หลายคนสงสัยว่า One piece สมบัติที่ซ่อนอยู่คืออะไรจึงเกิดหลายทฤษฎีความเป็นไปได้มากมาย แต่เท่าที่อ่านมาอันนี้ผมว่ามันสมเหตุสมผล เป็นไปได้ที่สุด เลยอยากเอามาแชร์กัน
วันพีช คืออะไร?
…
บทความนี้ผมแปลมาจากภาษาอังกฤษ (แปลเอง ไม่ได้ใช้อากู๋)
โดยต้นฉบับถูกคิดและเขียนโดย Ashura_KingFisher แห่ง ArlongParkForums
ผมไปเจอมาจาก Chrome_mist แห่ง CrunchyRoll
เห็นว่าน่าสนใจและมีความเป็นไปได้มากที่สุดเท่าที่เคยหาอ่านมา จึงอยากเอามาแปลให้ผู้อื่นที่สนใจอ่านบ้าง ใครอยากอ่านต้นฉบับก็ไปที่เครดิตได้เลย คำบางคำผมจะใช้ภาษาอังกฤษหรืออ่านทับศัพท์ไปเลย เพราะเข้าใจได้ง่ายกว่าคำแปล มันอาจจะยาวซักหน่อย แต่คุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปแน่นอน
…
คำเตือน
“บทความนี้ สปอยด์ ขั้นรุนแรง ใครที่ยังไม่เคยอ่านวันพีช หรือยังอ่านไม่ถึงตอนที่ 600 (ถ้ารวมเล่มไทยก็ควรอ่านเกินเล่มที่ 65 ไปแล้ว) และไม่อยากถูกสปอยด์ก็ข้ามไปได้เลยครับ”
…
…
สืบสานปณิธาน “วันพีช”
…
“ช่วงร้อยปีแห่งความว่างเปล่า”
…
เริ่มจากสรุปเรื่องราวความเป็นมาก่อน
อย่างที่เรารู้กัน มียุคๆหนึ่งในวันพีชเรียกว่า ช่วงเวลาร้อยปีแห่งความว่างเปล่า (The Void Century) นอกจากกลุ่มโจรสลัดโรเจอร์แล้ว ไม่มีผู้ใดที่ยังมีชีวิตอยู่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในช่วงเวลาร้อยปีนั้น
อย่างไรก็ตาม นักโบราณคดีแห่งโอฮารา ศจ.โคลเวอร์ มีเบาะแสบางอย่าง เขากล่าวว่า ในเวลานั้นมีอาณาจักรโบราณที่รุ่งเรืองและมีอำนาจมากแห่งหนึ่งปกครองทั่วทั้งมหาสมุทร แต่พวกเขาก็มีศัตรูจำนวนหนึ่ง ศัตรูเหล่านี้รู้สึกว่าถูกคุกคามจากการมีอยู่ของอาณาจักรและนโยบายการปกครองของพวกเขา ดังนั้นจึงทำการรุกรานอาณาจักรนี้ และก็ทำได้สำเร็จ อาณาจักรโบราณล่มสลาย และด้วยกลวิธีบางอย่าง ศัตรูเหล่านั้นได้จัดการลบร่องรอยทุกชิ้นที่เกี่ยวข้องกับอาณาจักรนั้นออกไปจากประวัติศาสตร์จนหมดสิ้น
ชั่งเป็นความบังเอิญที่การสิ้นสุดของอาณาจักรโบราณนั้น เป็นจุดสิ้นสุดของช่วงเวลาร้อยปีที่ว่างเปล่าพอดี ในขณะเดียวกัน รัฐบาลโลก ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรก ศจ.โคลเวอร์ ก็เลยมีทฤษฎีว่า รัฐบาลโลก ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นศัตรูกลุ่มที่ว่านั้นนั่นเอง
…
เริ่มทฤษฏีเกี่ยวกับวันพีช
…
เส้นทางที่ถูกปิดซ่อนไว้
มีอยู่ 3 สิ่งที่ไม่อาจหยุดยั้งได้
- ความใฝ่ฝันของมนุษย์ -
- การเวลาที่ไหลผ่านไป -
- การสืบสานปณิธาน -
ตราบใดที่มนุษย์ยังดั้นด้นค้นหาความหมายของคำว่า “อิสรภาพ” พวกเขาจะไม่มีทางหยุดยั้ง
โดย โกลด์ ดี. โรเจอร์ (Gold D. Roger)
…
ข้อความนี้ปรากฏขึ้นครั้งแรกในตอนที่ 100 และดูเหมือนว่าจะเป็นคำคมทั่วๆไป อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องราวดำเนินไปลึกขึ้นเรื่อยๆ ผมก็ตระหนักได้ว่า (คิดว่าหลายคนในที่นี้คงรู้สึกได้เหมือนกัน) เนื้อเรื่องของวันพีชดำเนินรอยตาม 3 ข้อที่กล่าวมา
– ความใฝ่ฝันของมนุษย์
– การเวลาที่ไหลผ่านไป
– การสืบสานปณิธาน
อย่างเช่น
…
1. ซากุระของ ดร.ฮิลรุค
ดร.ฮิลรุค มีเป้าหมายที่แทบจะเป็นไปไม่ได้อยู่อย่าง คือการสร้างยารักษาสารพัดโรค อย่างไรก็ตามการทดลองของเขาล้มเหลวจนเวลาผ่านไป 30 ปี ในที่สุด ก็สามารถทำให้ซากุระของ ดร.ฮิลรุค เบ่งบาน แต่มันก็ยังไม่ใช่ยาที่เขาต้องการอยู่ดี ช็อปเปอร์ซึ่งเทิดทูน ดร. มาก จึงอาสาสืบสานปณิธานนี้ต่อ และตัดสินใจออกเรือไปกับลูฟฟี่
…
2. ระฆังทองแห่งเชนดอเรีย
เพื่อนสนิทสองคนถูกแยกออกจากกันบนชายฝั่งของจายา มิตรภาพของพวกเขาไม่ได้จบลงตรงนั้น พวกเขาสัญญากันว่าจะพบกันอีกครั้งในสักวัน คัลการาตีระฆังทองตลอดมาเพื่อที่เพื่อนของเขาจะได้ไม่หลงลืม โชคร้ายที่โชคชะตาทำให้เกาะจายาลอยขึ้นไปบนฟ้าสูง 10000 เมตร หลังจากนั้น คัลการาตายในสงคราม ขณะที่โนแลนด์ถูกประหารที่บ้านเกิด คำสัญญาของพวกเขาก็เลยถูกฝังไปพร้อมกัน ณ ตอนนั้น
400 ปีถัดมา เด็กชายที่ชื่อว่าลูฟฟี่ ได้ค้นพบและทำให้ระฆังทองที่สาบสูญกลับมาส่งเสียงอีกครั้ง เป็นการเติมเต็มคำสัญญาที่ถูกลืมไป
…
3. ทะเลออลบลู (All Blue)
เชฟขาแดง เซป ต้องการที่จะหาทะเลออลบลูในตำนาน แต่การล่องเรือเป็นปีในแกรนไลน์ไม่ได้ให้เบาะแสอะไรแก่เขาเลย อย่างไรก็ดี เขายังคงเชื่อว่ามันมีจริงอยู่ที่ไหนซักแห่งในโลกนี้ ดังนั้นเขาจึงส่งต่อปณิธานนี้ให้แก่ซันจิ โดยหวังว่าซันจิจะทำมันให้สำเร็จได้ในสักวัน
…
ผมเลือกมาเป็นตัวอย่างแค่ 3 เหตุการณ์ แต่จริงๆแล้วมีมากกว่านั้นเยอะ ดังนั้นทุกคนคงมองเห็นภาพแล้วใช่ไหม ว่าในที่นี้ผมหมายถึง
1. ในอดีต จะมีใครสักคนที่มีความฝัน, เป้าหมาย หรือ คำสัญญาอันแน่วแน่ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้พวกเขาเหล่านั้นไม่สามารถบรรลุมันได้
(ความใฝ่ฝันของมนุษย์)
2. ความฝันนั้นล่วงเลยผ่านพ้นไปตามเวลาหลายปี
(การเวลาที่ไหลผ่านไป)
3. ในที่สุด จะต้องมีใครสักคนในอนาคตที่จะมาสานฝันนั้นต่อ และทำมันให้สำเร็จ
(การสืบสานปณิธาน)
ใช่แล้ว ตั้งเริ่มบทแรกจนถึงตอนนี้ เนื้อเรื่องของวันพีชมักจะดำเนินและเป็นไปตามรูปแบบนี้เสมอ ผมค่อนข้างประหลาดใจอยู่เหมือนกันที่เราผ่านเรื่องราวลักษณะนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ผมคิดว่าบางคนคงเอะใจอยู่เหมือนกัน ผมเรียกรูปแบบ แบบนี้ว่า Golden Pattern เพราะโกลด์ ดี โรเจอร์ บัญญัติมันขึ้นมา
…
ถึงตอนนี้มันทำให้ผมอดคิดไม่ได้ว่า แล้วโรเจอร์หล่ะ มีเส้นทางรูปแบบนี้เกิดขึ้นกับตัวเองหรือไม่ และแล้วความสงสัยของผมก็กระจ่างเมื่อได้อ่านวันพีชบทที่ 576
…
…
ปรากฎว่าโรเจอร์เองก็มีปณิธานของตัวเองเหมือนกัน และสิ่งนั้นได้ถูกส่งต่อมาเป็นเวลามากกว่าร้อยปี เขารอคอยที่จะพบใครสักคนที่จะสืบสานปณิธานนี้ต่อ ที่เหมือนกับว่าจะต้องทำอะไรบางอย่างกับ วันพีช
แล้วมันคืออะไรหล่ะ? อะไรคือความใฝ่ฝันของโรเจอร์?
…
ความฝันของโรเจอร์
…
“Golden Pattern”
…
(สิ่งที่อ่านต่อจากนี้เป็นแค่ทฤษฎีเท่านั้น ยังไม่ปรากฎในเนื้อเรื่อง)
…
“ความใฝ่ฝันของมนุษย์”
ปณิธานของโรเจอร์คือสิ่งที่หนวดขาวพูดถึง จริงๆแล้วมันไม่ได้เกิดจากตัวโรเจอร์เอง เขาได้รับสืบทอดมันต่อมาอีกที ซึ่งต้องย้อนไปราวๆ 800 ปีที่แล้ว ใช่แล้ว มันเป็นปณิธานอาณาจักรโบราณสร้างขึ้นนั้นเอง
อาณาจักรโบราณป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งปกครองและควบคุมเกือบจะทั้งโลก (เหมือนกับที่รัฐบาลโลกเป็นอยู่ในปัจจุบัน) พวกเขาแสดงให้เห็นว่าเป็นประชากรที่ค่อนข้างล้ำสมัย แต่สามารถพูดได้ว่าแทบจะไม่มีประโยชน์ เพราะพวกเขาไม่สามารถทำอย่างที่ตั้งใจได้เลยด้วยสิ่งที่เขามีในเวลานั้น
อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็มีประเด็นอย่างที่เรารู้กัน ในโลกของวันพีช แบ่งออกเป็น 4 ส่วนคือ อีสบลู เวสบลู นอร์ทบลู และ เซาท์บลู
แต่ละแห่งถูกคั่นด้วย เรดไลน์ และ แกรนไลน์ อาณาจักรโบราณเห็นว่า เรดไลน์และแกรนไลน์เป็นอุปสรรคสำคัญเพราะมันเป็นสิ่งที่ป้องกันไม่ให้คนเดินทางข้ามจากทะเลหนึ่งไปยังอีกทะเลหนึ่งได้ และยังเป็นการป้องกันไม่ให้อาณาจักรโบราณแผ่ขยายอาณาเขตได้อย่างสมบูรณ์
ดังนั้นพวกเขาจึงสร้างโปรเจ็คนี้ขึ้นมา เป็นโปรเจ็คที่บ้าบิ่น แต่มันก็จำเป็นต้องทำ โปรเจ็คนี้เกี่ยวข้องกับการทำลายเรดไลน์และแกรนไลน์ เพื่อที่จะหลอมรวมทะเลทั้ง 4 เป็นทะเลใหญ่เพียงหนึ่งเดียว ชื่อเรียกของโปรเจ็คนี้ก็คือ วันพีช
วิธีการก็คือ พวกเขาเริ่มคิดค้นอาวุธซึ่งจะต้องมีอานุภาพเพียงพอที่จะทำลายเรดไลน์ได้ ซึ่งต่อมาถูกเรียกว่า อาวุธโบราณ (Ancient Weapons)
แต่กลับกลายเป็นว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเห็นด้วยกับโปรเจ็คนี้ อาณาจักรอื่นๆ ลุกขึ้นมาต่อต้าน พวกเขาได้กลิ่นผิดปกติว่ามีอะไรอยู่เบื่องหลังโปรเจ็คนี้ แต่อาณาจักรโบราณยืนยันที่จะทำต่อไปไม่ว่าจะยังไงก็ตาม เดาซิว่าเกิดอะไรขึ้น มหาสงครามปะทุขึ้น ระหว่างอาณาจักรโบราณ กับ กลุ่มอาณาจักรอื่นๆทั้ง 20 อาณาจักร ที่ต่อต้าน วันพีช
ในที่สุด กลุ่ม 20 อาณาจักร ก็เป็นฝ่ายชนะ และทำการยกระดับตัวเองขึ้นเป็นรัฐบาลโลก ในขณะที่อาณาจักรโบราณได้ล่มสลายหายไปพร้อมกับประวัติศาสตร์ของตัวเอง และแล้วโปรเจ็ค วันพีช ก็ไม่ได้ถูกกล่าวถึงอีกเลย
…
“การเวลาที่ไหลผ่านไป”
เป็นเรื่องไม่คาดฝันที่อาณาจักรโบราณเกิดการล่มสลาย แต่ก่อนที่สงครามจะเริ่มต้นขึ้นพวกเขาได้สลักข้อความบอกเล่าประวัติศาสตร์ลงไปบนโลหะอย่างดีชนิดหนึ่งซึ่งทนทานเหมือนเพชร ต่อมาถูกเรียกว่า โพเนกลีฟ และซ่อนพวกมันไว้ทั่วทุกมุมโลกพร้อมกับอาวุธโบราณที่พวกเขาสร้างขึ้น อาณาจักรโบราณต้องการให้แน่ใจว่าความปรารถนาของพวกเขาจะไม่สูญหายไป ถ้าหากว่าเกิดเรื่องร้ายแรงอะไรกับพวกเขาขึ้นมา
แน่นอนว่ารัฐบาลโลกไม่พอใจอย่างมากและได้ทำการสั่งระงับการค้นคว้าศึกษาโพเนกลีฟอย่างเด็ดขาด
แต่สายเกินไปซะแล้ว ปณิธานนี้ได้ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นอย่างเงียบๆตั้งแต่นั้น รอคอยใครสักคนตอบรับมัน
…
“การสืบสานปณิธาน”
800 ปีผ่านไป โจรสลัดนามว่า โรเจอร์ สามารถไปถึงเกาะสุดท้าย ราฟเทล และค้นพบข้อเท็จจริงของประวัติศาสตร์ เขารู้ทันทีว่าต้องทำอย่างไรต่อไป แต่โชคร้ายที่ร่างกายของเขาไม่สามารถตอบสนองตามความต้องการได้ เขาเป็นโรคที่รักษาไม่หาย จำได้ใช่ไหมว่า โปรเจ็คนี้ต้องการทั้งกำลังและเวลาอย่างมหาศาล ซึ่งเขาไม่มี ณ เวลานั้น
อย่างไรก็ดี เขาตัดสินใจที่จะสร้างยุคทองแห่งโจรสลัดขึ้นมาแทน โดยหวังว่าจะมีใครสักคนที่แข็งแกร่งและดีพอที่จะเข้ามาทำให้ความปรารถนาของเขาสมบูรณ์ได้
ใครกันหนอที่จะเป็นคนคนนั้น ผมคิดว่าทุกคนรู้อยู่แก่ใจ :D
…
โปรเจ็ค วันพีช (Project Onepiece)
…
เอาหล่ะ ทีนี้เจ้าโปรเจ็คที่ว่านี้ต้องทำอย่างไร
การหลอมรวมทะเลทั้ง 4 เป็นหนึ่งเดียว จะคุ้มค่ากับการเดินทางฝ่าฟันของพวกลูฟฟี่หรือไม่
ผมจะอธิบายให้ฟัง
นี่คือโลกของวันพีชอย่างคร่าวๆ
โลกวันพีชแบบแปลน
…
…
แนวความคิดของโปรเจ็ควันพีช คือ การสร้างทะเลหนึ่งเดียว ทะเลที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเดินเรือ ดังนั้นจึงเกิดสิ่งที่ต้องทำ 2 อย่าง คือ รวมทะเลทั้ง 4 เป็นอันหนึ่งอันเดียวและกำจัดลักษณะเฉพาะของแกรนไลน์ (สภาพอากาศสุดขั้วของแกรนไลน์และเขตลมสงบคามเบลท์)
…
กำจัดลักษณะแฉพาะของแกรนไลน์เป็นไปได้เหรอ?
…
มันเป็นไปได้สำหรับนักวิทยาศาสตร์ของอาณาจักรโบราณ กลวิธีก็คือ ทำลายจุดที่ทะเลทั้งหลายบนโลกมาบรรจบกันที่จุดเดียวกัน ได้แก่ อิสบลู เวสบลู นอร์ทบลู เซาท์บลู แกรนไลน์ ทะเลโลกใหม่ และ คามเบลท์
…
มันมีจุดที่ว่านั่นด้วยเหรอ?
…
ที่จริงแล้ว มีถึงสองจุดทีเดียว และทั้งคู่จะต้องถูกทำลาย จุดทั้งสองนั้นคือ จุดที่ Reverse Mountain และ แมรี่ จัวร์/เกาะเงือก บนเรดไลน์
…
…
และนี่คือจุดบรรจบอยู่ในพื่นที่วงกลม
…
ลองคิดดู มันเป็นไปได้ใช่ไหม แมรี่ จัวร์/เกาะเงือก ก็มีลักษณะภูมิประเทศคล้ายกันเพียงแต่อยู่อีกด้าน
ทีนี้จุดบรรจบก็ได้ถูกกำหนดแล้ว ต่อไปก็ได้เวลาของอาวุธโบราณ นำมาใช้ทำลายจุดบรรจบทั้งสอง
โอเค เริ่มจากระเบิด Reverse Mountain ทิ้งซะก่อน
บูมมมมมมม……
…
ถึงแม้จะมีอาวุธโบราณที่ทรงอานุภาพมาก แต่การทำลายล้างครั้งนี้ก็ต้องถูกคำนวณไว้อย่างดีและต้องทำให้ถูกขั้นตอนอย่างแม่นยำ ถ้าหากประสบผลสำเร็จ สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป คือ
…
…
มีการสูญเสียผืนดินเป็นวงกว้าง ทะเลจะปั่นป่วนมากกว่าเดิม ทำให้เกิดน้ำวนขนาดมหึมาที่จุดกึ่งกลางของการการทำลาย มีพายุและคลื่นลมแรงทั่วทุกแห่ง แต่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว จากนั้นไม่กี่วันเหตุการณ์ก็จะคลี่คลายและสงบลง
และแล้ว ปรากฎการณ์มหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น
สภาพอากาศสุดขั้วของทะเลในฝั่งแกรนไลน์ และฝั่งโลกใหม่จะไม่มีอีก สนามแม่เหล็กที่ทำให้เข็มทิศธรรมดาใช้การไม่ได้จะหายไป แม้กระทั่งในเขตคามเบลท์ก็เริ่มที่จะมีลมพัดผ่าน
…
แล้วพวกสัตว์ประหลาดในทะเลหล่ะ?
…
อืม.. คราวนี้จะเป็นเวลาของราชาเกาะเงือก โพไซดอน เข้ามามีบทบาท โพไซดอนจะเข้าควบคุมเจ้าทะเล (Sea King) ทั้งหลาย และใช้มันเป็นเหมือนผู้รักษากฏแห่งท้องทะเล สำหรับการป้องกันสัตว์ประหลาดทะเลก่อความวุ่นวาย (ซึ่งผมคิดว่ามันมีความเป็นไปได้มาก)
ในที่สุดโปรเจ็ควันพีชก็สำเร็จ ทะเลอันเป็นหนึ่งเดียวได้ถูกสร้างขึ้นแล้ว
…
แล้วมันจบแค่นั้นรึเปล่า?
ยังหรอก มันยังไม่จบแค่นั้น ที่จริงแล้วยังมีผลกระทบอีกอย่าง และมันสำคัญมากด้วย
…
เจ้าน้ำวนขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นหลังการทำลาย มาจากการที่มวลน้ำปริมาณมหาศาลจากทะเลทั้ง 4 ไหลมาเจอกัน ณ จุดๆเดียวในที่ๆเคยเป็นหุบเขาย้อนกลับมาก่อน ตามหลักการแล้ว สัตว์น้ำ-สัตว์ทะเลทั้งหลายซึ่งเดิมอยู่แยกกันในทะเลทั้ง 4 จะถูกมวลน้ำพัดพาไหลมาอยู่รวมกันในที่ๆเดียว คุณจะสามารถพบสัตว์น้ำทุกสายพันธุ์จากทั่วทุกมุมโลกได้ที่นี่
เอ๊ะ? ฟังดูคุ้นๆไหม ใช่แล้ว จุดที่ถูกทำลายนั้นจะกลายมาเป็นทะเลลึกลับในตำนาน…
…
…
ทะเลอันเป็นหนึ่งเดียว (Onepiece) และ ทะเลในตำนานออลบลู (All Blue)
มาถึง ณ จุดนี้ ความฝันของลูกเรือโจรสลัดหมวกฟาง ก็ได้ประสบผลสำเร็จไปแล้วถึง 6 อย่างด้วยกัน
ลูฟฟี่ – เขาต้องการเป็นเจ้าแห่งโจรสลัด “บุคคลที่มีอิสระมากที่สุดในทะเล”
ตอนนี้ทะเลรวมเป็นหนึ่งเดียวแล้ว จะไปที่ไหนเมื่อไหร่ก็ได้ ถือว่าลูฟฟี่ได้อย่างที่ต้องการแล้ว
ซันจิ – ในที่สุด เขาก็ได้พบกับ ออลบลู (All Blue)
นามิ – ตอนนี้สามารถไปที่ไหนก็ได้แล้ว การทำแผนที่โลกไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
แฟรงค์กี้ – ด้วยเหตุผลเดียวกับนามิ เรือซันนี่สามารถไปทั่วโลกได้แล้ว
โรบิน – สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้เป็นเพราะโรบินค้นพบประวัติศาสตร์ที่แท้จริง
บรู๊ค – เคยสงสัยไหม ว่าบรู๊คจะกลับไป Twin Cape เพื่อไปเจอ ลาบูน อย่างไร? มันดูจะเป็นไปไม่ได้เพราะ Reverse mountain ขวางทางไว้ แต่ตอนนี้ มันไม่เหลืออยู่แล้ว พวกเขาจะต้องได้พบกันอีกครั้ง เหตุการณ์นี้จะถูกเล่าผ่านฉากที่เต็มไปด้วยอารมณ์ มันจะเป็นเหตุการณ์ที่น่าประทับใจทีเดียว
…
แล้วคุณหล่ะ คิดว่าอย่างไร?
…
…
(me/ผู้แปล – ผมได้ลองเขียนถึงลูกเรือที่เหลือไว้ท้ายตอนจบของบทแปล เนื่องจากต้นฉบับไม่ได้กล่าวถึง ลองดูว่าคุณจะคิดเหมือนผมไหม)
…
…
เอาหล่ะ แล้วจุดที่สอง แมรี่ จัวร์/เกาะเงือก จะเป็นอย่างไร?
…
วันแห่งคำมั่นสัญญา (The Promised Day)
…
…
เธอไม่ได้โกหกหรือทำนายผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว เธอได้มองเห็นเหตุการณ์ล่วงหน้าจริงๆ ซึ่งเรากำลังพูดถึง โปรเจ็ควันพีช และแน่นอนที่สุด ลูฟฟี่เป็นผู้ก่อให้เกิดเหตุการณ์นี้จริงๆ
บรรพบุรุษแห่งเกาะเงือกรู้ดีและคาดว่าจะต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ในสักวัน
แล้วยังไงหล่ะ? มันมีอีกทฤษฎีหนึ่งที่กล่าวว่า จอยบอย (Joy Boy) ที่จริงแล้วเขาเป็นราชาแห่งอาณาจักรโบราณ มันอาจฟังดูไม่ค่อยมีน้ำหนัก แต่มันมีทฤษฎีสนับสนุนซึ่งจะยังไม่กล่าวถึงในตอนนี้
อย่างที่บอกไป การทำลาย Reverse Mountain และเกาะเงือกจะต้องเกิดขึ้นเพื่อทำให้โปรเจ็ควันพีชสำเร็จ ดังนั้น ราชา จอยบอย จึงได้ส่งสาส์นไปยังอดีตเจ้าหญิงแห่งเกาะเงือก โพไซดอน เธอเห็นด้วย แต่มีข้อแลกเปลี่ยน คือ จอยบอยจะต้องทำการอพยพประชาชนของเธอไปยังที่ที่ดีกว่าเหนือผิวน้ำ จอยบอยรับปาก และให้เริ่มสร้างเรือโนอา (Noah Arc) ตั้งแต่นั้นมา
จอยบอยสามารถสร้างเรือโนอาเสร็จได้ไม่นานก่อนที่อาณาจักรของเขาจะพ่ายแพ้ในมหาสงครามให้กับกลุ่มต้อต่านทั้ง 20 อาณาจักร สัญญาไม่อาจทำให้สำเร็จได้ เขาได้ขอโทษ โพไซดอน ผ่านทางโพเนกลีฟ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังสัญญาว่า วันนั้น จะมาถึงแน่นอนในอนาคต วันที่ชาวเงือกและมนุษย์อาศัยอยู่ร่วมกันภายใต้แสงจากดวงอาทิตย์
(สังเกตุรึเปล่าว่า อ.โอดะ ได้ใช้ Golden Pattern อีกทีแล้ว)
สรุปก็คือ วันแห่งคำมั่นสัญญา และคำทำนายของมาดามเชอร์ลี่ย์ นั้นหมายถึงสิ่งเดียวกัน
….
เหตุการณ์นี้ไม่ซับซ้อน ณ วันแห่งคำมั่นสัญญา ลูฟฟี่จะเริ่มโจมตีจุดๆนี้ แต่ก่อนหน้านั้น เจ้าหญิงชิราโฮชิ จะออกคำสั่งให้เจ้าทะเลช่วยอพยพชาวเงือกไปยังที่ปลอดภัยโดยใช้เรือโนอา
เมื่อจุดนี้ถูกทำลายแล้ว ปรากฎการณ์ที่ตามมาจะเหมือนกับจุดแรกที่เกิดกับ Reverse Mountain จะเกิดทะเลออลบลูขึ้น มาแทนที่จุดที่ถูกทำลาย ชาวเงือกจะย้ายกลับมายังที่นี่อีกทีหลัง โดยจะสร้างเมืองใหม่ข้างใต้ต้น Sunny Tree of EVE ซึ่งถ้าหากต้น Sunny Tree เป็นวงศ์เดียวกับ ตันอดัม (Adam Tree) แล้วละก็ มันก็จะรอดจากการถูกทำลาย
ในขณะเดียวกัน เหตุการณ์นี้จะเป็นจุดสิ้นสุดของรัฐบาลโลก เพราะแมรี่ จัวร์ สัญลักษณ์สำคัญที่เป็นตัวแทนของรัฐบาลโลก ถูกทำลายไปพร้อมกับเกาะเงือก ในที่สุด ลูฟฟี่ก็สามารถคว่ำรัฐบาลโลกลงได้
…
me/ผู้แปล – จบการแปล
ข้างล่างนี้เป็นความคิดของผมเองเกี่ยวกับความฝันของพวกลูฟฟี่ที่บทความไม่ได้พูดถึงนะครับ
โซโล – โซโลอยากเป็นนักดาบอันดับหนึ่งของโลก ผมว่ากว่าเรื่องราวจะจบ โซโลจะพัฒนาฝีมือขึ้นมาก และคงมีเหตุการณ์ซักอย่างที่ทำให้โซโลได้สู้กับมิฮอร์คและเอาชนะได้ครับ
ช็อปเปอร์ – ผมค่อนข้างเชื่อว่า ลูฟฟี่ จะป่วยด้วยโรคเดียวกับที่ โรเจอร์เป็น ด้วยสาเหตุอะไรก็แล้วแต่ ถ้าเป็นอย่างนั้น เราคงได้อ่านวันพีชกันอีกรอบตั้งแต่แรก เพราะลูฟฟี่จะตายและสร้างยุคโคตรเพชรแห่งโจรสลัดขึ้นมา เริ่มวนลูปกันใหม่ แต่ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้นแน่ เพราะช็อปเปอร์จะสามารถสร้างยารักษาสารพัดโรคได้ และใช้รักษาลูฟฟี่จนหายดี เพื่อทำวันพีชให้สำเร็จ
อุซป – อุซปอยากเป็นนักรบแห่งท้องทะเลที่ห้าวหาญ ครับ เหมือนกับกรณีของโซโล อุซปจะพัฒนาความสามารถจนเป็นได้ครับ
ทั้งหมดนี้เป็นแค่การคาดเดาเท่านั้น เคยมีคนพูดไว้ว่า อ.โอดะ แกหักปากกาเซียน(เดา) มานักต่อนักแล้ว อ่านเอามันส์ละกันครับ อย่าคิดมาก
…
จบแล้วครับ
…
เชิญแสดงความเห็นพูดคุยกันได้ครับ :)