ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 2976
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Oct 27, 2014 19:59
Vincent Van Gogh ผู้ใช้เลือดจากส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจเขียนภาพ
บังเอิญได้อ่าน เรื่องเล่าของ อาจารย์ พิชัย กรรณกุลสุนทร ได้เล่าถึงชีวิตของ ศิลปิน Vincent Van Gogh อ่านสนุกเลยเอามาแบ่งปันกันอ่าน ขออนุญาติใส่รูปประกอบ พร้อมส่วนเพิ่มเติมเองอีกเล็กน้อย เพื่อเพิ่มอรรถรส

Spoil
ประวัติย่อ อาจารย์ พิชัย กรรณกุลสุนทร
การศึกษา
มัธยมต้นมงฟอร์ตวิทยาลัย
ศศ.บ/ศศม.(ภาพพิมพ์) ม.ศิลปากร

อาชีพ
รับราชการเป็นอาจารย์สอนสาขาวิชาศิลปกรรม คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่

ประสบการณ์ทำงาน

-คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ (สองสมัย)

-ประธานมูลนิธิศูนย์วิปัสสนาเชียงใหม่

-กรรมการสภามหาวิทยาลัย ฝ่ายผู้แทนคณาจารย์ (สองสมัย)

-กรรมการสภามหาวิทยาลัย ฝ่ายผู้แทนผู้บริหาร

-เหรียญทอง เกียรตินิยมอับดับ ๑ (จิตรกรรมไทยประเพณี) รางวัลจิตรกรรมบัวหลวง ปี๒๕๒๙

-เหรียญเงิน ภาพพิมพ์ งานแสดงศิลปกรรมธนาคารศรีนคร

-เหรียญทองแดง ภาพพิมพ์ งานแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ ๓ ครั้ง

-สอนและแต่งตำราอภิธรรมเพื่อใช้ในการปฏิบัติธรรม
 




"อาจกล่าวได้ว่า Van Gogh ไม่ได้ใช้สีเขียนภาพ
แต่ใช้เลือดจากส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจเขียน"



เขาเป็นศิลปินที่นักวิจารณ์ศิลปะจัดให้อยู่ในกลุ่ม Post-Impressionist คือเป็นกลุ่มที่นิยมเขียนภาพด้วยการใช้สีสดใสรุนแรงและเริ่มถอยห่างจากความเหมือนจริงในธรรมชาติออกมา
คำว่า Impression หมายถึงประทับใจ
แต่ผมชอบแปลเพิ่มว่าเป็น “ความประทับใจฉับพลัน”

เพราะเมื่อเวลาศิลปินกลุ่มนี้ โดยเฉพาะ Van Gogh พบเห็นสิ่งใดที่นำมาเป็นวัตถุดิบในการวาดภาพแล้ว เขาจะทุ่มเทเขียนมันอย่างฉับพลัน รวดเร็วและไม่ยอมหยุดพักจนกว่าภาพเขียนจะเสร็จ

ศิลปินกลุ่มนี้จึงมือไว เขียนภาพไว ซึ่งวิธีการเขียนภาพไวของพวกเขานี้ สร้างลักษณะพิเศษเฉพาะกลุ่มหรือเฉพาะตัวได้หลายอย่าง เช่น

หนึ่ง ศิลปินกลุ่มนี้ เชื่อตามทฤษฏีของท่านเซอร์ไอแซค นิวตัน ที่ว่าด้วยเรื่องสีในแสง คงจำกันได้ตอนเรียนชั้นมัธยมที่มีการทดลองเอาแท่งแก้วปริซึมไปขวางลำแสงอาทิตย์ แสงที่ผ่านแท่งแก้วจะสะท้อนสีออกมาถึง 7 สี ด้วยกันเป็นการพิสูจน์ว่าในอากาศที่เขามองไม่เห็นว่ามีสีอะไรเลย กลับมีสีซ่อนอยู่ถึง 7 สี ด้วยกัน

ศิลปินกลุ่มนี้จึงเชื่อว่า ในแสงพระอาทิตย์จึงเป็นบ่อเกิดของสีสันต่างๆ ยิ่งแสงจัดจ้ามาก สียิ่งรุนแรงมากขึ้น ดังนั้น ศิลปินกลุ่มนี้จึงมักนิยมไปเขียนภาพในที่ที่มีแสงแดดจัดเสมอ

สอง เมื่อเชื่อเช่นนี้แล้ว ศิลปินมีความจำเป็นต้องเขียนภาพให้เสร็จอย่างรวดเร็ว เพราะเมื่อแสงเปลี่ยน สีจะเปลี่ยนตามไปด้วย ดังนั้นการเขียนภาพแบบฉับพลันจึงเกิดขึ้น ศิลปินจะไม่มีเวลามากที่จะเขียนภาพอย่างนุ่มนวล คอยใช้พู่กันเกลี่ยสีให้กลมกลืนกันเหมือนอย่างยุค Realistic ต่อไปอีกแล้ว

สาม เมื่อศิลปินต้องเขียนภาพไวเช่นนี้ ศิลปินจึงต้องเขียนภาพโดยใช้สีหนาเตอะ โป๊ะมันเข้าไป บางทีไม่ทันใจ ต้องเอาด้ามพู่กันช่วย หนักเข้าใช้เกรียงผสมสีมาเขียนภาพก็มี เมื่อเป็นเช่นนี้ผลลัพธ์ที่ได้จะเกิดเอกลักษณ์ขึ้นโดยธรรมชาติ คือฝีแปรงหรือทีพู่กัน ที่แสดงให้เห็นร่องรอยและทิศทางของการเขียนภาพของศิลปิน

ในบรรดารอยฝีแปรงของศิลปินกลุ่มนี้ รอยฝีแปรงของ Van Gogh นี่แหละที่หนักข้อรุนแรงที่สุด เพราะแค่มองรอยฝีแปรงในภาพของเขาแล้ว สามารถนำเราให้พุ่งเข้าสู่บึ้งลึกของหัวใจเขาได้เลยทีเดียว




ตอนนี้คงจำที่ผมบอกได้ว่า Van Gogh เป็นศิลปินที่มีอะไรๆขัดแย้งกันอยู่สองด้านเสมอ อาทิเช่น แม้ว่าเขาจะเขียนภาพด้วยสีสันสดใสอย่างไรก็ตาม จิตใจของเขามิได้สุขสดใสไปด้วย

ในใจของเขาที่ลากพู่กันให้วิ่งไปนั้น มันถูกลากให้ตวัด วนไปมาด้วยจิตใจที่ที่พุ่งพล่าน ด้วยความผิดหวังในชีวิต ด้วยความขมขื่น เจ็บปวด จากประสบการณ์อยุติธรรมในชีวิต

อาจกล่าวได้ว่า Van Gogh ไม่ได้ใช้สีเขียนภาพ แต่ใช้เลือดจากส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจเขียน

หลายคนประณามว่าเขาเป็นบ้า! ใช่เขาบ้าหลายอย่าง บ้าเขียนรูป บ้าทำงาน บ้าหวังว่าสักวันสิ่งที่เขาทำจะประสบความสำเร็จ เพราะเขารู้ว่าการเขียนภาพเป็นสิ่งสุดท้ายในชีวิตที่เขาจะทำได้

ทุกเช้าผู้คนทีเมือง อาร์เล ในหมู่บ้านชนบทเล็กๆในฝรั่งเศสตอนใต้ ต้องเห็นเขาเดินเกือบเหมือนวิ่งหอบขาหยั่ง เฟรมผ้าใบสองสามเฟรมและกล่องใส่สี ดูรุงรังเหมือนไอ้บ้าหอบฟางเพื่อออกไปเขียนภาพทิวทัศน์ ก่อนที่แสงแดดยามเช้าจะหายไป

บางครั้งเขาแวะยืนดูต้นไม้อย่างหมกมุ่น พินิจ เนิ่นนาน อย่างพิศวงเพื่อดูว่ามันตั้งลำตัวตั้งตรงได้อย่างไร และรากของมันหยั่งลงดินลึกขนาดไหน เพราะเขาเคยเขียนจดหมายไปถามน้องชายที่รัก ธีโอ ว่า มันช่างน่าขันและน่าประหลาดใจที่สุด ที่เขาไม่สามารถเขียนต้นไม้ให้ยืนอยู่บนพื้นดินได้ เขาโอดครวญว่า ถึงแม้เขาจะโป๊ะสีลงไปที่รากมากเท่าใดก็ตาม ต้นไม้ที่เขาเขียนยังแทบจะล้มครืนเพียงลมเบาๆพัดผ่าน

ครั้งหนึ่งที่เขายืนเหม่อมองความเป็นไปของธรรมชาติของต้นไม้อยู่ ชาวนาคนหนึ่งเดินผ่านมา หยุดมอง แล้วเอ่ยว่า เขาเป็นบ้าไปแล้วที่มายืนจ้องต้นไม้อยู่ได้เป็นวันวันอย่างนี้โดยไม่ทำอะไรเลย


Van Gogh หันไปถามด้วยกิริยาสุภาพว่า

“คุณล่ะทำงานอะไร”

ชาวนาตอบว่า “ฉันเป็นชาวนา”

Van Gogh เอ่ย “ทำไมคุณปลูกต้นไม้หรือถอนต้นไม้...คุณบ้าหรือเปล่า?

ชาวนาอ้าปากค้าง จ้องหน้า Van Gogh เหมือนเห็นคนบ้ามายืนเบื้องหน้า แล้วตอบว่า

“เปล่า มันเป็นงานของผม”

Van Gogh ยักไหล่แล้วตอบว่า

“ครับ ผมมองต้นไม้ ผมก็กำลังทำงานของผม”





Van Gogh เป็นคนขี้อาย ไม่กล้าแสดงออกและสุภาพมาก โดยเฉพาะกับสุภาพสตรี เมื่อโกแกงมาเยี่ยมตามคำเชิญ ก็บ่นว่า Van Gogh ทำงานหนักไป ควรไปพักผ่อนเสียบ้าง จึงพาเขาไปเที่ยวบาร์เล็กๆแห่งหนึ่ง มีผู้หญิงบาร์คนหนึ่งมานั่งคุยกับ Van Gogh แล้วชมว่าหูเขาสวยบ่อยๆ เธอคงล้อเขาเล่นเพราะ Van Gogh หน้าตาไม่ดีและหูเขาดูตลก มันเล็กหยิกน่าเกลียดเหมือนหูนักมวยที่ถูกชกบ่อยๆ

Van Gogh ไม่เคยใช้ชีวิตแบบนี้บ่อย เขาจึงเป็นคนซื่อบื้อเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้หญิง เมื่อถูกชวนให้ไปเที่ยวบาร์อีก เขาจึงปฏิเสธว่าเขาไม่มีของกำนัลให้ผู้หญิงและไม่รู้ว่าผู้หญิงชอบอะไร เมื่อถูกขยั้นขยอให้ไปในภายหลังเขาก็ไป


ไปพร้อมกับของกำนัล คือ หูข้างที่ผู้หญิงบาร์คนนั้นชมว่าสวยไปให้!!!!!

แทนที่จะได้รับคำขอบคุณ กลับถูกกล่าวหาว่าบ้า
Van Gogh แกมันบ้าไปแล้ว!


หูที่เหลือข้างเดียวของเขาอื้ออึงด้วยคำประณามเหล่านี้ จนต้องเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลโรคจิต แม้แต่ในที่นี้เขายังเขียนภาพออกมาได้หลายภาพ ภาพหนึ่งเป็นภาพเหมือนของหมอที่รักษาเขา หลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ วันที่ 27 กรกฏาคม ปี ค.ศ. 1890 เขาก็เลือกทางออกของชีวิตด้วยการยิงตัวตายและเสียชีวิตอีกสองวันต่อมา รวมสิริอายุได้เพียง 37 ปีเท่านั้น

อัจฉริยะ อายุสั้นเสมอ!

“Art Longa Vita Brevis”

ศิลปะนั้นหนายืนยาว ...แต่ชีวิตเราทั้งเขลาและสั้น


ตลอดชีวิตของการเป็นศิลปิน เขาทำงานหนัก อุทิศตนและซื่อสัตย์ในวิชาชีพ Van Gogh ไม่เคยปริปากบ่นกับใคร ที่เรารู้เรื่องชีวิตของเขาจากการประมวลเนื้อหาจากจดหมายที่เขาเขียนถึงน้องชายของเขาเท่านั้น

ในชีวิตของเขารังสรรค์ผลงานไว้ราว 2,000 ชิ้น เป็นภาพสีน้ำมันราว 900 ภาพ ซึ่งในจำนวนนี้มีอยู่ราว 200 ภาพที่เป็นสมบัติของพิพิธภัณฑ์และถูกประมูลซื้อมาด้วยมูลค่ามหาศาล

แต่ผลงานของเขาทั้งหมดที่ขายได้ในช่วงที่เขามีชีวิตอยู่มีเพียงภาพเดียวเท่านั้น และเป็นภาพที่น้องชายเขาซื้อไว้เอง เพื่อส่งเงินให้ซื้อสีและจ่ายค่าเช่าบ้านให้เขา


ส่วนเพิ่มเติมผลงาน van gogh
Spoil




Starry Night Over The Rhone
วาดในปี ค.ศ.1888 ขนาด 72.5 x 92 ซม.


วินเซนต์ แวน โก๊ะ ได้ใช้เวลาเกือบหนึ่งปีเต็มในการเขียนรูป " Starry Night " ขึ้นมาภาพนี้ได้ แสดงถึงภาพของดวงดาวที่ส่องแสงเจิดจรัสท่ามกลางความมืดมิดในยามค่ำคืน เพื่ออวดรัศมีแข่งกับแสงสว่างอันจอมปลอมที่ส่องจากตึกรามบ้านช่องบนริมฝั่งของแม่น้ำ ภาพของหนุ่มสาวที่เดินเคียงคู่กันในด้านหน้าของภาพนั้นคล้ายกับภาพของคู่หนุ่มสาวในภาพ " Landscape with Couple Walking and Crescent Moon " ภาพทั้งสองภาพนี้ วินเซนต์ได้เขียนรูปชายที่เดินเคียงข้างหญิงสาวผู้นั้น แทนตัวของเขาเอง โดยสามารถสังเกตได้จากผมของชายในภาพซึ่งเป็นสีแดงเหมือนกับผมของตัวเขาแต่ต่างกันที่ในชีวิต จริงของวินเซนต์แล้ว เขาหาได้มีหญิงสาวใดมาเดินเคียงข้างเขาไม่



The Starry Night
วาดในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 1889
เป็นภาพวาดสีน้ำมันบนพื้นผ้าใบ ขนาดภาพ 72 x 92 ซม. (29 x 36 1/4 นิ้ว)
สถานที่แสดง The Museum of Modern Art เมืองนิวยอร์ก


วินเซนต์ได้กล่าวถึงภาพ " Starry Night " นี้ว่า "ฉันกำลังประสบกับปัญหาอย่างมากใน การเขียนภาพของยามค่ำคืน ถ้าพูดให้ถูกแล้วก็คือ การถ่ายถอดภาพลงบนผืนผ้าในเวลา กลางคืนก็ได้ " ภาพของแสงสีในยามค่ำคืนนั้น เป็นภาพที่เขาใฝ่ฝันอยากเขียนขึ้นและความฝันของเขาก็ได้กลายมาเป็นความจริง เมื่อเขาตัดสินใจย้ายมา อยู่ที่เมืองอาเรส ในเดือนกุมภาพันธ์ของปี ค.ศ. 1888 ในจดหมายเขาได้กล่าวไว้ว่า

" ในชีวิตของจิตกรแล้ว ความตายอาจไม่ใช่ความยากลำบากที่สุดในชีวิต ฉันสามารถพูดได้ว่า ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับมันเลย แต่เมื่อฉันได้มองดูดวงดาวแล้ว ฉันก็เริ่มนึกคิดจุดดำมืดที่แสดง ถึงภาพของเมือง และหมู่บ้านในแผนที่ ทำให้ฉันคิดว่าทำไมมนุษย์เราถึงได้ให้ความสำคัญของ จุดดำมืดที่อยู่บนแผนที่ของฝรั่งเศษ มากไปกว่า แสงสว่างอันแท้จริงที่ส่องตรงมาจากสวรรค์ มันก็คงเหมือนกับการที่เราเลือกไป รถไฟเพื่อจะไปยังทาราสคอน หรือโรน หรือเราจะเลือก เอาความตายเพื่อจะไปให้ถึงดวงดาวบนฟ้านั่น "




Vincent’s Bedroom

ตั้งแต่วินเซนต์ได้ทราบข่าวจากโกแกง ว่าเขาจะเดินทางมาร่วมกับ วินเซนต์ที่บ้านสีเหลืองนี้ วินเซนต์ก็ได้จัดเตรียมทุกอย่างเพื่อคอย การมาของเพื่อนของเขา เขาตกแต่งบ้านเสียใหม่โดยเขียนภาพอีก หลายภาพขึ้นเพื่อใช้ตกแต่งฝาผนัง และห้องนอนของโกแกง ภาพห้องนอนของวินเซนต์นี้ เมื่อตอนที่เขาอยู่ที่เซนต์เรมี ได้สร้างภาพจำลองขึ้น อีกสองภาพจากภาพต้นฉบับจริงที่เขาเขียนขึ้นเมื่อเดือนตุลาคมของ ปี ค.ศ.1888 ในขณะที่เขากำลังรอคอยให้โกแกงมาพักอยู่ด้วย วินเซนต์ได้ยกย่องให้ภาพนี้เป็นหนึ่ง ในภาพที่ดีที่สุดของเขา โดยได้เขียนบรรยายไว้ในจดหมายถึง ธีโอพี่ชายของเขาว่า

" ถ้าจะให้พูดถึงภาพนี้แล้ว การได้มองดูภาพนี้ก็เปรียบเสมือนการได้พักผ่อนสมอง และปลดปล่อยจินตนาการให้เพ้อฝันไกลออกไป " ภาพห้องนอนของวินเซนต์ได้กลายมา เป็นภาพที่มีชื่อเสียงในทางศิลปะ ความเรียบง่ายของภาพ แสดงให้เห็นถึง ครรลองของชีวิตที่สมถะ และเรียบง่าย หรือในอีกแง่หนึ่ง อาจกล่าวได้ว่า ภาพนี้ได้แสดงถึงมุมมองของ ศิลปินในยุคโรแมนติคผู้หนึ่ง ซึ่งอุทิศชีวิตทั้งชีวิตเพื่อทุ่มเทให้กับงานศิลปะเท่านั้น



Vegetable Gardens in Montmartre
วาดในปี ค.ศ.1887 ขนาดภาพ 96 x 120 ซม.



Landscape at Saint-Romy วาดเมื่อปี ค.ศ.1889
สถานที่แสดง Ny Carlsberg Glypotek เมือง Copenhagen



Still Life With Four Sunflowers
วาดภาพเมื่อปี ค.ศ. 1887 เมือง Otterlo



Montmartre


View of Arles with Irises
วาดภาพเมื่อปี ค.ศ.1888 ขนาดภาพ 54 x 65 ซม.




Irises (pink/gree)
วาดภาพเมื่อ พ.ค. ปี ค.ศ.1890
เป็นภาพวาดสีน้ำมันบนพื้นผ้าใบ ขนาดภาพ 73.7 x 92.1 ซม.
สถานที่แสดง The Metropolitan Museum of Art เมืองนิวยอร์ก




Trees in the Asylum Garden
วาดภาพเมื่อปี ค.ศ.1889
เป็นภาพวาดสีน้ำมันบนพื้นผ้าใบ
ขนาดภาพ 73 x 60 ซม. (28 3/4 x 23 3/4 นิ้ว)
ประเทศสหรัฐอเมริกา


เรียบเรียงให้อ่านโดยผมเอง

*****ตามอ่านบทความอื่นๆ
Spoil
พิธี กวนเกษียณสมุทร โดยละเอียด (สาระ ความรู้)http://www.ssballthai.in.th/boards/topic/1040011

แก้ข้อสงสัยหนังพระนเรศวรมหาราช http://www.ssballthai.in.th/boards/topic/1071932

ตำนานครุฑ นาค ภาคจบ โดยละเอียด(สาระ ความรู้) http://www.ssballthai.in.th/boards/topic/1023684

ตำนานครุฑ นาค ภาคแรก โดยละเอียด(สาระ ความรู้)http://www.ssballthai.in.th/boards/topic/1023135

ทรพี ปะทะคนพาล (ที่มา สาระ)http://www.ssballthai.in.th/boards/topic/1019321

นรสิงห์ (ที่มา สาระ)http://www.ssballthai.in.th/boards/topic/1018665

ศิวะเทพ (ที่มา สาระ)http://www.ssballthai.in.th/boards/topic/1017405

ฉากสุดท้ายแห่งสงครามยุทธหัตถี http://www.ssballthai.in.th/boards/topic/1076481

5 ประโยคปรามาสเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน !!! http://www.ssballthai.in.th/boards/topic/1100432

ซีเหมินป้าผู้ขจัดความงมงาย (ที่มา สาระ)http://www.ssballthai.in.th/boards/topic/1018932
 
แก้ไขล่าสุดโดย jofromhell เมื่อ Mon Oct 27, 2014 20:31, ทั้งหมด 4 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
แข้งเจลีก
Status: Winter is Coming
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2721
ที่อยู่: Winterfell
โพสเมื่อ: Mon Oct 27, 2014 20:06
Top Comment [RE: Vincent Van Gogh ผู้ใช้เลือดจากส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจเขียนภาพ]
คนบางคนไม่เข้าใจงานศิลปะ บอกว่าราคาแพงเว่อร์ไป...รูปอะไรแพงเป็นพันล้าน...แต่หากเรามองว่า นี่คือจินตนาการของมนุษย์ชาติ ศิลปะคือการแสดงถึงมันสมองของคนเราว่าเจริญไปถึงไหน มองอะไรๆ ได้กว้างไกลแค่ไหน...ผลงานศิลปะของแวนโก๊ะ เป็นมาสเตอร์ แนวทางบรรดาลใจ ให้คนที่พบเห็นมีจินตนาการ มองอะไรที่นอกขอบเขต จากแค่สายตาที่เห็น.....
......รูปในศิลปะในแนวความประทับใจนั้น...(Impressionism) มันคือการบันทึกความทรงจำของเรา ในสิ่งที่เราประทับใจไว้ ไม่รู้ลืม....




มีทุ่งหญ้า ลมพัดปลิวไสว แวนโก๊ะ ไม่ได้วาดแค่ก้อนเมฆ และทุ่งหญ้า เขาวาดลมด้วย ทุกวันนี้ลมก็ยังพัดในรูปของเขา สายลมนี้ไม่เคยหยุดเลย ตราบเท่าที่มีรูปนี้อยู่.......
ออฟไลน์
แข้งเจลีก
Status: Winter is Coming
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2721
ที่อยู่: Winterfell
โพสเมื่อ: Mon Oct 27, 2014 20:06
[RE: Vincent Van Gogh ผู้ใช้เลือดจากส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจเขียนภาพ]
คนบางคนไม่เข้าใจงานศิลปะ บอกว่าราคาแพงเว่อร์ไป...รูปอะไรแพงเป็นพันล้าน...แต่หากเรามองว่า นี่คือจินตนาการของมนุษย์ชาติ ศิลปะคือการแสดงถึงมันสมองของคนเราว่าเจริญไปถึงไหน มองอะไรๆ ได้กว้างไกลแค่ไหน...ผลงานศิลปะของแวนโก๊ะ เป็นมาสเตอร์ แนวทางบรรดาลใจ ให้คนที่พบเห็นมีจินตนาการ มองอะไรที่นอกขอบเขต จากแค่สายตาที่เห็น.....
......รูปในศิลปะในแนวความประทับใจนั้น...(Impressionism) มันคือการบันทึกความทรงจำของเรา ในสิ่งที่เราประทับใจไว้ ไม่รู้ลืม....




มีทุ่งหญ้า ลมพัดปลิวไสว แวนโก๊ะ ไม่ได้วาดแค่ก้อนเมฆ และทุ่งหญ้า เขาวาดลมด้วย ทุกวันนี้ลมก็ยังพัดในรูปของเขา สายลมนี้ไม่เคยหยุดเลย ตราบเท่าที่มีรูปนี้อยู่.......
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status: 6395
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 Oct 2009
ตอบ: 7721
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Oct 27, 2014 20:06
[RE: Vincent Van Gogh ผู้ใช้เลือดจากส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจเขียนภาพ]






ฝากเพจฟุตบอลที่กำลังตั้งไข่หน่อยนะครับ >>>>

https://www.facebook.com/footballandfilm

สำหรับท่านที่สนใจโซฟาเบดคัสตอมตามสั่ง >>>>

https://www.facebook.com/smfurnituresofa

ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status: Francis C.Xavier
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 May 2008
ตอบ: 11185
ที่อยู่: โรงเรียนสำหรับผู้มีพรสวรรค์
โพสเมื่อ: Mon Oct 27, 2014 20:12
[RE: Vincent Van Gogh ผู้ใช้เลือดจากส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจเขียนภาพ]
โหวตเป็นกระทู้แนะนำไป
แบบนี้ ชอบ ครับบ ขอบคุณมากๆเลย

"ผมยอมตายด้วยไฟแห่งความปรารถนา ดีกว่าที่จะต้องทนเบื่อหน่าย" Van Gogh
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 2976
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Oct 27, 2014 20:11
[RE: Vincent Van Gogh ผู้ใช้เลือดจากส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจเขียนภาพ]
jesse pinkman พิมพ์ว่า:
คนบางคนไม่เข้าใจงานศิลปะ บอกว่าราคาแพงเว่อร์ไป...รูปอะไรแพงเป็นพันล้าน...แต่หากเรามองว่า นี่คือจินตนาการของมนุษย์ชาติ ศิลปะคือการแสดงถึงมันสมองของคนเราว่าเจริญไปถึงไหน มองอะไรๆ ได้กว้างไกลแค่ไหน...ผลงานศิลปะของแวนโก๊ะ เป็นมาสเตอร์ แนวทางบรรดาลใจ ให้คนที่พบเห็นมีจินตนาการ มองอะไรที่นอกขอบเขต จากแค่สายตาที่เห็น.....
......รูปในศิลปะในแนวความประทับใจนั้น...(Impressionism) มันคือการบันทึกความทรงจำของเรา ในสิ่งที่เราประทับใจไว้ ไม่รู้ลืม....




มีทุ่งหญ้า ลมพัดปลิวไสว แวนโก๊ะ ไม่ได้วาดแค่ก้อนเมฆ และทุ่งหญ้า เขาวาดลมด้วย ทุกวันนี้ลมก็ยังพัดในรูปของเขา สายลมนี้ไม่เคยหยุดเลย ตราบเท่าที่มีรูปนี้อยู่.......  

2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 2976
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Oct 27, 2014 20:11
[RE: Vincent Van Gogh ผู้ใช้เลือดจากส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจเขียนภาพ]
The Gunners Arsenal พิมพ์ว่า:
โหวตเป็นกระทู้แนะนำไป
แบบนี้ ชอบ ครับบ ขอบคุณมากๆเลย

"ผมยอมตายด้วยไฟแห่งความปรารถนา ดีกว่าที่จะต้องทนเบื่อหน่าย" Van Gogh
 

ขอบคุณครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status: Francis C.Xavier
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 May 2008
ตอบ: 11185
ที่อยู่: โรงเรียนสำหรับผู้มีพรสวรรค์
โพสเมื่อ: Mon Oct 27, 2014 20:12
[RE: Vincent Van Gogh ผู้ใช้เลือดจากส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจเขียนภาพ]
jesse pinkman พิมพ์ว่า:
คนบางคนไม่เข้าใจงานศิลปะ บอกว่าราคาแพงเว่อร์ไป...รูปอะไรแพงเป็นพันล้าน...แต่หากเรามองว่า นี่คือจินตนาการของมนุษย์ชาติ ศิลปะคือการแสดงถึงมันสมองของคนเราว่าเจริญไปถึงไหน มองอะไรๆ ได้กว้างไกลแค่ไหน...ผลงานศิลปะของแวนโก๊ะ เป็นมาสเตอร์ แนวทางบรรดาลใจ ให้คนที่พบเห็นมีจินตนาการ มองอะไรที่นอกขอบเขต จากแค่สายตาที่เห็น.....
......รูปในศิลปะในแนวความประทับใจนั้น...(Impressionism) มันคือการบันทึกความทรงจำของเรา ในสิ่งที่เราประทับใจไว้ ไม่รู้ลืม....




มีทุ่งหญ้า ลมพัดปลิวไสว แวนโก๊ะ ไม่ได้วาดแค่ก้อนเมฆ และทุ่งหญ้า เขาวาดลมด้วย ทุกวันนี้ลมก็ยังพัดในรูปของเขา สายลมนี้ไม่เคยหยุดเลย ตราบเท่าที่มีรูปนี้อยู่.......  


เนื้อหากระทู้ว่าสุดยอดแล้ว

คอมเม้นต์ยังสุดยอดด้วยอีก

โหวตเป็น comment แนะนำ ตรงไหนครับเนี่ย ?
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status: My Biggest Failures are knowing I never tried
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Jan 2011
ตอบ: 12143
ที่อยู่: -__________-
โพสเมื่อ: Mon Oct 27, 2014 20:45
[RE: Vincent Van Gogh ผู้ใช้เลือดจากส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจเขียนภาพ]
สุดยอดครัช
อ่านแล้วไฟในตัวมันลุกโชน

1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน



ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 3267
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Oct 27, 2014 23:29
ถูกแบนแล้ว
[RE: Vincent Van Gogh ผู้ใช้เลือดจากส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจเขียนภาพ]
เคยเรียนประวัติศาสตร์ศิลปะมาเหมือนกัน

van gogh เป็นหนึ่งในคนที่ผมชอบมากที่สุด เเละไม่เเปลกเลยที่งานเขาจะเเพง

impressionism - manet,monet ต้องการ capture moment เหมือนการถ่ายรูป งานออกมาหยาบ เเละสีเเละอารมณ์จะอัทธิยายถึงสภาพเเวดล้อมที่เกิดขึ้นนะตอนนั้นจริงๆ

เเต่ post-impressionism van gogh ต่อยอดโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาต้องการจะ capture moment นั้นๆเหมือนกัน เเต่การที่เป็นคนอารมณ์เเปรปรวน สภาพของการตวัดพู่กันเเละการใช้สีเลยเลยออกมาเเบบฉูดฉาดเกินจริง ซึ่งสใตล์นี้จะต่อยอดมาเป็น expressionism อีกที

งาน van gogh ต้อมยอมเลยว่าจะผ่านมีกี่ปี ดูเท่าไหร่ก็ยังสดใหม่เสมอ
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status: ทีมดาวิใบเฟิร์น
: 0 ใบ : 1 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 60888
ที่อยู่: สเปอร์ส&ชมรมคนรักหนัง&เนย
โพสเมื่อ: Mon Oct 27, 2014 23:43
ถูกแบนแล้ว
[RE: Vincent Van Gogh ผู้ใช้เลือดจากส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจเขียนภาพ]
พวกศิลปินภาพราคาหลายร้อยล้านบาทนี่สมัยที่ยังมีชีวิตแทบจะกินข้าวคุกน้ำปลาเลยทีเดียว
พอเสียชีวิตแล้วภาพกลับมีมูลค่าเป็นร้อยๆล้าน
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Oct 2008
ตอบ: 1624
ที่อยู่: Boleyn Ground, Upton Park
โพสเมื่อ: Mon Oct 27, 2014 23:58
[RE: Vincent Van Gogh ผู้ใช้เลือดจากส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจเขียนภาพ]
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
อบรมขอไลเซนส์
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Nov 2008
ตอบ: 26471
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 28, 2014 14:16
[RE: Vincent Van Gogh ผู้ใช้เลือดจากส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจเขียนภาพ]
เห็นละคิดถึงเลย ผมไปยืนจ้องรูปละไม่ต่ำกว่า10นาทีเลยเหมือนโดนดูด
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Jun 2007
ตอบ: 1107
ที่อยู่: Planet
โพสเมื่อ: Tue Oct 28, 2014 18:07
[RE: Vincent Van Gogh ผู้ใช้เลือดจากส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจเขียนภาพ]
เคยฟังเพลง รุ้สีกจะชื่อเพลง Vincent แล้วพูดถึง Starry night เสียดายคอมบริษัทแปะลิ้งค์ยูทูปไม่ได้ ดูก็ไม่ได้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ความเป็นไปได้ถามความเป็นไปไม่ได้ว่า "คุณอยู่ที่ไหน" เขาตอบว่า "อยู่ในความเพ้อฝันของคนอ่อนแอ"
ออฟไลน์
นักเตะเทศบาล
Status: Dojo namwong
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Jul 2009
ตอบ: 255
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Oct 29, 2014 03:11
[RE: Vincent Van Gogh ผู้ใช้เลือดจากส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจเขียนภาพ]
หลายคนอาจจะยังไม่รู้น่ะครับ ว่าทำไมงานเขาถึงดัง
-งานของแวนโก๊ะไม่ใช่งานศิลปะที่นิยมในยุคนั้น
-พอเวลาผ่านไปคนเก็บงานศิลปะเบื่องานที่ออกมาแบบเดียวกันแล้วไปพบงานของแวนโก๊ะ
-คนเก็บงานชอบตามหาตามซื้อ เริ่มมีผู้นิยม
-วงการศิลปะให้การยอมรับ มีคนพยายามทำตามแต่ไม่สามารถทำได้เหมือน
-ตามหางานแต่ก็มาทราบภายหลังว่าเสียชีวิตแล้ว เป็นจุดเริ่มต้นของความหายาก

ประมาณนี้ครับ กลัวยาวมากไม่อ่านกัน 555


เผื่อใครอยากรู้
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1021
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Oct 29, 2014 08:10
[RE: Vincent Van Gogh ผู้ใช้เลือดจากส่วนที่ลึกที่สุดของหัวใจเขียนภาพ]
รูปทุกรูปใช้สีสันสดใส แต่ภาพดูหม่นๆทุกภาพเลย
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel