กำเนิดดาวรุ่ง
Status:

: 0 ใบ

: 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 144
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Apr 30, 2014 17:39
เหตุการณ์ที่ โอลิมปิโก กับความเป็นจริงของมิลาน by Mr.ห่าน
สิ้นเสียงนกหวีดยาว ที่ สตาดิโอโอลิมปิโก้ รังเหย้าของทีม โรม่า เสียงเฮแซ่ซ้อง ถึงความสำเร็จที่พวก เขาสามารถกำหลาบผู้มาเยือนอย่างหมดรูปหลายสิ่งหลายอย่างคงอาจดูชินตาสำหรับแฟนโรม่าเพราะปีนี้ 17นัดที่ผ่านมาพวกเขาชนะไปถึง14 เสมอ 3 และไม่เคยปราชัยให้กับทีมใดๆเลยยามที่ต้องต่อหน้าชาวโรม ณ ที่แห่งนี้ต่างกับผู้มาเยือนที่ฤดูกาลนี้ฟอร์มกระท่อนกระแท่นแม้จะชนะติดต่อกันมา 5 นัดติดแต่กลับไม่ได้สร้างหวาดหวั่นให้กับชาวโรม แม้แต่น้อยแต่การเอาชนะ โรม่า นั้นกลับมีความหมายต่อทีมเยือนอย่างมากเพราะคงสร้างความมั่นใจและช่วยกลบกระแสการเมืองภายในสโมสรได้
ชัยชนะนั้นมีไว้ให้กับผู้ที่เหมาะสมหาใช่ความสงสาร ทุกอย่างเป็นไปอย่างยุติธรรม เอซี มิลานที่ผลงาน ขึ้นลงตลอดฤดูกาล พ่ายแพ้ให้กับทีมโรม่า ที่ทำผลงานดีอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งฤดูการแถมยังเป็นการแพ้ที่ มิลาน ปิดประตูแพ้เลยก็ว่าได้เกมรุกที่ไม่สามารถทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้เลย ผู้เล่นต่างคนต่างเล่น การใช้โอกาสที่เปลืองกองกลางที่ดูงุนงงไปทุกจังหวะ กองหลังที่ตัดสินใจกันไม่เด็ดขาด เชื่องช้าและความเก๋าที่เป็นคุณสมบัติอย่างหนึ่งของกองหลังมิลานมาโดยตลอดกลับไม่มีให้เห็นเลย
ทั้งหมดนี้คงเพียงพอที่จะยอมรับได้ถึงผลการแข่งขันและความย่ำแย่ในฤดูกาลนี้ การแพ้ โรม่า ครั้งนี้มันทำให้สิ่งที่ผมพยามปลอบใจและหลอกตัวเองมาโดยตลอดว่าทีมขาดสตาร์ดัง นักเตะตัวสำคัญบาดเจ็บ นักเตะฟอร์มตกและที่สำคัญ เอซี มิลาน ชุดนี้ทำได้ดีที่สุดเท่าที่ผู้เล่นและศักยภาพของทีมชุดนี้จะมีให้แล้ว
แต่ความจริงก็คือความจริง หากให้พูดกันตรงตรงก็คือเลิกหลอกตัวเองดีกว่าตามศักยภาพแล้วหากเราพูดถึงทีมชุดนี้จริงๆไม่ได้ด้อยกว่าทีมอื่นเลยใน กัลโช่ แม้แต่น้อยการมี บาโลเตลลี่ ยืนเป็นหน้าเป้า โดยมีผู้ช่วยด้านหลังอย่าง กาก้า , ทารับต์ , ฮอนดะ หรือแผงมิดฟิลด์ผึ้งงานอย่างมอนโตลิโว่ , เอสเซียง , ไนเจล เดอ ยองแม้แต่ผู้เล่นที่เป็นที่ยี้ของแฟนบอลชาวไทยอย่าง มุนตารี่, อบาเต้, ซาปาต้า ก็ตามผมก็ยังมองว่าพวกเขาเหล่านี้มีคุณสมบัติดีเพียงพอที่จะให้ทำปีศาจแห่งมิลานทีมนี้กลับมาทำผลงานที่ดีบนเวที กัลโช่ ได้
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้กลับตรงกันข้ามเอซี มิลาน ทีมนี้กำลังพอใจอยู่บนรูปเกมที่อึดอัด การเอาชนะที่หืดจับหรือการเอาชนะเพราะความไม่คมของฝ่ายตรงข้ามเอง การเล่นที่ดูไม่เชื่อมต่อกันต่างต่างเล่นต่างคนต่างโชว์ ใครที่พยายามพิสูจน์ตัวเองก็ก้มหน้าก้มตาทำโดยไม่คำนึงถึงรูปเกมหรือจะบอกให้เข้าใจกันง่ายง่าย ก็คือไม่มีใครในทีมเลยที่ทำเพื่อทีมกันจริงๆที่ดูเข้าตาแฟนบอลหน่อยก็คงจะเป็น กาก้า แต่ผลงานในสนามก็ดันสวนทางกันอีกแม้บางครั้งจะโชว์ฟอร์มให้เห็นถึงความเป็นอดีต เวิร์ดคลาสอยู่บ้างแต่ต้องยอมรับว่า 4 ฤดูกาลที่มาดริดทำให้แกเสียรังวัดไปมากจริงจริง
ที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้เลยคือฟอร์มของเจ้า บาโลเตลลี่ที่ฤดูกาลนี้เรียกได้เป็นปัญหากับทีมมาโดยตลอด แม้จะมีฟรีคิกที่ทำให้กับทีมได้อยู่บ้างแต่เราก็ได้เห็นกันหลายต่อหลายนัดแล้วว่าแกทำตัวเหมือนเป็นซุปตาซะจริง ใครก็เตะต้องไม่ได้ เล่นดึงจังหวะ จ้องจะเอาฟาวล์แบบไร้สปีริตพอเพื่อนไม่ส่งให้ก็งอน พุ่งล้มจนโดนใบเหลืองอยู่บ่อยครั้งการไม่สามารถรับความกดดันเวลาเจอทีมใหญ่ เรียกได้ว่าตรงกันข้ามกับฤดูกาลที่แล้วมากนอกจากนี้หากจะพูดกันให้เข้าใจคือมิลานชุดนี้ไม่มีใครเป็น ผู้นำของทีมอย่างแท้จริงไม่มีใครที่จะจัดการใครได้เลย ลองนึกภาพตามกันง่ายง่ายคุณลองนึกภาพทีมที่มีผู้จัดการเป็นคาร์โล อันเชล็อตติ แล้วมีกัปตันทีมเป็น ฟรานเชสโก้ ต๊อตติ ดูสิ
สิ่งที่ผมกำลังจะบอกก็คือ เอซี มิลาน ในตอนนี้นอกจากต้องการผู้จัดการทีมที่มีบารมีและมีความสามารถในการจัดการกับเหล่าสตาร์ภายในทีม รวมไปถึงการสร้างรูปแบบการเล่นที่เก่งแล้วยังต้องมีกัปตันทีมหรือศูนย์รวมของทีมที่รักสโมสร มีความสามารถ และจัดการกับลูกทีมเจ้าปัญหาได้ด้วย
มิลาน ณ เวลานี้ ผู้จัดการทีมอย่าง เซดรอฟ เองก็ยังห่างชั้นที่จะก้าวมาสู่หัวราชสีห์ของทีมแม้จะเป็นคนที่เข้ามาแล้วดูเหมือนจะทำให้สปีริตภายในทีมทีมนี้นั้นดีขึ้นแต่นอกเหนือจากนี้แล้วกลับไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงให้เห็นเลย แม้จะพยามทำใจเป็นกลางด้วยการมองว่าแกเพิ่งมาคุมทีม คงต้องให้เวลากันบ้าง แต่อีกใจผมก็คิดขึ้นมาว่ามันใช่จริงจริงหรือที่จะให้เวลากับแก หากทางสโมรสรดันผู้ช่วยอย่าง เมาโร ทัสซอตติ ขึ้นมาแล้วให้แกไปเป็นผู้ช่วยหรือ สต๊าฟโค้ชแทนน่าจะยังดูเข้าท่ากว่าแต่เราจะมานั่งตำหนิ เซดรอฟ ว่าไร้ความสามารถก็ใช่ที่ เพราะแกคงไม่สามารถเดินเข้ามาที่สโมสรแล้วมาคุมทีมได้เองเลย
หากจะต้องโทษกันจริงจริงก็คือ บอร์ดบริหาร นี้แหละที่ไม่มีการวางแผนถึงอนาคตของทีมจนนำมาซึ่งความกลหลภายในสโมสร การดำเนินงานที่ไร้จุดหมาย ไร้ซึ่งปรัชญาของฟุตบอล ความหมดใจของประธานที่ปล่อยให้สโมสรเดินหน้ากันแบบตามบุญตามกรรม การแก่นแย่งซึ่งอำนาจภายในของผู้บริหาร การแสวงหากำไรโดยไม่คำนึงถึงองค์ประกอบโดยรวมของสโมสร นี้คือสิ่งที่อดีตยักษ์ใหญ่ของยุโรปทีมนี้กำลังเผชิญ
อย่างที่ผมได้ว่ามาข้างต้น เอซี มิลานชุดนี้ไม่ได้แล้วร้ายอย่างที่คิดหากแต่ เอซี มิลาน ที่นำโดยบอร์ดบริหารชุดนี้กำลังเดินหน้ากันแบบไร้จุดมุ่งหมาย ไร้ซึ่งความเข้าใจในฟุตบอลเฉกเช่นครั้งอดีต ความจริงที่ว่านี้คือทีมที่ “ห่วยแตก” ที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมานั้นไม่ใช่ที่ตัวนักเตะแต่เป็นบอร์ดบริหาร ที่ไม่สามารถดำเนินการการวางแผนใดใดให้กับสโมสรได้ ความจริงที่ว่าสโมสรควรจะหาวิธีเดินหน้าด้วยรากฐานฟุตบอลในแบบของมิลาน ไม่ใช่การทำการตลาดหรือธุรกิจจนเกินตัว การพยายามสร้างรากฐานแบบสโมสรอย่าง บาร์เซโลน่า อาแจ็กซ์ ที่ทำกันมาในทุกยุคทุกสมัย เพราะไม่เช่นนั้น
“อาณาจักรฟุตของมิลาน ก็คงล่มสลายเฉกเช่น อาณาจักรนักรบของโรมัน”
----------------------------------------
ปล.คอลัมครั้งแรกของผมใน soccersuck ติชมวิจารณ์ด่ากันได้นะครับ ผมจะพัฒนาให้ดีขึ้นที่ทำขึ้นเพราะไม่ค่อยเห็นคอลัมถึงฟุตบอลกัลโช่กันแล้วแต่ผมเชื่อว่ายังมีคนติดตามกันอยู่ ขอบคุณที่อ่านจนจบนะครับ
แก้ไขล่าสุดโดย PungkloM เมื่อ Wed Apr 30, 2014 17:39, ทั้งหมด 1 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ