[มู้ยาวๆ] [Ivanovic - Big Ass to Big Win]
เชลซีปิดจ็อบได้ตามที่มูรินโญ่เป้าตั้ง เอ้ย! ตั้งเป้า เรียบร้อยแล้วนะครับ กับการเก็บ 3 คะแนนที่สุดแสนจะยากเย็นแสนเข็ญออกมาจากสนามที่มูรินโญ่เกลียดที่สุดอย่าง "วิลล่า พาร์ค" ได้สำเร็จ
โดยกว่าจะเอาตัวรอดออกมา ก็ทำเอาแฟนๆ สิงห์บลูส์ทั่วโลกนั่งกัดเล็บ เกร็งแก้มก้นกันตลอดช่วงเวลาที่ทดออกไปอย่างยาวนาน 6 นาที (ซึ่งในความรู้สึกไม่ต่างอะไรกับ 60 นาที ฮ่า)
ที่บอกว่าเป็นสนามที่มูรินโญ่เกลียด ก็เพราะสนามแห่งนี้นี่แหละครับ ที่เป็นสังเวียนสุดท้ายในพรีเมียร์ลีกที่มูรินโญ่ได้รับโอกาสคุมทีมในภาคแรก ก่อนจะโดนเจ้าบ้านสังหารโหดไป 2-0 พร้อมกับทำให้ฟางเส้นสุดท้ายของเสี่ยหมีกับน้ามูขาดสะบั้นลง เมื่อเกือบ 10 ปีก่อน
แต่รอบนี้เชลซีเก็บ 3 คะแนน++ (พร้อมกับหนีซิตี้ที่ทำได้แค่เสมอกับฮัลล์ไปเป็น 7 คะแนน) โดยฮีโร่ของทีมในเกมนี้ไม่ใช่คนคุ้นแคยอย่าง "ดีเอโก้ คอสต้า" ที่ติดโทษแบน หรือ "เชส ฟราเบกราส" ที่มีอาการบาดเจ็บนะครับ แต่เป็นนักเตะเรียบๆ ไม่หวือหวาตัวตันๆ ตูดแน่นๆ ที่ชื่ออิวาโนวิชต่างหากครับ
เมื่อพูดถึงผู้ชายหมายเลข 2 ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ คนนี้ทีไร ผมขอสารภาพเลยครับว่าสิ่งแรกที่ผมนึกถึงคือ "ตูด"
เปล่าครับ ผมไม่ได้เป็นหนุ่มจิ้นหรืออะไรพวกนั้น แต่ทุกครั้งทีปีกขวาตัวรับ? รายนี้ลงเล่นให้สิงห์บลูส์ นอกจากฝีเท้าที่ครบเครื่องต้มยำแล้ว ตูดใหญ่ๆ ของ "บรานิสลาฟ อิวาโนวิช" นี่แหละครับ ที่สะดุดทุกสายตาจริงๆ (แถมเสื้อยังไม่เคยหลุดออกนอกกางเกงอีกด้วย)
หนุ่มใหญ่วัย 30 จากดินแดนที่แยกตัวออกมาจากยูโกสลาเวียรายนี้ สถาปนาตัวเองเป็น "Match Winner" ให้กับทีมจ่าฝูงอีกแล้ว หลังจากที่กลางสัปดาห์ก่อนพึ่งจะบรรจงใช้กระหม่อมบางๆ ขวิดยอดทีมจากเมอร์ซี่ย์ไซด์ ตกรอบมิคกี้ เม้าส์คัพไปหมาดๆ เกมเมื่อคืนก็โผล่ขึ้นมายิงด้วยอีซ้ายดับสิงห์ผงาดไปแบบผีจับยัดอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง
ที่บอกว่าอีกครั้ง หลายๆ ครั้ง ก็เพราะว่า "แอสตัน วิลล่า" ทีมนี้นี่แหละครับ เป็นทีมที่โดนพี่ตูดแน่นของเรายัดเยียดความเป็นชายให้บ่อยที่สุด ชนิดที่แฟนๆ สิงห์ผงาดคงขยาดกับพี่ตูดแน่นคนนี้ไปอีกหลายปีเลย
ไม่เชื่อก็จะขอหมุนเข็มนาฬิกากลับไปให้ดูเลยละกันนะครับ ไล่ตั้งแต่ในปี 2012 ปีนั้นพี่ตูดแน่นของเราทะลึ่งบ้องทำหน้าที่เกินกองหลัง จัดการยิงวิลล่าคนเดียว 2 ประตู ในเกมที่บี้กันสุดมันส์ ก่อนจบลงด้วยชัยชนะของเชลซี 4-2 ที่วิลล่า ปาร์ค (ตอร์เรสยิงได้ด้วยในเกมนั้น)
ถัดมาอีก 2 ปีทำงามหน้าอีกรอบ กับการเป็นกุ้งสุทธิราช "ขอเป็นพระเอกในหัวใจมู" ด้วยลูกยิงนาทีสุดท้ายดับวิลล่าแดดิ้นที่เดอะ บริดจ์ ต้อนรับการกลับมาคุมทีมอีกครั้งของเดอะ แฮบปี้ วัน
และล่าสุด เมื่อคืนนี้เอง สดๆ ร้อนๆ บรรจงยิงด้วยอีซ้ายดับสิงห์ผงาดอีกคำรบ พร้อมกับถีบตัวเองหนีจากผู้ไล่ล่าอย่างซิตี้ไปเป็น 7 คะแนน ในขณะที่เหลือการแข่งขันอีก 14 นัดเท่านั้น ซึ่งประตูนี้สามารถส่งประกวด Goal of the week ได้สบายๆ ทั้งน้ำหนัก ทิศทาง ลงตัวสุดๆ
ก็ไม่รู้ว่าไปโกรธแค้นอะไรสิงห์ผงาดมาแต่ชาติปางไหน ถึงได้เลือกยิงแต่วิลล่า โดย 20 ประตูที่ยิงให้เชลซีได้ตลอด 7 ปี เป็นการยิงวิลล่าถึง 4 เม็ด หรือ 20% ของทั้งหมดที่ทำได้เลยทีเดียว
นับนิ้วดูแบบไม่ต้องเปิดสถิติอะไรย้อนหลัง นี่เป็นลูกที่ 10 แล้วล่ะครับที่อิวาโนวิชสวมบทพระเอก ยิงประตูตัดสินเกมให้กับเชลซี หรือครึ่งนึงจากทั้งหมดที่ทำได้ อิวาโนวิชยิงประตูในเกมใหญ่และเป็นประตูชัยให้กับเชลซีทั้งหมด
ไล่ตั้งแต่เกมที่ทำให้ชื่อของอิวาโนวิชฝังเข้าไปในซีลีบัมของแฟนบอล ด้วยลูกโหม่ง 2 ประตูเน้นๆ ที่แอนฟิลด์ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองฯ ในปี 2009 ก่อนจะพาทีมเข้ารอบด้วยสกอร์รวม 7-5
หรือจะเป็นประตูผีจับยัดที่อัดนาโปลีในปี 2012 ช่วยให้เชลซีพลิกนรกเข้ารอบในช่วงเอ็กซ์ตร้า ไทม์ หลังจากเกมแรกบุกไปแพ้มา 1-3 เป็นปฐมบทแรกของดราม่าในฟุตบอลยุโรปปีนั้น ก่อนจะจบลงด้วยการเป็นแชมป์ในบั้นปลาย
ปีถัดมายังไม่หยุดเป็นคนสำคัญครับ สอดขึ้นมาโหม่งในนาทีสุดท้ายเกมดวลกับเบนฟิก้า พาเชลซีเป็นแชมป์ยุโรปถ้วยเล็กในปี 2013 โดยทำให้เชลซีเป็นทีมแรกที่คว้าถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับถ้วยยูฟ่า ยูโรปา ลีก ติดต่อกันได้สำเร็จ
ถัดมาอีกปี พี่ตูดแน่นก็สอดขึ้นมาอัดด้วยอีซ้ายเป็นประตูโทนที่ยัดเยียดความปราชัยในรังเอติฮัด ให้กับซิตี้เป็นนัดแรก ท่ามกลางปัญหากองหน้าปืนฝืดทั้งแผงของเชลซี แถมล่าสุดก็ลูกโหม่งในช่วงเอ็กซ์ตร้า ไทม์เขี่ยยอดทีมจากเมอร์ซี่ย์ ไซด์ตกรอบมิคกี้ เม้าส์คัพไปแบบเจ็บแสบ รวมไปถึงประตูที่ยิงดับวิลล่าตามที่สาธยายไปข้างต้นทั้งหมด ก็ล้วนเป็นประตูชัยตัดสินเกมทั้งสิ้น
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ดาวเตะตัวจี๊ดของลิเวอร์พูลเคยกล่าวถึงแบ็คขวาตูดบึ้มของเชลซีเอาไว้ว่า "ผมกลัวนะเวลาต้องดวลกับเขา เขาเป็นผู้เล่นที่ไม่มีลูกตุกติก ไม่มีการเตะข่ม แต่เขาเป็นรถถัง! รถถังคันใหญ่ แข็งแกร่ง แน่น เขามันรถถังในสนามจริงๆ"
ถึงจะเป็นกองหลัง แต่บราน่า (ชื่อเล่นของพี่ตูดแน่น) ก็ยังเคยว้ารางวัล "Serbian Player of the year" มาครองถึง 2 สมัยในปี 2012 และ 2013 และพกสถิติเป็นกองหลังที่ทำประตูให้กับเชลซีได้ในทุกซีซั่นที่ลงสนามมาติดต่อกัน 7 ปีเลยทีเดียว
"ผมคิดว่าประตูที่โหม่งลิเวอร์พูลที่แอนฟิลด์ ทั้ง 2 ลูกนั้น คือจุดเปลี่ยนเส้นทางการค้าแข้งของผมที่นี่เลย มันช่วยสร้างความมั่นใจและช่วยให้ทุกคนจดจำชื่อของผมได้ ส่วนตูดที่แน่นๆ คนมาจดจำมันหลังจากนั้นครับ" บราน่ากล่าวไว้กับเว็บไซต์ของสโมสรเมื่อช่วงต้นฤดูกาล (ประโยคหลังเติมเองครับ ฮา)
ชัยชนะที่มีต่อวิลล่า ทำให้มูรินโญ่สามารถเตรียมจัดทีมเมื่อถึงเกมยุโรปรอบน็อคเอ้าท์ได้ง่ายขึ้นเยอะ และจากเกมเมื่อคืน แฟนเชลซียังได้รับการต้อนรับอดีตผู้เล่นที่หวือหวาและสร้างเสียงครางฮือได้ตลอดเวลาที่อยู่ในสนามอย่าง "โจ โคล" ด้วยนะครับ (ส่วนตัวลืมไปแล้วว่ายังเล่นอยู่ในอังกฤษด้วยซ้ำ)
ชีวิตของอดีตดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษนับว่าเป็นอะไรที่แฟนๆ สิงห์บลูส์เองก็ไม่ค่อยอยากจะเชื่อเหมือนกัน นับตั้งตั้งแต่วันที่ออกจากเดอะ บริดจ์ไป มีเพียงที่ลีลล์เท่านั้น ที่พ่อมดน้อยคนนี้สามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า "เป็นคนสำคัญ" นอกนั้นไม่ว่าจะเป็นที่ลิเวอร์พูล, เวสต์แฮม หรือแม้แต่ที่วิลล่า ดูเหมือนกราฟชีวิตของโจอี้ โคล จะค่อยๆ หล่นหายไปจากการรับรู้ของแฟนบอลมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่ครั้งนึงเคยถูกคาดหวังว่าคือ "อัจฉริยะลูกหนัง คนล่าสุดต่อจากแกสคอยน์" แท้ๆ
ขณะที่อีกฟากของสนาม จากนักเตะธรรมดาๆ ที่ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไรมากมาย แต่ยืนหยัดปักหลักในทีมที่มีสตาร์จากทุกมุมโลกหมุนเวียนเข้าสู่ทีมตลอดเวลาอย่างเชลซีได้เป็นปีที่ 7 ย่อมบ่งบอกคุณค่าอะไรบางอย่างในตัวของผู้ชายหมายเลข 2 คนนี้ได้เป็นอย่างดี
ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดัง
ไม่ใช่ซุปเปอร์สตาร์ที่แสงสปอตไลท์พากันรุมฉายแสง (คนหรือมะเร็ง รุมมาฉายแสง 55)
ไม่ได้เป็นนักเตะแข้งพันล้าน ที่แฟนบอลสกรีนเสื้อใส่กันทุกมุมสนาม
แต่ความเรียบง่าย ทำงานหนัก ทำตามหน้าที่ตัวเองนี่แหละครับ
กลับทำให้คำว่า "เรียบง่าย" กลายเป็น "คุณภาพสูง" ไปในทันที
เหมือนที่ฝรั่งเค้าว่ากันว่า "Simply is the Best" ใช่มั้ยครับ
ข้อมูลประกอบการเขียน
เครดิตคลิปประกอบ
เครดิตรูปภาพประกอบ
ขอบคุณบทความดีๆจากคุณ เทอร์รี่คุง [
http://pantip.com/topic/33212107]