สุดยอดดาวร้ายในประวัติศาสตร์โลก ตอนที่ 1 : กษัตริย์อัสเชอร์บานิปาล
เรื่องมีอยู่ว่า ผมชื่นชอบในประวัติศาสตร์ และยิ่งเป็นประวัติศาสตร์ของบุคคลที่ว่าโหดๆ เถื่อนๆ ดิบยิ่งชอบ (มีใครชอบเหมือนผมบ้าง)เลยอยากนำเรื่องราวต่างๆของบุคคลต่างๆในประวัติศาสตร์ที่ว่าโหดๆมาให้เพื่อนๆได้อ่านกันครับ
กษัตริย์อัสเชอร์บานิปาล
คนแรกที่ผมนำมาผมเชื่อว่าหลายๆคนคงไม่รู้จัก คนผู้นี้คือ กษัตริย์อัสเชอร์บานิปาล มีชีวิตอยู่ในช่วง 668-627 ปีก่อนคริสต์ราช เขาคือผู้ปกครองอัสซีเรีย หรือ จักรวรรดิอัสซีเรีย ผมขอท้าวความเมืองนี้ให้อ่านก่อนละกัน
อัสซีเรีย หรือ จักรวรรดิอัสซีเรีย เป็นนอาณาจักรที่มีศูนย์กลางอยู่ที่แม่น้ำไทกริสในเมโสโปเตเมีย (อิรัก) ที่มามีอำนาจปกครองจักรวรรดิเป็นช่วงๆ หลายครั้งในประวัติศาสตร์ “อัสซีเรีย” เป็นชื่อที่ตั้งตามชื่อเมืองหลวงเดิม “อัสเซอร์” (Assur) นอกจากนั้นคำว่า “อัสซีเรีย” ก็ยังหมายถึงภูมิภาคทางภูมิศาสตร์หรือดินแดนที่เป็นศูนย์กลางของจักรวรรดิด้วย
ระหว่างสมัยอัสซีเรียเก่าระหว่างศตวรรษที่ 20 ถึง 15 ก่อนคริสต์ศักราชอัสเซอร์มีอำนาจในบริเวณส่วนใหญ่ของเมโสโปเตเมียเหนือ ในยุคกลางของอัสซีเรียระหว่างศตวรรษที่ 15 ถึง 10 ก่อนคริสต์ศักราชอำนาจของอัสซีเรียก็เสื่อมโทรมลง แต่ต่อมาก็สามารถกู้ดินแดนที่เสียไปคืนได้ในชัยชนะที่ได้รับหลายครั้ง เมื่อมาถึงสมัยจักรวรรดิอัสซีเรียในยุคเหล็กตอนต้นระหว่างปี 911 ถึง 612 ก่อนคริสต์ศักราชอัสซีเรียก็ขยายอำนาจไกลออกไป และภายใต้การปกครองของอัสเชอร์บานิปาล (Ashurbanipal) (ปกครอง 668 – 627 ก่อนคริสต์ศักราช) อัสซีเรียก็ปกครอง Fertile Crescent ทั้งหมด รวมทั้งอียิปต์จนกระทั่งมาพ่ายแพ้เมื่อจักรวรรดิบาบิโลเนียใหม่ และเปอร์เชียขยายอำนาจ และในที่สุดก็มาล่มสลายเมื่อราชวงศ์ชาลเดียของจักรวรรดิบาบิโลเนียใหม่ปล้นทำลายเมืองนิเนเวห์ในปี 612
มาเข้าเรื่องของกษัตริย์อัสเชอร์บานิปาลต่อนะครับ ก่อนคริสต์ศักราชชาวอัสซีเรียภายใต้การปกครองของกษัตริย์อัสเชอร์บานิปาลมีระบบการรบที่น่ากลัวที่สุดในดินแดนเมโสเปเตเมียในเวลานั้น คือการใช้กองทัพธนูเหล็กเป็นทัพหน้าตามด้วยกองพันทหารม้าและรถศึก นอกจากนี้พวกเขายังมีอาวุธที่น่าอัศจรรย์ใจนั้นคือเหล็ก(ขณะชาติอื่นยังใช้อาวุธทองแดงและสำริด) ในการปราบปรามศัตรูนั้นอัสซีเรียทำอย่างเด็ดขาดและค่อนข้างโหดร้ายทารุณเฉียบขาดด้วยการเผาที่อยู่อาศัยและฆ่าหรือกวาดต้อนเชลย เวลาจะจัดการก็จะตัดแขนตัดขาศัตรูหรือถลกหนังมาติดกับกำแพงเมืองเพื่อข่มขวัญศัตรู(อะไรจะขนาดนั้น)
ความน่ากลัวของกษัตริย์อัสเชอร์บานิปาลผู้นี้ยังไม่หมด กษัตริย์ผู้นี้ไม่เคยปล่อยให้ศัตรูของเขาตายดี เขาชอบที่จะตัดแขนขาของศัตรูโยนให้สุนัขและหมูกิน จากนั้นก็เอาส่วนที่เหลือโยนให้นกและปลากิน เขาคิดว่าการที่ให้เนื้อแก่นกเหมือนให้อาหารสัตว์บนสวรรค์และปลาเจ้าแห่งสมุทร!!!!! แค่นั้นไม่พอ เนื่องจากมีศพที่ถูกฆ่าจำนวนมากเขาเลยนำกลับเมืองบาบิโลนด้วย นำมากองๆไว้เพื่อให้อาหารสัตว์ในวันอื่นๆ
กษัตริย์ผู้นี้ยังโรคจิตไม่พอไม่รู้ว่าแค้นศัตรูอะไรนักหนาถึงกลับบุกเข้าไปในสุสานบรรดากษัตริย์ของศัตรู เขาได้กล่าวไว้ว่า.. "ข้าพังเข้าไปในสุสานของบรรดากษัตริย์อะลาไมต์ที่ตายไปแล้ว และทำให้แสงอาทิตย์ส่องเข้าไปถึง ข้าขนกระดูกของพวกมันกลับไปที่อัสซีเรีย ข้าห้ามนักบวชทำพิธีให้กับพวกมัน เพื่อให้วิญญานพวกมันทุกข์ทรมาน" (Here จิงๆ)

รูปปั้นกษัตริย์อัสเชอร์บานิปาลที่ซานฟรานซิสโกในอเมริกา