ทรพี ปะทะคนพาล (ที่มา สาระ)
ท่านเคยรู้ที่มาของคำว่า ลูกทรพี หรือ คนพาลพาลีหรือไม่?
หลายครั้งที่ไปเที่ยววัด หรือศาสนะสถานต่างๆ เรามักจะพบภาพจิตรกรรม ภาพแกะสลัก งานปั้น เป็นรูปควาย 2 ตัวขวิดกันบ้าง เป็นรูปควายต่อสู้กับลิงบ้าง เป็นรูปลิงตีกับลิงบ้าง
บางท่านอาจทราบถึงที่มา ส่วนบางท่านที่ยังไม่ทราบ หรือทราบไม่ละเอียด ผมจะเล่าให้ฟังดังนี้
***ทางขึ้นเขาไกรลาส
เรื่องราวมีอยู่ว่า มียักษ์นาม “นนทกาล” เป็นผู้เฝ้าเขาไกรลาส ซึ่งเป็นที่ประทับของพระศิวะ (ยักษ์ตนเดียวกับที่ ห้ามทศกัณฑ์ไม่ให้ขึ้นเขาไกรลาสที่ได้เล่าไปในตอนพระศิวะ) ยักษ์ตนนี้ได้ทำผิดกฎ โดยการไปเกี้ยวพาราสี(ง่ายๆว่าปลุกปล้ำ) นางฟ้าชื่อ "มาลี" ทีนี้เรื่องไปถึงพระกรรณ(หู)ขององค์ศิวะเจ้า พระศิวะทรงกริ้วมากจึงสาปให้ นนทกาลไปเกิดเป็นพญาควาย นามว่า "ทรพา" และจะต้องถูกสังหารโดยลูกของตัวเอง จึงจะพ้นคำสาป กลับมาเฝ้าเขาไกรลาสตามเดิม
***พญาควายเผือก ทรพา
นนทกาลจึงได้ไปเกิดเป็นพญาควายเผือก เป็นหัวหน้าฝูงมีเมียมากมาย
พญาควายทรพาจะฆ่าลูกตัวผู้ ของตนเองทุกตัว
***เทพรักษ์แห่งถ้ำสุรกานต์ เลี้ยงทรพี
แต่มีเมียทรพาชื่อนาง “นีลา” ได้แอบหนีไปอยู่ใน ถ้ำสุรกานต์ และตกลูกมา 1 ตัว ได้รับการเลี้ยงดูโดยเทพารักษ์ประจำถ้ำ ซึ่งเทพารักษ์ได้ตั้งชื่อควายตัวนี้ว่า "ทรพี" เมื่อทรพีเติบใหญ่ก็ออกเดินทางตามหารอยเท้าทรพาผู้พ่อ เมื่อพบก็จะคอยวัดขนาดรอยเท้าอยู่เสมอ
***ภาพที่เห็นบ่อยครั้ง ตามวัดหรือศาสถานทั่วไป
จนถึงวันที่พบว่ารอยเท้ามีขนาดใหญ่เท่ากันแล้ว จึงได้ตามหาทรพา และได้เกิดการต่อสู้กันขึ้น เป็นไปตามคาด เจ้าทรพากระบือแก่ สู้แรงกระบือหนุ่มอย่างทรพีไม่ได้ จึงถูกทรพีลูกของตนเองขวิดจนตาย สมดังคำสาปของพระศิวะ
(ลูกที่ทำร้ายพ่อแม่ จะถูกเรียกว่า ลูกทรพี ตามชื่อทรพีควายหนุ่ม)
***ทรพี ท้ารบไปทั่ว
เมื่อทรพี ได้เป็นจ่าฝูงแทนพ่อมันของมัน ด้วยความที่เป็นพญาควายหนุ่มมีฤทธิ์และกำลังมหาศาล จึงได้เกิดความลำพองใจ เที่ยวระรานผู้อื่นไปทั่ว วันหนึ่งได้ไปท้าพระสมุทรต่อสู้ พระสมุทรแนะให้ไปสู้กับพระหิมพานต์ พระหิมพานต์แนะให้สู้กับพระศิวะแทน
พระศิวะทรงพิโรธ จึงบอกให้ทรพีไปต่อสู้กับ พญาพาลี ผู้ครองเมืองขีดขิน (ประมาณว่าไม่ต้องถึงมือพระศิวะ ให้ไปสู้กับลิงก็พอ) พร้อมทั้งสาปให้ ทรพีตายด้วยน้ำมือของพญาวานร เมื่อตายแล้วให้ไปเกิดเป็นมังกรกัณฐ์ โอรสพญาขรผู้เป็นน้องของทศกัณฐ์ และให้ตายด้วยศรของพระราม
***พระลานเมืองขีดขิน
พญาควายบุกไปถึงหน้าพระลานเมืองขีดขินเพื่อท้าพาลีรบ งานนี้พญาวานรลูกพระอินทร์ไม่เกรงกลัวแต่อย่างใด แต่พาลีได้ประเมินสถานการณ์การสู้รบว่า ถ้าสู้ในพื้นที่ราบคงจะเสียเปรียบพญาควายที่มีพละกำลังมหาศาล จึงได้วางแผนนัดหมายให้ไปสู้กันในถ้ำซึ่งเป็นสมรภูมิที่ตนเองน่าจะได้เปรียบกว่า (บางตำนานเล่าว่า ถ้ำที่ต่อสู้กันก็คือถ้ำสุรกานต์ที่ทรพีเติบโตมานั่นเอง)
***ภาพพาลี(ผิวสีเขียวเพราะเป็นลูกพระอินทร์) กับสุครีพ (ผิวสีแดง เพราะเป็นลูกพระอาทิตย์)
เมื่อถึงวันต่อสู้ พาลีได้วางแผนป้องกันไว้อีกชั้น โดยนัดแนะกับสุครีพ(ลูกพระอาทิตย์)ผู้เป็นน้องชาย ว่าให้สุครีพนำกองทหารเฝ้าอยู่ปากถ้ำ หากตนเองแพ้ต่อทรพี ให้สุครีพนำก้อนหินมาปิดปากถ้ำเพื่อที่จะฝังให้พญาควายตายไปพร้อมกับตนเลย(ลิงนี่ หัวแหลมกว่าควายจริงๆ วางแผนถึงสองชั้น ขณะที่ควายไม่ได้วางแผนแต่อย่างใด)
แต่กระนั้น สุครีพได้ถามพาลีผู้พี่ ว่าจะทราบได้อย่างไร ว่าผู้ใดชนะหรือแพ้ เพื่อที่จะดำเนินการตามแผน พาลีจึงได้แนะว่า ให้สังเกตเลือดที่หลั่งออกมาจากในถ้ำ ถ้าเป็นเลือดควายจะมีลักษณะเหนียวและเข้มข้นกว่าเลือดลิง หากเห็นว่าเป็นเลือดของลิงหลั่งออกมา แสดงว่าตนแพ้ให้ปิดปากถ้ำได้เลย
***เทพรักษ์ แห่งถ้ำสุรกานต์ ให้พรทรพีขณะต่อสู้
การต่อสู้ของพญาควายและพญาลิง กินเวลาผ่านไป 7 วัน 7 คืน (บ้างว่า 1 ปี) ท้ายที่สุดปรากฏว่าลิงเป็นผู้ชนะ เลือดควายก็หลั่งไหลออกมาตามพื้น แต่ด้วยความบังเอิญ ขณะนั้นบนยอดถ้ำมีฝนตกลงมาพอดี น้ำฝนได้ไหลลงมาตามผนังถ้ำ ไปเจือให้เลือดควายใสแลคล้ายเลือดลิง สุครีพผู้น้องเห็นเลือดที่ไหลออกมา เข้าใจผิดคิดว่าเป็นเลือดของสุครีพพี่ชายของตน จึงได้สั่งให้ทหารนำก้อนหินมาปิดปากถ้ำ
***ณ เมืองขีดขิน
หลังสุครีพกลับถึงเมืองขีดขิน เหล่าเสนาลิงก็เชิญสุครีพขึ้นครองราชย์ ทีนี่พอพาลีเห็นถ้ำถูกปิด ก็นึกว่าน้องชายตนเอง คิดไม่ซื่อหวังจะแย่งชิงราชบัลลังค์ (ลึกๆแล้วพาลี มีความกลัวว่าสุครีพจะรัฐประหารตนเองเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว) ด้วยความโมโหโกธาจึงพังปากถ้ำออกมา
***พญาพาลีรบกับสุครีพ ภาพจำหลักหิน ศิลปะบาปวนสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 11 ราวพุทธศตวรรษที่ 16ได้จากเมืองพระตะบอง ประเทศกัมพูชา สมบัติของพิพิธภัณฑ์กีเมต์ ปารีส
พาลีกลับมาถึงเมืองขีดขิน ไม่พูดพล่ามทำเพลง ตรงเข้าไปทำร้ายสุครีพผู้น้อง โดยไม่ถามเหตุผลแต่อย่างใด
สุครีพไม่สู้หรือสู้ไม่ได้ อันนี้ไม่ทราบแต่สุดท้ายโดนพาลีเนรเทศออกนอกเมือง (ที่มาคำว่า คนพาลพาลี น่าจะมาจากเหตุการณ์นี้)
***ทับหลังของปราสาทในประเทศกัมพูชา สลักจุดจบของพาลีด้วยศรพระราม
หลังจากนั้นสุครีพก็จะได้พบกับพระรามที่เสด็จเดินดง แล้วได้ขอถวายตัวเป็นราชบริวารของพระราม และในกาลต่อมาพาลีก็จะตายด้วยศรแห่งพระราม (สาเหตุเพราะพาลีได้เคยปฏิญาณว่า ถ้าตนเองแย่งว่าที่เมีย ซึ่งพระอินทร์ประทานให้สุครีพน้องชายมาเป็นเมียของตน ขอให้ตนเองตายด้วยศรของพระราม ไม่ต้องสงสัยว่าพาลีทำตามคำปฏิญาณได้รึป่าว) หลังจากนั้นพระรามก็ทรงจัดพิธีราชาภิเษกให้สุครีพขึ้นครองเมืองขีดขินนับแต่นั้นเป็นต้นมา
เขียนและเรียบเรียง โดยผมเอง
ที่มาข้อมูล หนังสือทิพนิยายจากปราสาทหิน ,เรื่องเล่าจากรายการวิทยุ อ.วีระ ธีระภัทร,
http://www.gotoknow.org/posts/40976
ติดใจ ติดตามผลงานได้ที่
ศิวะเทพ
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1017405
นรสิงห์
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1018665
ซีเหมินป้าผู้ขจัดความงมงาย
http://www.soccersuck.com/boards/topic/1018932
ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาอ่าน