ผมชอบอ่านนะครับ ถึงจะเยอะแต่ก็อ่านจนจบ
สมัยผมเป็นเด็กคดีที่ดังที่สุดในยุคนั้นก็คือการยิงเจ้าพ่อใหญ่อย่าง แคล้ว ธนิกุล
จำได้อ่านหนังสืออาชญากรสักอย่าง นั่งอ่านจนจบ แล้วเขาลงภาพแบบไม่มีเซ็นเซอร์ทั้งนั้นเลือดนี่เห็นกันแบบจะๆ
เข้าร่วม: 27 Jan 2010
ตอบ: 33068
ที่อยู่: เบตง
โพสเมื่อ: Wed Jul 08, 2015 4:25 pm
[RE: ย้อนรอย คดีดัง "ตำนานเจ้าพ่อไบคาน"]
พวกหนังสือเกี่ยวกับเจ้าพ่อมือปืนใน7-11มีขายเยอะเลย !!!

เข้าร่วม: 03 Nov 2014
ตอบ: 8409
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jul 08, 2015 4:34 pm
[RE: ย้อนรอย คดีดัง "ตำนานเจ้าพ่อไบคาน"]
อ่านจบแล้ว งงเรื่องวันดี เลยไปหาข้อมูลเพิ่มเติมคับ

เธอเป็นนักแสดงที่กล้าเปิดเผยว่าเธอเคยผ่านการสมรสมาแล้ว ก่อนเข้าวงการ เธอได้สมรสกับสิน สินไชย พ่อค้าขายหมูในตลาดของจังหวัดตรัง[1]

ต่อมาช่วงปี พ.ศ. 2517 เธอมีความสัมพันธ์กับสมชาย พงษ์สว่าง (หยอง ไบคาน) ชาวไทยเชื้อสายปากีสถาน ที่ต่อมาได้ถูกสมชายลักพาตัวเธอไปแต่งงานที่ประเทศปากีสถาน ก่อนกลับมาประเทศไทย เธอถูกคุมตัวอยู่ในไร่ของสมชายมาโดยตลอด[4] ทั้งสองมีบุตรด้วยกันหนึ่งคน เป็นหญิงชื่อ โซเบดา พงษ์สว่าง[2] ขณะที่บุตรดังกล่าวมีอายุได้เพียงห้าเดือน วันดีก็เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2518 สภาพศพไม่มีบาดแผลใด พบเพียงเสื้อผ้าที่สวมใส่หลุดลุ่ย ซึ่งสมชายผู้สามีได้อ้างว่าวันดีเสียชีวิตเพราะกินยาเกินขนาด[4] และศพถูกฝังในมัสยิดมะฮ์บาคูล่านารี[3]

ส่วนนายสมชาย พงษ์สว่าง ก็มิได้สมรสใหม่กับใคร ภายหลังเขาถูกลอบยิงเสียชีวิต[5]

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B5_%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%87
เข้าร่วม: 14 Oct 2009
ตอบ: 1880
ที่อยู่: Old Trafford
โพสเมื่อ: Wed Jul 08, 2015 4:35 pm
[RE: ย้อนรอย คดีดัง "ตำนานเจ้าพ่อไบคาน"]
แสดงว่า พวกมีอิทธิพลเจ้าพ่อในยุคปัจจุบันก็คือสืบทอดสมบัติกันต่อๆกันมารึป่าวครับ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 14611
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jul 08, 2015 4:40 pm
[RE: ย้อนรอย คดีดัง "ตำนานเจ้าพ่อไบคาน"]
soccerrider พิมพ์ว่า:
แสดงว่า พวกมีอิทธิพลเจ้าพ่อในยุคปัจจุบันก็คือสืบทอดสมบัติกันต่อๆกันมารึป่าวครับ  


ส่วนใหญ่ก็สืบทอดกันมานะครับ มีไม่เยอะที่สร้างใหม่เพียว ๆ
เข้าร่วม: 28 Dec 2008
ตอบ: 243
ที่อยู่: Party Everywhere
โพสเมื่อ: Wed Jul 08, 2015 4:42 pm
[RE: ย้อนรอย คดีดัง "ตำนานเจ้าพ่อไบคาน"]
ชอบอ่านเรื่องราวแนวนี้นะ น่าติดตามดี มีอีกมั้ยครับ รอติดตาม
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 802
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jul 08, 2015 4:43 pm
[RE: ย้อนรอย คดีดัง "ตำนานเจ้าพ่อไบคาน"]
ยาวๆแบบนี้ อ่านเพลินดี แถมได้ความรู้เรื่องราวในอดีต ไม่มากก้อน้อย
เข้าร่วม: 14 Oct 2009
ตอบ: 1880
ที่อยู่: Old Trafford
โพสเมื่อ: Wed Jul 08, 2015 4:46 pm
[RE: ย้อนรอย คดีดัง "ตำนานเจ้าพ่อไบคาน"]
GUN&GUN พิมพ์ว่า:
ยาวๆแบบนี้ อ่านเพลินดี แถมได้ความรู้เรื่องราวในอดีต ไม่มากก้อน้อย  

ผมว่าอ่านไปอ่านมานี่ จะยิ่งรู้ความเน่าของวงการราชการไทย มากขึ้นอ่ะ
ถ้าเขาไม่ได้บิดเบือนข้อมูลนะ แสดงว่ามีท่อน้ำเลี้ยงกันมายาวนานเลย
ผู้คุมกฏมาย กับ ผู้มีอิทธิพล เอื้อกันมาตลอด
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1217
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jul 08, 2015 5:14 pm
[RE: ย้อนรอย คดีดัง "ตำนานเจ้าพ่อไบคาน"]
วันนี้นั่งอ่านจนจบ ถ้สมีอีกก็ลงมาเรื่อยๆนะครับจะรออ่าน
ปกติถ้าอ่านข่าวการซืีอตัวอะไรพวกนี้จะหาดูสำนักข่าวก่อน

เข้าร่วม: 15 Sep 2005
ตอบ: 1875
ที่อยู่: Ola~
โพสเมื่อ: Wed Jul 08, 2015 5:23 pm
[RE: ย้อนรอย คดีดัง "ตำนานเจ้าพ่อไบคาน"]
ดังสมัยนั้น
แผล่บๆ เรื้อนๆ ปั้มเรป วู้ !!!
เข้าร่วม: 09 Jan 2011
ตอบ: 2731
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jul 08, 2015 5:35 pm
[RE: ย้อนรอย คดีดัง "ตำนานเจ้าพ่อไบคาน"]
ขอบคุณครับ
สวัสดีครับ สมาชิกsoccersuckทุกท่านนน...

งานหลักคือทำให้เธอโกรธ งานโปรดคือทำให้เธอรัก

ManCheSteR UniteD
เข้าร่วม: 05 May 2014
ตอบ: 593
ที่อยู่: กรุงเทพ
โพสเมื่อ: Wed Jul 08, 2015 5:42 pm
[RE: ย้อนรอย คดีดัง "ตำนานเจ้าพ่อไบคาน"]
หามาอีกนะครับ ผมชื่นชอบมากเลย
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 802
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jul 08, 2015 5:46 pm
[RE: ย้อนรอย คดีดัง "ตำนานเจ้าพ่อไบคาน"]
soccerrider พิมพ์ว่า:
GUN&GUN พิมพ์ว่า:
ยาวๆแบบนี้ อ่านเพลินดี แถมได้ความรู้เรื่องราวในอดีต ไม่มากก้อน้อย  

ผมว่าอ่านไปอ่านมานี่ จะยิ่งรู้ความเน่าของวงการราชการไทย มากขึ้นอ่ะ
ถ้าเขาไม่ได้บิดเบือนข้อมูลนะ แสดงว่ามีท่อน้ำเลี้ยงกันมายาวนานเลย
ผู้คุมกฏมาย กับ ผู้มีอิทธิพล เอื้อกันมาตลอด  


ที่สำคัญคนไทยเรากลับให้การยอมรับและนับถือคนเหล่านั้น มันชั่งน่าขำนัก 555
เข้าร่วม: 14 Oct 2009
ตอบ: 1880
ที่อยู่: Old Trafford
โพสเมื่อ: Wed Jul 08, 2015 5:49 pm
[RE: ย้อนรอย คดีดัง "ตำนานเจ้าพ่อไบคาน"]
GUN&GUN พิมพ์ว่า:
soccerrider พิมพ์ว่า:
GUN&GUN พิมพ์ว่า:
ยาวๆแบบนี้ อ่านเพลินดี แถมได้ความรู้เรื่องราวในอดีต ไม่มากก้อน้อย  

ผมว่าอ่านไปอ่านมานี่ จะยิ่งรู้ความเน่าของวงการราชการไทย มากขึ้นอ่ะ
ถ้าเขาไม่ได้บิดเบือนข้อมูลนะ แสดงว่ามีท่อน้ำเลี้ยงกันมายาวนานเลย
ผู้คุมกฏมาย กับ ผู้มีอิทธิพล เอื้อกันมาตลอด  


ที่สำคัญคนไทยเรากลับให้การยอมรับและนับถือคนเหล่านั้น มันชั่งน่าขำนัก 555  

ใช่ครับ พูดมากเดี๋ยวจะเข้าตัว เอาเป็นว่าอ่านพวกนี้แล้วได้มุมมองอะไรเพิ่มขึ้น
เข้าร่วม: 02 Nov 2005
ตอบ: 1236
ที่อยู่: ถามซ่อกแซ่ก!!
โพสเมื่อ: Wed Jul 08, 2015 7:55 pm
[RE: ย้อนรอย คดีดัง "ตำนานเจ้าพ่อไบคาน"]
อ่านแล้วเห็นภาพเลย ผมรับราชการอยู่ลำรายมาเกือบ8ปี พูดถึงสถานที่ไหนจำได้เกือบหมด
เข้าร่วม: 16 Jan 2007
ตอบ: 906
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jul 08, 2015 9:00 pm
[RE: ย้อนรอย คดีดัง "ตำนานเจ้าพ่อไบคาน"]
ชาเขียว พิมพ์ว่า:
อ่านจบแล้ว งงเรื่องวันดี เลยไปหาข้อมูลเพิ่มเติมคับ

เธอเป็นนักแสดงที่กล้าเปิดเผยว่าเธอเคยผ่านการสมรสมาแล้ว ก่อนเข้าวงการ เธอได้สมรสกับสิน สินไชย พ่อค้าขายหมูในตลาดของจังหวัดตรัง[1]

ต่อมาช่วงปี พ.ศ. 2517 เธอมีความสัมพันธ์กับสมชาย พงษ์สว่าง (หยอง ไบคาน) ชาวไทยเชื้อสายปากีสถาน ที่ต่อมาได้ถูกสมชายลักพาตัวเธอไปแต่งงานที่ประเทศปากีสถาน ก่อนกลับมาประเทศไทย เธอถูกคุมตัวอยู่ในไร่ของสมชายมาโดยตลอด[4] ทั้งสองมีบุตรด้วยกันหนึ่งคน เป็นหญิงชื่อ โซเบดา พงษ์สว่าง[2] ขณะที่บุตรดังกล่าวมีอายุได้เพียงห้าเดือน วันดีก็เสียชีวิตอย่างเป็นปริศนาเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2518 สภาพศพไม่มีบาดแผลใด พบเพียงเสื้อผ้าที่สวมใส่หลุดลุ่ย ซึ่งสมชายผู้สามีได้อ้างว่าวันดีเสียชีวิตเพราะกินยาเกินขนาด[4] และศพถูกฝังในมัสยิดมะฮ์บาคูล่านารี[3]

ส่วนนายสมชาย พงษ์สว่าง ก็มิได้สมรสใหม่กับใคร ภายหลังเขาถูกลอบยิงเสียชีวิต[5]

https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B5_%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%87
 


อ่านไปก็งง อ่าว จั่วหัว วันดี ศรีตรัง
แต่เนื้อเรื่อง ไม่มีเลย